สวัสดีครับมีเรื่องน่าสนใจมาเล่าสู่กันฟังครับ เผอิญได้ไปอ่านบทความชิ้นหนึ่ง (ไม่ได้เกี่ยวกับพวก Gadget หรอกครับ) เขาเขียนว่า "Science meet Art" เลยเกิดไอเดียเขียนบทความนี้ขึ้นมา

มีหลายๆ ครั้งที่เราจะพบว่ามีการถามถึงอุปกรณ์ตัวนั้น หูฟังตัวนี้ว่าตัวไหนเสียงดีกว่ากัน ต่างท่านต่างก็ตอบไปตามแบบของตัวเอง ซึ่งไม่มีอะไรผิดหรือถูกหรอกครับ และก็มีหลายๆ ท่าน (เช่น คุณG-7) ได้เขียนรีวิวต่างๆ เพื่อมาแก้ปัญหาตรงนี้ แต่ก็ยังมีคำถามมากมายเหมือนเดิม

ที่จริงแล้วการที่ยังมีคำถามอย่างนี้อยู่ผมถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะอะไรนะหรือ เพราะมันมีเรื่องของเทคโนโลยี บวกกับ ศิลปะอยู่ในตัว มันจึงเป็นเรื่องยากที่ใครจะตอบได้ถูกต้องทั้งหมด

ถ้ามันมีแต่เทคโนโลยี เราก็คงบอกได้ว่า ตัวนั้นดีกว่าเพราะ Spec ดีกว่า หูตัวนั้นมีเทคโนโลยีสูงกว่าต้องดีกว่าเป็นต้น (คำถามเกี่ยวกับว่าตัวไหนดีกว่าคงไม่เกิดขึ้น) แต่สำหรับเรื่องการฟังเพลง (ซึ่งเป็นส่วนของศิลปะ เพราะเพลงเป็นศิลปะ) บอกยากมาก เพราะไม่รู้เลยว่าเขาจะนำอุปกรณ์ชิ้นนั้นไปใช้ฟังเพลงอะไร หรือฟังแบบไหน แล้วมันจะเหมาะหรือไม่

และอีกอย่างที่เป็นศิลป์ก็คือการออกแบบตัวอุปกรณ์ บางทีเสียงดีไม่ดีไม่รู้ ขอสวยไว้ก่อนแต่บางคนบอกตรงข้าม รูปลักษณ์ไม่เกี่ยวขอเรื่องเสียงดีอย่างเดียวก็มี ตัวแปรในการเลือกซื้ออุปกรณ์หรือหูฟังจึงมีความหลากหลายอยู่มาก

ประสบการณ์ในการฟังของแต่ละคนก็ต่างกัน ศิลปะเป็นเรื่องของประสบการณ์ เหมือนกับการวาดรูป อยู่ๆ ท่านจะวาดรูปเก่งโดยที่ไม่ฝึกเลยไม่ได้ ฉันใดก็ฉันนั้น อยู่ๆ ท่านจะฟังเพลงโดยสามารถแยกแยะมิติ หรือเสียงสูงเสียงต่ำโดยที่ไม่ฝึก หรือผ่านการฟังมาอย่างยาวนานก็เป็นไปไม่ได้

บางคนพึงจะเริ่มฟังเพลง ก็อยากจะไปเร็วๆ อยากได้ของที่ดีที่สุด แต่ตนเองยังฟังเพลงไม่ถึงไหน (เหมือนกับพึ่งหัดเล่นกีตาร์ แต่อยากได้กีตาร์ราคาแพง พอได้มา เล่นไม่เท่าไร ก็ปล่อยให้ฝุ่นจับแล้วก็ขายขาดทุนไป สุดท้ายมาบ่นว่ากีตาร์ไม่ดี 555) นักฟังที่เริ่มใหม่จึงควรค่อยๆ เล่น หาฟังไปเรื่อยๆ สั่งสมประสบการณ์ ไม่ใช่สั่งสมอุปกรณ์กันท่าเดียว ลองฟังดูที่เขาบอกว่าแยกรายละเอียดได้ดีเป็นไง เสียงสูงที่ไม่บาดหูเป็นไง เสียงต่ำที่ลงลึกเป็นไง

ผมว่าพอถึงจุดหนึ่งจะรู้เลยว่าไม่ใช่เราเล่นอุปกรณ์หรือหูฟัง แต่เป็นอุปกรณ์และหูฟังต่างหากที่สอนเรา ความสนุกของ Gadget ไม่ใช่อยู่ที่การซื้อและหามาได้ แต่อยู่ที่
ช่วงเวลาในการฟังต่างหากเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข (เหมือนการนั่งรถไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ความสุขเกิดขึ้นในช่วงการเดินทางได้ร้องรำทำเพลง ได้ไปหาอะไรกินกัน ไม่ได้อยู่ที่ว่าใครไปถึงก่อน หรือใครไปได้ไกลกว่า แล้วนำมาพูดอวดกัน)

พูดไปพูดมาชักจะหลงประเด็นไปเสียแล้ว (555) เอาเป็นว่าเมื่ออุปกรณ์มันมีศิลปะมาประกอบด้วย นักเล่นที่พึ่งเริ่มก็ไม่ต้องรีบครับ อย่ารีบร้อน ใจเย็นๆ ฝึกไปเล่นไปเรื่อยๆ
สุดท้ายขอให้มีความสุขกับการฟังเพลง มีความสุขกับงานอดิเรกของท่านนะครับ