เอาจริงๆ ขอไฟสามเฟสแล้วแยกสักเฟซมาให้ระบบเสียงไปเลย ตัดปลักออกให้หมดแล้วใช้ตัวล๊อกแล้วเชื่อมด้วตะกั่วเงิน
มีแค่เบรกเก่อกั้นไว้ตัวเด่วพอ

ปลั๊กผนังเป็นแค่ส่วนประกอบเดียวเท่านั้นนะครับ จริงๆยังมีพวกสายไฟแบบ audio grade  และ ระบบกรองไฟเพื่อให้ไฟมันนิ่งไม่ถูกรบกวนจากเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ 

รายละเอียด​เสียง​จะ​ต่าง​กันไหมครับ ต่อตรงกับผ่านปลั๊กผนังกับปลั๊กไฟ เกรด Audio​ สายเข้าเครื่องผมใช้ Supra​ มาประะกอบเอง ส่วนสายไฟบ้านเบอร์ 4 ต่อตรงจากเบรคเกอรโดยตรง 

ตามที่ผมเข้าใจคือ ถ้าต่อตรงก็จะได้เสียงที่เที่ยงตรงที่สุดตามที่เข้าใจครับ แต่ว่าเสียงที่เที่ยงตรงที่สุดบางทีอาจไม่ใช่เสียงที่ไพเราะ ที่เคยลองคือเสียงจะมาเต็มทุกอย่าง แต่แผดเหมือนมีมวลเสียงโยนมาเป็นก้อนเลยครับเครื่องดนตรีมาพร้อมกันทุกชิ้นแต่ไม่มีชั้นเชิง และการที่เอาตัวคั่นทุกประเภทมาต่อก็จะได้บุคลิคเสียงที่เป็นผลมาจากวัสดุที่ใช้ด้วยครับ เพื่อความปลอดภัยด้วย

ต่อตรงกับสายไฟที่ผนังเลย เสียงก็สู้ต่อผ่านเต้าเสียบและปลั๊กออดิโอเกรดไม่ได้ครับ เสียงที่ดีมันเกิดจากคุณภาพของตัวนำที่มาคั่นต่อระหว่างกันนี่แหละครับ จะเปรียบไปก็เหมือนเปิดน้ำประปาใส่เครื่องกรองน้ำนั่นแหละครับ น้ำที่ออกจากเครื่องกรองที่คุณภาพยิ่งดี น้ำยิ่งสะอาดครับ

เข้าใจ​แล้ว​ครับ​ ขอบคุณ​มาก​ครับ​

ชอบคำอธิบายนี้คับ  เห็นภาพชัดเจน

บางทีก็ไม่ได้แค่กรองคับ  อาจจะแอบปรุง แอบเติมน้ำตาลลงไปบ้าง  ใครปรุงเก่งก็ค่าตัวแพง

เฮียอธิบายเรื่องยากให้เข้าใจง่าย ใช้เพียงไม่กี่ประโยคเอง เหมือนเสี่ยวลี้ถ้ำฮวย มีเพียงมีดสั้นเล่มเดียว ไม่ต้องร่ายรำมาก ขวาซัดมีดสั้นไม่พลาดเป้า  ซ้ายยังมีสุรา 55 นับถือ เล่นเครื่องเสียงมานาน มีคำตอบนี้ที่โดนใจ

ฤทธิ์มีดสั้นไปซะงั้น 555 จริงๆ มันก็แค่นั้นเองครับ ต่อให้ปลั๊กที่ผนังกระจอกหรือสายไฟกระจอกขนาดไหน แต่เอาสายไฟออดิโอเกรดไปเสียบคั่นกลางระหว่างผนังกับเครื่อง เสียงมันก็ดีขึ้นจริงๆ ในแง่คุณภาพของตัวนำ ผมเชื่อว่ามันมีเรื่องการส่งผ่านพลังงานด้วยความเร็วเท่านั้นเท่านี้ ซึ่งผมไม่ใช่วิศวะกรไฟฟ้า แต่ก็คงอธิบายได้ตามที่นักเล่นเครื่องเสียงเค้าเข้าใจกันครับ 555

ปล.แต่อย่าลืมวัดเรื่องความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายด้วยนะครับ คือไม่ใช่ใส่สายไฟเส้นละแสนโดยที่ปลั๊กผนังยังเป็นแบบพานาโซนิค สายไฟขนาด 2.5 มม. แบบนี้ขี่ช้างจับตั๊กแตนเน้อๆๆๆ 555

ปลั๊กผนัง กับ power cord มันเป้นอุปกรณ์ตัวหนี่งที่มีค่า R L C ในตัวเอง

แพงมากเอามาใช้ อาจดีหรือไม่ดีก็ได้ ขึ้นกับว่าระบบเราขาดอะไร

หากระบบขาดทุ้ม ไปเล่น ปลั็ก rhodium หรือสายตัวนำทองแดงฝอยที่ยกแหลม

ทุ้มก็ยังขาดเหมือนเดิม เสียเงินเปล่า ไม่ช่วยอะไร

ที่เฮียว่ามาผมขอค้านนิดนึง มันไม่ใช้เครื่องกรองน้ำซะทีเดียวครับ

คือมันทำได้ไม่ดีเท่าเครื่องกรองไฟที่ขายๆ กัน คือช่วยได้บ้างแต่ไม่มากอะไร

ปลั๊กถ้าคุณภาพดี จะช่วยให้กระแสไฟฟ้าไหลได้ต่อเนื่อง เมื่อบวกกับการปรุงแต่งด้วยพารามิเตอร์วัสดุและการออกแบบปลั๊ก

ก้จะทำให้เสียงที่ฟัง เปลี่ยนไปตาม ยี่ห้อ รุ่น ของ ปลั๊กผนัง หรือ power cord ที่เราๆ ใช้กัน 

ถ้ามองเรื่องชนิดวัสดุที่ใช้มันเหมือนเครื่องปรุงรส แต่ถ้ามองเรื่องคุณภาพวัสดุที่ใช้มันคือการช่วยให้รสที่ปรุงมีความชัดเจน

 
    


 

ปลั๊ก Audio Grade นี่แหละครับตัว Color เลยราคาถึงแพง แต่ถ้าใส่แล้วฟังเพราะขึ้นก็ต้องยอมเขาล่ะ ถ้าอยากได้เสียงแต่งแต้มน้อยแนะนำตัวนี้ https://www.homepro.co.th/product/2675 ไม่แปลกใจเลยที่เครื่องกรองไฟของไทยหลายรุ่นเลือกใช้ (ปลั๊กรุ่นนี้มีหลายสีเป็นของดีที่หลายคนมองข้าม) และถึงใช้ตะกั่วบัดกรีก็มีผลต่อเสียงเพราะตะกั่วแค่หยดเดียวนี่แหละแต่ละยี่ห้อเสียงก็ต่างกัน 

แต่มาตรฐานอย่างหนึ่งที่ควรทำมากๆๆก็คือ การเลือกขนาดของตัวนำตั้งแต่ต้นทางนะครับ 555

ไม่ใช่ชุดเบ้อเริ่มเทิ่ม แต่เสียบจากปลั๊กผนังธรรมดา สายไฟเดินมาเส้นนิดเดียว แบบนี้ถือว่าพอใช้ให้มีเสียงเท่านั้น แต่ถ้าจะเอาจริงและอยากใช้สายไฟคุณภาพดีๆๆ ให้เริ่มเปลี่ยนสายไฟตั้งแต่หลังแผงไฟมาได้เลยครับ รับรองว่าเห็นผลทันทีครับ 55

ต่อตรงไปเลยดีสุดครับ ลากเสาไฟแรงสูงมาจากสถานีจ่ายไฟ ตั้งเสา+หม้อแปลง เดินสายไฟแรงสูงเดี่ยวๆ มาบ้านเรา เข้าห้องฟัง จั้มพ์ตรงเข้าเครื่องเสียงเลยครับ 5555+

ขอชมัวอย่างหน่อยครับ เสียงจะดีขนาดไหนนะะะะะะ

ปล. ทำเขื่อน ปั่นไฟเองเลยครับ ไม่มีอะไรมากวนได้แน่ๆ