Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

สายUsb นำสัญญาณ Digitalแพงๆ ทำให้เสียงดีขึ้นได้ยังไงครับ

สงสัย

22/12/2015 17:41:25
สงสัยมากครับในเมื่อมันนำสัญญาณแค่ 0 กับ 1 ซึ่งมันไม่มีทาง loss ได้อยู่แล้ว เพราะถ้า loss สักนิดเดียวมันก็ อ่านไฟล์ไม่ได้อยู่แล้ว
ส่วนเรื่องสัญญาณรบกวน ภาคinput digital มันสามารถรับสัญญาณกวนที่เป็นคลื่นอนาลอกได้ด้วยเหรอครับ?

เลยไม่เข้าใจว่าเสียงมันดีขึ้นได้ยังไงครับ

ปล.สายusb ที่ต่อจากคอมเข้า dac
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

gapboy_

22/12/2015 17:58:01
0
Dac เป็น Protocol USB 1.0
มันมีทาง loss ครับ เพราะ มันส่งไปไม่ถึงและมันจะไม่ส่งซ้ำด้วย ไม่เหมือน Protocol ในคอมทั่วๆไปอย่างพวก TCP/IP ที่เมื่อข้อมูลบางส่วน Loss ไปมันจะส่งข้อมูลซ้ำ

การส่งสัญญาณ Digital มีทาง Loss ครับ ไม่ Loss ก็เกิด packet collision
ยิ่งเฉพาะพวก Wireless กระจุยกระจาย
ให้กำลังใจ 1
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

Draco

22/12/2015 17:59:22
424
งงเหมือนกัน มีคนอธิบายไว้เยอะ ถกเถียงกันมานานในหมู่คนเล่น รู้แค่ว่าฟังออกในชุดผม

แต่ผมเคยอ่านเจอความเห็นท่านนึง บอกไว้ว่าสายหนะไม่มีเส้นไหนหรอกทำให้เสียงดีขึ้น มันทำได้แค่ filter เสียง ถ้าให้ผมแปลก็คือมันมีแต่ทำให้ drop ลง บางเส้นมัน drop แหลม ก็เลยทำให้คนชอบเบสถูกใจ บางเส้นมันทำให้ timing เพี้ยน คนที่ชอบฟัง soft ก็เลยชอบใจ

คหสต.นะคับ technical เรื่องนี้ยากเกินสำหรับผม ไม่เข้าใจ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

artpiggo

22/12/2015 18:43:42
15
เป็นกระทู้ที่ดีครับ สงสัยเช่นกัน รอฟังความเห็นจากผู้รู้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

ohwownoone

22/12/2015 19:03:26
370
กระทู้นี้ยาวแน่ๆ เมื่อก่อนผมก็ไม่เชื่อว่าสายดิจิตอลจะมีผลต่อเสียง แต่มันมีครับ เปลี่ยนไปหลายเส้นละ แต่ยังหาเหตุผลทางวิศกรรมดีๆ เคลียร์ๆ ไม่ได้เลยครับ
ให้กำลังใจ 1
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน

22/12/2015 19:18:07
ตอนซื้อเคยเอาอุปกรณ์ไปลองที่ร้าน เทียบกันสองเส้นราคาต่างกันเกือบเท่าตัว ตอนลองรู้สึกเลยว่าเส้นแพงดีกว่าจริงๆ พอเอากลับมาฟังที่บ้าน รู้สึกเสียงมันดรอปลงกว่าฟังที่ร้าน ทั้งๆที่เส้นเดียวกัน
ไม่รู้เป็นเพราะเคลิ้มกับ บรรยากาศที่ร้านกับหน้าพี่หลุมหรือเปล่า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

volvoflip

22/12/2015 19:34:17
2
ผมอ่านจากบทความต่างประเทศ เค้าว่ากันว่าสายดีๆ หรือสายชุบเงินดีๆ จะทำให้ speed ในการส่งข้อมูล digital ทำได้เร็วกว่า ซึ่งผมก็ไม่เช้าใจเหมือนกันว่ามีผลต่อเสียงอย่างไร
แต่เท่าที่ลองด้วยหูตัวเองกับสาย Nordost Purple Flare มันแตกต่างกับสาย stock จริงๆครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

Dawn

22/12/2015 19:39:36
88
เรื่องสัญญาณดิจิตอลมีแค่ 0 กับ 1 นี่ปัญหาคลาสสิคจริง ๆ ถามกันมาตั้งแต่ 10 กว่าปีแล้วได้มั้งครับนี่ 555

แนะนำว่าลองฟังด้วยตัวเอง ว่ามีผลหรือไม่มีผลจะได้คำตอบชัดเจนที่สุดจริงๆ ครับ ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8

UIZ

22/12/2015 19:41:13
มันอาจจะเกี่ยวข้องกับสัญญาณรบกวนระหว่าง transmission มากกว่านะครับ เพราะตอนส่งมันส่งเป็นข้อมูล digital ก็จริง แต่ตอนที่มันส่งผ่านสาย เท่าที่จำได้ มันต้องทำการ mux ก่อนเข้าสาย เพื่อแปลงข้อมูลไปเป็นสัญญาณในรูปแบบของไฟฟ้า(Analog) แล้วจะทำการ demux ที่ปลายทางอีกที ซึ่งข้อมูลอาจจะมีการผิดเพี้ยนได้ก็น่าจะตรงนี้ล่ะครับ ไม่รู้นะ ผมเดา
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

Beamharit

22/12/2015 20:08:19
13
http://nwavguy.blogspot.com/2011/02/jitter-does-it-matter.html

Jitter ครับ แนะนำให้อ่าน Link นี้ครับ




CABLE JITTER: Cables can “smear” digital signals by attenuating the highest frequencies. The diagram to the right is an example. The top blue waveform illustrates a perfect digital S/PDIF or AES3 bitstream. The bottom red waveform is what you might get out the other end of a long cable. The hardware receiving the signal uses the “zero crossings”—where the signal transitions an imaginary line drawn horizontally through the middle of the red waveform—to extract the clock. As you can see by the red arrows, that isn’t always correct due to the waveform distortion. The gaps between the red arrows are jitter. The amount of “smearing” depends on the bitstream itself so as the audio signal changes so does the clock timing creating jitter related to the audio itself.
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

Beamharit

22/12/2015 20:14:39
13
ผมฟังความแตกต่างของ USB ไม่ออกครับ ลองทำ AB test ระหว่าง Furutech Formular2 กับสายแถมไม่ผ่าน เลยประหยัดเงินค่าสาย USB ไป แต่หลายๆ ท่านว่าต่างกันชัดเจน ดังนั้นเรื่องนี้คงต้องไปฟังเองครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11

tiger_silver

22/12/2015 20:48:36
3
เอาแบบที่ทุกคนน่าจะสัมผัส .....ความเข้มของสัญญาณ
อย่างมือถือนี่ก็สัญญาณดิจิตอล.... คลื่นน้อย กับคลืนมาก(เสียงไม่ขาดหาย) ก็คุยรู้เรื่องแต่เสียงไม่เหมือนกันความชัดไม่เหมือนกัน
โทนเสียงอาจต่างกันบ้างเล็กน้อย....อย่างอื่นยังมีอีกมาก
----------
สัญญาณดิจิตอล ก็แค่ไฟ AC ความถี่สูง รูปคลี่นสี่เหลี่ยม....มีเยอะแยะที่ส่งผลกระทบ
ให้แนวเสียงเปลี่ยนไป
------------
หลายปีก่อนเคยถกไว้ ใน OCZ
http://www.overclockzone.com/forums/showthread.php/1251814-%E0%B8%97%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B8%8E%E0%B8%B5-%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A5-(01)-%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87-%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87-%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1
-----------
http://www.overclockzone.com/forums/showthread.php/1261907-%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9C%E0%B8%B5-%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87-%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A5
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12

tiger_silver

22/12/2015 21:08:57
3
อย่างสาย USB แยกสัญญาณ กับไฟเลี้ยง
สัญญาณ เป็น AC
ไฟเลี้ยง เป็น DC
ชนิดตัวนำของไฟเลี้ยง ก็ส่งผลกับเสียง
ศักย์ไฟ กระแส....ก็ส่งผลกับอุปกรณ์ ...ทำให้ส่งผลต่อเสียง
สัญญาณ เป็น AC ความถี่สูง รูปคลี่นสี่เหลี่ยม
สายที่ทำงานตอบสนองความถี่สูงได้ดี...ย่อมทำงานได้ดีกว่า
สายที่ดรอปกระแส (ค่าความต้านทานสูงกว่า) กระแส ความเข้มของสัญญาณก็น้อยกว่า
เยอะแยะครับ....ที่ทำให้สาย USB มีผลต่อเสียง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13

Hsung

22/12/2015 21:20:00
346
อย่าซีเรียสเลยครับ คหสต. เป็นอุปกรณ์ที่เห็นผลชัดน้อยที่สุดในสาระบบการเล่นเครื่องเสียงโดยทั่วไป

คือมันไม่ได้ช่วยยกเสียงให้เลิศเลอ บางทีฟังแทบไม่ออก ต่างจากการอัพสายไฟ สายสัญญาณ หรือสายหูฟัง มันเสริมซะมากกว่า

ปล. เป็นอุปกรณ์สุดท้ายที่ผมจะอัพเกรดครับ แต่ไม่ใช่ว่าไม่ควรอัพนะ แต่ value add มันต่ำสุด

เมื่อเทียบกับการอัพอุปกรณ์อื่น ควรอัพเป็นตัวท้ายๆ เลย เพราะสายดีๆ หลักครึ่งหมื่นขึ้นไปทั้งนั้นเลย แพงมาก
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14

นายมั่นคง

22/12/2015 21:57:51
4,294
ผมอธิบายแบบวิศวะไม่เป็น แต่เชื่อว่าสาย Digital แพงๆนั้น มันแพงตั้งแต่การค้นคว้าหาวัสดุและเทคนิคในการนำสัญญาณให้ไปถึงปลายทางแบบครบถ้วนที่สุดและเร็วที่สุด โดยสลัดพวกขยะที่ตามไปได้มากที่สุด ซึ่งราคาส่วนหนึ่งของสินค้าที่แพงก็มาจากการวิจัยนี่แหละครับ

ถามว่าสายต่างกัน ฟังความต่างออกไหม อันนี้ 1000% ว่าต่างกันแน่นอนครับ และฟังออกว่ามันดีขึ้นจริงๆ สาย digital เมื่อหลายปีก่อน คนไม่เชื่อว่าจะต่างออกไปได้อย่างไร แต่ตอนนี้ผมเชื่อว่าทุกคนให้การยอมรับแล้วว่ามีความแตกต่างทางเสียง(ที่ดีขึ้น)จริง ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15

rurika

22/12/2015 23:16:22
0
ถามว่าทำไม ตอบสั้นๆว่า เพราะ ไฟฟ้า ครับ
ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณดิจิตอล หรือ อนาล็อค มันก็ใช้ไฟฟ้าเป็นกระแสสัญญาณครับ

อยากทดสอบง่ายๆ ด้วยสายราคาถูกก็ทำได้ครับ
ซื้อ http://www.ab-system.hk/index.php?route=product/product&product_id=64 มาตัวนึง มันจะแถมสายหน้าตาแบบนี้มาครับ http://imgur.com/awUx1Bg

หาสาย usb เคลือบเงิน กับ สายทองแดง แล้วสลับกันดู ใช้ตัวข้างบนช่วย แล้วจะฟังออกว่ามัน "แตกต่าง" กัน ง่ายมากครับ

ส่วนใหญ่ที่ฟังแล้วไม่ค่อยแตกต่างกัน เพราะไฟที่ส่งผ่าน port usb มันมี noise เยอะครับ ผมก็เคยทดสอบแบบไม่ได้ต่อแบบใช้ตัวข้างบน ฟังแยกว่ามันแตกต่างค่อนข้างยากครับ (ไม่มั่นใจว่าจะ blind test ผ่าน) แต่พอใช้ตัวข้างบน มั่นใจว่า blind test ผ่าน 100% ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 16

หมูหวาน

22/12/2015 23:34:48
573
หลักๆเลยความแตกต่างน่าจะเกิดจากการนำสัญญาณของสาย มีผลต่อคาบเวลาครับ
ซึ่งในทาง Digital จะเรียกว่า Jitter ครับ มีผลมากๆในการส่งข้อมูลระบบ Digital ครับ

และยิ่งเป็นการส่งในรูปแบบของ Audio แล้ว มันไม่มีการทวนสัญญาณเหมือนการก็อป Data ครับ
พอมันคลาดเคลื่อทางคาบเวลาเล็กน้อย มันก็จะทำงานตามข้อมูลที่ได้รับมาเลย ทำให้มีผลต่อเสียง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17

Windows X

23/12/2015 00:31:59
337
ข้อมูลไม่ได้ส่งเป็น 0 กับ 1 ครับ มันส่งเป็นกระแสไฟฟ้าแล้วมา modulate เป็น 0 กับ 1 ออกมา ซึ่งโดยส่วนมากก็ไม่ค่อยถอดผิดหรอก แต่มันมีพวก noise อะไรต่างๆมารบกวนลูกคลื่นของไฟฟ้าทำให้เวลาถอด block ออกมาเป็นข้อมูลมันก็มีการเหลื่อมของช่วงเวลาบ้างที่เค้าเรียกกันว่า jitter

และปัญหา jitter มันไม่่ได้ต่อให้ได้ 0 กับ 1 ตรงก็ไม่ช่วยอะไร มันมีเรื่องของเวลาด้วย อย่างไฟล์ 16/44100 คุณต้องส่งข้อมูล 16 bit เป็นจำนวน 44100 samples ต่อ channel ในเวลา 1 วินาที แปลว่า block ข้อมูล 0 กับ 1 ในแต่ละ sample ก็อยู่ที่ 1/44100 = 0.0227ms หรือ 22.7 microsecond ยิ่งพวก hires ก็ต้องยิ่งละเอียดยิ่งกว่าเดิม แม่นยำกว่าเดิมอีก

ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเหลื่อมล้ำพวกนี้มันเยอะกว่าที่รู้กันมากครับ อธิบายไปก็ไม่จบหรอก Physics quantum เมื่อก่อนก็โดนพวก Classical Physics มองว่าบ้ามาก็นานกวาจะเริ่มยอมรับ เอาเป็นว่าใครใคร่ใช้อะไรก็ใช้ไปตามกำลังทรัพย์ของตนโดยไม่เดือดร้อนใครและกันนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 18

Hsung

23/12/2015 08:25:52
346
บางทีการอธิบายอะไรง่ายๆ มันก็เข้าใจแบบนึง ถ้าอธิบายยากๆ ถ้าเข้าใจก็จบ ไม่เข้าใจก็จบ (จบแบบไม่รู้เรื่อง 555)

ปัจจัยที่สายมีราคาแพง หลักๆ มี 2 อย่าง แบรน กับ คุณภาพ

แบรน มันมาจากความเชื่อมั่น เชื่อถือ การสั่งสมคุณงามความดี ชื่อเสียง อันนี้น่าจะเข้าใจกัน

คุณภาพ ส่วนหนึ่งมาจากตัวอุปกรณ์เอง อีกส่วนมาจากการวิจัย เพื่อให้ได้มันมา

ลองเอาแลมโบกี่นี่ มาแยกขายเซียงกง ได้ก็ไม่กี่หมื่น ไม่ต่างกับวีออส

การที่จะเป้นแลมโบกี่นี่ ถามว่าเรารู้มั้ย บางคนรู้บางคนไม่รู้ ถามว่าจำเป็นต้องรู้มั่ยก็แล้วแต่คน

สำหรับผม การที่สาย USB หรือ สายสัญญาณ ราคาแพง ทำให้เสียงดีขึ้นมั้ย ตอบได้เลย ดีขึ้นครับหากเทียบกับสายราคาถูก

เพราะอะไร ง่ายๆ เลย การผลิตสายราคาแพงพวกนี้ ต้นทุนวัตถุดืบไม่เยอะหรอกครับ ไปเยอะที่เทคโนโลยีมากกว่า

การที่เรามานั่งอธิบายหลักการต่างๆ พวกนี้มันก็แค่ผิวๆ หริอหลักวิศวกรรมเบื้องต้นเท่านั้น

ต่อให้สาย USB ทำด้วยทองทั้งเส้น ยังสู้สายตัวนำเงินธรรมดา ที่เค้าออกแบบมาเลย

ปล. เรามัน end user ถือหลักการลองใช้ดีกว่าครับ ฟังด้วยหูตัวเองเลยว่าดีจริงหรือเปล่า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 19

หลอกกันไปวันๆ

23/12/2015 08:50:37
บอกของแพงดีกว่า พอBlind test จอดทุกรายครับ

เพราะมันไม่มีผล แค่ผลิตออกมาให้มันครบชุดกัน จะได้ไม่ต้องใช้dacตัวละแสน กับสาย 150 บาท

ตอบสนองกิเลสของคนตังเหลือแค่นั้นแหละครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 20

MMKK

23/12/2015 09:42:45
22
อย่าเถียงกันแล้วพิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วจะรู้ความจริง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 21

tmusic

23/12/2015 10:08:52
0
สายพวกนี้ ผมว่าดู 3 อย่าง น่ะ เสียงเปลี่ยน , เสียงดี , คุ้มตัง
ขอ share ประสบการณ์ blind test แบบหูตะกั่ว
ฟังแบบเพลินๆ ไม่ได้นั่งจับผิดน่ะครับ

ถ้าเอาเสียงเปลี่ยน ราคาไม่แพง ก็ jitter bug ครับ --> background เงียบ , เสียงชัดขึ้นแน่นอน ถ้าอันนี้ลองแล้วรู้สึกไม่ต่าง ไม่ต้องซื้อเส้นอื่นครับ ข้อดีคือ ถูกด้วย ข้อเสียคือบางทีจะรู้สึกลีลาเพลงมันหายไป
GT 2 นี่ได้มือ 2 มา ผมก็ว่าเสียงไม่เปลี่ยนน่ะ ฟังไม่ออก
AQ carbon เสียงเปลี่ยน สัก 10 % ได้มั้ง แต่ผมว่าเอาเปลี่ยนที่อื่นดีกว่า
AQ diamond อันนี้ เปลี่ยนสัก 20+ % และเปลี่ยนแบบเสียงดีด้วย มันจะได้อารมณ์เพลงมากกว่า ่่jitter bug ลีลาเพลงดีกว่า , คุ้มตังไหม --> ก็วัดกันที่ชุด ถ้าชุดใหญ่ๆ , ไป up ตรงอื่นอาจแพงกว่านี้ เสียงถึงจะขึ้น อย่างนี้ก็คุ้มตัง แต่ถ้าชุดเล็กๆ ก็คงไม่คุ้ม
ที่พูดนี้ ปัจจุบันก็ยังใช้สายแถมกับ jitter bug แต่ก็กะว่าถ้าตังถึง คงเปลี่ยนเป็น AQ diamond เพราะมันดีกว่าชัดเจน

ิอิจฉา คนที่ว่าไม่ต่างเลยน่ะครับ ไม่ต้องเสียตังเลย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 22

Draco

23/12/2015 10:24:23
424
เรื่องการฟังเทียบนี่มันนานาจิตตังจริงๆคับ เคยอ่านรีวิวฝรั่ง ดูชุดอ้างอิงก็อลังการดี บอกว่า usb venom เสียงเหมือน AQ diamond มาก blind test ไม่ออกแน่นอน ผมแอบมีความหวังมาก รีบไปขอคุณหมูหวานฟัง คุณหมูหวานถึงกับออกปากว่า venom มันออกนุ่มๆหนาๆ พอลองก็จริงตามนั้นไมไ่ด้คล้าย Diamond เลย งงเหมือนกันว่าเพราะอะไร

เอาเข้าจริงพวกสายมียี่ป้อนี่ USB นี่ถูกสุดแล้วนะคับ ผมเลยสวนกระแสอัพ usb ไปให้สุดเท่าที่ไหว เพราะเส้นอื่นในระบบราคาเท่าๆกันได้แค่ตัวกลางล่างเอง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 23

RockDragon

23/12/2015 10:28:24
2,893
ทั้งคำถามและคำตอบน่าจะมีอยู่ในบทความ "How does jitter sound?" ตามในลิงค์นี้นะครับ

http://www.jitter.de/english/soundfr.html

ค่อยๆอ่าน ค่อยๆแปล และทำความเข้าใจเอานะ ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 24

มิวสิก

23/12/2015 11:03:15
หาเหตุผลมันยาก หาคำตอบง่ายกว่า ถ้าได้เหตุผลมา ไม่แน่นะอ่านแล้วงงกว่าเดิมอีก

หลายๆท่านเลยแนะนำให้ไปจับผีเองเลย โดยลองมองรอดหว่างขาดู อย่าไปมองแบบไอ้ชินมันหละ เดี๋ยวจะได้คำตอบแบบ คห. 19
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 25

artpiggo

23/12/2015 11:10:51
15
ไม่น่าเข้ากระทู้นี้เลย ยิ่งอ่านรีวิวสายแต่ละเส้น ยิ่งคัน ขอภาวนาให้ตัวเองไปลองแล้วฟังไม่ออกทีเถอะ 5555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 26

treaksung

23/12/2015 13:33:31
2
ถ้าฟังแล้วรู้สึกไม่ต่างนั่นแหล่ะดีครับ เพราะว่าไม่ต้องเสียตังคือความ

ของพวกนี้มันอยู่ที่ความพอใจ ถ้าพอใจหรือเราชอบนั่นคือดี

อย่างผมกำเงินจะไปทำหู CIEM เผื่อตังเอาไว้ว่าจะไปทำรุ่นยอดนิยม

แต่พอไปฟังที่ร้าน ดันไปถูกใจรุ่นถูกกว่า ซึ่งสุดท้ายก็เชื่อหูตัวเอง

ไม่ใช่ว่ารุ่นที่แพงกว่ามันไม่ดี แต่เพียงคนหลายๆคนชอบไม่เหมือนกัน

ถ้าทุกคนชอบเหมือนกันหมด ร้านก๊วยเตี๋ยว เค้าคงไม่ต้องมีเครื่องปรุง

วางไว้ที่โต๊ะแล้วครับ

ตังเรา ถ้าจะซื้อก็ควรเชื่อหูเรา นั่นแหล่ะดีที่สุด
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"สายUsb นำสัญญาณ Digitalแพงๆ ทำให้เสียงดีขึ้นได้ยังไงครับ"