24 พ.ค. 2560 เวลา 15:16:31 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) สรุปผลประชุม คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% ต่อปี ชี้เทรนด์เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น จากการส่งออก บริโภคเอกชน ส่วนเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอตัวถึงไตรมาส 2/60 โดยช่วงครึ่งปีหลังจึงจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่ยังอยู่ในกรอบเป้าหมาย อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ต้องจับตามองในประเทศ ได้แก่ การชำระหนี้ของเอสเอ็มอี ส่วนในต่างประเทศจับตาปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์โลก และนโยบายทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กล่าวว่า ในวันที่ 24 พ.ค. 2560 ทาง กนง.เปิดเผยผลสรุปในที่ประชุมว่ามีการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% ต่อปี เพราะมองว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มการขยายตัวที่ชัดเจนขึ้น จากการส่งออกสินค้าที่ฟื้นตัว ในขณะที่การบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้นจากราคาสินค้าเกษตรที่ดีขึ้นเกือบทุกประเภท และส่งต่อให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคดีขึ้น ในส่วนการท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน
การลงทุนภาคเอกชนยังมีการฟื้นตัวอย่างช้าๆ แต่คาดว่าครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้นจากการเบิกจ่ายของภาครัฐที่เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงอื่นๆของปี
"ทางธนาคารแห่งประเทศไทยดูอยู่ว่าการลงทุนในไทย มีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างไหม เมื่อเทียบกับที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีแต่ก็เริ่มเห็นการลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น เพื่อตอบโจทย์ปัญหาแรงงานไม่พอ หรือทักษะไม่สอดคล้องกับงาน หรืออาจจะเป็นการลงทุนเพื่อทดแทนแรงงานก็มี" นายจาตุรงค์กล่าว
ทั้งนี้ส่วนของเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มชะลอลงกว่าที่คาด ในบางช่วงจึงปรับตัวต่ำกว่าระดับเงินเฟ้อเป้าหมาย เพราะสาเหตุราคาอาหารสดที่ปรับลดลงตามผลผลิตผักและผลมืที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตามครึ่งปีหลังคาดว่า เงินเฟ้อทั่วไปจะมีทิศทางปรับตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ตามปัจจัยหลักยังมีความเสี่ยงจากต่างประเทศ เช่น นโยบายทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐ ส่วนทางยุโรปแม้ว่าหลักการเลือกตั้งหลายประเทศในฝั่งยุโรปจะเสร็จสิ้นบางประเทศ แต่ในภาพรวมปัญหา ภูมิรัฐศาสตร์โลกยังคงมีอยู่