ตั้งใหม่ครับกระทู้เก่าตั้งผิดครับขออภัยด้วยครับ
ขออนุญาตเฮียขายของหน่อยครับ
สนใจติดต่อ 089-456-2534 LINE:pira911 ดูของได้แถว BTS เอกมัยครับ
1.Headphone Audio Technica TAD-500 เสียงดีมาก ซาวด์สเตจกว้าง ใช้งานได้ปกติ สภาพดีมาก หมดประกันแล้วครับ 2,600 บาท
อันนี้รีวิวคร่าวๆครับ http://www.taf.in.th/showthread.php?t=58340
2.แอมป์หลอด Bravo Tube Amplifier V.2 (Class A)
เสียงกลาง-เบส มีน้ำหนักและเนื้อเสียงดีขึ้นแบบไม่ต้องเพ่งครับ นักร้องหญิงเสียงหวานขึ้น
Inputจาก คอมฯ,โทรศัพท์,เพลเยอร์ ได้ทั้ง Mini-Mini และ Mini-RCA มาพร้อมAdaptor3.5-6.3mmด้วยครับ
แถม สายMini-RCA+ครอบสแตนเลสกันกระแทกหลอด +ปลั๊ก,สายไฟแต่ง ให้ด้วยครับ
ตัวนี้เป็นV.2รุ่นอัพเกรดแล้ว อุปกรณ์ ใช้ปุ่มวอลุ่มของALPSและCapaของญี่ปุ่นครับ 1,900 บ.
รีวิวครับhttp://www.head-fi.org/t/520426/bravo-audio-v2-review-big-sound-in-a-small-package
Guest
ช่องทางการติดต่ออื่น
DarkSiD3
25/09/2015 23:39:13
0
IP : 171.96.181.92
alphaman
26/09/2015 01:06:11
0
IP : 171.96.181.92
มาช่วยแปะ Review ครับ เครดิตจากคุณ G7
===== Bravo Audio Tube Amp V.2 =====
สมัยก่อนผมเคยอยากได้พวกแอมป์หลอดที่พกพาได้ เพราะรู้สึกว่าแอมป์หลอดมันเท่ห์และคลาสสิคดี ก่อนที่จะได้ฟังแอมป์หลอดก็มักจะมีคนบอกผมว่า signature ของหลอดจะต้องอุ่น นุ่มนวล มวลเยอะ ซึ่งจะให้เสียงที่ค่อนข้างแตกต่างจาก solid state อย่างเห็นได้ชัด แต่พอได้ลองฟังจริงๆปรากฏว่า แอมป์หลอดก็มี Signature เฉพาะตัวที่ ไปในแนวทางเดียวกับพวกแอมป์ Solid State คือ มันมีทั้งแหลมจัดจ้าน ไปจนถึงอุ่นนุ่มนวล มวลเยอะ ดังนั้น แอมป์หลอดไม่ได้แปลว่าเสียงมันจะหนานุ่มอบอุ่นอีกต่อไป ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้ Design วงจรและการเลือกหลอดที่มาวาง
หลังจากรอ คอยมานานแสนนาน ก็มีแอมป์ Indeed ที่ผมแอบเล็งไว้ในใจ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ซื้อมาซักที เพราะความขี้เกียจและมีแอมป์ใหม่ๆให้ลองเยอะมากเกินกว่าจะมีเวลาไปหันมอง แอมป์อย่าง Indeed ได้
แล้ว วันนึง น้องจูนก็ส่งแอมป์ Bravo มาให้ ตอนแรกที่น้องจูนบอกมาเรื่องแอมป์ Bravo บอกตามตรง ผมไม่รู้จักจริงๆ แถมไม่เคยได้ยินชื่อด้วย แต่พอลองหาข้อมูลกลับกลายเป็นว่า หน้าตามันเหมือนทั้งดุ้นเลย ไม่รู้ว่าโรงงานเดียวกันหรือเปล่าผมเองก็ไม่มีเวลาหาข้อมูลได้พอ แต่ที่แน่ๆ พอหลุด Version 2 ขึ้นไป ทางสาย Bravo กลายเป็นรุ่นมี EQ เฉยเลย แต่ทาง Indeed กลับไปพัฒนาในส่วนของ version ปรกติให้ดีขึ้นโดยเสริมในส่วนของการเป็น Pre Amp ขึ้นมา ก็ถือว่าแยกสายก็อย่างเห็นได้ชัด
Bravo เองใช้หลอดยืนพื้นเป็นตัว 12AU7 ใจจริงอยากลองหลอดตัวอื่นแต่เผอิญไม่มีให้เปลี่ยนครับ ก็ review ไปในสภาพเดิมๆนี่เลยแล้วกัน คุณภาพงานถ้าเทียบกับราคาผมถือว่าโอเคนะครับ แม้ว่าจะเป็นเคสแบบอะคริลิคเปลือย แต่งานโดยรวมถือว่าดีครับเพราะเลือกของดีๆมาใส่เยอะ แต่ข้อเสียคือ เวลาเปิดเครื่องแล้วจะหาที่จับได้ลำบากมากครับ เพราะ Heat Sink มันอยู่ข้างๆ แถมยังร้อนด้วย เวลาหยิบจับก็คงต้องระวังนิดนึง
สวิซท์เปิดเป็นแบบ Push เวลาเปิดจะมีเสียงป๊อปตามสไตล์แอมป์หลอดครับ และกระแสค่อนข้างแรงมากทีเดียว คู่มือถึงกับต้องเตือนว่าอย่าเสียบก่อนเปิดเครื่อง ไม่งั้นหูฟังที่ voicecoil ไม่ทนอาจจะขาดได้ไง ดังนั้นทางที่ดีควรเปิดก่อนแล้วค่อยเสียบหูฟังครับ เพราะวงจรหลอดจำเป็นต้องรอให้หลอดร้อนซักนิดนึง มันถึงจะทำงานได้เต็มที่
พอ เปิดเครื่องก็มีไฟ LED สีฟ้าส่องลอดผ่านหลอดเป็น Backlight ขึ้นมา เวลาไปวางในห้องที่ไฟสลัวๆหน่อยจะดูสวยมากครับ สมัยก่อนผมเคยมีแอมป์ Little Dot++ ซึ่งก็จะให้ไฟแบบเดียวกันนี้เลยครับ เสียตรงรุ่นที่ผมได้มันไม่มี พอเมล์ไปโวยเค้าก็บอกว่า จะใส่ให้ก็ได้ แต่เสียงเปลี่ยนไม่รู้นะ ผมก็เลยไม่ได้ส่งไปเปลี่ยน เพราะกลัวจะเสียงไม่ดีเหมือนเดิม
ช่อง INPUT ผมชอบมาก เพราะมันมีให้เลือกทั้งจาก RCA และ แจ๊ค 3.5 ค่อนข้างยืดหยุ่นกับการใช้งานครับ ใครมีสาย RCA ก็ใช้ RCA ใครมี mini-mini ก็ใช้สาย mini ไป ส่วนช่อง Headphone Out ทาง Bravo เลือกใช้แจ๊คแบบ 6.3 แต่ก็ติดตัวแปลง 6.3 to 3.5 มาให้ด้วย ดูจากขนาดแจ๊คน่าจะหมายมั่นปั้นมือมาเพื่อใช้งานกับ Headphone ระดับโอห์มสูงๆแน่นอนครับ ซึ่งเท่าที่ลองเทสดูกำลังขับก็ถือว่าทำได้ดีมาก ขับตัวระดับ 300 โอห์มได้สบายๆ
เรื่องของเสียง
จุด เด่นของ Bravo อยู่ตรงที่การจับชิ้นดนตรีแต่ละชิ้นที่ทำได้ดีมากๆครับ Focus เสียงได้ดีชัด ทำให้ image เป็นตัวเป็นตนมากขึ้น แถมยังทำให้ image นิ่งยิ่งขึ้น ซึ่งก็จะช่วยให้ มิติและ soundstage มีขอบเขตที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น พูดง่ายๆคือ soundstage กับมิติดีขึ้นทันตาเห็นครับ การแยกชิ้นดนตรีที่ออกมาเลยทำได้ดีมากๆ เพลงที่มีชิ้นดนตรีเยอะๆ และมีจังหวะที่รัวเร็วมาก ถ้าฟังต่อตรงๆจะฟังแล้วงงแยกอะไรไม่ค่อยออก คือรู้ว่ามีเพราะศักยภาพหูฟังให้เสียงได้ครบ แต่ไม่สามารถระบุตำแหน่งที่แน่นอนได้ว่ามันอยู่ตรงไหนกันบ้าง พอใช้กับ Amp Bravo กลับกลายเป็นขุดเอาชิ้นดนตรีที่ไม่ได้ยินออกมานำเสนอให้เห็นได้อย่างชัดเจน มากขึ้น อย่างเสียงเคาะแฉแบบเป็นจังหวะ ในตอนแรกเจอเสียงกีต้าร์กลบจนฟังไม่รู้เรื่อง พอลองต่อ Bravo เข้าไป เสียงแฉก็เผยตัวตนออกมาทันที เรียกว่าได้ยินเสียงเคาะกับแบบจะๆตรงๆกันเลยทีเดียว นับว่าเป็นแอมป์ที่ช่วยเรื่องการแยกชิ้นดนตรีได้ดีมากๆตัวนึงเลยทีเดียว
เสียง โดยรวมค่อนข้างเคลียร์และสะอาด ไม่ค่อยพบเสียงฮัม หรือ hiss ในระบบเท่าไหร่ ถือว่าเดินแผงวงจรได้ดีมากครับ พอไม่ค่อยมี ฮัมก็ทำให้ Contrast ของชิ้นดนตรีดีขึ้นและมีความชัดเจนมากขึ้น ประกอบกับที่แอมป์ช่วยให้ Focus ดีขึ้นอยู่แล้ว ทำให้เรารู้สึกถึงชิ้นดนตรีที่เล่นได้ชัดเจน เสียงนักร้องที่ร้องจนเรารู้สึกเหมือนกับมาร้องอยู่ด้านหลังหัวของเรา แต่ช่วงชิ้นดนตรีที่อยู่ไกลๆหน่อย ตัวแอมป์เหมือนจะไม่ได้ทำให้มันชัดมากขึ้น กลับกลายเป็นไม่ได้ไปเสริมในส่วนนั้น แต่เจาะจงเฉพาะชิ้นดนตรีที่อยู่รายรอบตัวเรามากกว่า
ย่านเสียงสูง
แอมป์ Bravo ช่วยให้ย่านเสียงสูงดูนิ่งมากขึ้น อาจจะไม่ได้ช่วยให้ปลายเสียงพริ้วหวานเท่าไหร่ แต่ปลายก็ไม่หดลงไปจากเดิมแน่นอน แถมยังไปเคลียร์พวกปลายเสียงรกๆออก และเสริมในเนื้อของย่านสูงอีกเล็กน้อยทำให้เวลาฟังเสียงชุดกลอง เราจะได้ยินแฉกับไฮแฮทได้ค่อนข้างชัดเจนกว่าเดิมมาก แต่ไม่ถึงกับโดดชัดออกมาเท่าที่ Heed ทำได้ ไม่งั้นราคามันคงไม่อยู่ที่แค่ 2 พันแน่นอน
เสียงแหลมไม่มีอาการแห้งและสาก แต่ให้แหลมที่มีน้ำมีนวล ไม่ออกหวานเย็น เพราะเสียงแหลมออกโทนกลางๆฟังง่ายๆสบายๆ ใสและสะอาด หัวโน้ตชัดมากขึ้นจนรู้สึกถึงรายละเอียดของย่านสูงได้ดีมาก
เสียงเปียโน ที่กดคีย์ลงแต่ละจังหวะ ปรกติที่ได้ยินเสียงบางๆ พอผ่าน Bravo กลายเป็นคนละเรื่อง ตัวหัวโน้ตจากเปียโนชัดขึ้นมากๆ แถมยังแยกตัวโน้ตแต่ละช่วงได้ดีขึ้นจนได้ยินเสียงสั่นของสายเปียโนที่ปรกติ ไม่ได้ยินเวลาต่อตรงๆ
ย่านเสียงกลาง
ตัว แอมป์ไม่ได้ช่วยเติมให้มวลมากขึ้นดังนั้น แต่ช่วยให้เนื้อเสียงเต็มมากกว่าเดิม ดังนั้นเสียงร้องจะมีความชัดเจนมากยิ่งกว่าเดิม น้ำหนักกลองที่ถ่ายทอดออกมาก็หนักแน่นและทรงพลังมากยิ่งขึ้น สังเกตได้จากการเทียบหูฟังหลายๆตัว ถ้าต่อตรงๆเสียงกลองจะออกแผ่วๆหน่อย แต่พอผ่านแอมป์ Bravo รู้สึกได้ทันทีว่าน้ำหนักกลองลงได้ชัดเจนมากขึ้นและมีพลังมากขึ้น ยิ่งถ้าใช้กับ Player ที่ให้เสียงกลางติดขุ่นเล็กน้อย จะทำให้ความขุ่นนั้นลดลงไปได้อย่างชัดเจนมากๆ แต่เสียงไม่จัดจ้านมากขึ้น เสียงกลางเลยไม่ติดแหลมเหมือนแอมป์บางตัว เวลาฟังเพลงเลยไม่รู้สึกรำคาญเสียงแหลมจัดจ้านเลยแม้แต่นิดเดียว ยกเว้นหูฟังหรือ Player ที่เสียงจัดอยู่แล้ว อาจจะแก้กันไม่ได้
ย่านเสียงต่ำ
เป็น ย่านที่โดดเด่นมากที่สุด เพราะโดยปรกติแอมป์หลอดมักจะไม่ค่อยมีเบส แต่กลับ Bravo นี่ตรงข้ามครับ เพราะเป็นแอมป์หลอดที่ให้เบสได้ดีมาก และไม่ใช่เบสบวมๆด้วย แต่เป็นเบสที่มีคุณภาพที่ดีมากๆ โดยเฉพาะเนื้อเบสที่โดนเด่นที่สุด
ช่วงเนื้อเบสหรือ Middle Bass มีเนื้อมีหนังที่ชัดเจนมากๆ ถ้ามาแบบบางๆเจอแอมป์ตัวนี้อัดเนื้อเข้าใส่หมด กลายเป็นเบสที่มีเนื้อแน่นชัดเจน มีจังหวะการถ่ายทอดและไหลลื่นของเบสที่ดีมากๆ ส่วน impact bass หรือหัวโน้ตของเบสก็กระแทกกระทั้นได้ดีและรวมตัวกันชัดเจนมากกว่าต่อตรง แถมยังนิ่งไม่มีอาการเบสครางหรือส่ายแม้แต่นิดเดียว
ถ้าเปรียบแอมป์ตัวนี้ก็เหมือนเราดูหนัง 3 มิติน่ะครับ เพราะแอมป์ตัวนี้ค่อนข้างโดดเด่นในเรื่องการทำให้รู้สึกถึงความเป็น 3 มิติที่มีความลึกที่ชัดเจน ซึ่งก็หาได้ยากในแอมป์ระดับราคาเท่านี้ แม้แต่แอมป์ Headstageของผมเองที่ส่วนตัวคิดว่ากินพวกแอมป์ระดับราคาใกล้ๆกันได้ทุกตัว พอมาเจอ Bravo ถึงกับหงายหลัง สู้ไม่ได้ไปในบัดดล
ส่วนข้อเสียคือ ไม่สามารถใช้งานระหว่างพกพาได้ เพราะมันไม่มีไฟจากแบตเตอร์รี่ แต่ถ้าตัดเรื่องข้อเสียของมันลงไปได้ ก็ถือเป็น Headphone Amp อีกตัวที่น่าเล่นที่สุดในท้องตลาดครับ เพราะราคาค่าตัวมันไม่แพงเลย หายากนะครับแอมป์ไม่เกิน 3พันบาท แต่ให้เสียงได้ขนาดนี้ มีพกไว้ไม่เสียหายครับ เท่ห์และเสียงดีด้วย
===== Bravo Audio Tube Amp V.2 =====
สมัยก่อนผมเคยอยากได้พวกแอมป์หลอดที่พกพาได้ เพราะรู้สึกว่าแอมป์หลอดมันเท่ห์และคลาสสิคดี ก่อนที่จะได้ฟังแอมป์หลอดก็มักจะมีคนบอกผมว่า signature ของหลอดจะต้องอุ่น นุ่มนวล มวลเยอะ ซึ่งจะให้เสียงที่ค่อนข้างแตกต่างจาก solid state อย่างเห็นได้ชัด แต่พอได้ลองฟังจริงๆปรากฏว่า แอมป์หลอดก็มี Signature เฉพาะตัวที่ ไปในแนวทางเดียวกับพวกแอมป์ Solid State คือ มันมีทั้งแหลมจัดจ้าน ไปจนถึงอุ่นนุ่มนวล มวลเยอะ ดังนั้น แอมป์หลอดไม่ได้แปลว่าเสียงมันจะหนานุ่มอบอุ่นอีกต่อไป ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้ Design วงจรและการเลือกหลอดที่มาวาง
หลังจากรอ คอยมานานแสนนาน ก็มีแอมป์ Indeed ที่ผมแอบเล็งไว้ในใจ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ซื้อมาซักที เพราะความขี้เกียจและมีแอมป์ใหม่ๆให้ลองเยอะมากเกินกว่าจะมีเวลาไปหันมอง แอมป์อย่าง Indeed ได้
แล้ว วันนึง น้องจูนก็ส่งแอมป์ Bravo มาให้ ตอนแรกที่น้องจูนบอกมาเรื่องแอมป์ Bravo บอกตามตรง ผมไม่รู้จักจริงๆ แถมไม่เคยได้ยินชื่อด้วย แต่พอลองหาข้อมูลกลับกลายเป็นว่า หน้าตามันเหมือนทั้งดุ้นเลย ไม่รู้ว่าโรงงานเดียวกันหรือเปล่าผมเองก็ไม่มีเวลาหาข้อมูลได้พอ แต่ที่แน่ๆ พอหลุด Version 2 ขึ้นไป ทางสาย Bravo กลายเป็นรุ่นมี EQ เฉยเลย แต่ทาง Indeed กลับไปพัฒนาในส่วนของ version ปรกติให้ดีขึ้นโดยเสริมในส่วนของการเป็น Pre Amp ขึ้นมา ก็ถือว่าแยกสายก็อย่างเห็นได้ชัด
Bravo เองใช้หลอดยืนพื้นเป็นตัว 12AU7 ใจจริงอยากลองหลอดตัวอื่นแต่เผอิญไม่มีให้เปลี่ยนครับ ก็ review ไปในสภาพเดิมๆนี่เลยแล้วกัน คุณภาพงานถ้าเทียบกับราคาผมถือว่าโอเคนะครับ แม้ว่าจะเป็นเคสแบบอะคริลิคเปลือย แต่งานโดยรวมถือว่าดีครับเพราะเลือกของดีๆมาใส่เยอะ แต่ข้อเสียคือ เวลาเปิดเครื่องแล้วจะหาที่จับได้ลำบากมากครับ เพราะ Heat Sink มันอยู่ข้างๆ แถมยังร้อนด้วย เวลาหยิบจับก็คงต้องระวังนิดนึง
สวิซท์เปิดเป็นแบบ Push เวลาเปิดจะมีเสียงป๊อปตามสไตล์แอมป์หลอดครับ และกระแสค่อนข้างแรงมากทีเดียว คู่มือถึงกับต้องเตือนว่าอย่าเสียบก่อนเปิดเครื่อง ไม่งั้นหูฟังที่ voicecoil ไม่ทนอาจจะขาดได้ไง ดังนั้นทางที่ดีควรเปิดก่อนแล้วค่อยเสียบหูฟังครับ เพราะวงจรหลอดจำเป็นต้องรอให้หลอดร้อนซักนิดนึง มันถึงจะทำงานได้เต็มที่
พอ เปิดเครื่องก็มีไฟ LED สีฟ้าส่องลอดผ่านหลอดเป็น Backlight ขึ้นมา เวลาไปวางในห้องที่ไฟสลัวๆหน่อยจะดูสวยมากครับ สมัยก่อนผมเคยมีแอมป์ Little Dot++ ซึ่งก็จะให้ไฟแบบเดียวกันนี้เลยครับ เสียตรงรุ่นที่ผมได้มันไม่มี พอเมล์ไปโวยเค้าก็บอกว่า จะใส่ให้ก็ได้ แต่เสียงเปลี่ยนไม่รู้นะ ผมก็เลยไม่ได้ส่งไปเปลี่ยน เพราะกลัวจะเสียงไม่ดีเหมือนเดิม
ช่อง INPUT ผมชอบมาก เพราะมันมีให้เลือกทั้งจาก RCA และ แจ๊ค 3.5 ค่อนข้างยืดหยุ่นกับการใช้งานครับ ใครมีสาย RCA ก็ใช้ RCA ใครมี mini-mini ก็ใช้สาย mini ไป ส่วนช่อง Headphone Out ทาง Bravo เลือกใช้แจ๊คแบบ 6.3 แต่ก็ติดตัวแปลง 6.3 to 3.5 มาให้ด้วย ดูจากขนาดแจ๊คน่าจะหมายมั่นปั้นมือมาเพื่อใช้งานกับ Headphone ระดับโอห์มสูงๆแน่นอนครับ ซึ่งเท่าที่ลองเทสดูกำลังขับก็ถือว่าทำได้ดีมาก ขับตัวระดับ 300 โอห์มได้สบายๆ
เรื่องของเสียง
จุด เด่นของ Bravo อยู่ตรงที่การจับชิ้นดนตรีแต่ละชิ้นที่ทำได้ดีมากๆครับ Focus เสียงได้ดีชัด ทำให้ image เป็นตัวเป็นตนมากขึ้น แถมยังทำให้ image นิ่งยิ่งขึ้น ซึ่งก็จะช่วยให้ มิติและ soundstage มีขอบเขตที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น พูดง่ายๆคือ soundstage กับมิติดีขึ้นทันตาเห็นครับ การแยกชิ้นดนตรีที่ออกมาเลยทำได้ดีมากๆ เพลงที่มีชิ้นดนตรีเยอะๆ และมีจังหวะที่รัวเร็วมาก ถ้าฟังต่อตรงๆจะฟังแล้วงงแยกอะไรไม่ค่อยออก คือรู้ว่ามีเพราะศักยภาพหูฟังให้เสียงได้ครบ แต่ไม่สามารถระบุตำแหน่งที่แน่นอนได้ว่ามันอยู่ตรงไหนกันบ้าง พอใช้กับ Amp Bravo กลับกลายเป็นขุดเอาชิ้นดนตรีที่ไม่ได้ยินออกมานำเสนอให้เห็นได้อย่างชัดเจน มากขึ้น อย่างเสียงเคาะแฉแบบเป็นจังหวะ ในตอนแรกเจอเสียงกีต้าร์กลบจนฟังไม่รู้เรื่อง พอลองต่อ Bravo เข้าไป เสียงแฉก็เผยตัวตนออกมาทันที เรียกว่าได้ยินเสียงเคาะกับแบบจะๆตรงๆกันเลยทีเดียว นับว่าเป็นแอมป์ที่ช่วยเรื่องการแยกชิ้นดนตรีได้ดีมากๆตัวนึงเลยทีเดียว
เสียง โดยรวมค่อนข้างเคลียร์และสะอาด ไม่ค่อยพบเสียงฮัม หรือ hiss ในระบบเท่าไหร่ ถือว่าเดินแผงวงจรได้ดีมากครับ พอไม่ค่อยมี ฮัมก็ทำให้ Contrast ของชิ้นดนตรีดีขึ้นและมีความชัดเจนมากขึ้น ประกอบกับที่แอมป์ช่วยให้ Focus ดีขึ้นอยู่แล้ว ทำให้เรารู้สึกถึงชิ้นดนตรีที่เล่นได้ชัดเจน เสียงนักร้องที่ร้องจนเรารู้สึกเหมือนกับมาร้องอยู่ด้านหลังหัวของเรา แต่ช่วงชิ้นดนตรีที่อยู่ไกลๆหน่อย ตัวแอมป์เหมือนจะไม่ได้ทำให้มันชัดมากขึ้น กลับกลายเป็นไม่ได้ไปเสริมในส่วนนั้น แต่เจาะจงเฉพาะชิ้นดนตรีที่อยู่รายรอบตัวเรามากกว่า
ย่านเสียงสูง
แอมป์ Bravo ช่วยให้ย่านเสียงสูงดูนิ่งมากขึ้น อาจจะไม่ได้ช่วยให้ปลายเสียงพริ้วหวานเท่าไหร่ แต่ปลายก็ไม่หดลงไปจากเดิมแน่นอน แถมยังไปเคลียร์พวกปลายเสียงรกๆออก และเสริมในเนื้อของย่านสูงอีกเล็กน้อยทำให้เวลาฟังเสียงชุดกลอง เราจะได้ยินแฉกับไฮแฮทได้ค่อนข้างชัดเจนกว่าเดิมมาก แต่ไม่ถึงกับโดดชัดออกมาเท่าที่ Heed ทำได้ ไม่งั้นราคามันคงไม่อยู่ที่แค่ 2 พันแน่นอน
เสียงแหลมไม่มีอาการแห้งและสาก แต่ให้แหลมที่มีน้ำมีนวล ไม่ออกหวานเย็น เพราะเสียงแหลมออกโทนกลางๆฟังง่ายๆสบายๆ ใสและสะอาด หัวโน้ตชัดมากขึ้นจนรู้สึกถึงรายละเอียดของย่านสูงได้ดีมาก
เสียงเปียโน ที่กดคีย์ลงแต่ละจังหวะ ปรกติที่ได้ยินเสียงบางๆ พอผ่าน Bravo กลายเป็นคนละเรื่อง ตัวหัวโน้ตจากเปียโนชัดขึ้นมากๆ แถมยังแยกตัวโน้ตแต่ละช่วงได้ดีขึ้นจนได้ยินเสียงสั่นของสายเปียโนที่ปรกติ ไม่ได้ยินเวลาต่อตรงๆ
ย่านเสียงกลาง
ตัว แอมป์ไม่ได้ช่วยเติมให้มวลมากขึ้นดังนั้น แต่ช่วยให้เนื้อเสียงเต็มมากกว่าเดิม ดังนั้นเสียงร้องจะมีความชัดเจนมากยิ่งกว่าเดิม น้ำหนักกลองที่ถ่ายทอดออกมาก็หนักแน่นและทรงพลังมากยิ่งขึ้น สังเกตได้จากการเทียบหูฟังหลายๆตัว ถ้าต่อตรงๆเสียงกลองจะออกแผ่วๆหน่อย แต่พอผ่านแอมป์ Bravo รู้สึกได้ทันทีว่าน้ำหนักกลองลงได้ชัดเจนมากขึ้นและมีพลังมากขึ้น ยิ่งถ้าใช้กับ Player ที่ให้เสียงกลางติดขุ่นเล็กน้อย จะทำให้ความขุ่นนั้นลดลงไปได้อย่างชัดเจนมากๆ แต่เสียงไม่จัดจ้านมากขึ้น เสียงกลางเลยไม่ติดแหลมเหมือนแอมป์บางตัว เวลาฟังเพลงเลยไม่รู้สึกรำคาญเสียงแหลมจัดจ้านเลยแม้แต่นิดเดียว ยกเว้นหูฟังหรือ Player ที่เสียงจัดอยู่แล้ว อาจจะแก้กันไม่ได้
ย่านเสียงต่ำ
เป็น ย่านที่โดดเด่นมากที่สุด เพราะโดยปรกติแอมป์หลอดมักจะไม่ค่อยมีเบส แต่กลับ Bravo นี่ตรงข้ามครับ เพราะเป็นแอมป์หลอดที่ให้เบสได้ดีมาก และไม่ใช่เบสบวมๆด้วย แต่เป็นเบสที่มีคุณภาพที่ดีมากๆ โดยเฉพาะเนื้อเบสที่โดนเด่นที่สุด
ช่วงเนื้อเบสหรือ Middle Bass มีเนื้อมีหนังที่ชัดเจนมากๆ ถ้ามาแบบบางๆเจอแอมป์ตัวนี้อัดเนื้อเข้าใส่หมด กลายเป็นเบสที่มีเนื้อแน่นชัดเจน มีจังหวะการถ่ายทอดและไหลลื่นของเบสที่ดีมากๆ ส่วน impact bass หรือหัวโน้ตของเบสก็กระแทกกระทั้นได้ดีและรวมตัวกันชัดเจนมากกว่าต่อตรง แถมยังนิ่งไม่มีอาการเบสครางหรือส่ายแม้แต่นิดเดียว
ถ้าเปรียบแอมป์ตัวนี้ก็เหมือนเราดูหนัง 3 มิติน่ะครับ เพราะแอมป์ตัวนี้ค่อนข้างโดดเด่นในเรื่องการทำให้รู้สึกถึงความเป็น 3 มิติที่มีความลึกที่ชัดเจน ซึ่งก็หาได้ยากในแอมป์ระดับราคาเท่านี้ แม้แต่แอมป์ Headstageของผมเองที่ส่วนตัวคิดว่ากินพวกแอมป์ระดับราคาใกล้ๆกันได้ทุกตัว พอมาเจอ Bravo ถึงกับหงายหลัง สู้ไม่ได้ไปในบัดดล
ส่วนข้อเสียคือ ไม่สามารถใช้งานระหว่างพกพาได้ เพราะมันไม่มีไฟจากแบตเตอร์รี่ แต่ถ้าตัดเรื่องข้อเสียของมันลงไปได้ ก็ถือเป็น Headphone Amp อีกตัวที่น่าเล่นที่สุดในท้องตลาดครับ เพราะราคาค่าตัวมันไม่แพงเลย หายากนะครับแอมป์ไม่เกิน 3พันบาท แต่ให้เสียงได้ขนาดนี้ มีพกไว้ไม่เสียหายครับ เท่ห์และเสียงดีด้วย
