สายไฟเปลี่ยนที่เครื่องกรองหรือปลั้กรางเห็นผลเยอะสุดครับ ส่วนแดคหรือแอมป์อันนี้ผมไม่ทราบนะครับ
แต่เป็นไปได้เปลี่ยนทั้งคู่ดีที่สุดและคุณภาพสายถ้าเม่ากันจะไม่ทำให้เกิดการไม่แมชกันครับ

ขอบคุณครับ พอดียังไม่กล้าเปลี่ยนที่ปลั๊กรางครับ ไม่อยากทุบบ้าน
แต่ตอนนี้ก็เสียบตรงเข้าพนังเลยครับ อยากเริ่มที่สายใกล้ๆระบบก่อน

ซื้อมาเส้นนึงก่อน แล้วลองสลับเปลี่ยนที่ amp และ dac แล้วฟังเปรียบเทียบกันครับ

ปลั๊กรางที่เสี่ยดิวเขาบอก หมายถึงพวกปลั๊กราง กรองไฟอย่าง clef นะครับ ไม่ต้องไปทุบบ้าน

ครับ ขอบคุณครับ นึกว่าต้องเปลี่ยนระบบสายใหม่ ทำเบอรกเกอร์ใหม่ อะไรอย่างนั้น

ใช้ DAC AMP อะไรอยู่ครับ บางทีระบบที่มันไม่ขี้ฟ้อง ก็ไม่ต้องไปทำอะไรมากก็ได้ครับ

อีกอย่างต้องดูว่า เราต้องการอะไร หรือขาดอะไร เพราะอาจไม่จำเป็นก็เป็นได้

สายไฟดีๆๆให้เลือกเปลี่ยนกับอุปกรณ์ที่ต้องการกำลังไฟสูงๆและจ่ายออกสูงๆครับ อย่างเช่นแอมป์นี่จะเห็นผลมากกว่าพวกอุปกรณ์ที่กินไฟน้อยอย่าง dac หรือพวก cd player หรือพวกคอมครับ ของพวกนี้จะเห็นผลลดหลั่นกันลงมา แต่สำหรับผม ผมว่าพวกภาคขยายอย่างแอมป์ได้ผลสุดจ้าๆๆๆ 555

จากที่ผมได้ยินฝรั่งจากต่างประเทศมาอบรมหลายๆครั้ง เค้าจะแนะนำให้เริ่มที่ต้นทางก่อนครับ
คือเริ่มจากปลั๊กผนัง สายไฟมายังเครื่องเล่น หรือ DAC แล้วก็ไปที่แอมป์ต่อครับ
เค้าให้เหตุผลว่า เราต้องเริ่มจากต้นทางให้มาดีที่สุดก่อน แต่สุดท้ายแล้วมักจะโดนทั้งสองเส้นครับ

ขอบคุณสำหรับคำตอบนะครับบ ^^

ขอนอกเรื่องนิดนึงครับ
ถ้าจะหาสายACไปต่อกับ clef PB6 แนะนำเส้นไหนดีครับระหว่าง
Pangea AC-9
AQ NRG-2
Venom 3
อุปกรณ์ต่อพ่วงมีทั้ง LCD+android box & Active speaker
ขอบคุณล่วงหน้าครับ

@แก้คันให้หน่อยคับ
ต่อกับ clef PB6 ตาม List ที่ให้มาผมชอบ NRG-2 ครับ
แต่ถ้าเพิ่มงบไหว ผมแนะนำไป NRG-4 เลยครับ


system ที่ผมใช้อยู่ก็ NRG เหมือนกัน
แต่เป็น NRG-10 เข้าหัว NRG-500 ครับ
ส่วน Player ใช้ JPS Pac Lite

@คุณ TBJTBT
รบกวนสอบถามแนวเสียงของสาย NRG-10 + หัว NRG-500 ครับ
ถ้าเทียบระหว่าง NRG-4 ไป NRG-10 แตกต่างกันเยอะไหมครับ?

ขอบคุณครับ :)

คุณ Husky

ตอบแบบเทียบกับสายแถมนะครับ
NRG-10 + หัว NRG-500 ให้เสียงกลางๆครับ
เนียนๆ นุ่มๆ พละกำลังดีขึ้น เสียงอิ่มหนาขึ้นอีกหน่อย
System ของผมเสียงบางนิดๆเลยเลือกยี่ห้อนี้ ซึ่งก็ช่วยได้พอสมควรเลย

รายละเอียด การแยกแยะ ความสงัด ดีขึ้นมาก รวมถึงเวทีเสียงที่กว้างขึ้นมากด้วย
เบสลงได้ลึกขึ้น แต่ลูกไม่ได้ใหญ่ขึ้น
เสียงร้องเนียนขึ้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาย JPS ด้วยหรือเปล่า
เสียงสูงทอดตัวดีขึ้น และไม่มีบาดหูเลย

ตอนแรกคิดว่าจะให้เสียงแบบคมชัด กระฉับกระเฉงขึ้นแบบสายรุ่นล่างๆของยี่ห้อนี้
แต่ออกแนวเนียนๆ ไหลลื่นมากกว่าครับ แต่เอาไปฟังเพลงเร็วๆ สนุกๆก็ยังพอได้อยู่

ส่วน NRG-4 ผมฟังไม่เยอะนะครับ เสียงแนวเดียวกับ NRG-10 เลยครับ
แต่ก็ด้อยกว่าอย่างละนิด อย่างละหน่อย
สิ่งที่ต่างกันเยอะหน่อยก็คือ เสียงกลางสูง เสียงแหลม จะเปิดน้อยกว่า

สรุปว่า 4 กับ 10 ต่างกันพอสมควรแบบที่รู้สึกได้ไม่ยากนัก
แต่ราคาต่างกันอยู่ค่อนข้างเยอะเลย
ถ้าเอาคุ้มค่าผมว่า 4 ครับ ถ้าเอาให้จบกัดฟันเอา 10 ไปเลย ไม่ค้างคาใจครับ

ตอนแรกผมก็จะเอา NRG-4 เข้าหัว Wattgate นี่แหละครับ
หารีวิวอ่านไปอ่านมา คุยกับที่ร้าน คุยกับเพื่อนๆ ลองฟังด้วยนิดๆหน่อยๆ
สุดท้ายเพิ่มงบแล้วเอาให้จบไปเลยครับ