สายรุ่นเดียวกันความยาวเท่ากัน แต่มันมีความต่างของพื้นที่หน้าตัดของตัวนำอีกนะครับ เช่น 22 หรือ 24 ซึ่งราคาไม่เท่ากันครับ ^ ^

ขอบคุณอ. Ahura คะ ^^ ขออนุญาตถามเพิ่มนะคะ พื้นที่หน้าตัดของตัวนำ เช่น 22 หรือ 24 คืออะไร ต่างกันยังไงคะ แบบไหนดีกว่ากันคะ?

ต้องเข้าใจว่าวัสดุทุกชนิดในโลกล้วนมีความต้านทานกระแสไฟฟ้าอยู่ในตัว

ซึ่งแร่เงินมีความต้านทานกระแสไฟฟ้าน้อยที่สุด เสียงที่ได้จากตัวนำนี้จึงลื่นไหลพริ้วมากที่สุด

ส่วนพื้นที่หน้าตัดเปรียบเสมือนท่อน้ำ ซึ่งท่อยิ่งใหญ่น้ำก็ยิ่งไหลสะดวกไม่มีการอั้น

หรืออีกนัยหนึ่งพื้นที่หน้าตัดตัวนำยิ่งกว้าง การต้านทานกระแสไฟฟ้าก็จะยิ่งน้อยลงครับ

ผมอธิบายง่ายๆตามภูมิรู้วิชาไฟฟ้าและอิเลคโทรนิคตอนม.3 และคืนครูไปเกือบหมดแล้ว รอข้อมูลเชิงเทคนิคจากผู้รู้จริงกันครับ 555

ขอเพิ่มเติมนิดนึงครับ

ตัวเลขหน้าตัดของสายตัวนำ ยิ่งเลขน้อย ยิ่งหน้าตัดกว้างครับ เช่น 22 Awg > 24 Awg

โดยทางทฤษฏีแล้วยิ่งหน้าตัดกว้างกระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านได้ดีกว่าครับผม ทำให้สายหูฟัง ยิ่ง

เส้นใหญ้ เนื้อ หรือ มวลเสียงจะ อิ่ม หรือ หนากว่านั่นเองครับผม

TOXIC AUDIO VIRUS FOR SHURE
ตัวนี้เป้นรุ่นเก่าหน้าตัดเบอร์ 25.5 เลยมีราคาถูกกว่าครับ

ขอบคุณนะคะ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นประมาณนึงเลยคะ

ยังมีสายฝอยมากน้อยไม่เท่ากันก็ทำให้เสียงออกมาอิ่มหนามากน้อยต่างกันอีกด้วยนะครับ 555

สุดท้ายก็ต้องไปลองเทสฟังเสียงดูว่าสายเส้นไหนจะให้เสียงที่ถูกใจมากที่สุด
และก็อย่าลืมเรื่องแม๊ชชิ่งกับทั้งเพลเยอร์กับหูฟังรวมทั้งประเภทของเพลงที่ฟังอีกด้วยนะ

....งง ไหมมมมมมม 555 ^^

น้าชาน่าจะหมายถึง "ในเส้นสายสัญญาณตัวนำจะประกอบด้วยเส้นฝอยที่อัดเบียดตัวกันอยู่ เป็นตัวแปรอีกอย่างที่ทำให้เสียงออกมาอิ่มหนามากน้อยต่างกัน" ใช่ไหมค่ะ ^^

ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยตอบนะคะ ^__^