Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

เหน่งบาตัดแปะ....วัดโกโรโกโส = ="

เหน่งบา

04/05/2016 17:42:33
1,866



แน่นอน ทุกคนที่ไม่เคยรู้จักวัดนี้ จะนึกหรือถามทันทีที่ได้ยินว่า มีด้วยหรือ วัดอะไรชื่อแบบนี้

วัดโกโรโกโส หรือ ชื่อเดิมคือวัดคลังทอง ปัจจุบัน เป็นวัดที่มีอาณาบริเวณเล็กมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ตั้งอยู่หมู่ ๕ บ้านคลองข้าวเม่า ต.ข้าวเม่า อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เกือบติดถนนสายเอเชีย(ถ้าขับมาจากด้านอ่างทองบางปะหัน จะอยู่ทางซ้ายมือ ก่อนถึงสะพานเลี้ยวเข้าตัวเมืองอยุธยาไม่ไกลนัก ถ้าขับมาจากกรุงเทพจะอยู่ทางขวาเลยทางเข้าอยุธยาไปหน่อย)มี "หลวงพ่อแก้ว” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “หลวงพ่อดำ" เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ประดิษฐานอยู่ในวิหาร

แม้ว่าชื่อของ “วัดคลังทอง” จะขึ้นชื่อว่าเป็น สุดยอดแห่งความเป็นมหามงคล แต่คนยังเรียกวัดแห่งนี้ว่า “วัดโกโรโกโส” ซึ่งฟังดูแล้วจะไม่เป็นมงคล ทั้งนี้ พจนานุกรม ราชบัณฑิตยสถาน ได้ให้ความหมายว่า “โกรงเกรง, ไม่มั่นคง, เช่น กระท่อมโกโรโกโส; ต่ำต้อย เช่น คนโกโรโกโส แต่ชาวบ้านยังเรียกชื่อเดิม
ตามประวัติการสร้างวัดเล่าสืบกันมาว่า มีชาวจีนสองคน คือ “อาโกโร” และ “อาโกโส” (คนจีนแต้จิ๋วจะเรียกพี่สาวหรือน้องสาวของพ่อ เรียกว่า อาโก) ซึ่งเป็นเพื่อนกันได้ร่วมกันสร้างวัดขึ้นโดยมิได้ตั้งชื่อเสียงเรียงนาม ชาวบ้านที่รู้ว่าท่านทั้งสองสร้างวัดจึงพากันเรียกว่า “วัดอาโกโรอาโกโส”
ต่อมามีการขนานนามแบบค่อนข้างเป็นทางการให้ว่า “วัดคลังทอง” แต่ชาวบ้านก็ยังนิยมเรียกกันต่อมาว่า วัดอาโกโรอาโกโส ครั้นนานวันเข้าก็หายกลายเป็น “วัดโกโรโกโส"
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

เหน่งบา

04/05/2016 17:44:22
1,866



อีกตำนานความเป็นมาของวัดนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ช่วงเสียกรุงครั้งที่ ๒
เดิมเศียรของท่านถูกพม่าตัดไปเมื่อหลังกรุงแตก
ต่อมาเมื่อไม่นานนี้ มีพระท่านเข้ามาบูรณะและหล่อเศียรให้ท่านใหม่แล้วนำมาประกอบเข้ากับองค์ท่านจนเห็นเป็นอย่างปัจจุบัน

เมื่อครั้งพม่าล้อมกรุงศรีอยุธยาไว้ พระยาตากเห็นว่าท่าจะไปไม่รอดแล้ว จึงรวบรวมไพร่พลฝ่ากองทัพพม่าออกมา แล้วล่องเรือมาตามลำน้ำทางทิศตะวันออกของกรุงศรีฯ พระยาตากและไพร่พลของท่านมาหยุดแวะพักที่บริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ท่านสังเกตเห็นมีวัดตั้งอยู่ริมคลองจึงหยุดพักที่วัดแห่งนั้นขณะนั้น พระยาตากมุ่งมั่นที่จะกอบกู้บ้านเมืองที่กำลังจะล่มสลายให้กลับคืนมาจงได้
ท่านจึงขึ้นไปยังวัดนั้น แล้วเข้าไปกราบขอพรจากพระพุทธรูปในพระวิหาร ขอให้กอบกู้บ้านเมืองได้สำเร็จ

ชาวบ้านในละแวกนั้น เมื่อทราบว่ามีทหารมาแวะพักจึงเข้ามาถามไถ่ เมื่อทราบความว่า พระยาตากจะรวบรวมไพร่พลเพื่อกอบกู้บ้านเมืองที่น่าจะล่มสลายในเร็ววันแล้ว ชาวบ้านก็นำเสบียงอาหารมาให้ทหารของพระยาตาก เสบียงนั้นก็เป็นพวกข้าวเม่า ที่สามารถนำติดตัวไปไหนต่อไหนได้นาน ส่วนชาวบ้านอีกกลุ่มที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับวัด ก็มาช่วยกันทำอาวุธ ช่วยกันนำไม้มาเหลาเป็นลูกธนู ไว้ต่อสู้กับข้าศึก
เมื่อได้เสบียงและอาหารพอที่จะเดินทางต่อไปแล้ว พระยาตากก็นำไพร่พลออกเดินทางต่อไป

หลังจากนั้นพม่าเริ่มรู้แล้วว่าที่นี่มีการซ่องสุมกำลังกัน จึงนำทหารพม่าเข้ามาทำลายหมู่บ้านแห่งนี้ ไม่เว้นกระทั่งวัดวาอาราม รวมถึงการทำลายหลวงพ่อดำด้วยการตัดเศียร แล้ววัดคลังทอง ก็ถูกเผาทำลายย่อยยับ ชาวบ้านต้องปล่อยให้รกร้างมาตั้งแต่บัดนั้น ด้วยเกินกำลังความสามารถจะบูรณะวัดขึ้นมาใหม่

เวลาผ่านไปไม่นาน พระยาตากซึ่งเมื่อนั้นได้ขึ้นเป็นพระเจ้าตากสิน ได้กอบกู้เอกราชสำเร็จตามที่ขอพรไว้กับหลวงพ่อดำ แห่งวัดคลังทอง ท่านก็ไม่ลืมในน้ำใจของชาวบ้านที่เคยช่วยกองทัพของท่านไว้ พระเจ้าตากสินจึงตั้งชื่อหมู่บ้านที่ชาวบ้านนำเสบียงอาหารมาให้ว่า หมู่บ้านข้าวเม่า และหมู่บ้านที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของคลองได้ชื่อว่า หมู่บ้านธนู ตามที่ชาวบ้านมาช่วยเหลาธนูให้ท่าน และชื่อหมู่บ้านก็อยู่สืบต่อมาจนปัจจุบัน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

เหน่งบา

04/05/2016 17:45:32
1,866



ชาวบ้านเห็นว่า วัดคลังทองถูกทำลายจนไม่สามารถจะบูรณะขึ้นมาใหม่ได้อีก จึงร่วมกันสร้างวัดแห่งใหม่ขึ้น ซึ่งก็ไม่ไกลไปจากที่ตั้งวัดเดิม เพียงแต่ข้ามคลองไปอีกฝั่งเท่านั้น บริเวณที่จะสร้างวัดแห่งใหม่ เดิมเป็นป่าสะแก เมื่อชาวบ้านสร้างวัดแห่งใหม่แล้ว จึงเรียกวัดนั้นว่า "วัดสะแก" (ตอนนี้ เป็นแหล่งสอนวิปัสนากรรมฐานที่มีชื่อของอำเภออุทัย โดยเฉพาะเมื่อเอ่ยถึงหลวงปู่ดู่ วัดสะแก(เกิดวันศุกร์ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะโรง ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๔๔๗ มรณะภาพวันพุธที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๓ อายุ ๘๕ ปี ๘ เดือน อายุพรรษา ๖๕ พรรษา) เชื่อว่าไม่มีชาวอยุธยาคนใดไม่รู้จัก)

ปัจจุบันแต่พื้นที่บริเวณวัดนั้นก็กลายเป็นโรงเรียนไปแล้ว จึงเหลือพื้นที่เล็กๆ รอบพระวิหารหลวงพ่อดำเท่านั้น และวันนี้ วัดโกโรโกโส ก็กำลังถูกทำลายอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้เป็นการทำลายด้วยพลังธรรมชาติ ด้วยน้ำในคลองที่กัดเซาะตลิ่งพังลงทุกวัน ทำให้วิหารของหลวงพ่อดำทรุดลงอย่างน่าใจหาย หากไม่ได้รับการบูรณะ อีกไม่นานเราคงไม่มีวัดโกโรโกโส วัดที่ครั้งหนึ่งพระเจ้าตากสินเคยขึ้นมากราบขอพรจากหลวงพ่อ และกอบกู้เอกราชให้คนไทยทุกวันนี้มีแผ่นดินอาศัยได้สำเร็จ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

เหน่งบา

04/05/2016 17:45:56
1,866



ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

เหน่งบา

04/05/2016 17:57:54
1,866
เครดิต http://www.oknation.net/blog/premjit/2008/09/27/entry-1 ขอบคุณครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

pst1987bb

04/05/2016 18:15:45
12
เคยไปกินข้าวแถวนั้น ร้านอาหารใกล้ๆโรงเรียน

ทางเข้าถ้าจำไม่ผิดจะเป็นตลาดกลางที่ขายพวกปลาสด กุ้งสด
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

เหน่งบา

04/05/2016 18:33:04
1,866
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

84a111

04/05/2016 18:40:06
สาธุ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
"เหน่งบาตัดแปะ....วัดโกโรโกโส = =""