เมื่อต้นเดือนกุมภานี้ตอนที่เมาๆกันหลังงานแต่ละวันผมคุยกับพี่ๆที่ออกงานใน BAV ว่าทำไมเราเห็นแต่ power supply หลักพันบาทขายกัน ทำไมถึงไม่ทำ power supply หลักหมื่นดีๆขายบ้างในเมื่อสายไฟเป็นแสนก็ซื้อกันได้ มีพี่ในงานบอกว่ามันขายไม่ได้หรอกน้องเอ๊ย ไม่คุ้มทำ
ผมล่ะไม่เข้าใจเลยว่าทำไมสายที่นำไฟฟ้าเฉยๆเอามาเข้าหัวสวยๆก็ขายกันเป็นหมื่นเป็นแสนได้โดยไม่ยากเย็นอะไร แต่ทำไม power supply ที่มีทั้งวงจร IC และอุปกรณ์ต่างๆที่ใส่ลงกล่องเหมือนเครื่องเสียงชิ้นนึงกลับไม่ค่อยมีคนอยากลงทุน ทั้งๆที่ก็มีความสำคัญกับระบบไฟเหมือนกัน
วันนี้ มีลูกค้า Fidelizer ผมได้เมล์มาเล่าให้ฟังว่า review ล่าสุดที่เขาเขียนนั้นได้พูดถึง power supply ที่ผมส่งไปให้ลองเล่นดูด้วยนะ เขาพูดถึง Nikoa linear power supply ดังต่อไปนี้ครับ
"I did hear a small improvement in the sound with the HDPlex powering the e32 compared to the stock power supply, but the Fidelizer power supply transported the sound quality to another level. The soundstage became larger with better focus of instruments and voices. I also heard better resolution of transient detail from the e32 when powered by the Fidelizer Nikola LPS. Background silence seemed enhanced with the Nikola."
จากที่เล่ามาเลยทำให้ผมเกิดข้อสงสัยว่าถ้าหาก power supply หลักหมื่นของผมสามารถเขียนลง review ในเว็บนอกดังๆได้รับคำชื่นชมขนาดนี้ ทำไมการขาย power supply หลักหมื่นในไทยถึงยากกว่าเรื่องพวกนี้ได้กันนะ
จากที่ผมเล่นเครื่องเสียงมาผมเห็นคนเก่งเรื่องระบบไฟเยอะมากๆ เยอะกว่าฝรั่งที่ทำขายกันหลายคนเลยด้วยซ้ำ ถ้าเราซื้อสายไฟ 4-5 หมื่น แสงสองแสนได้ ทำไมเราจะซื้อ power supply หมื่นสองหมื่นบ้างไม่ได้ สายไฟพวกนั้นซื้อมาขายต่อก็ขาดทุนมากกว่าซื้อ power supply ดีสักตัวหลายเท่าด้วยซ้ำไป
ผมหวังว่าเรื่องราวที่ผมเล่าไปนี้จะช่วยจุดประกายให้กลุ่มนักเล่นเครื่องเสียงในไทยทั้งผู้ซื้อและผู้ผลิตได้ตระหนักถึงความสำคัญของ power supply มากขึ้นกว่านี้ ผู้นำเข้าจะได้กล้านำ power supply ดังๆจากเมืองนอกเข้ามาเปิดตลาดขายได้มากขึ้น ปัจจุบันมีเครื่องเสียงจำนวนมากที่สามารถ upgrade power supply แยกได้แล้วเหมือนกันครับ