ภาคจ่ายไฟของแอมป์ตัวนี้ใช้หม้อแปลงแบบเทอร์ลอยตัวบักเอ้บเลยครับ มีวงจรเร็กกูเลเตอร์แยกอิสระไปยังแต่ละโมดูล เรื่องพละกำลังไม่ต้องห่วง ผมทดสอบฟังด้วยหูฟัง 300 โอห์ม มันขับออกได้เกลี้ยงฉาด ยังเหลือกำลังสำรองอีกเหลือเฟือ เปิดได้ดังลั่นหัวสั่นหัวคลอนเลยล่ะ นอกจากพละกำลังแล้ว มันยังมีการหน่วงเวลาปกป้องวงจรตอนเปิดปิดสวิทช์ด้วย เป็นวงจรที่รอบคอบมาก การหน่วงเวลาแบบนี้แก้ปัญหาเสียงป๊อบน่ารำคาญตอนเปิดเครื่องได้เด็ดขาดครับ ช่องเสียบสายไฟเอซีเป็น IEC connector มาตราฐานสามขา ใครชอบเล่นกับสายไฟเอซี ก็อัพเกรดเล่นได้เลย

กวาดตาดูแผงวงจรภายในมั่ง จะเห็นบอร์ดสีแสดขึ้นลายวงจรทั้งสองหน้าดูเรียบร้อยดี มองเห็นแผงวงจรหลักเป็นภาค D/A และวงจรภาค Preamp รวมเอ๊าท์พุทที่ออกทาง RCA ด้านหลัง แยกต่างหากเป็นคนละบอร์ดกับแผงวงจรภาคเฮดโฟนแอมป์ ที่เข้าท่าอีกอย่างคือ ชิป Opamp ทั้งของภาค D/A และภาคเฮดโฟนแอมป์ เสียบอยู่บนซ๊อกเก็ตทั้งสองตัว ทำให้เราสามารถอัพเกรดออปแอมป์ได้ง่าย
 น่าสนุกครับ เพราะบุคลิกเสียงของเครื่องนี้ จะเปลี่ยนไปตามเบอร์อ๊อปแอมป์ นั่นหมายความว่าเราสามารถ&dquot;โม&dquot;เครื่องให้ตรงกับรสนิยมการฟังของเราได้เองครับ

สเปคของภาค D/A ใช้ Receiver chip ของ Currus เบอร์ CS8416 ร่วมกับ Decode chip ของ Analog Device เบอร์ AD1852 ซึ่งเป็นชิปแด่กที่รองรับแซมปลิ้งได้สูงสุด 192,000Hz ทำงานที่ความละเอียด 24bits Opamp Buffer เป็นเบอร์ OPA2604 (เครื่องที่ผมทดสอบเป็นเวอร์ชั่นอัพเกรด Opamp อัพเป็นเบอร์ OPA627 แล้วครับ) ดูสเปคแล้วใช้ได้เลยครับ

สำหรับภาคขยาย มันถูกออกแบบเป็นวงจรโมโนสองชุดแยกอิสระซ้ายขวา ส่วนของเฮดโฟนแอมป์ ใช้ opamp ของเท็กซัสอินสตรูเม้นท์ เบอร์ NE5532 สำหรับเจ้าชิปเบอร์นี้ คุณหมูหวานได้เล่าประวัติให้ฟังว่า มันเป็นชิปปราบเซียน คือตัวมันราคาตัวละยี่สิบกว่าบาท แต่ถูกนำไปใช้ในเครื่องไฮเอนด์ระดับหลาย ๆ หมื่นเป็นประจำ เพราะความที่มันสามารถแมชชิ่งกับวงจรได้หลากหลาย และผลที่ได้มักจะออกมาดีเกินคาดเสมอ เจ้าซีโร่เครื่องนี้ก็เหมือนกันครับ แต่ก็เหอะถ้ารังเกียจชิปราคาถูกก็ถอดเปลี่ยนได้ทุกเมื่อ เพราะมันเสียบอยู่บนซ๊อกเก็ตเหมือนกัน

รายงานการใช้งาน:
==========
๑. ผมนำมาใช้ร่วมกับ DVD Player โดยเอาสัญญานดิจิตอลมาเสียบเข้ากับ zero ทั้ง Coaxial และ Optical สองช่องพร้อมกันเลย เปิดฟังสลับกันด้วยการกดปุ่มหน้าเครื่อง สะดวกสุด ๆ ครับ แน่นอนว่าสัญญานจาก Coaxial ย่อมจะใช้งานได้กว้างกว่า ลองเซ็ตอัพ DVD Player ให้ส่งสัญญานออกเป็น S/PDIF 192kHz PCM แล้วหาแผ่น DVD-Audio 24/192kHz มาเพลย์แบ็คเพื่อฟังเสียง 24bits แท้ ๆ ผ่านทางสายโคแอ็คเชียล ต้องลองฟังถึงจะเชื่อครับว่า เสียงที่เหนือกว่าซีดีมันเป็นอย่างไร

หากเล่นเครื่องดีวีดีผ่านทางสาย optical จะส่งสัญญานดิจิตอลได้ตามจำนวนแซมปลิงสูงสุดคือ 24bits/96kHz ต่อวินาที คือฟอร์แมต CD, SACD, HDCD

๒. นำมาใช้ร่วมกับโน้ตบุ๊คผ่านทางยูเอสบี ผมใช้อุปกรณ์ภายนอกที่แถมมาคือ Digital Link เสียบเข้าทางยูเอสบี แล้วต่อเข้า zero ทางช่องสัญญานออปติคัล โน้ตบุ๊คผมมองเห็น Digital Link อัตโนมัติและจัดการเรื่องไดรเวอร์ได้เองครับ พอพร้อมใช้งานเจ้า Digital Link ตัวนี้ก็กลายเป็นซาวน์ดการ์ดตัวหนึ่ง (Windows จะมองเห็นมันเป็น MD-PORT DG2, Output 2x55.0k 24bits) ผมก็เปิด iTune เล่นเพลงเข้า zero อย่างสะดวกเลยครับ ข้อจำกัดของยูเอสบีคือ มันจะส่งผ่านจำนวนแซมปลิ้งสูงสุดได้เพียง 48,000Hz แต่พอผ่านเข้าไปยัง zero ได้แล้ว การ convert ก็จะทำบนสถาปัตยกรรม 24bits

หรือจะใช้โปรแกรม foobar2000 จัดแจงใช้ ASIO4ALL เป็น wrapper ห่อเจ้าดิจิตอลลิงก์ตัวนี้ เพื่อลองเล่นแบบ bit-perfect ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าจะเล่นไฟล์ความหนาแน่นสูงจริง ๆ แนะนำให้เล่นผ่านเครื่องคอมพ์ตั้งโต๊ะ ที่มีช่องดิจิตอลเอ้าท์จะทำอะไรได้หลากหลายกว่าการต่อผ่านยูเอสบีครับ

๓. Zero สามารถต่อใช้งานได้หลายลักษณะ ดังนี้
- ปุ่มกด Preamp = off (ไฟสถานะไม่ติด) จะเป็นการใช้ DAC อย่างเดียว ใช้ต่อกับปรีแอมป์ หรืออินติเกรทแอมป์ วิธีนี้จะบายพาสปรีภายในและตัดการควบคุมระดับเสียงจากวอลลุ่มออก ส่งสัญญานเต็ม ๆ ให้ปรีหรืออินติเกรดแอมป์ภายนอก
- ปุ่มกด Preamp = on (ไฟสถานะติด) จะเป็นการใช้ DAC + Preamp ใช้ต่อกับพาวเวอร์แอมป์ และควบคุมระดับเสียงได้จากวอลลุ่มของ zero
- การเสียบสายหูฟังเข้า จะเป็นการสลับสัญญานมาออกทางหูฟังแทน ดังนั้นต้องระวังอย่าเผลอหมุนวอลลุ่มทิ้งไว้มาก ๆ และควรกดปุ่ม Preamp/Phone = on เอาไว้ด้วย จะได้ปรับระดับความดังได้

ทั้งหมดนั่นคือตัวตนของเจ้า zero ครับ แค่เขียนบรรยายออกมาทีละอย่างก็เหนื่อยแล้ว มันเป็นแอมป์สุดคุ้มจริง ๆ

SuperPro 707/USB DAC มือโปรจริงหรือเปล่า?
==========================

มาถึงแด่กตัวสุดท้ายที่ได้ลองใช้ครับ SuperPro707 เป็นแด่กสัญชาติจีนอีกเช่นกันครับ แต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นจีนฮ่องกง หรือว่าจีนฮ่องกงสั่งมาขายจากแผ่นดินใหญ่กันแน่ ข้อมูลต้นทางที่ค้นได้มาจากเว็บสัญชาติฮ่องกง http://diykits.com.hk ครับ

SuperPro707 เป็น dac ที่ถูกสร้างมาเพื่ออัพเกรดชุดฟังเพลงดิจิตอลอย่างเป็นการเฉพาะเลยครับ มันไม่ทำหน้าที่อื่นใดอีก ไม่มีปุ่มปิดเปิด ไม่มีเฮดแอมป์ในตัว ไม่มีลูกบิดวอลลุ่ม ไม่มีไรทั้งนั้น เป็นหมูเนื้อแดงไม่ติดมัน ฉะนั้นเงินที่จ่ายไปทุกบาท จึงเป็นการจ่ายให้เนื้องาน dac จริง ๆ

รูปลักษณ์ภายนอกเป็นกล่องอลูมิเนียมอะโนไดซ์สีดำขนาดฝ่ามือพกพาได้ (กว้างxลึกxสูง) 63x78x25mm ความหนาสองเซนต์ครึ่ง พอจะพกใส่กระเป๋าโน้ตบุ๊คได้แบบไม่เกะกะนักครับ ด้านหลังจะมีช่องเสียบไฟดีซี ถัดมาไฟแอลซีดีสองดวงเขียวแดง แล้วก็ line out เป็นขั้ว RCA คู่นึง แล้วก็มีรูเสียบขนาดมินิ เขียนว่า mic* ส่วนด้านหน้าเป็นช่องอินพุท เริ่มจาก Coaxial, Optical, พอร์ต RJ-11 CTL* แล้วก็ช่อง USB2.0 นับว่าซุปเปอร์โปรให้ช่องดิจิตอลอินพุทมาครบเครื่องเลยครับ

อุปกรณ์ที่แถมมาให้ มีอะแด๊ปเตอร์ไฟดีซี 12v 1a, สายออฟติคัล, สายยูเอสบี แล้วก็สายไฟพร้อมหัวเสียบไฟดีซีสำรองสำหรับจ่ายไฟดีซีด้วยแบตเตอรี่ (ไม่มีแบตฯมาให้)

มาดูสเป็คกันครับ ซุปเปอร์โปรกันใช้ Receiver chip เบอร์เดียวกับ Zero คือ Cirrus CS8416 แต่เพิ่ม C-Media CM108 อีกตัวนึงเพื่ออินเตอร์เฟสกับยูเอสบี ส่วนชิปแด่กเป็นค่ายเซอร์รัสอีกเช่นกัน เป็นชิปเบอร์ CS4398 ซึ่งเป็นเรือธงตัวท้อปของค่ายนี้ แต่อาจจะเก่าหน่อยเพราะเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2005 มันเป็นชิปที่มี DSD processor ซึ่งเป็นโพรไพทารี่ของเซอร์รัสเอง สามารถคอนฟิกดิจิตอลฟิลเตอร์ได้ตามแต่การออกแบบวงจร สเปคเทพไม่แพ้ชิปที่ใช้ในซีโร่ครับ ในส่วนของ Buffer Section ซุปเปอร์โปรใช้ Opamp ของ Linear Technology เป็นชิปเบอร์ LT1364C

รายงานการใช้งาน
==========
Superpro ที่ผมได้มาเป็นเวอร์ชั่นอัพเกรดแล้ว ราคาจะแพงกว่าตัวสแตนดาร์ด 1600 บาท สิ่งที่จะรายงานจึงมีพื้นฐานจากการใช้งานตัวนี้ครับ พอต่อไฟเข้าเครื่อง ไฟแอลซีดีสีแดงจะแสดงสถานะให้ทราบ และเมื่อมีสัญญานดิจิตอลเข้ามา ไฟสีเขียวก็จะสว่างขึ้นอีกดวงนึง ในการใช้งานผมต่อมันเข้ากับ DVD player ทางช่องโคแอ๊คเชียล แล้วก็เล่นแผ่น DVD-Audio เพื่อฟังเสียง 24bits/192kHz เป็นลำดับแรก มันทำงานกับสัญญานดิจิตอลระดับ 192kHz ได้ไม่มีปัญหาครับ ผมพบว่าการเล่นกับสัญญานดิจิตอลความหนาแน่นสูง อาจจะถูกคลื่นรบกวนผ่านทางสายโคแอ็คที่ชีลไว้ไม่ดีได้ง่าย โดยเฉพาะหากใช้กับพาวเวอร์ซัพพลายแบบสวิชชิ่ง ในปลั๊กเสียบร่วมรางเดียวกัน ตรงนี้ต้องพิถีพิถันมากหน่อยครับ

ผมแนะนำให้โยนอะแด็ปเตอร์ที่แถมมาทิ้งได้เลยครับ มันเป็นอะแด๊ปเตอร์กลวง ๆ เบา ๆ ผมได้ลองใช้แล้วคุณภาพไม่น่าวางใจครับ เสียบใช้งานชั่วโมงเดียว ตัวอะแด๊ปเตอร์ร้อนฉ่าเลย แนะนำให้หาอะแด๊ปเตอร์ใหม่มาใช้ ขนาดเอาท์พุทเลือกได้หลายแบบครับ ใต้เครื่องระบุว่าใช้ได้ตั้งแต่ 9/12/18/24 Volt ผมรื้อลิ้นชักเจออะแด๊ปเตอร์ที่มากับกล่องฮาร์ดดิสก์ภายนอกของซีเกท จ่ายกระแสได้ 12V/2A หยิบมาเสียบแทนสบายใจกว่ากันเยอะ ถ้าหาชนิด Linear Regulated Power Supplies มาใช้ได้เป็นดีที่สุดครับ


ลำดับต่อมาผมลองต่อ DVD Player ทางช่องออพติคัล ก่อนอื่นต้องเปลี่ยนแผ่นไปเล่นซีดีมั่ง SACD มั่ง เอ็มพีสามมั่ง ทุกฟอร์แมตราบรื่นดีครับ (ออพติคัลใช้ฟังแผ่น DVD-Audio ไม่ได้ครับ มันส่งสัญญานติจิตอลได้สูงสุด 96000Hz ติดคอขวด)

ต่อมาผมต่อสายยูเอสบีเข้ากับโน้ตบุ๊ค windowsXP มองเห็นซุปเปอร์โปรเป็น USB Audio Device และจัดแจงหาไดรเวอร์ติดตั้งให้อัตโนมัติ เนื่องจากซุปเปอร์โปรใช้ชิป Cmedia CM108 ในการอินเตอร์เฟสกับยูเอสบี Properties ของ Sounds and Audio Device จึงรายงานว่ามันคือ C-Media USB Headphone Set 16bits/48,000Hz นี่คือข้อจำกัดของยูเอสบีครับ

ซุปเปอร์โปรเซ็ต Priority ให้ยูเอสบีเป็นลำดับแรก Optical เป็นลำดับสอง และCoaxial เป็นลำดับสุดท้าย ดังนั้น พอเสียบสายยูเอสบี สัญญานขาเข้าจาก DVD Player ที่มาทางโคแอ็คเชียลจึงถูกตัดไป ตัวแด่กจะรับสัญญานอันดับแรกคือยูเอสบีมาทำงานทันที

ผมเล่นเพลงบนคอมพ์ผ่านโปรแกรม foobar2000 โดยใช้ ASIO4ALL เช่นเคย ทุกอย่างราบรื่นดีครับ ได้ลองอัพแซมปลิ้งด้วย DSP Secret Rabbit Code มันอัพขึ้นได้สูงสุดตามฮาร์ดแวร์ที่เห็น คือ 48000Hz. อิจฉาคนที่ใช้ Mac จริง ๆ เพราะทราบมาว่าเครื่องแมคจะมีดิจิตอลเอ้าท์ที่ 96000Hz. ซึ่งมันต้องดีกว่า Thinkpad X31 ซึ่งกลายเป็นรุ่นโบราณของผมแน่ ๆ

ในการเล่นเพลงผ่านยูเอสบีอย่างต่อเนื่อง ผมพบว่าจะมีเป็นช่วง ๆ ที่เพลงมีการหยุดเล่นสั้น ๆ ประมาณเสี้ยวอึดใจ แล้วเล่นต่อ อาการเกิดแบบไม่แน่นอน บางครั้งก็สัมพันธ์กับการใช้งานซีพียู บางครั้งก็ไม่เกี่ยวเลย การสะดุดนี้น้อยมาก ไม่ถึงกับรำคาญใจครับ เดาว่าน่าจะเป็นข้อด้อยของชิป CM108 ซึ่งออกแบบมาเป็น headphone set แต่ถูกดัดแปลงมารับสัญญานยูเอสบีเข้าแด่ก ผมแก้ปัญหาด้วยการเอายูเอสบีเสียบเข้า Digital Link (ตัวที่แถมมากับซีโร่นะแหละ) มาเสียบแทน แล้วใช้สาย optical เข้าซุปเปอร์โปร เซ็ตอัพแบบนี้ให้ผลการเล่นเพลงผ่านยูเอสบีราบรื่นกว่าครับ

รายงานเสียง
=======
SuperPro 707 เสียงดีไม่แพ้ใครครับ สถาปัตยกรรมแบบ 24bits/192kHz ให้อะไรที่ดีกว่าเดิมแน่นอน ไม่ว่าจะเรื่อง resolution ความเนียนละเอียด ความสงัดของพื้นเสียง การแยกแยะชิ้นดนตรี หากจะฟังเทียบกันอย่างจริงจังกับสองตัวแรก ผมมองเห็น(ได้ยินนะแหละ)ความแตกต่างบางอย่าง ว่ากันที่เสียงกลางซึ่งฟังง่ายที่สุด ทั้งสามตัวมีเสียงกลางที่เด่นชัด มีมวลหนาเป็นตัวเป็นตน แต่เป็นความหนาที่ต่างกันไป สองตัวแรกต้องใช้คำของเฮียมั่นฯที่ว่าเป็นเสียงที่ควบแน่นเป็นตัวเป็นตน ขณะที่ซุปเปอร์โปรจะมีมวลเสียงแบบสานทอขึ้นรูป ซึ่งสามารถมองได้ว่าเป็นเสียงที่มี texture หรือบางหูอาจจะฟังว่าเป็นเสียงที่มีเกรนสาก แต่ผมกลับชอบเสียงแบบนี้ครับ เวลาฟังเครื่องสายโทนต่ำ อย่างเชลโล หรือเครื่องลมอย่างโอโบ ลักษณะเสียงแบบซุปเปอร์โปรช่วยให้หูผมจะจับความแตกต่างกับเครื่องดนตรีอื่นได้ง่ายขึ้น

แต่ก็ไม่แน่ครับ หากซุปเปอร์โปรไปอยู่ในชุดที่ต่างไปจากที่ผมใช้ อะไร ๆ ที่ผมพล่ามให้ฟัง อาจจะไปอีกทางได้ รวมทั้งหูที่ชำนาญในการฟังมากกว่าผม อาจจะมีความเห็นไปอีกอย่าง แต่ที่แน่ชัดคือ แด่กตัวนี้ มันช่วยอัพเกรดต้นทางดิจิตอลได้แน่นอน ต้องลองครับ เหมือนเดิม ต้องลองฟังด้วยตัวเองจริง ๆ

-------
หมายเหตุ(*) ช่อง mic แบบมินิท้ายเครื่อง ไม่ทราบว่าเอาไว้ทำอะไร เพราะผมลองเอาไมค์ไปเสียบ มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับ คู่มือก็ไม่มีมาให้ ผมเห็นว่าไม่ได้ใช้เป็นไมค์แน่แล้ว จึงอาศัยช่องเสียบนี้ลากเฉพาะกราวน์ดมาลงดินที่เครื่องกรองไฟ Clef ซะเลย (ขอบคุณหมูหวานที่แนะนำครับ)

(*) สำหรับช่อง CTL ที่เห็นเป็นพอร์ตอาร์เจสิบเอ็ดหน้าเครื่อง ผมได้โทรถามคุณกิตติคุณ discoveryhifi.com ซึ่งเป็นผู้นำเข้าในไทยของ superpro ได้ความว่า เป็นช่องทางที่ใช้ในการเซ็ตอัพแด่กจากโรงงาน และบอกว่าผู้ใช้งานอย่างเรา ๆไม่ต้องไปยุ่งกับมัน ผมเองกลับคิดว่า ถ้าไม่ให้ใช้ ก็ไม่น่าจะมีให้เห็น เอาเป็นว่ามันมีช่องทางที่จะอินเตอร์เฟสกับอุปกรณ์ภายนอก หรืออาจจะเป็นช่องทาง hack อะไรบางอย่างใน superpro ตัวนี้ได้ครับ ส่วนว่าจะแฮกเพื่ออะไร และแฮกอย่างไร ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูล

รายงานเสียง
=======
ถึงวันนี้น้องบัวมาอยู่กับผมเกินชั่วโมงเบิร์นไปนานแล้วครับ ขอรายงานว่าน้ำเสียงของน้องบัว จะเด่นที่ความเนียนละเอียด ปลายเสียงระยิบเป็นประกาย ฟังเพลงบอสซาโนวา หรือพวกเพลงลาตินที่มีการใช้เครื่องเคาะแปลก ๆ จะถูกใจกับประกายเสียงของน้องบัวครับ กลุ่มเครื่องเป่าอย่างแซ็กโซโฟน หรือเพลงร้องทั้งหญิงชายก็ฟังเป็นตัวเป็นตนมาก กลุ่มซอเครื่องสายพวกเพลงแชมเบอร์มิวสิคทั้งหลาย ก็เหมาะจะเป็นเนื้อคู่กับน้องบัวครับ เสียงลากโบว์บนสายไวโอลินละเอียดยิบ พูดไปก็ไม่ได้ยิน เอาเป็นว่าต้องลองไปฟังครับ ผมจะชอบมากหากได้หนีบน้องบัวติดกับไอพอดไปนั่งฟังนอกบ้าน ใช้หูฟังเล็ก ๆ อย่าง พีเคทูพาดไหล่ แล้วขี่รถเครื่องไปเอกเขนกบนเถียงนา ตอนบ่าย ๆ ลมพัดเฉื่อยฉิว บรรยากาศสงบเงียบ มีดนตรีดี ๆ บำเรอหู สวรรค์บนดินครับ

ภาค DAC เสียงดียิ่งขึ้นไปอีก
================
มาพูดถึง dac ของเจ้างูเหลือมน้อยมั่ง สเป็คสูงเลยครับใช้ชิป 24bits/192kHz WM8740 ของ Wolfson ลองไปค้นดูจะพบว่าชิปตัวนี้มีใช้อยู่ใน dac ราคาแพงกว่าทั้งนั้น ส่วน Receiver chip เป็นเบอร์ PCM2706 ของ TI/BurrBrown เป็นแมชชิ่งที่เหมาะกับช่องอินพุทแบบยูเอสบี พอเสียบสายเข้าคอมพ์ก็ใช้งานได้เลย คอมพิวเตอร์จะมองเห็นเจ้างูเหลือมเป็นซาวน์ดการ์ดตัวหนึ่ง และจัดการ active ให้ใช้งานได้ทันที

DAC ใน iBasso D2 จะอัพเกรดระบบเสียงของคอมพ์ขึ้นไปอีกระดับเลยครับ สำหรับผมที่ใช้โน้ตบุ๊คแล้ว ถือเป็นการอัพเกรดครั้งใหญ่ เสียงที่ได้เมื่อเทียบกับซาวน์ดออนบอร์ดของ Thinkpad X32 มันดีขึ้นผิดหูครับ ก็จะไม่ดีได้ไง ในเมื่อเดิม ๆ ของผมเป็น Soundmax แบบ 16bits ตอนนี้กลายเป็นสถาปัตยกรรมแบบยี่สิบสี่บิตแล้ว เสียงดีกว่ากันมากครับ

ผมซื้อ iBasso D2 ตัวนี้มาใช้ รู้สึกเลยว่าความคุ้มค่ามาก ผมมีแอมป์เดอะพิกใช้ในชุดพกพามาก่อนหลายปี และมีแอมป์หูฟัง Kotch อีกตัวหนึ่งใช้เป็นชุดตั้งโต๊ะ ทั้งสองตัวนั้นก็ดีในระดับน่าพอใจแล้ว แต่ขอบอกตามตรงว่า iBasso D2 เสียงดีกว่าจริง ๆครับ

iBasso D2 Boa DAC/Headphone Amp
======================
ค่าย iBasso มักจะตั้งชื่อแอมป์จากชื่องู อย่างเช่น เจ้างูพิษไวเปอร์ เจ้างูยักษ์ไพธ่อน เป็นต้น D2 ตัวนี้เป็น dac/amp ตัวเล็กจิ๊ดเดียว แต่มีชื่อเล่นว่า เจ้างูเหลือม (boa) ไอบัสโซ่ สร้างชื่อเสียงมาหลายปีด้วยแอมป์หูฟังขนาดเล็กมาก จำได้ว่ารุ่นแรก ๆ มีขนาดพอ ๆ กับหมากฝรั่งห่อนึง ตั้งแต่เปิดตัวตอนนั้น ก็ได้รับการตอบรับจากผู้ใช้ชุดหูฟังทั่วโลก เรียกว่าออกมาก็แจ้งเกิดได้อย่างสง่างาม

iBasso D2 ตัวนี้เป็น dac/amp สำหรับชุดพกพาที่ครบเครื่องครับ ใช้ร่วมกับเครื่องเล่นพกพา มันจะสำแดงตนเป็นแอมป์หูฟังคุณภาพสูง พอเสียบใช้ร่วมกับโน้ตบุ๊คผ่านทางยูเอสบี มันก็แปลงร่างกลายเป็นตัวอัพเกรดระบบเสียงดิจิตอลชั้นดี เพราะมันทำหน้าที่เป็นทั้ง dac 24bits และ headphone amp พร้อมสรรพ ด้วยขนาดที่เล็กมากแค่ 51x82mm. หนาแค่สองเซ็นต์(21mm) และหนักแค่ขีดเดียว (108g) ผมสามารถโยนเข้ากระเป๋าโน้ตบุ๊คพกไปไหนมาไหนได้สบายเลย เวลาคุณแพ็กของลงกระเป๋าโน้ตบุ๊คเนี่ย ความหนาจะสำคัญมากครับ กว้างยาวเนี่ยไม่เป็นปัญหาถ้ามันแบน

เจ้างูเหลือมน้อยกินไฟจากแบตเตอรี่ไฮเทคชนิดลิเธี่ยมโพลิเมอร์ ความจุ 470mAh ชาร์จทีเดียวใช้ได้หลายวัน ผมเอามาใช้กับไอพอดโฟโต้ ไอพอดแบตหมดก่อนเป็นประจำ และก่อนที่ D2 จะแบตหมด หลอดไฟสีฟ้าหน้าเครื่องจะกระพริบเตือนให้รู้ก่อนด้วยครับ วิธีชาร์จแบตฯก็เสียบสายยูเอสบีแล้วดันคันโยกเล็ก ๆ หลังเครื่องไปตำแหน่ง on หลอดไฟสีเหลืองจะสว่างขึ้น พอชาร์จเต็มแล้วไฟเหลืองจะดับ เราก็โยกกลับไปตำแหน่ง off มันใช้เวลาชาร์จแบตประมาณ 3-4 ชั่วโมง

รายงานเสียง
=======
แล้วเรื่องของเสียงมันละเป็นไง.. ไม่น่าแปลกใจครับ เฮียเทียนหยุ่นตั้งใจออกแบบวงจรครบเครื่องแบบนี้เสียงก็ต้องดีแน่นอน หากเขียนสั้น ๆ ว่าดีแค่นี้ คุณผู้อ่านต้องโกรธแน่ การบรรยายเสียงออกมาเป็นตัวอักษรให้ได้ยินมันไม่ครับ เอาเป็นว่าหากเทียบเคียงกับ iBasso D2 boa แล้วมันจะคนละบุคลิกครับ เจ้างูเหลือมน้อยจะเนียนละเอียด ระยิบระยับเหมือนแสงสะท้อนบนแก้วไวน์ ส่วนเจ้าซีโร่คือความชัดเจน เปิดเผย กระฉับกระเฉง เหมือนแสงส่องผ่านหน้าต่างห้องที่เปิดกว้างไล่ความสลัวมัวซัวออกไป เสียงที่ผมได้ยินแล้วถูกใจมากคือเสียงกลางครับ โดยเฉพาะเพลง Cello Suite ทั้งหลายของบาค น้ำเสียงอวบใหญ่ ฟังได้เต็มอิ่มจริง ๆ เป็นน้ำเสียงที่มีมวลแน่นแต่ก็นุ่มนวลด้วย รายละเอียดของเสียงเป็นจุดเด่นของชิป AD1852 ตัวนี้เลยแหละ คุณหมูหวานบอกว่าเสียงมันอนาล็อกมากคล้ายกับฟังแอมป์หลอด

เพลงที่ฟังกับเครื่องนี้ได้ดีน่าจะครอบคลุมทุกกลุ่ม ฟังเพลงคลาสสิกได้สบายมาก เพราะการแยกชิ้นดนตรีทำได้ดี ฟังเพลงร๊อคดีแน่เพราะมีไดนามิคดี เพลงร้องหายห่วงเลยเสียงกลางแบบนี้ เหมือนนักร้องมานั่งร้องอยู่ข้างหน้าเลยครับ

ว่าที่จริง สำหรับเครื่องนี้ เรื่องของเสียงกลายเป็นประเด็นประนีประนอมได้กับรสนิยมผู้ฟังทุกกลุ่ม เพราะความที่มัน&dquot;โม&dquot;เสียงได้หลากหลายไงครับ ถ้าเปิดกล่องมาฟังแล้วไม่ได้อย่างใจ โมเลยครับ ไม่ต้องบัดกรี ไม่ต้องหาตะกั่ว ไม่ต้องจ้างช่างด้วย เครื่องนี้เขาออกแบบมาให้ผู้ใช้โมเล่นได้จริง ๆ และ opamp ตัวนึงไม่กี่ร้อยบาท สนุกดีเสียอีก หาข้อมูลสักหน่อย แล้วก็ซื้อมาเสียบได้เอง เว็บคุณหมูหวาน (http://www.hifimod.com) ก็มีให้เลือกได้หลายเบอร์ครับ เล่นแบบนี้ทั้งถูกเงินและถูกใจแน่นอนครับ เหตุผลทั้งหมดมันการันตีได้ว่า ซื้อเครื่องนี้ไม่มีพลาดครับ

=============================================

โม้แต่ข้อดีจนชักจะเหมือนโฆษณาขายของเลยแฮะ เขียนแบบนี้ก็เพราะมันมีดีจริง ๆ ครับ เอ้อ.. มาดูข้อเสียของเจ้างูเหลือมน้อยกันมั่ง สิ่งแรกเลยคือ dac ของมันรับอินพุทได้ทางยูเอสบีทางเดียว ซึ่งว่าที่จริงแล้วไม่น่าจะนับเป็นข้อเสีย เพราะว่ามันวางตำแหน่งตัวเองเป็นอุปกรณ์พกพานั่นเอง สิ่งที่เป็นข้อเสียจริง ๆ เจอแล้วไม่ชอบคือ ตอนหมุนวอลลุ่มเปิดเครื่องจะมีเสียงป๊อบค่อนข้างดัง คนเรื่องมากอย่างผมได้ยินแล้วรู้สึกขัดใจ ทุกวันนี้ต้องฝึกตัวเองให้เปิดเครื่องก่อนเสียบหูฟัง แต่บางทีก็ลืมอะดิ

เกือบลืม.. แอมป์ตัวนี้ปรับเกนได้ด้วยนะครับ เป็นก้านคันโยกอยู่หน้าเครื่องเลย โยกขึ้นบนก็คือเกนสูง กดลงก็เป็นเกนต่ำ ไม่มีความแตกต่างของสูงกับต่ำมากนัก เอาเป็นว่าถ้าใช้หูฟังโอห์มสูงเกิน 100 ก็โยกขึ้นซะหน่อย ถ้าคุณใช้หูฟังพิฆาตแอมป์อย่างเช่น K701 ก็หมุนวอลลุ่มไปสี่โมงครึ่งเลย หากยังไม่สะใจก็ต้องหาแอมป์ตั้งโต๊ะแล้วครับ

ขอสรุปว่า iBasso D2 Boa หรือเจ้างูเหลือมน้อยตัวนี้ เหมาะที่สุดกับการพกติดตัวชนิดไปไหนไปกัน  จะไปประชุมนอนโรงแรม หรือพักผ่อนในบังกะโล มันจะตอบสนองเราได้ถูกใจที่สุดครับ

=================================

Tianyun Zero Dac 24bits/Headphone amp/Pre-amp
===============================

อันดับต่อไปขอรายงานการใช้งาน Zero ครับ เจ้าซีโร่มาอยู่กับผมสองสัปดาห์เต็ม ๆ ได้ลองฟัง ลองใช้ท่านู้นท่านี้ รวมทั้งไล่อ่านรีวิวที่เจอบนเน็ตด้วย ต้องยอมรับว่าซีโร่ถูกกล่าวขานถึงเยอะจริง เสียงส่วนใหญ่พูดตรงกันว่า มันคือเครื่องที่สุดแสนจะคุ้มค่า จ่ายไปทุกบาทลั่นเปรี้ยงทุกสลึงเลยประมาณนั้น

&dquot;เทียนหยุ่น ซีโร่&dquot; ชื่อบอกหราเลยว่าเป็นแอมป์จีน ลองดูภาพเครื่องเคราภายในสิ จะเห็นว่าอาเฮียเทียนหยุ่น ตั้งใจจะทำแอมป์ตัวนี้เป็นเรือพิฆาตจริง ๆ ให้มาทุกอย่างในกล่อง แต่ไม่ใช่ขยำรวมแบบสังขยานะครับ เฮียเขาจัดให้แบบขนมชั้นเลยคือแยกส่วนภาคต่าง ๆ มาอย่างดี แค่อุปกรณ์ต่าง ๆ ก็เป็นงงแล้วว่าทำออกมาในราคานี้ได้ยังไง มีฝรั่งคนนึงถึงกับร้องขอบคุณพระเจ้าเง็กเซียนฮ่องเต้เลย เรื่องจริง มิได้โม้.. แฮ่ม!

มันเป็นเครื่องตั้งโต๊ะครับ ขนาดกำลังดี ไม่ใหญ่ไม่เล็ก ตัวถังเป็นเหล็กพับพ่นทรายสีดำ หน้ากากเป็นอลูมิเนียมอะโนไดซ์ มีช่องดิจิตอลอินพุทแบบ Coaxial กับ Optical อยู่ท้ายเครื่อง ยังมี USB Digital Link เป็นอุปกรณ์ภายนอกแถมมาให้ด้วย จึงสามารถใช้กับคอมพ์ได้เลย สัญญานอนาล็อกขาออกเป็นขั้ว RCA ต่อเข้าแอมป์ได้เลย ส่วนด้านหน้าทางซ้ายสุดมีปุ่มกดเปิดปิด ถัดไปเป็นปุ่มเลือกสัญญานขาเข้าได้อิสระ คือเสียบสายไว้ทุกช่องแล้วกดปุ่มเลือกได้สะดวกมาก ยังมีอีกปุ่มเป็นปุ่มเลือกให้ทำงานเป็นปรีแอมป์/headamp หรือจะบายพาสเอาสัญญานไปต่อปรีภายนอกก็ได้อีก เฮียเทียนหยุ่นแกรู้ใจจริง ๆ ปุ่มทั้งหมดนั้นมีไฟแอลซีดีแสดงสถานะทุกตัวเลยครับ ถัดจากปุ่มกดก็เป็นลูกบิดวอลลุ่มตัวใหญ่ และสุดท้ายคือช่องเสียบหูฟังขนาดมาตราฐาน 1/4 นิ้ว อยู่ทางขวาสุด

สรุปผลการใช้
========

DAC ทั้งสามตัวที่ผมยกมารายงานพร้อม ๆ กันนี้ พูดได้ว่าเป็น DAC ที่มีสเปคเท่าเทียมกัน และถูกออกแบบมาใช้งานต่างลักษณะกันไป iBasso D2 Boa เด่นสุดหากจะมองหาแด่กพกพา มันเล็ก พกง่าย ใช้ง่าย และเสียงดี Zero เป็นแด่กตั้งโต๊ะที่ครบเครื่อง ใช้สะดวกมาก พื้นฐานเครื่องเปิดช่องให้&dquot;โม&dquot;กันได้สนุก แม้จะไม่โมเสียงก็ดีไม่แพ้ใคร ส่วน SuperPro 707 มันเป็นแด่กตัวเล็กที่ครบครัน ไม่แพ้ใคร มีช่องทางประยุกต์ใช้ได้มาก และสุ้มเสียงก็มีลักษณะเฉพาะครับ

ยังมี DAC ในกลุ่มที่สูงกว่านี้ คือมีชิปภาค Oversampling ให้เลือกเล่นได้มากขึ้น และกลุ่มราคาก็จะสูงกว่านี้ขึ้นไปอีก หรือแด่กแบบ NOS ที่เล่นขนานกันหลาย ๆ บอร์ด ซึ่งล้วนมีทฤษฏีแน่นหนารองรับ และราคาก็แพงขึ้นไปได้อีก จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นราคา DAC มีตั้งแต่ไม่ถึงร้อยเหรียญ ลากยาวไปถึงตัวละห้าพันเหรียญหรือกว่านั้นก็มี เชิญเลือกเล่นตามอัธยาศัย และอย่าลืมทำให้ตัวเองมีความสุขกับเสียงเพลงกันนะครับ

==========================================

_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/

สุดยอด ละเอียดมากๆ

ตัว ZERO น่าสนใจมากครับ -*-

เอ...มือที่แขนเสื้อแดงๆไม่น่าใช่มือผู้ชายนะครับ มือใครเอ่ย...ฮ่าๆแซวเล่นน่ะครับ

ขยันเขียนจริงๆ นับถือๆ ผมอ่านแล้วยังอยากทำ dac ซักตัวนึงเลยครับ อิอิ

เฮียเปี๊ยกค้าบบบ

รบกวนถามหน่อยนะคับ แล้ว ภาค DAC ออกสู่ลำโพง 2.1 หละคับ เป็นไงมั่งคับ

ผมเข้าใจผิดรึป่าวหรือตกหล่นในการอ่าน...

เพราะรู้สึกเฮียเปี๊ยกจะเน้นในการต่อกับ หูฟังอย่างเดียวใช่ป่าวคับ

ขอบคุณคับ สำหรับreviewดีๆเพื่อพี่ๆน้องๆ(อย่างผม :)

ปล.Zero จัวใหญ่จัง อิอิ

อาเฮียมั่นคง เฮียอยากจะมานั่งเล่นเถึยงนาบ้านผมเมื่อไรก็มาได้เลยนะ จะให้เมียทำอ่อมกบให้กิน อิอิ..

555 คุณนพพงษ์ #16 เสื้อแดง ๆ นั่นคือมือที่สามารถทำอ่อมกบได้อร่อยครับ คุณนพฯมาลองชิมได้ทุกเมื่อเลย ยินดีต้อนรับ คิก ๆ

#17 น้อง ภาค DAC มันไม่เรื่องมากหรอกครับ มันเป็นส่วนนึงของภาคฟร้อนต์ที่มีเอ้าท์พุทเป็นอนาล็อกแล้ว จะเอาไปต่อแอมป์ราคาแพง หรือจะเอาไปใช้กับชุดลำโพง 2.1 ก็ได้ทั้งนั้นครับ เอาไปต่อแล้ว มีแต่จะได้เสียงอย่างวิเศษซะอีกครับ

วันนี้กำเงินไปหาพี่เบียส กะไปถอย d2 แน่ๆเพราะไปลองฟังมาหลายรอบแล้ว (รอบแรกได้นางซินมาก่อนเพราะของหมด) ปรากฎว่าเมื่อคืนได้อ่านกระทู้นี้ วันนี้เลยแถมความตั้งใจไปลองเจ้าซีโร่ด้วย สุดท้ายกลายเป็นหิ้ว zero กลับบ้านเฉยเลย

ประทับใจที่มวลเสียงของมันครับ อิ่ม แน่น ถ้าเทียบกับ d2 ที่โปร่งและใส

นี่ขนาดแกะกล่องฟังนะครับ ถ้าพ้นเบิร์นแล้วน่าจะดีกว่านี้อีก 

อะโห.. ไปเขียนหนังสือขาย ผมว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าแน่ๆเลยครับท่าน

....

แหะๆ ได้แค่อ่านรีวิว สนใจ Dac อยู่เหมือนกันครับ แต่แค่หูฟังก็ไม่มีจะ Dac อยู่แล้ว

ไม่รู้เป็นอะไรครับฟังเจ้า D2 แล้วรู้สึกปวดๆหัวอะครับ รึว่าหูไม่ถึง(รู้สึกว่าย่านเสียงสูงทำได้ดีเกินไป เหมือนกดประสาท) ทำไงดีครับ

555 ฟังแล้วเครียดก็ขายทิ้งไปครับ ถ้าเป็น D2 Boa มีคนอยากรับเลี้ยงต่อเยอะครับ

D2 Dจริง

รู้แล้วครับเป็นอะไร จ้องจอคอมมากไป(ปวดหัว) ไม่เกี่ยวกะเสียง พอดีใช้พร้อมกัน 555

#27 ใน foobar แนะนำให้เซ็ต output format ตามฮาร์ดแวร์ครับ มันจะสัมพันธ์กับ receiver บนแด่ก กรณีต่อแด่กผ่านยูเอสบี มันเป็น 16 bits ครับ

พึ่งไปสอย D2 มาวันนี้ที่ร้านประตูน้ำ เอามาต่อกับคอมฯ ที่ทำงาน คู่กับ MS1 ยอมรับครับว่าเสียงดีขึ้นผิดหูผิดตาเลยครับ ขนาดเอาหูฟังธรรมดามาฟัง ยังให้เสียงหวานหยดย้อย มากๆ ครับ คุ้มค่ามากๆ ครับ ผมว่าจะไม่ยอมเสียงตังค์กับเจ้านี่แล้วนะเน้้ย

ASIO ตอนนี้เป็น Version 2.9 (beta3) แล้วนะครับ เชิญไปโหลดกันได้ที่ http://www.asio4all.com/

ไปสอย superpro มาหลายวันแล้วครับ ตอนไปซื้อสุ้มเสียงก็ไม่รู้เป็นไง แถมลองไม่่ได้อีกต่่างหาก ก็เลย ตัดสินใจซื้อ แล้วก็ลองเลย ได้ััตัวไม่ได้ update แต่ก็ชอบเพราะ เสียงจัดจ้าน กว่า d2 d2ดีตรงที่ถ้าชอบฟัง สบายๆเรื่อยๆ โปร่งๆ ห่ล่ะครับ ยังไง คุณ unclepiak ช่วยสอนวิธีset foobar ให้ เล่น dac เพราะๆด้วยครับ

ถามนิดนึงครับ ไอ้สาย coaxial นี่ไปหาซื้อได้ที่ไหนครับ ถ้ามาต่อดูหนังกับ dvd จะโอเคไหมครับ

#33 แหม..เฮียฯไม่น่าจะต้องเกรงใจไป ผมก็ได้ความรู้จากเฮียไปเยอะแยะครับ แล้วที่เขียนออกมาเนี่ยก็เพราะมันตื่นเต้นที่ได้ยินเสียง 24bits มันอดจะเอามาเล่าต่อไม่ได้อะดิ

#34 คุณหมอแต๊ครับ ผมหน่ะลืมบอกไปว่าน่าจะเลือก superpro ตัวที่ไม่มียูเอสบีมันถูกกว่าหลายบาท แล้วหากล่อง digital link (เฮียมั่นบอกว่าสั่งเจ้าตัวนี้มาแยกขายต่างหากแล้ว) มาใช้กับยูเอสบีแทน เล่นได้ราบรื่นเข้าท่ากว่าครับ superpro ไม่ใช่ว่าเสียงจัดกว่า d2 หรอกครับ ฟังมันส์กว่าเพราะ output มันเสียงดังกว่าครับ และหลังเบิร์นแล้วเสียงจะดีขึ้นอีกครับ

สาย โคแอ็คฯถ้ายังไม่มี ก็ไปหามาสักเส้นครับ ที่แผนกเครื่องเสียงตามห้างจะมีห้อยขายเป็นแผง ๆ เส้นนึงไม่กี่บาทครับ เลือกไอ้ที่หน้าตามันเข้าท่าหน่อย ไม่น่าเกินสองร้อย ได้มาแล้วเอามาต่อกับเครื่องเล่นดีวีดี มันไม่เพียงโอเคครับ มันวิเศษเลยล่ะ

วิธีเซ็ต foobar2000 ก็ไม่มีไรมากครับ
๑.ไปดาวน์โหลด ASIO4ALL ตามลิงก์ของ LuisFigo #32 มาติดตั้ง

๒.แล้วก็โหลด plugin ASIO support (foo_out_asio) โยนลงไปในโฟลเดอร์ components ของ foobar

๓. เปิดโปรแำกรม foobar แล้วเลือก File / Preferences กวาดตาทางกรอบซ้ายแล้วเลือก Playback / Output / ASIO Virtual Output คลิกปุ่ม Add New แล้วก็เซ็ตไปเรื่อย กดโน่นกดนี่ ลองให้ช่ำใจ แล้วจะเข้าใจมันเองครับ อย่าลืม mapping channel ซ้ายขวาด้วยนะครับ

๔. เสร็จจากตรงนี้ก็ย้อนกลับมาที่ Playback / Output เราก็เลือก Output Device เป็น ASIO ตามที่เราเพิ่งเซ็ตไว้ตะกี้ ติ๊กช่อง dither ด้วยก็ดีแล้วกด Close

๕. ปิดโปรแกรม foobar แล้วเปิดใหม่ เล่นเพลงได้เลย ถ้าติดตั้ง ASIO เวอร์ชั่นใหม่คือ 2.9 beta3 จะมี Tray Icon ของ asio4all โผล่ขึ้นมา(มุมล่างขวาของจอ)ด้วย เผื่ออยากจะเซ็ตค่าของ asio เพิ่มเติมก็เอาเลย

๖. ของผมเซ็ตดังนี้ ASIO buffer size=2048, Latency Compensation in-out=0, ที่เหลือในหมวด options ผมไม่ติ๊กเลย เซ็ตเสร็จก็กดกากบาทปิดหน้าต่าง asio มันจะจำค่าที่เราตั้งไว้เอง

ลองดูครับครั้งแรกอาจจะงง คลิกไปคลิกมา ลองมาก ๆ เราจะเข้าใจมันได้เองจ้า....

d2+foobar+ASIO เมพขิงๆ

ขอบคุณมากครับ คุณ unclepiak ก็ตอนที่ซื้อมาก็ไปแบบงูๆปลาๆหล่ะครับ พอซื้อไปกระทู้นี้ก็ออกตามมาพอดี 555 วันนั้นเฮียเบียสก็ถือมาเครื่องเดียว ก็เลยเอาก็เอา ไม่ค่อยมีเวลาไปมาบ่อยๆ แต่เท่านี้ก็โอแล้วครับ นี่พึ่งจะว่างเข้ามาอ่านที่ถามไป

เห็นเฮียเบียสบอกว่า คนที่เขาเล่นกันจะต่อเป็น ลังถ่านแยกออกมาจะไ้ด้เสียงที่ดีกว่า บางท่านก็ว่าต่อแบต ups ผมเห็นแบต ups แล้วม้นมหึมาจริงๆครับ คงมาต่อไม่ไหวแน่ๆ

แล้วถ่าน 12v จะเอาแบบไหนมาต่อดีครับ

ขอถามหน่อยครับผม ว่าเจ้าตัว Zero หรือ dac ตัวอื่นๆ สามารถต่อกับ ลำโพง computer 2.1 ได้หรือเปล่าครับ หรือว่าใช้กับหูฟังได้อย่างเดียว แล้วมันจะทำให้เสียงดีขึ้นได้ไหมครับ ตอนนี้ผมใช้ลำโพง edifier s530d 2.1 ครับผม source เล่นจาก ipod กับ notebook ครับ ขอบคุณมากครับ

http://www.inter-asia.com.my/main.php?section=product&page=product_detail&product_id=189

#38 หมอแต๊ครับ ผมว่าไม่ต้องไปใช้แบตเตอรี่ให้มันวุ่นดอก ปัญหาของ super pro มันอยู่ที่อะแดปเตอร์แบบสวิชชิ่งที่แถมมา เราก็แค่หาอะแด๊ปเตอร์ใหม่ที่เป็นชนิดลิเนียร์เรคกูเรเตอร์ ขนาด 12V 1-2a มาใช้แทนก็จบแล้วครับ คุณหมูหวานน่าจะหาให้ได้ครับ

#39 ออกจาก DAC ต่อเข้าลำโพง 2.1 ได้เลยครับ

เอ แล้วถามผมจะหา digital link มาใส่ตอนนี้มันจะดีขึ้นรึป่าวครับ คือว่ามันจะคุ้มกับซุ้มเสียง ที่มากขึ้นรึป่าว ถามอีกนิดครับ ตัว superproที่เป็นตัว upgrade เนีีย เขา up อะไรใส่บ้างอ่ะครับ ถ้าจะเอาไป up บ้างได้รึป่าวครับ

#41 ถ้าเดิม ๆ ใช้ยูเอสบีไม่เจอปัญหาสะดุดเลย ก็ไม่ต้องไปใช้ digital link ครับ ของผมมันดันมีหยุดหายใจ(นานๆที) ด้วยรำคาญและพบว่าดิจิตอลลิงก์มันช่วยได้ เรื่องเสียงผมฟังว่าไม่ต่างกันครับ

ส่วนเรื่องอัพเกรด เรียนตามตรงผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอัพแล้วมันดีกว่าไม่อัพแค่ไหนอย่างไร เพราะไม่เคยฟังตัวสแตนดาร์ดครับ ถ้าเป็นผมจะยังไม่อัพเกรดในตอนนี้ครับ เบิร์นให้ครบ 200 ชั่วโมงก่อนดีกว่า่ ผมพบว่าหลังจากมันเบิร์นครบแล้ว เสียงมันดีขึ้นได้อีกพอสมควรเลยครับคุณหมอแต๊

#41 ถ้าเดิม ๆ ใช้ยูเอสบีไม่เจอปัญหาสะดุดเลย ก็ไม่ต้องไปใช้ digital link ครับ ของผมมันดันมีหยุดหายใจ(นานๆที) ด้วยรำคาญและพบว่าดิจิตอลลิงก์มันช่วยได้ เรื่องเสียงผมฟังว่าไม่ต่างกันครับ

ส่วนเรื่องอัพเกรด เรียนตามตรงผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอัพแล้วมันดีกว่าไม่อัพแค่ไหนอย่างไร เพราะไม่เคยฟังตัวสแตนดาร์ดครับ ถ้าเป็นผมจะยังไม่อัพเกรดในตอนนี้ครับ เบิร์นให้ครบ 200 ชั่วโมงก่อนดีกว่า่ ผมพบว่าหลังจากมันเบิร์นครบแล้ว เสียงมันดีขึ้นได้อีกพอสมควรเลยครับคุณหมอแต๊

555 ของผมไม่ถึงกับหยุดหายใจแค่เหมือนลมหายใจจะขาดน่ะครับ แต่ก็นานๆทีเหมือนกัน วันนี้ลองเอา adaptor ที่ปรับvolt ได้มาเปลี่ยนแทนอันของแถม ผมว่าเสียงดีขึ้นนะครับ ผมว่าซัก 10-15% พึ่งรู้ว่า adaptor ก็ีมีความสำคัญเหมือนกัน จริงๆ ถ้าจะให้ดีต้องแยกรางไฟ แ้ล้วก็ หางรางไฟ ที่ติดตัวป้องกันเสียงจากกระแสไฟฟ้าบ้าน แต่ตัวหนึงแพงเอาเรื่องเหมือนกัน ผมคงพอแค่นี้หล่ะครับ

#37 ไม่มีใครช่วยตอบคุณnongnum ผมก็ตอบไม่ได้เพราะยังไม่เคยลองเจ้า Carat Peridot สักทีครับ

#44 ก็บอกแล้วไงหมอว่า อะแด็ปเตอร์ของซุปเปอร์โปรที่แถมมาน่ะ โยนทิ้งได้เลยทั้งเบา กลวง ร้อนง่าย มันห่วยจริงครับ

ขอบคุรมากครับ คุณunclepiak

สนับสนุนว่าให้ใช้ อแดปเตอร์ใหม่ครับ ที่ซุปเปอร์โปรให้มาหน้าตาพอใช้ได้

แต่ร้อนมาก ๆ อย่างลุงว่าไว้ ผมใช้สวิทชิ่งของคอม มาจ่ายให้ cd rom+superpro

ฟังแล้วยังโอเคเลยครับ 

ฟีงกับ ms2i ผ่านหมูหวาน รายละเอียดดีครับ

ฟังกีตาร์ 4 ยี่ห้อ ฟังออกชัดแจ๋ว ๆแยกประเภทกันไปเลย

ยังอยากอัพแอมป์ให้ไดนามิคเยี่ยม ๆ กว่านี้เลยครับ

ว่่าจะอัพตัว Crytal Oscillator กับ Coupling Capacitorแต่เพิ่มอีก 1,600 อืม เสียงมันจะุคุ้มค่าเงินรึป่าว หรือ เอาตัว zero dac ที่อัพแล้วมาเล่นดี

ผมฟังผ่านลำโพง อย่างเดียว happy มากครับ

ตอบคุณ nongnum นะครับ (ถือเป็นรายงานถึงคุณเบียสด้วยครับ ที่ผมหลับหูหลับตาซื้อพร้อมได้ของแถมเป็นไวรัสกลับบ้าน)

CARAT-PERIDOT ให้แนวเสียงที่รายละเอียดดีขึ้น ไดนามิคกว้าง โดยเฉพาะปรับไปที่ 192Hz
ความสามารถจริงๆของมันคือ line out แค่ต่อลำโพงคอมก็เห็นความแตกต่างแบบสุดๆ
ข้อเสียของมันคือราคาครับ

เรื่อง usb ที่คุณ unclepiak ว่าไว้ได้ไม่เกิน 16 bits 48Hz อันนี้ไม่จริงนะครับ
เพราะ creative ที่เป็น ubs หลายๆตัวสามารถปล่อยออกที่ 24bits 96Hz ได้
creative จะมีไดร์เวอร์อยู่เป็นแบบฮาด์แวร์ซึ่งถ้าใช้อุปกรณ์ usb มากมันจะขึ้นมาบอกว่า bandwitdh ไม่พอปรับลงไปที่ 16 bits แทน

DSP Secret Rabbit Code ของ Foobar มันกินสเปคเครื่องมาก ยิ่งใช้กับโน๊ตบุคไม่รอด เปิดแล้วลองดูการทำงาน cpu จะเห็นว่าเต็ม100 ผมใช้ Q6600 ปรับที่ 24bits 192Hz ก็ไม่รอด ลองเปลี่ยนเป็น SSRC ดูครับ 192Hz ไดนามิคเปลี่ยนอย่างรู้สึกได้แม้แต่หูฟังธรรมดา แต่ถ้า Dac ไม่รองรับ Foobar มันก็ฟ้องเอง

อันนี้เป็นข้อมูลจากการทดลองใช้ ถ้าใครมีข้อมูลอ้างอิงที่ขัดกับของผมก็ลองว่ากันไปครับ ผมจะได้เข้าใจมากขึ้นด้วย

อยากรบกวนคุณ d_fusion ช่วยระบุรุ่นของอุปกรณ์ usb ของครีเอทีฟที่บอกว่า สามารถส่งออกสัญญานดิจิตอล 24/96 ด้วยครับ ระบุให้ชัด ๆ เลย ผมจะได้หามาลองมั่ง เพราะเท่าที่เคยค้นดูยังเคยเจอครับ

ส่วนเรื่องที่ว่า SRC กินกำลังซีพียูมากกว่า ก็เป็นเรื่องปกติเพราะการคำนวนมันซับซ้อน ผมไม่เคยลองอัพแซมปลิ้งออนเดอะฟายล์ถึง 24/192 เพราะอย่างที่บอกไว้คือ โน้ตบุ๊คผมไม่สามารถปล่อยสัญญานความหนาแน่นสูงออกทางยูเอสบีได้ ไม่ใช่ DAC ไม่รองรับครับ สัญญานเข้าผ่านยูเอสบีมันเป็นคอขวดขวางไว้

ตะกี้ผมลองค้นกูเกิ้ลดูอีกรอบนึง ทำให้เข้าใจมากขึ้นว่าคุณ d_fusion คงหมายถึง usb external soundcard ของครีเอทีฟ ที่มีสเปคภายในเป็นชิป 24/96 อันนั้นทราบมานานแล้วครับ สิ่งที่ยังไม่เคยเจอคือ usb dac หรือ digital link converter ที่ต่อออกจากคอมพ์ทางยูเอสบี แล้วได้ digital out เป็น 24/96 หรือถ้า 24/192 จะวิเศษมาก

ทุกวันนี้ผมต่อผ่านยูเอสบีด้วย digital link ยี่ห้อ Xitel มันได้ digital out (optical) ที่ 24bits/55k เองครับ

CARAT-PERIDOT usb dac ที่ผมใช้อยู่ซอฟแวร์มันก็ให้ทำงานที่ 24bits 192hz ครับ

แต่ถ้าต้องมีการจับสัญญาณว่ามันออกไปเท่าไหร่จริงๆอันนั้นผมไม่รู้ครับ ยังไงเพลงที่ผมใช้มันก็ 16bits 44hz แต่มันมีความแตกต่างระหว่าง dac ที่สเปค 16bits 48hz อยู่มาก

ผมเอาแค่หูผมจับความแตกต่างของเสียงได้ก็พอครับ เหมือนที่ทุึกคนพูดอยู่เสมอความถูกต้องเที่ยงตรงไม่ได้ให้เสียงที่ดีเสมอไป

ตามสเปคของ carat peridot ใช้ TI PCM2707 เป็นภาครับผ่านยูเอสบี สัญญานเข้ารับได้สูงสุด 16bits/48k ส่งต่อให้ชิป PCM1793 ประมวลผลแบบ 24bits/192k

ผมไม่เคยฟังแด่กตัวนี้ ดูเพียงสเปคแล้วเชื่อว่าน่าจะเสียงดีครับ

คุณ unclepiak เคยใช้ external battery กับ superpro บ้างรึยังครับ ผมว่า ภาคไฟ DC น่าจะให้เสียงที่ดีกว่า แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปซื้อของที่ไหน มาต่อยังไง ถึงแ้ม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องการชาร์ตแบต ระยะเวลาของการฟังที่ไม่ได้นาน แต่ก็น่าลองถ้าให้เสียงที่ดีขึ้น แบบชัดเจน

ผมเคยลองเอาแบตฯรถมอเตอร์ไซด์มาจิ้มครับ คุณหมูหวานบอกว่าตามทฤษฏีไฟจากแบตฯจะเรียบกว่า ผมฟังไม่ออกว่าแตกต่างกัน ถ้าจะต่างก็ไม่มากถึงขนาดฟังปุ๊บรู้ ส่วนตัวผมคิดว่าไม่คุ้มกับความยุ่งยากในการชาร์ท จึงไม่ได้ขวนขวายหามาใช้จริงจัง หากหมอแต๊อยากจะลอง ผมเคยเห็นที่ร้านอมรมีแบตฯสำหรับใช้กับ UPS ขายครับ น่าจะเอามาใช้ได้เลย

ตอนแรกว่าจะใช้ แบต ups เหมือนกัน แต่พอดูขนาดบวกน้ำหนัก แล้วขอบายดีกว่าครับ ตอนแรกนึกว่าจะก้อนเล็กๆ ราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ ขอบคุณ คุณ unclipiak มากเลยคับ อยากไปเจอที่งานมีตติ๊งนะครับ แต่ไ่ม่รู้จะมีโอกาสรึป่าว