JitterBug นั้นเป็น USB filter ไซส์เล็กจิ๋ว ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่าง port USB กับสาย USB และจะเข้ามาช่วยในเรื่อการจัดการกับ noise และ jitter ซึ่งเป็นตัวการหลักที่คอยรบกวนการทำงานของระบบ digital ให้ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
JitterBug นั้นเป็น USB filter ไซส์เล็กจิ๋ว ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่าง port USB กับสาย USB และจะเข้ามาช่วยในเรื่อการจัดการกับ noise และ jitter ซึ่งเป็นตัวการหลักที่คอยรบกวนการทำงานของระบบ digital ให้ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
การใช้งานก็เรียบง่ายและ simple สุดๆเลยครับ เพียงเเค่เสียบใช้งาน JitterBug เข้าไปที่ช่อง USB เเล้วก็เสียบสาย USB เข้าไปที่อีกฝั่งของ JitterBug ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยเเล้วครับ เรียกได้ว่าออกแบบให้ใช้งานได้ง่ายและไม่ต้องติดตั้งอะไรเลยครับ อีกทั้งมีขนาดที่เล็กเท่า flash drive จึงเเทบจะไม่มีปัญหาเรื่องขนาดเเละพื้นที่ในการใช้งานเลยครับ
การใช้งานก็เรียบง่ายและ simple สุดๆเลยครับ เพียงเเค่เสียบใช้งาน JitterBug เข้าไปที่ช่อง USB เเล้วก็เสียบสาย USB เข้าไปที่อีกฝั่งของ JitterBug ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยเเล้วครับ เรียกได้ว่าออกแบบให้ใช้งานได้ง่ายและไม่ต้องติดตั้งอะไรเลยครับ อีกทั้งมีขนาดที่เล็กเท่า flash drive จึงเเทบจะไม่มีปัญหาเรื่องขนาดเเละพื้นที่ในการใช้งานเลยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3
หลุยส์ munkonggadget
21/08/2015 17:26:41
1,057
และนอกจากนี้ภายในเเพ็คเกจยังเเถม license ใช้งาน 60 วัน ของ program "Roon" ให้อีกด้วยครับ ซึ่งเป็นโปรเเกรม music player ทั้งบน PC และ MAC ที่ให้คุณภาพเสียงในระดับเเถวหน้า และมีราคาต่อ license สูงถึง $499 เลยทีเดียวครับ
และนอกจากนี้ภายในเเพ็คเกจยังเเถม license ใช้งาน 60 วัน ของ program "Roon" ให้อีกด้วยครับ ซึ่งเป็นโปรเเกรม music player ทั้งบน PC และ MAC ที่ให้คุณภาพเสียงในระดับเเถวหน้า และมีราคาต่อ license สูงถึง $499 เลยทีเดียวครับ
ปกติที่ใช้อยู่
ฟังเพลงจาก PC เพลงก็เก็บไว้ใน HD ถ้าต่อโดยผ่านเจ้า JitterBug นี่ ก็แค่กรองจาก HD ไป PC ก็คงได้ระดับหนึ่ง
หูฟังหรือลำโพง ไม่ได้ต่อผ่านตัวนี้
ดังนั้น ถ้าเสียงที่ไม่พึงต้องการเกิดภายใน PC ก็ไม่ถูกจัดการนะซิ
อันนี้ผมเข้าใจถูกหรือเปล่า
ช่วยอธิบายหลักการของมันให้เห็นภาพหน่อย
ขอบคุณครับ
ยังนึกภาพไม่ออกว่าต่อใช้ยังไง
ปกติที่ใช้อยู่
ฟังเพลงจาก PC เพลงก็เก็บไว้ใน HD ถ้าต่อโดยผ่านเจ้า JitterBug นี่ ก็แค่กรองจาก HD ไป PC ก็คงได้ระดับหนึ่ง
หูฟังหรือลำโพง ไม่ได้ต่อผ่านตัวนี้
ดังนั้น ถ้าเสียงที่ไม่พึงต้องการเกิดภายใน PC ก็ไม่ถูกจัดการนะซิ
เท่าที่ผมฟังบางเพลงเสียบแล้วดีขึ้น บางเพลงไม่เสียบก็จะฟังแล้วลงตัวกว่า ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะครับแต่ฟังแล้วกลมกล่อมกว่า (แต่ก็ต้องอยู่ที่ system ของแต่ละคนด้วยนะครับ ว่า system หลักให้เสียงออกมาแนวไหน เหมือนกับที่เฮียบอกละครับ)
เท่าที่ผมฟังบางเพลงเสียบแล้วดีขึ้น บางเพลงไม่เสียบก็จะฟังแล้วลงตัวกว่า ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะครับแต่ฟังแล้วกลมกล่อมกว่า (แต่ก็ต้องอยู่ที่ system ของแต่ละคนด้วยนะครับ ว่า system หลักให้เสียงออกมาแนวไหน เหมือนกับที่เฮียบอกละครับ)
สรุปของที่ร้านมาหรือยังครับตอนนี้ หรือแนวโน้มจะมาเมื่อไหร่อะครับ
ปล.มี ใครได้ลองกับ meridian explorer ไหมน้ออยากรู้เมื่อเทียบกับเอกลักษณ์เดิมจะเป็นไงบ้าง ขอบคุณครับ ^-^
สรุปของที่ร้านมาหรือยังครับตอนนี้ หรือแนวโน้มจะมาเมื่อไหร่อะครับ
ปล.มี ใครได้ลองกับ meridian explorer ไหมน้ออยากรู้เมื่อเทียบกับเอกลักษณ์เดิมจะเป็นไงบ้าง ขอบคุณครับ ^-^
วันนี้ได้ลองกับ usb ในรถ ของผมเป็น front ติดรถธรรมดาๆ เปลี่ยนแค่ลำโพงใหม่ โดยเสียบคั่น flash drive ก็ส่งผลให้เสียงเปลี่ยนในทิศทางเดียวกันกับ PC แต่มากกว่าซะอีกครับ
วันนี้ได้ลองกับ usb ในรถ ของผมเป็น front ติดรถธรรมดาๆ เปลี่ยนแค่ลำโพงใหม่ โดยเสียบคั่น flash drive ก็ส่งผลให้เสียงเปลี่ยนในทิศทางเดียวกันกับ PC แต่มากกว่าซะอีกครับ
ขออภัยพี่ starman ครับ ผมจำผิดเพราะที่ร้านมีทั้ง imac และ mac mini ครับ
สำหรับ mac mini ถ้าเสียบสองตัว JitterBug จะเบียดช่อง USB ไป 1 ช่องครับ
ส่วน imac นั้นเสียบได้ทุกช่องปกติครับ
ขออภัยพี่ starman ครับ ผมจำผิดเพราะที่ร้านมีทั้ง imac และ mac mini ครับ
สำหรับ mac mini ถ้าเสียบสองตัว JitterBug จะเบียดช่อง USB ไป 1 ช่องครับ
ส่วน imac นั้นเสียบได้ทุกช่องปกติครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 72
starman
30/08/2015 14:11:50
3
รายงานเพิ่มจากคุณ Draco เสียบ Ext.Hdd ผ่านJitterBug เข้า mac Mini มองไม่เห็นดิสเหมือนกันครับ
เท่าที่ใช้นะ ต่อออกเข้า DAC ตัวนี้ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เสียง drop ไป (ต้นทางในเครื่องเราดีกว่าด้วยหล่ะ) แต่ดีในแง่ใช้เสียบ port ข้างๆ เวลาก๊อบไฟล์ใส่การ์ด (กัน noise) หรือต่อสายเอาไฟล์ลงเครื่อง เสียงสะอาดขึ้นนะ เรื่องปลายแหลมนี่น่าจะชัดสุด เสี้ยนคมๆ มันหายไป (อันนี้แล้วแต่คนชอบ)
เท่าที่ใช้นะ ต่อออกเข้า DAC ตัวนี้ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เสียง drop ไป (ต้นทางในเครื่องเราดีกว่าด้วยหล่ะ) แต่ดีในแง่ใช้เสียบ port ข้างๆ เวลาก๊อบไฟล์ใส่การ์ด (กัน noise) หรือต่อสายเอาไฟล์ลงเครื่อง เสียงสะอาดขึ้นนะ เรื่องปลายแหลมนี่น่าจะชัดสุด เสี้ยนคมๆ มันหายไป (อันนี้แล้วแต่คนชอบ)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 104
Dookdooi
05/10/2015 23:47:09
AQ recommend ให้ใส่ jitterbug ได้เต็มที่สองตัวต่อ 1 usb bus
ตัว mac mini ปี 2012 มี 2 usb bus คือ port 1 กับ 3 ใช้ bus เดียวกัน
Port 2 กับ 4 ใช้ bus ร่วมกัน (port 1 คือ port ที่อยู่ด้านซ้าย เมื่อมองจากด้านหลัง)
ดังนั้น ตามทฤษฎี เสียบ jitterbug ใน bus เดียวกันสองตัวน่าจะดีสุด ซึ่งผมก็ลองเสียบตัวเปล่าที่ port 2 กับเสียบอีกตัวที่ต่อไป dac ที่ port 4
ปรากฎว่าเสียงมันบีบๆ เลยเอาตัวเปล่าย้ายจาก port 2 ไป port 1 ซึ่งเท่ากับว่าเสียบคนละ bus
ผลคือ เสียงกับฟังดีกว่า
ตรงตามที่คุณหลุยส์บอกให้เสียบ port 1 กับ 4 แต่ไม่ตรงตาม recommend ของ AQ เขา แปลกดีครับ
AQ recommend ให้ใส่ jitterbug ได้เต็มที่สองตัวต่อ 1 usb bus
ตัว mac mini ปี 2012 มี 2 usb bus คือ port 1 กับ 3 ใช้ bus เดียวกัน
Port 2 กับ 4 ใช้ bus ร่วมกัน (port 1 คือ port ที่อยู่ด้านซ้าย เมื่อมองจากด้านหลัง)
ดังนั้น ตามทฤษฎี เสียบ jitterbug ใน bus เดียวกันสองตัวน่าจะดีสุด ซึ่งผมก็ลองเสียบตัวเปล่าที่ port 2 กับเสียบอีกตัวที่ต่อไป dac ที่ port 4
ปรากฎว่าเสียงมันบีบๆ เลยเอาตัวเปล่าย้ายจาก port 2 ไป port 1 ซึ่งเท่ากับว่าเสียบคนละ bus
ผลคือ เสียงกับฟังดีกว่า
ตรงตามที่คุณหลุยส์บอกให้เสียบ port 1 กับ 4 แต่ไม่ตรงตาม recommend ของ AQ เขา แปลกดีครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 105
ellevoid
06/10/2015 16:19:49
220
@คุณแนนครับ
ของคุณแนนหมายถึงว่าแทนที่จะเสียบต่อกับช่อง usb ที่ต่อเข้า dac เอาไปเสียบที่ port ข้างๆ ว่างๆ หรือ port ข้างๆ ที่เสียบ hdd จะดีกว่าอย่างนี้ใช่รึเปล่าครับ?
@คุณแนนครับ
ของคุณแนนหมายถึงว่าแทนที่จะเสียบต่อกับช่อง usb ที่ต่อเข้า dac เอาไปเสียบที่ port ข้างๆ ว่างๆ หรือ port ข้างๆ ที่เสียบ hdd จะดีกว่าอย่างนี้ใช่รึเปล่าครับ?
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 106
Dawn
07/10/2015 01:18:50
88
ทดลองเสียบกับช่อง USB 3.0 เทียบกับ USB 2.0 สรุปต่อ JitterBug ที่ช่อง USB 2.0 จะให้คุณภาพเสียงดีที่สุดครับ ตรงกับข้อมูลจากทางเวปของ Audioquest เช่นกัน
Q: Is JitterBug USB 3.0 compliant?
A: No. JitterBug is intentionally noncompliant with the 3.0 standard. Higher speeds result in higher frequencies and more noise. When used with USB 3.0 devices, JitterBug purposely decelerates the device to USB 2.0 specifications.
JitterBug’s dual-function line-conditioning circuitry works on both the data (communication) and vbus (power) lines of USB ports: The latter reduces noise and prevents EMI and RFI from contaminating the associated digital-to-analog converter (DAC) and/or cable. The former minimizes parasitic resonances created by the computer and USB bus, and is optimized to remove noise above the USB 2.0 frequency specification, making it ideal for audio playback.
When transferring large amounts of data, we suggest that you remove JitterBug from your device. Simply reinstall JitterBug prior to your next listening session. (See below: “Will JitterBug improve the sound of my computer audio even when I’m not using a USB DAC?”)
ทดลองเสียบกับช่อง USB 3.0 เทียบกับ USB 2.0 สรุปต่อ JitterBug ที่ช่อง USB 2.0 จะให้คุณภาพเสียงดีที่สุดครับ ตรงกับข้อมูลจากทางเวปของ Audioquest เช่นกัน
Q: Is JitterBug USB 3.0 compliant?
A: No. JitterBug is intentionally noncompliant with the 3.0 standard. Higher speeds result in higher frequencies and more noise. When used with USB 3.0 devices, JitterBug purposely decelerates the device to USB 2.0 specifications.
JitterBug’s dual-function line-conditioning circuitry works on both the data (communication) and vbus (power) lines of USB ports: The latter reduces noise and prevents EMI and RFI from contaminating the associated digital-to-analog converter (DAC) and/or cable. The former minimizes parasitic resonances created by the computer and USB bus, and is optimized to remove noise above the USB 2.0 frequency specification, making it ideal for audio playback.
When transferring large amounts of data, we suggest that you remove JitterBug from your device. Simply reinstall JitterBug prior to your next listening session. (See below: “Will JitterBug improve the sound of my computer audio even when I’m not using a USB DAC?”)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 107
Dawn
07/10/2015 01:40:13
88
ขออนุญาติเพิ่มเติมครับ
ตอนแรกที่ซื้อมาผมเสียบกับช่อง USB 3.0 ทันทีไม่ได้คิดอะไร ฟังไปฟังมาหลายรอบรู้สึกว่าเสียงมันดรอปกว่าต่อตรง ย้ายไปเสียบ USB 3.0 ช่องข้างๆ ฟังดีกว่าแต่เหมือนได้อย่างเสียอย่าง
เสียงจากการต่อ USB DAC ผ่าน JitterBug ทางช่อง USB 3.0 เสียงจะเค้นและปลายเสียงห้วน ฟังแล้วเหมือนเสียงคมชัดขึ้น แต่เป็นชัดแบบคม แข็งไม่น่าฟัง
ส่วนการต่อผ่านช่อง USB 2.0 เสียงลื่นไหล มีรายละเอียดฟังสบายกว่าครับ
ท่านที่ใช้ JitterBug ลองตรวจสอบดูว่าท่านเสียบ USB ช่องใดอยู่อาจเส้นผมบังภูเขาแบบผมก็ได้ครับ
ขออนุญาติเพิ่มเติมครับ
ตอนแรกที่ซื้อมาผมเสียบกับช่อง USB 3.0 ทันทีไม่ได้คิดอะไร ฟังไปฟังมาหลายรอบรู้สึกว่าเสียงมันดรอปกว่าต่อตรง ย้ายไปเสียบ USB 3.0 ช่องข้างๆ ฟังดีกว่าแต่เหมือนได้อย่างเสียอย่าง
เสียงจากการต่อ USB DAC ผ่าน JitterBug ทางช่อง USB 3.0 เสียงจะเค้นและปลายเสียงห้วน ฟังแล้วเหมือนเสียงคมชัดขึ้น แต่เป็นชัดแบบคม แข็งไม่น่าฟัง
ส่วนการต่อผ่านช่อง USB 2.0 เสียงลื่นไหล มีรายละเอียดฟังสบายกว่าครับ
ท่านที่ใช้ JitterBug ลองตรวจสอบดูว่าท่านเสียบ USB ช่องใดอยู่อาจเส้นผมบังภูเขาแบบผมก็ได้ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 108
ping_seksan
07/10/2015 10:36:33
25
mac mini มีแต่ usb 3.0 เซ็งเลย
mac mini มีแต่ usb 3.0 เซ็งเลย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 109
Dawn
07/10/2015 13:28:37
88
ถ้าเครื่องไม่มีช่อง USB 2.0 ลองเสียบ JitterBug ไว้ข้างๆ ช่องที่เสียบสาย USB แทนดูครับ
ถ้าเครื่องไม่มีช่อง USB 2.0 ลองเสียบ JitterBug ไว้ข้างๆ ช่องที่เสียบสาย USB แทนดูครับ