เบื้องต้นนั้นถ้าฟังในแบบ Close back นั้น Edition S ให้โทนเสียงที่ใสเคลียร์ น้ำเสียงมีความกระจ่างและเปิดเผย จัดว่าเป็นหูแบบปิดที่ให้เวทีเสียงที่กว้างพอสมควรเลยครับ ปลายแหลมนั้นมีประกายที่โดดเด่น ในขณะที่เบสนั้นมีเนื้อที่ดีและให้หัวโน๊ตที่กระเเทกนิดๆ รวมไปถึงเสียงร้องที่จะถูกดึงมาอยู่ทางด้านหน้าเวที และมีความโดดเด่นอยู่พอสมควรเลยล่ะครับ เหมาะกับเพลงร้อง Acoustic และ Jazz เป็นอย่างยิ่วครับ
ส่วนในแบบ Open back นั้น ตำเเหน่งของเสียงร้องนั้นจะถอยหลังกว่าเดิมออกมาครึ่งเก้า แต่จะได้เรื่องพละกำลัง และอิมเมจของชิ้นดนตรีที่ใหญ่ขึ้น รวมไปถึงเบสที่มีอิมเเพ็คและเเรงปะทะดีขึ้น ฟังสนุกขึ้น สามารถฟังเพลงตลาดอย่าง Pop Poprock ได้เป็นอย่างดีเลยครับ
และตัวหูฟังนั้นถูกออกแบบให้สามารถพับเก็บได้อย่างง่ายดาย จึงเป็นหูฟังแบบ on ear อีกหนึ่งรุ่นที่ควรทดลองฟังที่ร้านเลยครับ และมากับราคาเร้าใจที่ 9900 บาทเท่านั้นครับ สามารถเข้ามาซื้อที่ร้านได้เเล้ววันนี้ครับ...
เบื้องต้นนั้นถ้าฟังในแบบ Close back นั้น Edition S ให้โทนเสียงที่ใสเคลียร์ น้ำเสียงมีความกระจ่างและเปิดเผย จัดว่าเป็นหูแบบปิดที่ให้เวทีเสียงที่กว้างพอสมควรเลยครับ ปลายแหลมนั้นมีประกายที่โดดเด่น ในขณะที่เบสนั้นมีเนื้อที่ดีและให้หัวโน๊ตที่กระเเทกนิดๆ รวมไปถึงเสียงร้องที่จะถูกดึงมาอยู่ทางด้านหน้าเวที และมีความโดดเด่นอยู่พอสมควรเลยล่ะครับ เหมาะกับเพลงร้อง Acoustic และ Jazz เป็นอย่างยิ่วครับ
ส่วนในแบบ Open back นั้น ตำเเหน่งของเสียงร้องนั้นจะถอยหลังกว่าเดิมออกมาครึ่งเก้า แต่จะได้เรื่องพละกำลัง และอิมเมจของชิ้นดนตรีที่ใหญ่ขึ้น รวมไปถึงเบสที่มีอิมเเพ็คและเเรงปะทะดีขึ้น ฟังสนุกขึ้น สามารถฟังเพลงตลาดอย่าง Pop Poprock ได้เป็นอย่างดีเลยครับ
และตัวหูฟังนั้นถูกออกแบบให้สามารถพับเก็บได้อย่างง่ายดาย จึงเป็นหูฟังแบบ on ear อีกหนึ่งรุ่นที่ควรทดลองฟังที่ร้านเลยครับ และมากับราคาเร้าใจที่ 9900 บาทเท่านั้นครับ สามารถเข้ามาซื้อที่ร้านได้เเล้ววันนี้ครับ...