อ่าถามตรงใจผมเลยครับ เมื่อก่อนผมผมไม่ค่อยรู้เรื่องผมเลือกเสียงมาก่อนเลยครับ 100% เลย
แต่เดี๋ยวนี้ให้การสวมใส่สบายมาก่อน 100% แทนครับ เพราะเคยซื้อinear เสียงถูกใจแต่พอกลับมาใช้งานจริงๆเจ็บมากๆใส่ไม่สบายเลย เลิกใช้ไปเลยครับขายต่อแบบรวดเร็วเลย ตอนนั้นคิดกลับไปรู้สึกเสียดายอีกตัวเลยที่ไม่ได้เอามา เพราะเสียงคล้ายๆกันแต่ใส่สบายกว่ามากๆครับ เพราะฉะนั้นเลือกหูฟังตัวต่อไปเอาใส่สบายใช้ได้นานๆมาก่อนเสมอสำหรับผมครับ

ให้น้ำหนักของเสียงกับการใส่สบายเท่าๆกันครับ....

ผมให้การใส่สบายมากก่อนครับ ตามด้วยดีไซน์ เรื่องเสียงผมไม่ได้เน้นมาก ขอให้ตรงกับแนวเพลง ไม่ก็โทนมอนิเตอร์ฟังได้ทุกแนวดี

เต็มร้อยก็ต้องเรื่องราคาก่อนสิฮะ

-50% ให้เรื่องราคา ความคุ้มค่า โอกาสที่ได้ใช้ก่อนเลย
-30% ให้เสียงฮะ
-20% ให้รูปร่างหน้าตา แบรนด์

น้ำหนักอาจจะต่างกันไป แต่ทุกอันที่ซื้อต้องได้คะแนนครบทุกข้อฮะ (เสียงดี ราคาดี หน้าตาไม่ผ่านแบบ PK ผมก็ไม่เอาฮะ) ^^

100 เปอร์เซ็น
ผมแบ่งเลยครับ
50 เปอร์เซ็น คุณจะใช้หูฟังตัวนี้เวลาไหน ตอนไหน คุ้มค่าไหม กับการลงทุน
30 เปอร์เซ็ฯ เสียง
20 แบนรด์ น่าตา รูปร่าง

ส่วนใหญ่ซื้อมาจะสนเรื่องเสียงก่อน ตีไป 80%
แล้วมาดูที่หน้าตาอีกโดนใจไหมไป 15%
ใส่สบายหรือเปล่าอีก 5%

เสียง 40 ใส่สบาย 40 แบรนด์ 20

ผมนี่ต้องเอียร์บัดก่อนเลยครับ ตามด้วยใส่สบายกับเสียงถูกใจฟังแล้วชอบ

เสียง 99ครับ เหลือไว้ 1% ถ้ามันไม่ใส่ยากจริง แล้วเสียงดี เอาหมดครับ แต่ที่เล่นมา ก็พอใส่ได้ทุกตัวครับ

ของผม

เสียง 40%
คุณภาพ/ราคา 20%
ใส่สบาย 20%
แบรนด์ 10%
ความหล่อเหลา 10%

ครับ

สำหรับผม...

เสียง = 40%
ใส่สบาย = 50%
คุณภาพของวัสดุ = 10%

ของ ผมไม่ได้แบ่งเป็น% อย่างนั้นครับ แต่จะแบ่งเป็นข้อ
ข้อ1.ข้อแรกที่ผมจะดูเลยคือโอกาส ที่จะได้ใช้ครับ ว่าหูตัวนี้ซื้อมาจะได้ใช้บ่อยไหม เพราะต่อให้เสียงเพราะสุดๆใส่สบายยังไงซื้อมาไม่ค่อยได้ใช้ ใช้ไม่คุ้มก็เสียดายหูฟังครับ
ข้อ2. คือเสียงครับ เสียงก็ต้องเป็นแบบที่ชอบ เช่นกันครับ คือต่อให้เป็นหูฟังที่สะดวกและเสียงฟังแล้วมันก็เพราะนะ แต่ไม่ใช่เสียงแบบที่เราชอบ ซื้อมาก็ไม่ได้ใช้ครับ
ข้อ3. คือการสวมใส่ ถ้าใส่ง่าย ใส่สบายไม่ลำบากไม่เจ็บ ก็คือโอเคครับ ต่อให้เป็นหูที่มีโอกาสได้ใช้บ่อย เสียงก็เป็นแบบที่ชอบ แต่ใส่ไม่สะดวก ใส่แล้วเจ็บก็ไม่ได้ใช้ครับ

ของผมให้ทั้ง3ข้อดังกล่าวเท่ากันครับ ถ้าไม่ได้ข้อไหนก็คือไม่ผ่านเลยครับ เพราะจากที่ได้ใช้หูผ่านมาหลายๆตัวก็มีต้องปล่อยไปเพราะไม่ได้ตามเหตุผล3ข้อนี้ ช่วงหลังๆมาจึงใช้หลักสามข้อนี้ในการเลือกใช้ตลอดเลยครับ
ส่วนเรื่องรูปร่างทันสมัยหรือเก่าอันนั้นผมไม่ค่อยซีเรียสครับ
ทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลในการเลือกส่วนตัวครับถ้าไม่ถูกใจท่านไหนต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าครับ

ถ้าลด 70% ละก็ อะไรก็ได้แล้วครับ 555+

ถ้าแจกฟรี หูฟังช้างน้อยผมยังเอาเลย กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

เสียง 95% ความสบาย 5% ครับ

ลืมบอกว่า ไม่นับรวมถึง ราคา ครับ

เพราะถ้านับถึงราคา หูฟังลด 70% แม้เสียงไม่ใช่แนวใครๆก็คงซื้อเก็บไว้อยู่ดี 555

ก่อนลองเสียงผมจะลองดีดสายเพื่อฟังเสียงสะท้อนก่อน ถ้าเยอะเกินไปก็สอบตก

หลังจากนั้นเน้นแนวเสียงครับ ใบหูผมไม่ค่อยมีปัญหากับหูฟังเท่าใหร่

Brand 35% => แบรนดีจะทำไรทั้งทีพื้นฐานต้องดีครับ ความทนทาน ดูแลหลังการขาย ความต้องการของตลาด

ความใส่สบาย 33% => ถ้าใส่ไม่สบาย เสียงดีก็ไม่อยากฟังอยู่ดี

เสียง 31% => เพราะดูแบรนก่อนทำให้รู้แนวทางของเสียง ที่เหลือก็ตามรายละเอียดที่เราชอบครับ

การสวมใส่ มาก่อนอันดับแรก โดยเฉพาะ in ear กับ ear bud ใส่ไม่ได้ ยังไงก็ไม่มีความสุข