Lol

ขับหมดไปต่อไม่ได้ต้องแวะเติม ขับไม่หมด ขับได้เรื่อยๆนะจาา

เคยคุยเรื่องนี้กับช่างแขก(ย้ายจากลาดพร้าวสะพาน2แล้วนะครับ)
เห็นกันว่าขับออกคือการเปิดเบาแล้วเสียงครบ นั่นหมายความถึงpower amp or headphones amp
ต้องมีกำลังมากพอหรือบางคน(เช่นผม)จะใช้เพาเวอร์กำลังสูงไว้ก่อน
ผมเข้าไปอ่านในhead-fi ที่เจ้าของแอมป์ jds lab จะมีคนเข้าไปถามแกเลยว่าใช้หูฟังรุ่นนั้นรุ่นนี้
แกก็กางspecหูตัวนั้นกี่โอมห์ ความไวเท่าไหร่ แล้วมาเทียบกับสเปคแอมป์ของแก แล้วตอบ(แน่นอนแกต้องบอกว่าแอมป์แกขับได้ สบายมาก) นั่นก็เป็นอีกทางที่ทำให้เราหายข้องใจ
ส่วนตามกระทู้ที่บอกdac-ampบางตัวขับหูที่ตามสเปคออกกระจายงั้นงี้ มันอยู่ที่ 2 อย่างคือ 1.ความชอบ
และ2.ประสบการณ์ ลองเอาแอมป์ 2 ตัว asgard กับ โมเนียร์ ขับ lcd2 rev2 แอสการ์ดเบสมาบั้มมากมาย แต่ใช้โมเนียร์ขับ เบสลูกเล็กลง แต่การควบคุมดีและสมดุลกว่า เห็นไหมครับ อยู่ที่ข้อ 1 นั่นเอง

ไม่มีทางรู้หรอกครับว่าขับหมดมั้ย หากฟังแค่หูฟังกับแอมป์เพียง 1 ตัว 

เพราะว่าในการฟังเพียง 1 ระบบ เรายังไม่รู้ว่าศักยภาพของหูฟังมันไปได้ถึงจุดไหน

ต้องอาศัยการฟังร่วมกับแอมป์ตัวที่ 2....หริอจนกว่าที่รู้สึกเพียงพอครับ  

ปล. ผมใช้ LCD3 ที่คนทั่วไปบอกว่า HUGO หรือ LYR ขับหมด หรือจะเป็น BHA-1 ที่ใช้อยู่ ซึ่งเท่าที่ฟังรู้สึกว่ายังขาดอะไรบางส่วน

พอมาใช้ Violectric 281 รู้เลยว่า ที่บอกว่าขับหมด มันหมดไม่จริง มันยังมีอะไรที่ HUGO BHA-1 หรือ LYR

ดังนั้นคำว่าขับหมด จึงไม่ได้หมายความว่าหมดจริงๆ ครับ เป็นคำเฉพาะนิยามๆ นึงซึ่งที่เราๆ เข้าใจคือ กลาง แหลม ทุ้ม แค่นั้นเอง

คห.4-5 อธิบายได้เห็นภาพ ผมก็เห็นด้วยคล้ายๆกันครับ แต่ผมให้ Volume ไม่เกิน 9-11โมง ถ้าเสียงครบทุกย่านไม่โด่งด้านใดด้านหนึ่ง ไดนามมิคมาเต็มไม่เฉื่อย แสดงว่าขับไหวหรือขับออกครับ และเช่นเดียวกันคือคุณต้องมีแอมป์อย่างน้อย 2 ตัว หรือหูฟังอย่างน้อย 2 อัน เพื่อแยกความแตกต่างของเสียงที่เกิดขึ้นได้ ยกเว้นประสบการณ์คุณมากฟังแค่แป๊บเดี๋ยวก็ถึงบางอ๋อแล้วแหละ ไม่อยากและไม่ใช่เรื่องลี้ลับอะไรทั้งนั้นครับ 

อีกอย่างนึงนะครับ เรื่องแนวเสียงที่ชอบกับเรื่องขับหมดมันก็คนละเรื่องกันนะครับต้องแยกให้ออก

เช่น แอมป์ที่เสียงสดเปิดมันขับหูที่เสียงแนวเดียวกันมันอาจจะขับได้หมดเลยแต่แนวเสียงมันอาจจะพุ่งสาดหู บางคนอาจจะชอบบางคนอาจจะบอกว่าเสียงจัด อย่างนี้มันคือเรื่องของ "รสนิยม" ไม่เกี่ยวกับขับหมดหรือไม่หมดนะครับ 

หรืออีกตัวอย่างเช่น แอมป์บางตัวกำลังขับไม่มาก เอามาขับกับหูแล้วเสียงออกมาเรื่อยๆเฉื่อยๆ ก็เพราะมันขับไม่ไหวนั่นแหละ แต่บางคนชอบมาฟังกับเพลงร้องแล้วบอกว่ามันเพราะดีฟังแล้วไม่รุกเร้ากรณีนี้ก็อยู่ในเคส "รสนิยม" เหมือนกันครับ

ตัวอย่างสุดท้าย แอมป์เสียงสดๆแรงดีมาขับกับหูแนวดาร์คๆ ผลออกมากลายเป็นฟังดีเลย กลมกล่อมชดเชยส่วนที่ขาดเหลือของแต่ละตัว อย่างนี้เรียกว่า ถูกทั้งสสนิยม และ ถูกคู่ ครับ

ไหนๆ ใคร Tag ผม

อ่อๆ ขวัญใจ อิๆๆๆ

เข้ามาเก็บความรู้ครับ

ถ้าสมมติว่าขับไม่หมด แล้วเราปรับเกนของแอมป์เพิ่มขึ้นมา เช่น จาก 0db เป็น +6db มันจะทำให้ขับหมดไหมครับ หรือมันแค่เรื่องความดัง ถ้าขับไม่หมดก็คือขับไม่หมดอยู่ดี?

เกรนขยาย ปรับ โวลล์ ให้มีความดังเพิมขึ้น
กำลังขับ กระแส  แอมแปร์  ทำให้มีพละกำลังมากขึ้น
---------------
อย่าง cmoy /หรือ 47 op-amp ตัวเดียว
เราก็ได้ ค่าโวล์ +แอมแปร์  ตามวงจรหรือตัวออฟแอมป์ระบุมา
ถ้าเพิมทรานซิสเตอร์ มาขยายกระแส (บัฟเฟอร์)
ก็จะได้กำลังขับมากขึ้น ...ความดังก็เท่าเดิม
เช่น เดิมๆ กำลังขับ 100-250mw  ขยายกระแส เป็น 500mw-1w
แบบนี้เรียกว่าเพิมกำลังขับครับ
(เปิดเบารายละเอียดครบเหมือนเปิดดัง ..แสดงวากำลังขับดี)

แปลว่าพวกปุ่มปรับเกนไม่ได้เพิ่มกำลังขับของแอมป์อย่างนี้หรอครับ?

ครับ...ปรับเกรนขยาย ขยายโวลล์....ต้องดูวงจรด้วย
เชน low 0.5v  hi 1v  
ขนาดของลำโพงหูฟัง/ค่าความต้านทาน (อิมพิเดนซ์)ต่างกัน 
การกินต่างกัน
----------
เหมือนเครื่องเสียงบ้าน เครืองเสียงกลางแจ้ง วัตต์เท่ากัน แต่ปล่อยไฟมาไมเท่ากัน
ขับดอกลำโพงที่ขนาดต่างกัน

กำลังจะตอบแบบนี้เลย 55555 อันนี้ผมก็คิดแบบนั้นครับ 

อันนี้ตามประสบการณ์ล้วนๆ แล้วก็กับหูฟังที่ผมเคยมี 
ปกติ ถ้าขับไม่ค่อยออก เสียงจะมี distortion ครับ อันนี้ฟังง่าย
ขับได้พอประมาณ ตามประสบการณืผม เบสมักจะไม่ค่อยได้ดังใจเท่าไหร่ อีกอย่าง soundstage ไม่ค่อยหลุดหัวเท่าไหร่
ขับได้ดี เบสต้องมี dynamic impact ดี soundstage ต้องมีหลายๆเพลงหลุดหัวไปครับ (อันนี้แล้วแต่เพลงที่อัดมาด้วย)

ปกติผมไม่ค่อยใช้แอมป์ที่ไม่ match กับหูฟัง เพราะตอนแรกๆที่เล่นเคยมีบ้างซื้อ HE6 มาใช้แอมป์หูฟังธรรมดาขับ เปิด volumn จนเกือบสุด เสียงมี distortion มากๆ เลยรู้ว่าอาการขับไม่ออกเป็นไง จากนั้นก่อนจะซื้ออะไร ก็ศึกษาดูก่อนพอควร ไม่ค่อยเอาหู fullsize ต่อตรงเท่าไหร่ เพราะ ต่อแล้วบ่อยครั้ง ที่รู้เลยว่ามันไม่เหมือนกับที่เคยฟังกับชุดใหญ่ (ไฟ ภาคจ่ายไฟ สายไฟ clean power สำคัญ)

@Hsung
ผมมีความคิดกึ่งๆแบบคุณ Hsung นะครับ แต่ผมว่าแอมป์ถึงจุดนึงแล้วมันขับหูฟังหมดจริงๆ นอกจากนั้นก็เป็น character ของแอมป์แล้ว ว่าเสียงยังไง แต่อย่างที่คนว่า Hugo ขับ LCD3 หมดอันนี้ ผมไม่เคยฟังนะครับ แต่ถ้าให้เดา ผมดูภาคจ่ายไฟ (power supply) ดูลักษณะของแอมป์ Hugo แล้วไม่น่าจะขับ LCD3 ได้หมดจดจริง แต่ถามว่าเสียงดีมั๊ย มันก็คงดีเพราะหลายคนก็บอกมันเสียงดี ซึ่งเค้าก็อาจสรุปว่าขับหมดก็ได้ จริงๆ เรื่องขับหมดไม่หมดนี่ ถ้าเอาแบบ ทฤษฎีหน่อย ก็ต้องดูเรื่อง sentivity Efficiency เรื่อง Voltage (Voltage Swing) เรื่อง watt แอมป์หลอด watt น้อยๆ บางทีขับลำโพงให้เสียงดีได้ (ขับหมด) หูฟังบางตัวไม่ได้เน้น watt แต่ต้องการ Voltage Swing อันนี้ลอกมาจาก head-fi สำหรับ HE6 " It is not the high wattage of an amp we recommend but the capability of the power supply to have the voltage swing and current reserves." เรื่องนี้ หลายๆคนรู้กันดี ผมไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้ เพราะไม่ค่อยสนใจ แค่เคยผ่านหูผ่านตามามั่ง สมัยหาแอมป์ให้ He6 LCD2  

By the way เอาเป็นว่า สรุป แบบขำๆ ถ้าแอมป์ตัวไหนเราเสียบหูฟังเราเข้าไปแล้วถูกใจเสียงดี ฟังแล้วเสียงไม่ได้ต่างจากเสียงที่ร้านหรือที่บ้านเพื่อนมาก ให้ถือว่าขับหมดแล้วกันครับ :P

ขับได้พอประมาณ ตามประสบการณืผม เบสมักจะไม่ค่อยได้ดังใจเท่าไหร่ อีกอย่าง soundstage ไม่ค่อยหลุดหัวเท่าไหร่
ขับได้ดี เบสต้องมี dynamic impact ดี soundstage ต้องมีหลายๆเพลงหลุดหัวไปครับ (อันนี้แล้วแต่เพลงที่อัดมาด้วย)
เห็นด้วยกับตรงนี้มากเลยครับ ใช่เลยครับ แจกหูเลย

ขับหมดก็ส่วนนึง (ขับหมด คือขับหูฟังให้ปล่อยเสียง ทุ้ม กลาง แหลม ออกมาได้ครบ อย่างที่ควรจะเป็น)

กับ เสียง แมช หรือเปล่า (เสียง แมช คือ ได้แนวเสียงออกมาตรงกับที่ใจเราต้องการ) ก็อีกส่วนนึง

มันเป็นสองส่วน ที่จะให้ดี ต้องไปด้วยกัน จึงจะได้ความสมบูรณ์ของเสียงดังที่ใจเราต้องการ 

... ดังนั้น เลยออกมาประมาณว่า

1. แอมป์บางตัวขับหมด แต่เสียงไม่แมช

2. แอมป์บางตัวขับไม่หมด แต่เสียงแมช

3. แอมป์บางตัวขับไม่หมด แถมเสียงก็ไม่แมชด้วย

4. แอมป์บางตัวทั้งขับหมด ทั้งเสียงแมช

ทีนี้จากประสบการณ์ ความรู้ และงบประมาณของเรา ก็ต้องลองเลือกดูละครับ

เสริมอีกนิด ขับหมด ก็น่าจะรวมถึง ขับให้ เสียงมี มิติ ไดนามิก ความคมชัด และสปีดของเสียง อะไรพวกนี้

ออกมาครบสมบูรณ์ ตามที่หูฟังสามารถแสดงศักยภาพดังที่ถูกสร้างมาด้วยครับ

ความเห็นส่วนตัว
1.ต้องเคยมีแอมป์อย่างน้อย2ตัว ถึงจะรู้ว่าขับหมดหรือไม่หมด เพราะจะได้เปรียบเทียบ
2. ความดังของเสียงเวลาเราฟังปรกติครับ แอมป์แต่ละตัวกำลังขับมากน้อยไม่เท่ากัน บางตัวต้องเร่งมากหน่อย ยกตัวอย่าง
2.1 ผมมีแอมป์หูฟังerzetich กับteac ud-h01ตัวหลังเป็นdac/amp เอาgrado ps-500 เสียบ
ตัวแรก เปิดระหว่าง9-10นาฬิกา เกินกว่านี้ดังเกิน
ตัว2 เปิด13นาฬิกา ถึงจะดังเท่าตัวแรก
จะเห็นว่าตัว2ผมต้องหมุนปรับความดังเพิ่มอีกพอควรถึงจะดังเท่าตัวแรก แต่ถามว่าขับหมดเปล่า ผมว่าหมด ที่ว่าหมดคือผมได้ยินเสียงครบทุกย่านตามที่ได้ยินจากตัวแรก
แต่เสียงดีหรือชอบเสียงหรือเปล่า อีกเรื่อง ประเด็นนี้คุยกันเรื่องขับหมดหรือเปล่า
2.2 เอาhd-650 เสียบ
ตัวแรก เต็มที่สุดๆไม่เกิน12นาฬิกา
ตัว2 เชื่อเปล่า ผมเปิดสุดเลย ถึงจะดังเท่าตัวแรก ถามว่าหมดเปล่า รอบนี้ยืนยันไม่หมด เหตุผล ผมได้ยินเสียงแบบว่าไม่ชัดเจนครับ
มันมัวไปหมด เหมือนมีหมอกมาบังทางครับ ผิดกับการทดลองครั้งแรกครับ โดยครั้งแรกมันได้ยินเสียงแบบชัดเจนครับ บอกตรงๆเอาhd-650ต่อตรงกับteac ud-h01 ผมรู้สึกอึดอัดครับ เหมือนเสียงมันจะขาดอะไรสักอย่าง เลยรู้สึกอึดอัดเวลาฟังครับ

ขออนุญาต ถามนะครับ 
Opus#2 ขับ pk1 กะ hr1 หมดไหมครับ

จริงๆอาการขับไม่ออกกับขับไม่หมดจะคล้ายกัน ขับไม่ออกทุกอย่างเพี้ยนหมด คือทั้งเบสทั้งแหลมมันไม่ตอบสนองออกมา คือเบสก็บาง แหลมก็จะแผด และที่สำคัญคือไม่ดังเท่าที่ควร ส่วนขับไม่หมดนั้น มันจะเกิดอาการอั้นของไดนามิก คือเวลาช่วงโหมของดนตรี อารมณ์คือมันโหนไม่ขึ้น

การขึ้นลงของไดนามิกจะไม่ดี ทำให้ฟังแล้วเนือยๆ และเวทีเสียงจะไม่เปิดออก จะหุบแคบกองอยู่ข้างๆขมับ ส่วนมากก็จะอยู่ราวๆนี้ครับ ส่วนพวกขับออก เวลาเสียบปุ๊บจะยิ้มออกปั๊บ คือทุกอย่างมันจะออกมาดี แววดี ส่วนขับออกแต่ไม่แมทช์ อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบแล้วครับ บางท่านต้องการเสียงเบสที่เค้นโน๊ตตัวต่ำๆออกให้ได้ แต่แอมป์บางตัวมันเก่งทุกทางอยู้่แล้ว แต่เบสตัวต่ำเค้นไม่ได้ ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าแอมป์ไม่ดี แต่ผมว่ามันเป็นเรื่องดีไซน์เสียงของแต่ละค่ายซะมากกว่าครับ

ความเห็นส่วนตัวของผม

ขับไม่ไหวฟังปุ๊ปก็สามารถรับรู้ได้ง่าย  แต่ขับไม่หมดมันบอกยาก  ฟังแล้วเสียงมันเหมือนออกทุกย่าน  แต่เสียงจริงของหูฟังตัวนี้มันไปได้ไกลกว่านี้

มันเลยต้องมี dac / amp ตัวอื่นมาเปรียบเทียบ  ถ้ามีตัวเทียบมันก็ง่ายขึ้น  แต่ dac / amp ที่นำมาเทียบต้องถึงด้วยนะครับ  ไม่งั้นไม่หมดกับไม่หมด  มันก็ทำให้เราสรุปพลาดไปจากความเป็นจริง

อีกอย่าง  dac / amp ตัวหนึ่งบิดวอลุ่มเยอะกว่า  ไม่ได้หมายความว่า dac / amp ตัวนี้ขับไม่หมด  dac / amp ต่างยี่ห้อกัน  เปิดระดับวอลุ่มเท่ากัน ความดังที่ออกมาไม่เท่ากันเป็นเรื่องปกติ  ยี่ห้อเดียวกันแต่ต่างรุ่นกันบางทียังไม่เท่ากันเลย  ตรงนี้ต้องฟังเสียงที่ออกมาเป็นหลักครับ

จากย่อหน้าบน  บางทีก็ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเปิดแล้วเสียงออกมาดัง  แปลว่าขับหมด  หมด หรือไม่หมด  มันต้องฟังรายละเอียดของเสียงที่ออกมาครับ

เรื่องสเปคบนกระดาษ  ในความคิดผมมันบอกได้ระดับหนึ่ง  อย่างเครื่องเสียงบ้าน  Int amp ยี่ห้อหนึ่งระบุกำลังขับ 80 วัตต์  ราคา 3 หมื่นกว่าบาท  แต่เอาเข้าจริงกำลังขับสู้ 40 วัตต์  ราคา 7 หมื่นกว่าบาทของอีกยี่ห้อหนึ่งไม่ได้ด้วยซ้ำ เอามาขับลำโพงราคาไม่กี่หมื่นบาท  แอมป์ 2 ตัวขับออกหมดได้สบายๆ  แต่พอมาเจอลำโพงขับยากราคาคู่เกือบแสน  Int amp 80 วัตต์ขับไม่หมด  ซึ่งฟังออกได้ชัดเจน  ส่วนตัว 40 วัตต์ขับได้สบายๆ  ตรงนี้ดูที่ราคา  เกรดของวัสดุ  และลองฟังครับ