มาที่การใช้งานบ้าง ขอเริ่มจากการฟังแบบไร้สายก่อน เพราะมันเป็นบลูทูธ

ฟังก์ชั่นก็ทั่วๆไปเลยครับ มีสวิทช์ปิดเปิด มีช่องเสียบสายชาร์จ เสียบสายหูฟัง และคอนโทรลที่สามารถเล่น หยุดเพลง และเลื่อนเพลงหน้าหลังได้ด้วยการเลื่อนค้างไว้ รวมถึงปรับระดับเสียงด้วยการเลื่อนแล้วปล่อย

ผมใช้ฟังร่วมกับมือถือของผม คือ Nexus 6p ที่จัดว่าเสียงงั้นๆและแรงขับน้อยมาก อินเอียร์ทั่วๆไปยังต้องเร่งเกือบสุดถึงจะอยู่ในระดับที่ฟังปกติ แต่มันได้บลูทูธ 4.2  จัดว่าโอเคเลย

หลังจากเชื่อมต่อเสร็จอย่างง่ายดาย ก็เริ่มฟังเพลงด้วยแอป Onkyo เสียงในตอนแรกก่อนเบิร์นแบบบลูทูธ ทำได้ไม่ห่างจากตัวเดโมที่ร้านมาก เป็นเสียงที่สเตจยังค่อนข้างนัว กลางยังไม่เด่นออกมา แหลมห้วน แต่รวมๆมันมีแววดี เบสก็ยังเบลอๆ แม้จะไม่ไ้ด้ลูกใหญ่ตูมตามอะไร

พอเบิร์นบ้างใช้บ้างมาสองอาทิตย์ เสียงเทียบร้านได้ซะที กลางไม่ถอยแล้วครับ แต่ก็ไม่ได้ลอยอยู่หน้าวง ให้ความชัดเจนที่ดี ผิดกับฟูลไซส์หลายๆรุ่นที่มักจะเสียงกลางหลบอยู่หลัง เพราะแทนที่ด้วยมิติและรูปวง แต่สำหรับผมชอบเสียงร้องอยู่หน้า ถือว่าตัวนี้ดีในระดับที่น่าพอใจ เมื่อดูจากราคาที่จ่ายไปตีเป็นเงินไทยราว 3200 โดยประมาณ

ย่านแหลมไม่ได้สดใสฟรุ้งฟริ๊ง แต่ก็ให้ดีเทลที่ถือว่าไม่ขาดตกอะไร เวทีเสียงเริ่มมีด้านลึกและด้านข้างให้รู้สึกได้ แต่มันยังสู้รุ่นพี่ที่เป็นแบบครอบหูเต็มใบไม่ได้ กระนั้นก็ไม่รู้สึกว่าอึดอัด แต่ก็ไม่ได้โปร่งโล่งเป็นลานแอโรบิคอะไรขนาดนั้น

คาแรกเตอร์เสียงให้ความเป็นเทคนิก้าที่สามารถรู้สึกได้ครับ ถ้าเคยฟังแบรนด์นี้มาหลายๆรุ่น แต่เสียงร้องไม่ได้หวานอะไรนัก โดยรวมคาแรกเตอร์เสียงค่อนข้าง กลางๆ ไม่ได้สว่าง ไม่ได้หม่น รองรับเพลงตลาดๆได้ดี ผมเอามาฟังเมทัลก็มันใช้ได้ เพราะให้เบสที่แรงปะทะสนุก ยิ่งถ้าเป็นคนไม่ชอบเบสใหญ่แบบผมแต่ชอบฟังเพลงหนักๆ น่าจะถูกใจ ส่วนการฟังเพลงร้องก็ไม่ได้ดีเด่อะไร มันพอฟังได้ ซึ่งตรงนี้ผมมองว่า ผมซื้อมาพกพา เวลาผมใส่เดินในเมือง ผมต้องการจังหวะที่ทำให้ตื่นตัว ไม่ค่อยได้ฟังเพลงช้าเนือยๆในเมืองอยู่แล้ว

มากันที่การฟังแบบมีสาย

การฟังด้วยสายหลังแกะกล่อง เป็นอะไรที่แย่มาก ถ้าคุณเคยเล่นเกม Silent Hill คงพอรู้ว่าผมจะพูดอะไร คือมันขุ่น และมีม่านหมอกลงจัดมาก ทุกอย่างดูอัดอั้นไปหมด ผมฟังได้ไม่นานคือถอดเลย 555 หลักๆเลยฟังแบบไม่เสียบสาย แล้วกลางคืนเปิดเบิร์นทิ้งไว้

พอเบิร์นมาเกือบร้อยชั่วโมงแล้วก็พบว่า เสียงมีความเหมือนฟังแบบไร้สายอย่างมีนัยยะสำคัญ คือสมัยนี้หูบลูทูธ เสียบกับไม่เสียบสายควรจะเสียงไม่ต่างแล้วล่ะ ถือว่ารุ่นนี้ทำได้ในราคาย่อมเยา ซึ่งไอการมีสายทำให้มันได้เปรียบคู่แข่งที่เป็นแบรนด์บิ๊กเนมในตลาดอย่าง Sony ที่รุ่นราคาแถวๆนี้จะเสียบสายไม่ได้ ต้องฟังบลูทูธอย่างเดียว ผมคิดว่า Mee Audio น่าจะเป็นคู่แข่งที่เหมาะสม แต่ผมไม่เคยฟัง และยังไม่คิดจะลอง เพราะไม่ค่อยชอบหน้าตาทางนั้นเท่าไหร่ กลับกันผมชอบดีไซน์ของ ATH เป็นทุนเดิม ไม่ใช่แค่รุ่นนี้ด้วย ไม่งั้นคงไม่โดนมา 3 รุ่นก่อนนี้

ตัวสายเป็นแบบ 3.5 สองด้าน สามารถเสียบสลับกันได้ตามความถนัดครับ อย่างผมเวลาฟังกับคอม จะเอาด้านแจ๊คงอเสียบกับหูฟัง สายมันจะได้ยื่นไปข้างหน้า ถนัดดี