ในที่สุดก็เสร็จเสียทีกับ project ที่พัฒนามานานนับเดือน นี่จะเป็นการโมที่พลิกโฉมประวัติศาสตร์ของ earbud ไปตลอดกาลยิ่งกว่า VE Monk โมเป็น HD800 version earbud เสียอีก จะเป็นอย่างไรนั้น เรามาดูกันเลยครับ

เริ่มจาก impressions แรกที่ฟังของเดิมก่อนละกัน ผมประทับใจ dynamics ที่ให้ transient attack ได้เข้มมากๆผิดวิสัย earbud ในตลาดทุกวันนี้ที่จะทำให้ได้ เหมือนเพชรในโคลนตมที่รอการเจียระไนครั้งใหญ่อยู่ก็ว่าได้

แล้วจะโมอะไรล่ะ เปลี่ยนสายแล้วก็จบเรอะ? ไม่ล่ะ เปลี่ยนแค่สายจะเรียกว่าโมหูฟังได้อย่างไร ที่ผ่านมาก็เห็นๆกันอยู่ไม่ว่าจะเป็น TTPod ที่ตัดครอสใหม่ PK1 ที่ปรับ impedance แล้วดึง voice coil มาต่อใหม่ แต่ก่อนอื่นก็โมสายก่อนละกัน

สายที่ผมเลือกมาใช้นั้นเรียกว่าเป็นสายโคตรเทพปราบเซียนเลยก็ว่าได้เพราะรอบนี้ผมใช้สาย silver-plated ครับ ถ้าเป็นแฟนผลงานเก่าๆผมจะรู้ดีว่าสายแนวนี้ไม่มีทางอยู่ในระบบงานของผมหรอกเพราะผมหาเกรดที่พึงพอใจไม่ได้ และที่หาได้ก็แพงมากชนิดว่าทำสายหูฟังปลีกราคาเกือบหมื่นเลยล่ะครับ

spec ของสายที่ว่าเทพนั้นมาจากอะไรผมจะเล่าให้ฟังดังต่อไปนี้ครับ

1. มันเป็นสายทองแดงที่ให้เนื้อละเอียดมาก สายเคลือบเงินที่ดีเส้นต้องเล็กและเนื้อต้องละเอียดถึงจะสามารถให้เสียงเบสที่น่าฟังและปลายแหลมไม่บาดหู
2. ฉนวนที่ใช้เป็น teflon เกรดสูงสุดชนิด PTFE มันดียังไงน่ะเหรอ มันเป็นฉนวนที่มีค่า dielectric constant ต่ำมากๆ ทำให้ตัวนำมีความเป็นอิสระสูงแต่ก็คุมลำบากอยู่
3. ขนาดสายเล็กเหมาะกับการพกพา ไม่ใช่สายประเภทแบบเสียงดีก็จริงแต่ใหญ่เทอะทะ บางคนใหญ่ไม่พอ ต่อไปถึง 8 เส้น 16 เส้น โอย จะบ้าตาย พกไปได้ยังไง
4. ฉนวนที่ใช้เป็น fiber glass คุณภาพสูง เข้าหัวโดย jack oyaide ชุบทอง มีลูกค้ามาเล่าให้ฟังว่ารุ่น Black Edition สายดูคล้ายของผมเลยจัดมาโมเทียบให้ดูหน่อย
5. การหาสายที่เล็กและได้คุณภาพดีมากแบบนี้ผมใช้เวลากว่า 2 ปี สั่งสายมาลองไม่รู้กี่ม้วนกว่าจะหาได้ ผ่านการ research วิจัยค้นคว้ามามากมาย

สายหูฟังนี้ถ้าทำแยกน่าจะแพงกว่าหูอีกครับ คงอยู่ราวๆ 7-8 พันได้ แพงไป? เอาไว้มาเทียบกับพวกสายพันเหรียญดูละกัน เอาล่ะ พล่ามความเทพของสายเสร็จละเอามาลองต่อกับหูฟังดูซิว่ามันจะดีแค่ไหน หึๆๆๆๆๆ ฮาๆๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ฟังไม่ได้เลย

ไม่ใช่ว่าสายไม่ดีหรือไม่เข้ากับ driver นะครับ แต่เพราะ body เดิมที่ออกแบบมามีปัญหามาก มันทำให้เสียงกลางพุ่ง เบสไม่ลง ฟังดูล้นๆ สายเดิมเองก็มีอาการแต่ไม่ฟ้องมาก พอเจอสายดีๆที่ถ่ายทอดทุกอย่างออกมาหมดเลยรวมถึงปัญหาด้วย แต่ก็พอเห็นแววแล้ว มาเริ่มการโมหูฟังที่แท้จริงกันเถอะ

ถ้าเทียบหูฟัง earbud นี่กับลำโพงก็เหมือนลำโพงตู้เปิดที่มีท่อระบายเบส ปัญหาเรื่องตู้ส่วนมากก็ต้องแก้ที่ตัวตู้ แต่ earbud ตัวแค่นี้ตัว body เองคงทำอะไรไม่ได้มากเพราะที่มีน้อย แต่ก็ใช่ว่าจะแก้ไม่ได้เลยเพราะมาถึงมือ Windows X แล้วยังไงมันก็ต้องได้ ฮ่าๆๆๆๆ

โชคดีที่ผมได้สัมผัสลำโพงดีๆมาเยอะเลยพอจะหาทางแก้ปัญหาเรื่องตู้ได้บ้าง ก่อนอื่นก็ต้องแก้ปัญหาเรื่องโทนที่คุมเบสลงมาไม่ได้ก่อน เท่าที่สั่งเกตดู body ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ port ระบายเสียงเลยคุมความถี่ต่ำไม่ดีนัก ก็ damp รูเบสใหม่ซะเลย คราวนี้เบสลงมาได้ละ ฟังเป็นเพลงขึ้นเยอะ

แต่เสียงกลางยังพุ่งๆ ฟังดูล้นๆ focus ไม่ได้อยู่ ดูจาก body เดิมคงพยายามชดเชยเสียงให้ดูโปร่งมีรายละเอียดดีให้ดูมากขึ้นจากสายเดิมที่ไม่ดีนัก พอเจอสายดีๆเลยบานแผ่ออกมาซะขนาดนั้น ก็คงต้องปรับ acoustics ภายในตู้ใหม่ ดีนะที่ผมส่องลำโพงแพงๆมาเยอะเลยพอรู้วิธีแก้ ตอนนี้เสียงนิ่ง focus ดีขึ้นเหมือนฟังลำโพงบ้านละ

สรุปว่าโม้ เอ๊ย โมอะไรไปบ้าง

1. เปลี่ยนสาย
2. damp port
3. แก้ acoustics body

ใครสนใจ ใส่ใจ ข้องใจยังไงก็นัดมาลองฟังกันได้นะครับ ไม่ได้อยากขายของอะไรหรอก แค่อยากให้คนรับรู้ว่าผลงานของผมที่ทำแล้วผมพอใจว่ามันดีน่ะ เป็นแบบนี้นะครับ ชอบไม่ชอบไม่ว่ากันแต่ตอนนี้ผมต่อฟัง mp3 กับ DX80 ที่กำลังโมอยู่นี่โคตรชอบเลยอ่ะ