Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

สงสัยเรื่อง Audiophile กับ การแมทชิ่ง ... มือใหม่งงครับ

Dominant_7th

13/09/2015 12:20:19
0



คือรู้จัก Audiophile , sheffield lab ..etc มาตั้งแต่เริ่มทำงาน เพราะคุยกับรุ่นพี่ๆ แต่ผมเองก็รู้ตัวเองดีว่า เราเป็นแค่ Music Lover ไม่ได้เป็นนักฟังระดับ Critical Listener แต่อย่างใด ก็ไม่ได้เอาตัวไปสนใจมากเท่าไหร่ หลังๆ ลูกๆ ก็โตขึ้น จนมันไม่สนใจเราแล้ว เติบโตมีรายได้มากขึ้น พอจะกลับมาทำสิ่งที่ชอบคือ Music Lover เป็น Critical Listener ได้เท่าที่จะสามารถ .. ใช่ครับ ซิสเต็มระดับ สามล้าน สายลำโพงเส้นละ แปดแสน คงไม่ไหว

เรื่องมีอยู่ว่า แล้วจะ อัพ อะไรดี ลำโพง สายสัญญาณ Amp. Dac ร้อยแปด ... ไม่รู้จะเริ่มจากอะไรดี ที่เขาว่า กลางอิ่มหวาน ปลายสดใส เบสลงลึก ขอโทษ ไม่เคยเข้าใจเลย ไหนๆ ก็ฟังจาก iMac เป็นหลักอยู่แล้ว ลำโพงก็ SWAN M50W ก็เริ่มจากหา DAC มาต่อ อยากได้ Maverick Tube Magic มาก แต่ก็หาไม่ได้ สุดท้าย ก็ตัดในเอา เสียงเจ๋ง DAC-01 มาใช้ ก็ฟังมาได้ระยะหนึ่ง​( 2- 3 อาทิตย์ ) อ่านกระทู้เรื่องสายสัญญาณ ก็แหม เฮ้ย กรูไม่เชื่อหรอก แต่ก็แอบไปหาสายสัญญาณ Monster Prolink Standard 100 เข้าขั้วดีๆ กับสายลำโพง Monster XP #16 มาต่อแทนสายเดิมของเจ้า SWAN .... โอ๊ว เหมือนผีหลอก เสียงที่ไม่เคยได้ยิน กลับได้ยิน ความเป็นดนตรี ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ก็ได้ยิน .... เอาแล้วสิ ผมเชื่อแล้วครับ เริ่มหาข้อมูล โห เปลี่ยนสายไฟเข้าเครื่อง เปลี่ยนปลั๊ก มีผลทั้งนั้น แม้กระทั่งเปลี่ยน ฟิวส์ บ้ากันไปใหญ่

เริ่มจากตรงไหนดี ที่ผ่านมาก็เสียเงินไปมากมาก เล่นกอลฟ์ ก็จัดชุดแพงมา ก็ไม่รู้เรื่อง เล่นกล้องก็สอยซะแพง ( ยังไม่ถึง​Full Frame) ใช่ว่าจะถ่ายเก่ง งั้นเริ่มจากหัดฟังก่อนแล้วกัน ก็ฟัง ฟังมาเรื่อย แผ่นแม่สายเต็มบ้าน จนไปอ่านเจอกระทู้นึงว่า พวกมือใหม่ที่ชอบฟังแม่สาย ระวังว่าจะไม่เข้าใจ อย่างน้อยน่าจะต้องหาแผ่น แท้ๆ Audiophile มาฟังไว้เป็น Reference บ้าง ไม่ใช่จะแม่สายกันไปตลอด .... เอ๊ะ มีงี้ด้วย

ก็ตามหาแผ่น ไปเรื่อยเปื่อย ก็ไปเจอ ค่ายนั้นก็ Audiophile ค่ายนี้ (ในไทย ) ก็ Audiophile เอาแล้วไง สรุปแล้วว่า Audiophile มันคืออะไรกันแน่ ก็ตามหาความหมายที่แท้จริง ในกูเกิ้ลไป ตอนแรก ก็เข้าใจมาตลอดว่า Audiophile เป็นสำนักเหมือน RCA หรือพวก Grammophone แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่นี่นา สำนักไหน ก็ทำ Audiophile กันได้อย่างนั้นหรือ

ท้าวความมานาน ขอความรู้เลย

1. แสดงว่า ถ้าใครจำทำ ก็ไปซื้อลิขสิทธิ์มา ปั้มๆ ขาย อย่างนั้นหรือ ​( เรื่องคุณภาพถือว่าข้ามไปเลยนะครับ )
2. เช่นนั้น คนที่จะทำ หรือ เรียกว่า รวบรวมดีกว่า ก็ต้องไปตามหาซื้อลิขสิทธิ์พวกนั้นมา ใชไหมครับ
3. ไฟล์ตั้งต้นที่ได้มา จะมาในรูปแบบอะไร DSD , แผ่นไวนิล , Hi Res ....etc.
4. เมืองไทย มีห้อง LAB คุณภาพสูง ทีทำได้ด้วยหรือ พวก แผ่นทอง อะไรพวกนั้น

ผมสงสัยจริงๆ นะครับเรื่องนี้ เพราะ เวลาจะไปซื้อ ก็ไม่รู้ว่า ควรซื้อค่ายไหน นี่ก็ Audiophile นั่นก็ใข่ งง เบย แต่ตอนนี้ รอไม่ไหว ก็เลยไป ร้าน ปิ ฯ สอยมาสองแผ่น ก็มาตรฐาน Audiophile Voices II ที่ฟังมาหลายยยปี จะได้มาเทียบกับแม่สาย ว่ามันต่างกันจริงไหม

เรื่อง Audiophile จบไป ถามต่อ ( กระทู้ยาว ขอโทษที ) เรื่อง แมทชิ่ง ซิสเต็มครับ อ่านๆ ความเห็นไปเรื่อย ๆ ก็มีคนมาตอบว่า เชื่อคนอื่นให้น้อยลง เขื่อหูตัวเอง ให้มากขึ้น ผมก็เห็นด้วย อ่านมาอีกหน่อย อืม ชุดนี้ ก็ดี แต่ต้องระวังตอนแมทชชิ่งกับ แอมป์นะครับ เลือกแอมป์ดีๆ หรือว่า เลือกลำโพงให้ถูกต้อง อ้าว แล้ว จะรู้ได้ไงล่ะครับ ว่าจะแมทชิ่งอย่างไร อยากรู้ครับว่า ท่านๆ ทั้งหลาย แมทชิ่งกันไงครับ หลักการคืออะไร ถ้าเครื่องแรก เราจัดมาครบ โอเค ไปฟังที่ร้านมา แล้วตอนจะอัพซิสเต็ม ทำไงครับ ถ้าจะเก็บลำโพงไว้ จะรู้ได้ไง ว่าแอมป์ไหนมันแมทช์ จะเก็บแอมป์ไว้ แล้วลำโพงที่แมทช์ล่ะ ไหนจะ DAC ไหนจะ CD Transporter อีก

คำถามอาจดู ตื้นๆ นะครับ เพราะ ผมใหม่จริงๆ ฝากขอความรู้ด้วย เดี๋ยวพิมพ์เสร็จก็ว่าจะไป ร้าน ปิ ยะ ... ต่อ ว่า สายลำโพง เมตรละ พัน กับ ฟิวส์ กระบอกละพัน มันเปลี่ยนแล้ว Diana Krall จะมาเล่นให้ผมฟังในห้องรับแขกเลยหรือเปล่า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

weerapats

13/09/2015 16:12:38
44
ยินดีต้อนรับ (สู่เส้นทางที่ไม่มีที่สิ้นสุด) ครับ

ผมก็เคยสงสัยคล้ายๆกันว่าตกลงแล้ว Audiophile มันคืออะไร? เป็นอย่างไร? ต่างจากที่เราฟังอยู่ปกติอย่างไร?
ก็ได้หลายท่านช่วยอธิบาย แต่สุดท้าย.. ก็ยังไม่เจอคำตอบที่ชัดแจ้งถึงใจ.. มันยังเครือๆอยู่..
ตัวผมเองก็หวังว่าสักวันคงมีโอกาสได้เข้าใจอย่างถ่องแท้เช่นกัน

อย่างไรก็ดี ผมคิดว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่สลักสำคัญไปกว่าการที่กิจกรรมนี้ทำให้เรา "มีความสุข", "ผ่อนคลายอารมณ์"
จากความเครียดและสิ่งที่ต่างๆที่เราต้องพบเจอในชีวิตประจำวันของเรา นั่นคงเป็นจุดมุ่งหมายหลักที่เราคาดหวัง
หากแต่ท่านใดมีกำลังที่จะจัดหา "ระบบ" ที่สามารถถ่ายทอดเสียงออกมาได้อย่าง "สมจริง" ก็ "อาจจะ" ยิ่งทำให้
ได้อรรถรสในการฟังมากยิ่งขึ้น

จากความเข้าใจ "ของผม"
Audiophile คือ ผู้ที่ให้ความสนใจกับสิ่งที่เปลี่ยนไปภายใน "ระบบ" (เช่น สายไฟ, สายสัญญาณ, etc)
แล้วทำให้เกิด "ความเปลี่ยนแปลง (ดีขึ้น หรือ แย่ลง)" เพื่อให้เป็น "ระบบ" ที่สร้างความ "สมจริง" ให้ได้มากที่สุด
เท่าที่งบประมาณหรือกำลังทรัพย์ของแต่ละท่านจะอำนวย

ส่วนแนวทางในการเริ่มต้น คงต้องเริ่มจาก "การทำความเข้าใจ"
- เข้าใจว่าเราฟังเพลงแบบใด
- เข้าใจว่าเราชอบเสียงจากลำโพงคู่ไหน
- เข้าใจว่าอุปกรณ์อื่นๆ (รวมถึงระบบไฟฟ้าและกราวด์) ใน "ระบบ" ส่งผลอย่างไรต่อเสียงที่ออกจากลำโพง
- เข้าใจว่าสภาพแวดล้อมในห้องฟัง (Room acoustics) มีผลอย่างไรต่อเสียงที่จะเข้ามาในหูเรา
- เข้าใจว่า "ลงทุนขนาดไหน" จึงจะถึงจุดที่เราพอใจ
- และสุดท้าย เข้าใจว่าของพวกนี้ "ไม่มีคำว่าจบ" เพราะของใหม่ๆดีๆมีออกมาเรื่อยๆ

ผมพิมพ์ไม่ค่อยเก่ง ขออนุญาตจบเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ
หากมีคำถามอะไร ส่งเมล์มาได้นะครับ หากช่วยได้ผมยินดีช่วยเหลือครับ :)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

นายมั่นคง

13/09/2015 19:41:44
4,294
จริงๆ ผมว่ามันมาจากความพยายามในการจำลองอุปกรณ์ให้เข้าใกล้คำว่า Hi-Fidelity หรือที่เรียกสั้นๆว่า Hi-Fi ครับ คือปรับและจัดสรรอุปกรณ์ให้ตอบสนองเสียงได้ใกล้ความจริงมากที่สุด ซึ่งก็จะมีตั้งแต่เรื่องการเลือกอุปกรณ์ เลือกเพลงที่ฟัง แม้แต่กระทั่งการเซ็ทอัพหรือจัดตำแหน่งที่ดีทีุ่ด เพื่อให้ฟังออกมาใกล้เคียงของจริงที่สุด

ซึงจริงๆเป็นเรื่องยาก เพราะเปลืองทั้งงบ เปลืองเวลา และก็ไม่แน่ว่าจะได้ใกล้เคียงมากน้อยแค่ไหน แต่ทั้งหมดนี่คือความสุขของคนเล่นเครื่องเสียงครับ การค่อยๆปรับแต่ง ค่อยๆสังเกตุ ฟังความเปลี่ยนแปลงของการเซ็ทอัพตำแหน่งลำโพง การจัดทำอคูสติกของห้องให้เหมาะสม เหล่านี้ล้วนเป็นความสุขของกลุ่มคนเล่นที่ถูกเรียกกันว่า audiophile

ซึ่ง audiophile นั้นจะเป็นคนที่พิถิพิถันในการฟัง และเลือกที่จะฟังอุปกรณ์ที่ให้เสียงที่ดีทีสุด เลือกฟังแต่สิ่งที่ดีที่สุด(เท่าที่ตัวเองจ่ายไหว) และสนุกกับการฟังเครื่องและอุปกรณ์มากกว่าการฟังเพลง ซึ่งผมหมายถึงบทเพลงที่นักแต่งเพลงต้องการถ่ายทอด

ซึ่งต่างจาก music lover อันนี้เป็นนักฟังเพลงจริงๆ เครื่องดีหรือด้อย หรือขาดความเที่ยงตรงหรือแม้แต่กระทั่งเสียงหายไปข้างนึง บางทีคนกลุ่มนี้ก็ยังไม่ทราบก็มี แต่คนกลุ่มนี้ก็มี่ความสุขกับการฟังเพลง โดยทีให้ความสำคัญกับอุปกรณ์น้อยกว่าการฟังเพลงจริงๆ

ดีทั้งคู่ครับ ผมเองก็ข้ามไปข้ามมาบ่อยๆ บางทีได้จังหวะสนุกๆ ก็จัดอุปกรณ์ใหม่หมด พยายามดูเรื่องการแมทชิ่ง เลือกเรื่องน้ำเสียง นู่นนี่นั่นไปเรื่อย แต่บางทีอิ่มตัวหน่อย ฟังเพลงอะไรก็ได้ หูฟังอะไรก็ได้ เสียบกับโทรศัพท์ธรรมดาๆๆ ก็ฟังแล้วมีความสุขดีเช่นกัน 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

หมูหวาน

13/09/2015 22:29:42
573
เรื่องของเสียงเป็นเรื่องของความพอใจของแต่ละคนล้านๆเลยครับ ถ้าหากผมเปรียบเทียบง่ายๆ
คงจะเหมือนกับอาหารล่ะครับ ยกตัวอย่างเช่นสเต็กเนื้อแล้วกัน ซึ่งปกติแล้วสเต็กเนื้อ มีตั้งแต่จานละ 100 บาท
ไปจนถึงหลายๆพันบาท ซึ่งจริงๆแล้วมันก็คือสเต็กเนื้อเหมือนกัน แต่ทำไมถึงมีคนยอมกินแพงๆใช่ไหมล่ะ

เรื่องเสียงก็เหมือนกัน เป็นเพราะว่าท่านที่ฟังเพลงหนักๆ ถึงขั้นเรียกว่า Audiophile เค้าจะคัดสรรค์อุปกรณ์ทุกจุด
เอามาให้ตรงกับเสียง และสไตล์เพลงที่เค้าต้องการฟัง ซึ่งอาจจะไปถึงสายไฟเส้นละล้านก็มี ถามว่าต่างมากมั้ย
ความคุ้มค่าของแต่ละท่านมัก็ยังต่างกันอยู่ บางคนเปลี่ยนฟิวส์ให้ผลดีขึ้นมา 5% เค้าก็แฮปปี้แล้ว
ซึ่งบางคนอาจจะบอกว่าไม่คุ้ม อันนี้แล้วแตความคิดของแต่ละท่านจริงๆจ้าา

พอเราเล่นเครื่องเสียงมาระดับนึง เราจะสามารถแยกแยะความแตกต่างของเสียงได้มากขึ้น
ซึ่งนั่นก็จะช่วยให้เราสามารถเลือกซื้ออุปกรณ์ต่างๆมาใช้งานได้อย่างตรงความตองการจ้าา

ส่วนเรื่องการซื้อลิขสิทธิ์มา Remaster หรือ Copy ขายนั้น คุณภาพเสียงอาจจะดีขึ้น หรือแย่ลง
ขึ้นอยู่กับคนที่เอามาทำใหม่จริงๆครับ และ Master หรือต้นฉบับนั้น ไม่สามารถบอกได้ว่าต้นฉบับเป็นอะไร
บางคั้งผมก็เห็นเอา CD มา Remaster ลงแผ่านเสียงก็มีครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

Draco

13/09/2015 22:42:08
424
เวลาไปซื้อแผ่น เวลาคนขายบอกว่าแผ่น Audiophile มันก็เหมือนบอกว่าเป็นแผ่นที่มีการบันทึกเสียงมาดีหนะครับ คือกะมาขายสำหรับกลุ่มผู้ฟังที่ชอบการฟังแบบ audiophile แต่มันก็ไม่ได้รับประกันคุณภาพอะไรได้คับ แต่ละค่ายมาตรฐานก็ไม่ได้เท่ากัน

คุณภาพแผ่นที่ปั๊มมามีผลต่อเสียงจริงครับ เอาแผ่นแท้มาก๊อบต่อมันมีผลเช่นกัน แต่อาจจะชอบกว่าก็ได้ใครจะรู้ 555

แต่ฟังแผ่นออกไหม มันก็อยู่ที่ชุดที่ใช้อยู่ด้วยนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

Theeranai

13/09/2015 23:46:51
28
แนะนำให้ดูยูทูป ชวนเล่นชวนฟัง ฮะ เป็นพื้นฐานเริ่มต้นที่ดีมาก
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

Dominant_7th

14/09/2015 22:52:38
0
ขอบคุณคำตอบของทุกๆ ท่านครับ ทั้งเฮียมั่น คุณหมูหวาน (ไปที่ร้านหลายครั้ง ไม่เคยเจอ ) และท่านอื่นๆ ที่ผ่านมาผมก็ได้ตามอ่านกระทู้ที่ท่านๆ ได้รีวิวไว้ เก็บเล็กผสมน้อย ได้ความรู้มาไว้เป็นพื้นฐาน

เรื่องคำว่า Audiophile ผมก็พอได้แนวทาง และเข้าใจในแบบที่ไม่ต่างไปจากท่านอื่นๆ แต่ยังติดอยู่ตรงว่า แล้วค่ายไหนที่นำมาทำ Re Master แล้ว ให้คุณภาพเสียงที่ดี คุณภาพแผ่นยังไม่ต้องพูดถึงก็ได้ แต่คุณภาพเสียงนี่เราจะรู้ได้อย่างไรหรือครับ หรือว่า ต้องลองหลายๆ ค่าย เก็บเล็กผสมน้อยไป อย่างเช่นอัลบั้มพิมพ์นิยม Audiophile Voices I - VII ของดั้งเดิมที่ผมค้นหามา เป็นของ Premium Record ของ UK ตอนนี้เท่าที่หาได้เป็นของ Premium Vocal ของสิงค์โปร์ คำถามคือ แล้ว ที่เป็นเพลงเดียวกัน แต่บันทึกเสียงดีกว่านี้ มีอีกหรือไม่ และถ้าสืบค้นย้อนไป ถึงต้นตอ ของแต่ละเพลง ว่าบันทึกเสียงจริงๆ กับ ค่ายไหน แล้วตามหาสิ่งนั้นมา จะทำให้เราได้ ต้นฉบับจริงๆ ที่บันทึกเสียง ดีจริงๆ ด้วยหรือไม่ ( ทั้งๆ ที่เครื่องเสียงผม คงยังบอกความแตกต่างไม่ได้ แต่ก็ยังอยากรู้ น่ะครับ )

ส่วนเรื่องการ ทำ Re Master นี่ก็น่าสนใจ สมมุติว่า ผมอยากทำ Re Master สักชุด มีกูรู เป็นคนรวบรวมให้ว่า ระดับ The Most Audiophile Vol. 1 ( ผมตั้งชื่อเอง ) ว่าต้องมีเพลงนี้ เพลงนั้น แบบนี้คือเราต้องติดต่อไปยังค่ายที่เป็นเจ้าของเพลงนั้น (บันทึกเสียงเป็นเจ้าแรก​) แล้ว ซื้อลิขสิทธิ์มา แล้วก็มาทำ Re Master อย่างนี้ ถูกต้องไหมครับ น่าสนใจว่า ไฟล์ หรือ ต้นฉบับที่ได้มา จะเป็นอะไร เพลงบางเพลง บันทึกเสียงเมื่อ สามสิบกว่าปีที่แล้ว ด้วยเทคโนโลยี ณ ขณะนั้น จะได้คุณภาพเสียงในระดับใด .... ตรงนี้ ส่วนตัว สนใจมาก มาก ครับ

ก็แค่สงสัยครับว่า ถ้าเราจะกำเงินของเราไปซื้อ Selina Jones สักเพลง เราควรจะเลือกซื้อของค่ายใด สำหรับเพลงเดียวกัน ส่วนเรื่อง แมทชิ่งชุดเครื่องเสียง กำลังอ่าน เว็บ ตปท เรื่อง แนวเพลง กับ สเปค พวก Damping Factor ของลำโพง วัสดุที่ใช้ทำกรวย ค่า S/N Slew Rate ว่ามัน เกี่ยวพันกันอย่างไร ซึ่งดูๆ แล้ว ไม่ใช่ง่ายๆ เลย สำหรับมือใหม่ๆ อย่างผม และสุดท้าย ก็คงต้องเชื่อหูตัวเองอยู่ดี

ยินดีที่ได้รู้จักทุกท่านครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

Windows X

15/09/2015 04:46:50
337
ตอนที่ฟังเพลงธรรมดาเราก็จับแค่เนื้อหา ทำนองและโทนเสียงคร่าวๆไม่เก็บรายละเอียดอะไรมาก ความเพี้ยนที่เกิดขึ้นก็เลยไม่ต้องแก้ไขอะไรมาก คือแค่เสียงดังฟังรู้เรื่องเราก็พอใจแล้วระดับหนึ่ง

แต่พอมาจัดชุดฟังแบบ Audiophile จริงจังแล้ว เราใส่ใจมากขึ้นในหลายๆอย่างๆเพื่อต้องการจำลองเสียงออกมาให้ได้ประสบการณ์ฟังที่หลากหลายกว่าเดิม ตามหลักแล้วควรจะเน้นที่ความสมจริง ได้อารมณ์ความดิบของชิ้นดนตรีและความ live เหมือนฟังเค้าเล่นสดๆ แต่ก็มีบางอารมณ์ของนักฟังที่ต้องการเติมแต่งเป็นส่วนตัวบางเหมือนกันเช่นเสียงหวานๆ อิ่มๆ เนียนๆ ชัดๆ กระแทกแน่นๆ เป็นต้น เสียงเหล่านี้มักจะเริ่มรู้สึกว่าอยากได้จากการได้ฟังชุดที่ถ่ายทอดออกมาได้แล้วเราพอใจอยากจะได้ตามชุดนั้นครับเลยเกิดการแสวงหา

เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการเหล่านั้น เหล่านักฟังจึงกลายมาเป็น Audiophile ที่แสวงหาหนทางไปสู้ปลายทางของ Audiophile ที่เรียกกันว่า Audiophile Nirvana รู้ว่าการตั้งลำโพงเสียงก็เปลี่ยนเยอะตามที่ตั้งนะ รู้ว่าขนาดห้องฟังก็สำคัญมากนะ รู้ว่าเครื่องเสียงแต่ละชนิดมันมี tech specs ที่ต้องเอามาจับคู่กันด้วยนะเช่นความไวลำโพงกับ amp หรือ input sensitivity ที่รับได้จากต้นทาง gain และ impedance ที่เหมาะสมในชุด เป็นต้น แล้วก็มีการหาสายคุณภาพที่ดีขึ้นมาใช้ บางคนบ้าขนาดหาสายเป็นแสนเป็นล้านมาลงก็มี

เมื่อหามาลงเสร็จแล้วพอมานั่งฟังก็ เอ.....อยากให้เสียงกลางมันอิ่มกว่านี้นะ ต้องหาสายที่ให้เสียงอิ่มกว่านี้มา เสียงพุ่งมากฟังแล้วล้าคงต้องลด gain ในระบบลงมาหน่อย อะไรแบบนี้เค้าเรียกว่าการ matching ครับคือปรับให้เครื่องทำงานได้อย่างที่ควรเป็นและแต่งให้ชุดได้โทนเสียงที่เราพอใจครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"สงสัยเรื่อง Audiophile กับ การแมทชิ่ง ... มือใหม่งงครับ"