สาขานี้เมื่อก่อนเคยเจอแบบนี้เหมือนกันครับ แต่เดี๋ยวนี้ผมว่าเค้าปรับปรุงดีขึ้นมากแล้วนะครับจากที่ไปใช้บริการเมื่อเดือนก่อน

ฝากไว้นิดนึงครับ เรื่องนี้ก็เกิดมาประมาณนึงละ ผมเคยเอาหูโซนี่ไปเคลมกะสาขานี้แต่ท่านพนักงานบอกให้เดินไปเคลมที่ศูนย์เลยน่าจะเร็วกว่า ตอนนั้นคิดในใจตอนซื้อ ตูไม่น่าตัดสินใจควักเงินให้เลย น่าจะไปซื้อศูนย์ โซนี่แทน
แต่ก็ปล่อยผ่านๆไป คิดว่าพนักงานน่าจะงานยุ่ง ใจเขาใจเรา ฝากไว้อีกข้อครับ

กระทู้ที่สองในรอบปีของสาขานี้

2 Hit Combo

นั่นไง

ต้องขออภัยก่อนเป็นลำดับแรกนะครับ และ ต้องขอบพระคุณมากๆครับที่ช่วยสอดส่อง และ ให้ข้อมูลกับทางร้านนะครับ

พอดีวันนี้ผมได้เข้ามาทีสาขานี้พอดี และ เบื้องต้นผมได้ทำการสอบถามพนักงานและได้ทำการตักเตือนพนักงานเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนะครับ ซึ่งน้องๆในสาขาก็ได้รับทราบถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และ น้อมรับคำติ เพื่อนำไปปรับปรุงการทำงานเป็นที่เรียบร้อยครับ

ต้องขออภัยอีกจริงๆครับ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนะครับ

แพะ

เจอคล้ายๆกันเลยช่วงเวลาใกล้ๆกันเลยที่สาขานี้เหมือนกัน แล้วรู้สึกพนักงานคนที่บริการไปเห็นอีกทีอยู่ที่สาขาปิ่นเกล้าแล้ว

น่าจะระบุหน่อยว่าคนไหน ไม่งั้นคนบริการดีเดี๋ยวซวยไปด้วย

ไม่รู้สิ ผมว่าถ้าคนเยอะๆ มันก็ต้องมีบ้าง ที่จะดูแลลูกค้าไม่ทั่วถึง บางทีผมไปลองที่ร้านเห็นคนเยอะๆ ผมก็รอ หรือหลบออกมาเดินเล่นก่อน หรือดูสินค้าอะไรอื่นๆไปก่อน จนกว่าจะเห็นว่าว่างถึงค่อยใช้บริการ

เขาบอกอยู่นะว่าตอนนั้น ที่ร้านไม่มีลูกค้า พนักงานไปยืนหลับตาพิงตู้กระจก

ขอบคุณสำหรับข้อมูลแนะนำการบริการนะครับ ผมจะรวบรวมแล้วสอบถามน้องๆที่ดูแลในช่วงเวลานั้นๆให้เองครับ และไม่เพียงแต่ที่สาขานี้หรอกครับ ปกติผมจะคอยสอดส่องสอบถามกันอยู่ตลอด บางทีหากพบข้อผิดพลาดจากการทำงาน ผมต้องขออภัยแทนน้องๆทุกคนมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ^^

ให้ข้อสังเกตนิดนึงครับ

เกือบส่วนใหญ่ของข้อร้องเรียนร้านเฮีย มักเป็นเรื่อง ให้ลูกค้าดูแลตัวเอง ไม่ค่อยช่วยจนกว่าลูกค้าจะขอให้ช่วย
ฟังดูเหมือนจะไม่ดีใช่มั้ยครับ แต่....

ดูเหมือนเฮียจะวางนโยบายไว้คล้ายๆแบบนี้ ซึ่งอาจจะประหลาดหน่อยเมื่อเทียบกับร้านค้าทั่วไป แต่กลับถูกใจลูกค้าส่วนใหญ่ของร้านครับ(ผมก็ด้วย)
เพราะส่วนใหญ่คนเล่นหูฟังมักจะมีโลกส่วนตัวสูงระดับนึง ยิ่งกว่านั้นเกือบๆครึ่งนึงนี่geekจ๋าๆเลย พวกนี้ไม่ชอบให้ใครยุ่งครับ ส่งของมาเลย เดี๋ยวใช้เวลา จัดการที่เหลือเอง ขาดเหลืออะไรเดี๋ยวเรียกเอง ไม่ต้องยุ่งกับฉัน เป็นส่วนประกอบสำคัญอย่างนึงเลยที่ดึงคนให้มาติดร้านเฮียได้

ทีนี้ มันก็เลยเกิดปัญหากับ "คนทั่วไป" ครับ ที่เค้าต้องการการตาม ความใส่ใจ ความช่วยเหลือ และคำแนะนำที่ละเอียดๆ แน่ล่ะ ใช้เซนส์หรือประสบการณ์การขาย หรือกระทั่งการชิงถามเสนอความช่วยเหลือ ก็ช่วยลดปัญหาไปได้ซัก95% แต่สุดท้ายอีก5%ที่อ่านไม่ขาด ก็หลุดปัญหาอยู่ดีครับ

เท่าที่สังเกต เฮียก็พยายามเอาพนักงานสไตล์ "นักบริการหน้าเป็น" มาสุมหัวกันที่ Hear กันหมดแล้ว ซึ่งเป็นสาขาที่ "คนทั่วไป" เข้าเยอะสุดแล้ว
ส่วนพวก "นักเทคนิค" อย่างคุณหลุยส์ คุณแนท หรือกระทั่งคุณเจตต์ ก็จะมีคนที่พูดเก่งกว่า ช่วยเหลือในการรับหน้า

พิมพ์มายาว แต่ผมก็ไม่รู้จะช่วยเฮียยังไงนะ แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าปัญหาเกือบทั้งหมดมาในลักษณะนี้เสมอ

ข้างบนนี้ผมเห็นด้วยเลยครับ
ยกตัวอย่างผมเองนี่แหละ 555
เข้าร้านอื่นนี่ทำใจไม่ได้เลย เจอพนักงานเสนอขายมากเกินไป
ผมทำตัวลำบาก


แต่พอมานี่ อยากทำอะไรทำเลยครับ อยากฟังอะไรดูตัวไหนขอ มาทำเอง
จนกว่าจะทำไม่ได้หรือใจเข้าใจถึงจะถาม


คือผมว่าคนประเภทผม นี่ต้องใช้เวลาและสมาธิในการตัดสินใจเลือกซื้อพอสมควรเลยนะ



แนะนำว่า ควรจะมีพนักงานหลายๆแนวสลับๆกันในแต่ละสาขาครับ
น่าจะช่วยอุดปัญหาตรงนี้ได้

เห็นด้วยครับ สำหรับมือใหม่จ๋าๆอาจไม่ชินลักษณะการให้บริการแบบร้านเฮียซึ่งเจอได้ไม่มาก ตอนผมไปลองที่เรือธงแค่บอกอยากลองตัวนี้ๆๆๆ ก็ให้เอามาวางตรงหน้าพอ เรื่องเปลี่ยนสายเปลี่ยนหูเดี๋ยวจัดการเอง แบบนี้ผมชอบมากกว่าที่มายืนบริการข้างๆดูอึดอัด

ปัญหาจริงๆอยู่ที่ความเอาใจใส่ ของพนักงานเป็นหลัก อย่างเคสนี้คนโพสบอกแล้วว่า ได้เรียกแล้วแต่พนักงานขาดความใส่ใจ จ้างมาอีกห้าคนถ้าเป็นแบบนี้ ก็ไม่มีประโยชน์

เวลามีลูกค้าก็เข้าไปถามความต้องการ พอลูกค้าลองก็ออกมามองแบบห่างๆ ไม่ใช่เล่นมือถือ หรือปล่อยลูกค้าไว้อย่างนั้นโดยไม่สนใจ

เรื่องงานบริการเป็นเรื่อง ละเอียดอ่อน ต้องมีการกระตือรือร้นอยู่ตลอด ลูกค้าบางคนก็ง่ายๆ บางคนก็เรื่องมาก

บริษัทใหญ่ๆ ตัวแทนขายเขาประชุม อบรมกันทุกอาทิตย์

แน่ล่ะครับ ก็เขาเป็นมือใหม่ ถ้าในลักษณะคนที่เล่นมาสักพักแล้วคงไม่อะไรมากเพราะมีตัวที่อยากลองในใจแล้ว ถ้าติดขัดนิดหน่อยถึงเรียกพนักงานให้ช่วย แต่ทีนี้มือใหม่เลยซิงๆ ก็คงน่าจะมองออกไม่ยากครับ ดูที่แนวเสียงแต่ละตัวที่เลือกมาไม่ไปทางเดียวกันก็น่าจะรู้แล้วว่ามือใหม่ อย่างน้อยๆก็ทิ้งท้ายประโยคก่อนปล่อยให้เขาลองว่า ถ้าขาดเหลือยังไงอยากให้แนะนำอะไรเพิ่มเรียกได้เลยนะครับ ให้รู้สึกถึงใจบริการหน่อยครับ เพราะมือใหม่เขาไม่ได้จะรู้ว่าแต่ละยี่ห้อเป็นยังไงบ้าง ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบเสียงแบบไหนเลยด้วยซ้ำ บางคนเล่นมานานจนลืมไปแล้วว่าตัวเองก็เคยเป็นมือใหม่
แต่ส่วนตัวผมโอเคกับร้านเฮียครับไม่เคยมีปัญหาอะไร แต่แค่ใจเขาใจเราสักนิดร้อยพ่อพันแม่ครับลูกค้า อย่างน้อยปัญหามันจะได้ลดน้อยลงบ้าง

เคยไปลองที่ พันทิป. กับแอมป์ 3-4 ตัว
ไม่โดนสักอัน. ไม่เห็นต้องให้คนขายมายุ่งอะไรด้วย
เสร็จก็ไป. แค่นั้น แต่ถ้าชอบซื้อเลยคับ
จิงๆ ร้านแอมป์ราคา. เป็น 3-500000. หรือล้านทั้งซิสเตม
เค้าจะไม่วุ่นอะไรกับลูกค้าแต่จะคอยดูแลระยะๆ ถ้ามีข้อสงสัย

พนักงานก็ควรจะมองให้ออกครับว่าลูกค้าคนไหนต้องการคำแนะนำ คนไหนไม่ต้องการ เข้าใจว่าการที่พนักงานไม่เข้าไปยุ่งกับลูกค้าก็เป็นเรื่องดี แต่ต้องเข้าใจด้วยว่าร้านมั่นคงไม่ได้เจาะเฉพาะกลุ่มคนที่เล่นหูฟังครับ คนทั่วไปที่แค่อยากได้หูฟังดีๆ ซักอันมีเยอะแยะ

เห็นด้วยกับ คห.12 เป็นอย่างยิ่ง ผมหยิบเองเก็บเองด้วยซ้ำ
ผมจะยกมือเรียกกรณีเดียวคือทำยังไงก็เสียงไม่ดัง..55

ขอบคุณครับคุณ es_ciro 555

จริงๆแล้วส่วนใหญ่ก็จะคล้ายๆๆกับที่คุณ es_ciro เล่ามา คอนเซปท์ในการขายนั้นจะเริ่มต้นออกมาจากที่ตัวผมเป็นหลัก มันก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรอกครับ เพียงแต่ตอนที่ผมขายหูฟังที่สาขาสำราญราษฎร์ในช่วงแรกๆๆ ผมสังเกตุว่าคนเล่นหูฟังเค้าไม่ได้ต้องการอะไรมากมายนอกจากสินค้าตัวทดลองและเวลาให้กับเค้าเต็มที่

และที่สำคัญคือการเว้นช่องว่างที่เหมาะสม คือวางไว้ห่างก็จะกลายเป็นละเลย วางไว้ใกล้ก็จะกลายเป็นต้อนหน้าต้อนหลัง หรือรีบปีดการขายกับลูกค้า ซึ่งผมเองจะเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครมาทำให้ผมเขวในขณะที่ผมกำลังพิจารณาเลือกซื้ออะไรอยู่เหมือนกัน หากผมต้องการความช่วยเหลือ ผมจะสอบถามเอง ซึ่งพอมาขายเองก็จะกลายเป็นลักษณะนี้ คือปล่อยเวลาให้ลูกค้าตามสบาย

ปกติผมจะประชุมกับทีมงานบ่อยๆว่า เราไม่มีหน้าที่อะไรมากมายนักหรอก แค่ต้องแม่นเรื่องข้อมูลและคอยอำนวยความสะดวกหยิบจับสินค้าให้ลูกค้าเท่านั้น ส่วนเรื่องจะซื้อหรือไม่ซื้อหรือซื้อตอนไหน ปล่อยให้ลูกค้าเค้าเป็นผู้พิจารณาตามสะดวกใจที่สุด และผมจะพยายามไม่ให้เด็กใส่ความเห็นส่วนตัวหรือความชอบส่วนตัวลงไปในสินค้า และไม่วิจารณ์เปรียบเทียบสินค้าที่ไม่มีจำหน่ายในร้านโดยเด็ดขาด เพราะยังไงต้องให้ลูกค้าเลือกสินค้าที่เหมาะกับเค้าที่สุดเองครับ

การผิดหวังจากการตัดสินใจเลือกที่ผิดพลาดโดยคำแนะนำจากคนขาย หากเกิดขึ้นบ่อยๆจะทำให้ลูกค้าเบื่อหน่ายและเลิกเล่นร้างลาไปในที่สุด มันเป็นการทำลายวงการโดยรวม ซึ่งผมและทีมงานต้องพยายามทำตรงนี้ให้ดีที่สุดให้ได้ครับ

ส่วนเรื่องความใส่ใจ หูไวตาไว อันนี้คงต้องค่อยๆอบรมกันต่อไปครับ เหมือนจับปูใส่กระด้ง คึอเด็กคนไหนเข้าใจเค้าก็จะเข้าใจได้โดยเราไม่ต้องพูดอะไรมาก แต่เด็กคนไหนไม่เข้าใจเค้าก็จะไม่มีวันเข้าใจว่าทำไม เพราะอะไร และอันนี้เป็นสิ่งที่เป็นงานของผมที่จะต้องไปใช้ไม้เรียวคอยหวดให้ทุกคนเดินตามครรลองที่ถูกต้อง เหมือนครูโรงเรียนประชาบาลหรือครูประถมนั่นแหละครับ ^^

ชอบที่เฮียเข้ามาตอบทุกอันฮะ
ถือว่าเอาใจใส่ลูกค้าจริงๆ นับถือๆ

เอาใจเราไปใส่ใจเขา เอาใจเขามาใส่ใจเรา.

นอกจากเธอคนนั้น... ใครมาบริการผมก็ไม่การ:))

ผมชอบบริการแบบเป็นกันเองปล่อยอิสระมากกว่าการที่ว่าจะจับจะดูจะลองอะไรก็ต้องมายุ่มย่ามกับเราไปหมดเหมือนบางร้านนะครับ บอกตามตรงว่าถ้ามาจุ้นจ้านผมไม่ชอบครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่สนใจเราเลยนะครับ เวลาเราต้องการข้อมูลสอบถามก็บริการเราได้ แค่นี้ก็พอใจแล้วครับ จะให้เขาคอยประคบประง่มอยู่ใกล้ๆตลอด มันไม่ใช่ละครับเราก็ใช่ว่าจะเป็นคุณหญิงคุณนายมาจากที่ไหน ถ้าให้ทำแบบนั้นทุกคน ผมว่าไม่ต้องขายกันละครับ
เอาแต่พองามดีที่สุดครับ ลูกค้าก็ควรได้รับเกียรติตามควร และลูกค้าก็ต้องเข้าใจด้วยว่าการที่จะให้พนักงทนเขามาคอยบริการใกล้ๆอยู่ตลอดเวลานั้น มันจะดูเหมาะสมแค่ไหน
ทั้งหมดที่พูดมา ผมเคยไปร้านเฮียแค่ไม่กี่ครั้งเองนะครับเพราะอยู่ต่างจังหวัด แต่ทุกครั้งที่ไปก็ได้รับการบริการที่ดี ไม่กดดันลูกค้า จนบางทีอดไม่ได้ที่จะอุดหนุนเพราะลูกเกรงใจนี่ละครับ