เห็นว่าให้ลำโพง ควรวางบนขาที่ให้ลำโพงมีความสู พอดีกับหูเรา
อยากจะทราบว่า ท่ี่ให้ตัวลำโพง สูงพอดีกับหูเรานี้ คือ
1.ตรงกลางของลำโพงสูงพอดีหูเรา 
2.ดอกเสียงแหลมสุงพอดีหูเรา
3.ดอกลำโพงใหญ่ใหญ่สูงพอดีหูเรา
มันคืออันไหนหรอครับ ขอความรู้นิดหนึ่งครับ อยากรู้เหตุผลด้วย
ขอบคุณครับ

สำหรับการจัดวางลำโพงหน้า Desktop นั้นอาจจะแตกต่างจากลำโพงบ้านอยู่พอสมควรครับ
เพราะระยะเเละมุมในการวางนั้นอาจจะจำกัดพอสมควรครับ   

เบื้องต้นวางให้ห่างจากผนังระดับหนึ่ง และค่อยๆขยับเข้าออกระหว่างลำโพงซ้ายเเละขวาลองฟังเเล้วเลือกระยะที่ชอบที่สุด แล้วค่อยๆหมุนลำโพงเฉียงมาที่ตรกลาง(ผู้ฟัง) ซึ่งจะขยับมากน้อยก็เเล้วเเต่ความชอบอีกทีครับ

ขาลำโพงควรสูงเท่าไรดีครับ

ขอตอบจากประสบการณ์และความรู้อันน้อยนิดของผม ความสูงของลำโพงก็เป็นระดับหูของคนฟังตามที่คุณเข้าใจก็ถูกแล้วครับ ส่วนจะวัดระยะจากดอกลำโพงแหลม ทุ้ม ผมว่ามันละเอียดเกินไปครับและอาจไม่ได้ให้ผลที่ต่างกันมากนัก  ถ้าซีเรียสจริงๆก็ต้องใช้วิธีขยับขึ้นลงโดยหาอะไรมาหนุนใต้ลำโพงจากขาตั้งแล้วลองฟังดูว่า สูงแค่ไหนดีกว่ากัน และลำโพงแต่ละคู่ก็อาจไม่เหมือนกันก็ได้ครับ จริงๆมาเน้นเรื่องระยะห่างจากผนังด้านหลังห้อง และ ตำแหน่งใกล้ไกลจากลำโพงถึงคนฟังจะให้ผลที่ต่างกันชัดเจนมากกว่า 

ขอบคุณ หลุย และคูณ somkiatr ที่แนะนำครับบ 

ปกติเราจะวางลำโพงโดยให้ความสูงของทวีตเตอร์เท่ากับระดับหูเราคับ. เหตุผลไม่ได้รู้ลึกนะคับ จำๆเค้ามา  
ปกติดอกลำโพงมันจะมีองศาการกระจายเสียง  องศาที่ต่างไปจะให้ความดังไม่เท่ากัน รวมทั้งพอเรามีลำโพง 2 ดอก ถ้าความสูงมันผิดไป ยิ่งจากในรูปคุณเป็นลำโพงมอนิเตอร์ เดาว่าคงวางฟังใกล้ๆ ถ้าความสูงผิดไปมาก ระยะทางของดอกลำโพงถึงหูเราจะเพี้ยนไปเยอะ อาจจะใช้วิธีเงยหน้าลำโพงขึ้นก็ได้นะคับ

การวางลำโพงทั่วไป ยังไงก็ต้องให้ดอกทวีตเตอร์ทำมุมกับหูเรา หรือจะสังเกตุง่ายๆ คือให้มันทำองศาพุ่งตรงมาที่ระดับใบหูครับ เพราะเสียงแหลมเป็นตัวกำหนดซาวด์เสตทของเสียง กำหนดตำแหน่งชิ้นดนตรี เราถึงต้องให้ความสำคัญกับการทำมุมของดอกเสียงแหลม(ทวีตเตอร์)

ถ้าเวลาวางบนโต๊ะ แล้วทวีตเตอร์ไม่ได้ยิงมุมองศาตรงมาที่หู อาจจะหายางรองเฉพาะด้านหน้า ให้ลำโพงเงยหน้ายิงเสียงมาตรงใบหูของเรา อันนี้ก็ทำได้อีกเช่นกัน

ส่วนการขยับใกล้กับผนังเพื่อให้เกิดการสะท้อนที่ดีขึ้น ส่งผลถึงเรื่องคุณภาพของเสียงต่ำที่ดีขึ้น หรือจะพูดง่ายๆ จับขยับใกล้ฝา เบสยิ่งมากขึ้น ซึ่งอันนี้ต้องแล้วแต่ความชอบส่วนตัวแล้วครับ 555

วางลำโพงให้ตำแหน่งของ Tweeter ตรงกับหูของเรา หรืออย่างมากไม่ต่างกันเกิน 15 องศาครับ
ทั้งนี้เนื่องจากมุมกระจายเสียงของเสียงแหลมนั้นมีวงแคบกว่า เสียงย่านต่ำ และเสียงย่านกลางครับ 

ซึ่งมันจะส่งผลต่อตำแหน่งเสียงร้อง และเสียงชิ้นดนตรีด้วยครับ และอย่างน้อยที่สุด ระยะลำโพงที่จะมาถึงหูเรา
ต้องเท่ากันครับ ไม่งั้นมิติ และโฟกัสไม่ได้แน่นอนครับ

ขอบคุณมากครับ ที่ให้ความรู้ เข้าใจการวางลำโพงขึ้นเยอะเลยครับบบ

มีหลายท่านอธิบายเหตุผลสนับสนุนกันไปแล้ว

มีทริกเล็กน้อยจะเสริมครับ แอดวานส์ขึ้นอีกนิด  ผมเองลองตามแล้วได้ผลดีมาก โดยเฉพาะในกรณีที่จุดวางลำโพงเรามีสภาวะแวดล้อม 2 ด้านหรือระยะห่างถึงผนังข้างไม่เท่ากัน
คือ setup เริ่มต้นตามที่ทุกท่านแนะนำเลย  ตั้งระยะให้เท่ากัน องศาเท่ากัน  หลังจากนั้นถ้ารู้สึกว่า image มันเอียงๆ
ให้หาเพลงที่เป็น mono มาเปิดคับ  แล้วหันองศาลำโพงจนกว่าเสียงจะอยู่กลาง และเป็นลำเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้
โดยสุดท้ายไม่ต้องสนใจว่า 2 ข้างหันไม่เท่ากัน  เอาเสียงให้เท่า สำคัญที่สุดคับ

ปล. การใช้ mono จะทำให้ setup ง่ายกว่า stereo อย่างมากคับ

ถ้าเอากันให้บ้าเลือดสักหน่อย...หูเรา สูงจากพื้นเท่าไหร่ จะแปรผันตามเก้าอี้ครับ 555
ดังนั้น ที่ว่าสั้นเสมอหู เอ๊ย ลำโพงอยู่ระดับหู มันก็จะขึ้นอยู่กับเรานั่งบนเก้าอี้ โซฟา หรือกระทั่งเตียงนอนด้วย
ผมเคยแต่ตั้งลำโพงบ้าน มันมีสูตรกึ่งสำเร็จรูปอยู่ซึ่งอาศัยได้คร่าวๆคือ ถ้าเป็นลำโพงสองทาง "กึ่งกลาง"ลำโพงเสียงแหลมกับทุ้ม ให้อยู่สูงจากพื้น 34 นิ้ว บวกลบครับ หักลบระยะที่เหลือของตัวลำโพงแล้ว นั่นก็จะได้ความสูงของขาตั้งลำโพงที่ควรใช้
แล้วค่อยมาหาเก้าอี้ที่นั่งแล้วได้ระดับเสียงที่พอดีกับความสูงของลำโพงอีกที่หนึ่ง ^ ^ (อย่าซีเรียส อย่าดราม่ากันนะครับ เคยรู้มาอย่างไร เคยลองมาอย่างไร ก็เล่าสู่กันฟังสนุกๆ ไม่พร้อมทำตาม ไม่เห็นด้วยก็ผ่านไปครับ แคนั้นเอง)

อันนี้ไม่ตายตัว เพราะขึ้นอยู่กับสภาพห้อง ระยะห่างของคนฟังด้วย
(เคยตั้งลำโพงเปลี่ยนด้าน จากด้านยาวเป็นด้านกว้างของห้อง ต้องเปลี่ยนระยะของขาตั้งเลยครับ)
และ ลำโพงคนละยุคสมัยก็มีผล เพราะลำโพงรุ่นใหม่ๆ มีมุมกระจายเสียงที่กว้างขึ้น ทำให้ตั้งลำโพงได้เตี้ยลง (ใกล้พื้นมากขึ้นก็ทำให้มวลเสียงมากขึ้นตาม) ถ้าลำโพงรุ่นเก่าสักหน่อยใช้สูตรนี้ แล้วบวกลบระยะเอาทำให้หาความสูงของขาได้ง่ายขึ้นนิดนึงครับ ดีกว่ามางมโดยต้องเอาสุ่มตั้งแต่แรก

ยังมีการชดเชยระยะได้ด้วยการหนุนให้ลำโพงเงยหน้าขึ้นอีกนิดด้วยครับ นอกเหนือจากการโทอิน
เอาแค่นี้ก่อนละกันครับ เท่านี้หลายท่านก็คงอยากจะถากถางเต็มทีแล้ว  ๕๕๕

ลองดูเล่นๆสนุกๆนะครับ

ดีเลยคับได้ความรู้มากมายยยย 
ไม่ถางถางกนัหรอกกก  ได้ความรู้ไปทดลองมากมายยย 

ขอถามพี่พี่อีกหน่อยครับ ว่าขาลำโพงอย่างวัสดุที่มาทำขาลำโพงนี้ ระหว่าง 1.เหล็ก กับ2.ม้ อันไหนจะเสียงดีกว่ากันครับ
แล้วถ้าเป้นไม้ ไม้เนื้อ่อน เนื้อแข็งจะมีผลกับเสียงไหม 

ส่วนตัวไม่เคยทดลองตรงๆ  แต่วัสดุขา รูปทรงขา  น้ำหนักขา มีผลกับเสียงคับ  ล่าสุดผมซื้อ เพลทรอง มารองใต้ spike เสียงก็เปลี่ยน
วัสดุเหล็กน่าจะให้เสียงแหลมมากกว่าไม้  อันนี้รอท่านที่รู้ตอบดีกว่า   ขาเหล็กที่ผมใช้ให้เสียงก้องออกมาเมื่อมีเสียงตบมือด้วยซ้ำ 55

แต่เสียงดีกว่าไหมอยู่ที่แมทช์ชิ่งคับ  บางทีถึงมีการบอกว่าขาตัวนี้เหมาะกับลำโพงตัวนี้  อันนี้ต้องถามคนที่เคยลองรุ่นนั้นๆแหะ

...ที่จริงเรื่องขาตั้ง ผมไม่ค่อยกล้าจะตอบเลยครับ เรื่องนี้ถ้าเอาให้ละเอียด มันเรื่องมากอย่างคาดไม่ถึง(คือมีผลกับลำโพงมากๆ)
ยิ่งลงลึกรายละเอียดเท่าไหร่ คือถ้าห้องพร้อม การเซ็ทอัพพร้อม ขาตั้งดูจะยิ่งมีผลกับลำโพงได้มากขึ้น
ในขณะที่ตอนเอามาฟังเมื่อยังไม่่พร้อม ความต่างอาจไม่มากเท่าไหร่  แต่ถ้าเซ็ทอัพลงตัวขึ้นเรื่อยๆ จัดอคูสติกได้ดีขึ้น..ปริมาณความต่างที่เรารับรู้ได้จะมากขึ้นครับ  ผู้มากประสพการณ์หลายท่านจะมีความเห็นประมาณว่า ขาตั้ง มันคืออุปกรณ์หลัก ไม่ใช่แค่ส่วนควบของชุด

ก่อนจะว่าต่อ ผมยืนยันความคิดตัวเองว่า เล่นกันให้สนุกนะครับ ถ้าเครียดก็เบรคๆไว้บ้าง ตอนจูนเครื่องเราเป็นaudiophile  เล่นกันพอหอมปากหอมคอก็สวมบทmusic lover ได้ทันทีครับ ไม่งั้นบางท่านจะบ่นทันทีว่าฟังเพลงไม่มีความสุข ทำไปทำไม...คือเราพยายามทำให้เสียงมันดีเท่าที่อุปกรณ์ที่เรามีจะอำนวยครับ แสวงหาความรู้ข้อมูล มาลองเล่น วันนี้ฟังไม่ออก ฟังนานจนเริ่มเครียดเริ่มเบลอ ก็"หยุด"  แล้ว "ฟังเพลง"กัน วันต่อไปเล่นกันใหม่ ของมันก็อยู่ในบ้าน ผมเป็นพวกสตางค์ไม่ค่อยมีครับ ไม่มีโอกาสเปลี่ยนเครื่อง ก็เล่นด้วยการจูน การเซ็ทอัพอุปกรณ์ในชุดนี่แหละครับ ^ ^ (คงไม่นอกเรื่องมากเกินไป)

เรื่องขาตั้ง ถ้าว่าด้วยข้อมูลขั้นอนุบาล ขาตั้งไม้ จะให้ค่าเฉลี่ยของเสียงได้ สูงกว่าขาตั้งเหล็กในระดับ"ราคาเริ่มต้น"  แต่ถ้าระดับกลางขึ้นไป ส่วนใหญ่จะไปที่ขาตั้งเหล็กครับ เข้าใจว่าก็ไม่ค่อยน่าจะมีขาตั้งไม้ในกลุ่มราคากลางๆ  ถ้าระดับสูงกลายเป็นว่ามีทุกประเภทครับ  แต่ขาไม้ระดับสูงก็มักจะราคาสยองรูหูไปเลย

ตอบเหมือนไม่ได้ตอบว่า คงต้องลองเทียบครับ เพราะเมื่อจัดชุดเสร็จแล้ว เราสามารถจูนเสียงอีกสเต็ปหนึ่งได้ด้วยขาตั้งครับ ขาตั้งเหล็กจะให้เสียงแบบหนึ่ง ขาไม้ก็ได้ข้อดีด้านอื่น(คือฟังแล้วยังไงก็ไม่ค่อยเลวร้าย ) แต่ถ้าหวังผลมาก ส่วนใหญ่ไปขาโลหะครับ

ผมเอง ไม่ได้อยากเล่นขาตั้งนะครับ  จนขนาดว่า ถ้าจะเปลียนลำโพง ยังตั้งปณิธานว่า จะไม่เอาขาตั้งแล้ว  คงหลบไปทางลำโพงสองทางวางพื้นไปเลยครับ เพราะเบื่อเต็มทีกับการตั้งลำโพงบนขาตั้งนี่น่ะ 5555 (ผมเอาลำโพงวางบนทิปโทแล้ววางบนขาตั้ง กว่าจะตั้งลำโพงเสร็จ กี่ชั่วโมงก็ไม่ทราบ ไม่มีเวลาไปเล่นอย่างนั้นอีกแล้วครับ T^T)

นอกเรื่องอีกนิด คือ ถ้าจะซื้อโซฟามานั่งฟังเพลง  เลือกไอ้ที่มันโปร่งเสียงหน่อยได้ก็จะดีนะครับ หมายถึง ไม่ใช่โซฟาตัวใหญ่ๆหนาๆซึ่งมันจะซับเสียงไปมาก หาไอ้ที่เรานั่งสบายแน่ละ แต่ให้ทรงมันบางๆเท่าที่จะเลือกซื้อหาได้

เพิ่งรู้ว่าเรื่องนี้มันยาวไปถึง โซฟา (ดูแล้วท่าจะยาวเลย) แต่ผมว่ามันสนุกดีนะ เหมือนได้ทดลอง อะไรหลายอย่างขอบคุณความรู้ดีดีด้วยครับ คุณDraco และคุณ เหน่งบา

ตามพี่เหน่งบาว่าเลยคับ  เอาแค่หอมปากหอมคอตามความพอใจของแต่ละคน  ขยันก็จูนไป ขี้เกียจก็นั่งฟังเพลงสบายๆ

แต่เรื่องโซฟานี่เคยเห็นผู้มีประสบการณ์มาเล่าหลายท่าน  จูนห้องแทบตาย เปลี่ยนโซฟาแก้ได้ซะงั้น

จะขาตั้งไม้หรือเหล็กก็ตาม  ยังไงอย่าละเลยเรื่องการออกแบบการลงน้ำหนักของขานะคับ  ผมเห็นขาบางรุ่นโดยเฉพาะแบบไม้ เหมือนวางเฉยๆ ขาปรับระดับไม่ได้  ส่วนตัวไม่ชอบ เพราะไม่น่ามีใครทำพื้น หรือขาได้ราบเรียบ วางพอดิบพอดีได้จริงๆ