อยากทราบด้วยเหมือนกันครับ รอๆ

ขออภัยที่ต้องพูดตรงๆ ตามความเห็นส่วนตัวคิดว่าเหูฟังกลุ่มนี้ถ้าแค่ฟังต่อตรงสมาร์ทโฟนแล้วมันค่อนช้าง "เสียของ" อะครับ

จากที่เคยฟังทั้งสามตัวนี้ the truthให้เบสได้ดีและลึกมากครับเป็นหูที่ให้เบสได้ลึกแบบไม่น่าเชื่อเลยแต่ถ้ากลางพุ่งน่าจะk3003ครับจริงๆ3003เบสก็ลึกเหมือนกัน แต่ผมเห็นด้วยกับคุณAhuraนะว่าถ้าจะเล่นหูฟังระดับนี้ควรมีdapครับ

Smartphone อาจจะไม่สามารถตอบโจทย์ทั้งสามรุ่นนี้ได้เลยครับ เพราะต้องการ source ที่มีคุณภาพสูงกว่า และเเรงขับดีกว่าทั้งสามรุ่นครับ

akg k3003 โปร่ง กว้าง ปลายเเหลมละเอียดทอดตัวได้ยาว โทนเสียงสะอาด

dita the truth ให้เสียงร้องที่เด่นมากๆ มีอิมเมจที่ใหญ่ใกล้เคียงกับฟูลไซส์ และมี dynamic range ที่กว้างตอบสนองเสียงตั้งเเต่สูงจนขึ้นไปสุดได้ถึงลงไปทุ้มต่ำสุดได้อย่างดีเยี่ยมครับ
เสียงมีเอกลักษณ์ฉพาะตัวสูงทีเดียวครับสำหรับรุ่นนี้

ขอบคุณมากค่ะพอดีกะว่าจะดูไว้ใช้พกฟังเวลาออกนอกบ้านเลยไม่สะดวกจะพกหลายอย่างปกติใช้846อยู่แต่รู้สึกไม่ค่อยสะดวกตอนถอดเข้าถอดออกเวลาคุยเพราะต้องคล้องหูและรู้สึกว่าชอบไดร์เวอร์ไดนามิกมากกว่าเลยอยากลองดูตัวอื่นบ้างเคยลองซื้อrhaมาใช้แต่ยังไม่ชอบเท่าไหร่พอดีเห็นกระแสditaกำลังแรงเลยสนใจส่วนakg k3003เห็นมีไมค์สำหรับโทรศัพท์ด้วยเลยสนใจค่ะ

ฟังเสียงของ The Truth จาก Dream Team: AK380+Bakoon+Complement4

แล้วจะรู้ว่าโทรศัพท์มีไว้ติดต่อสื่อสารพอแล้วครับ ^ ^

คุณAhura คอมโบเซ็ตนี้ช่างน่ากลัวยิ่งนักครับ5555

ตอน DITA กระแสแรงๆ ผมก็คิดอยากได้ หูฟังดีๆซักตัว(ไม่พก DAP AMP) ไว้พกตอนอยู่ข้างนอก ฟังเล่นๆเหมือนกันครับ

แต่พอดูแต่ละท่านรีวิวแล้ว ผมว่าเจ้าหูตัวนี้มัน ไม่ใช่หูสำหรับพกฆ่าเวลาซะแล้ว มันคือหูฟังดีๆที่ใช้ฟังจริงจัง ตัวนึงเลย

อาทิตย์ที่แล้วเพิ่งเจอ แลมโบกินี่ จอดติดแหงกอยู่บนนลาดพร้าว ขยับไปไหนก็ไม่ได้ ยังคิดอยู่ในใจเลย ไอ้รถ super car พวกนี้นี่มัน ไม่เหมาะกับถนน และการจราจรของบ้านเราเอาซะเลยครับ^^

แต่คุณแป้งใช้สมาร์ทโฟนแนวชิพเสียงเรือธง อย่าง vivo อยู่แล้ว ผมว่าไม่เป็นปัญหาเลยครับ ถ้าจะเอาหูพวกนี้มาต่อตรง อาจจะไม่สุดเท่าเพลเยอร์ แต่ก็ไม่ถึงกับเสียของหรอกครับ ผมเชื่ออย่างนั้นครับ ขอเห็นต่างหน่อยนะครับ...

ผมตอบเรื่องการสวมใส่นะครับ 846 ผมลองใส่ดู ปัญหาที่ทุกคนน่าจะรู้สึกเหมือนกันคือมันแข็งและจับลวดดัดให้โค้งตามหูยากกว่า จะปลดออกก็ยากกว่า ส่วน Dita นั้นคล้องหูเหมือนกัน แต่มันไม่มีลวดบังคับไว้ ซึ่งทำให้การถอดออกแบบชั่วคราวทำได้ง่ายกว่า 846 หน่อยนึงครับ ทั้งนี้ต้องลองใส่และถอดเข้าออกเองด้วยครับ ว่าถนัดขึ้นหรือหนักกว่าเดิมอีก 555

อีกหนึ่งความเห็นว่าไม่เสียของครับ ถ้าจะเอาไปต่อกับมือถือ

dita กับ k3003 นี่คนล่ะขั้วเลยน่ะครับ ถึง k3003 จะมี dynamic driver ขับเสียงต่ำก็เถอะ แต่ผมแทบไม่รู้สึกถึง คาแรคเตอร์ของ dynamic driver จาก k3003 เลย มันออกแนวเหมือน BA ตัว top หลาย driver นั่นแหละครับ ดีเทลพรั่งหรู

อีกชุดหนึ่งที่ให้เสียงออกจาก Dita แล้วมีพลังของมิติที่น่าขนลุกคือ
DX90 + Lisa L3 + Com4 หรือ Ref8 ครับ
แม้เรื่องราคาจะเป็นรองชุด Dream Team มาก แต่การแมทชิ่งมันสามารถดึงศักยภาพของ Dita ออกมาแบบหมดเปลือกจริงๆครับ

ส่วนเรื่องความพึงพอใจในการต่อกับ source อะไรแล้วมีความสุขในการฟังก็คงตามนั้นอะครับ
สารภาพว่าหลายวันมานี่ก็ฟังเพลงโดยต่อตรง Dita กับ iPhone4 เหน็บกระเป๋ากางเกงมาตลอด 555
ฟังเพลงทั่วๆไปที่ไม่ใช่ Hires หรือ Comboชุดใหญ่ มันก็ไพเราะไปอีกแบบครับ ^ ^

เรื่องต่อตรงกับมือถือเนี่ย จริงๆต้องบอกว่าแล้วแต่ความพอใจในเสียงอ่ะครับ ถ้าเรามีความสุขกับการฟังเพลงแล้วนั่นคือจบครับยกเว้นหูมันขับยากจริงๆซึ่ง3ตัวนี้ก็ไม่ใช่พวกขับยากแต่ที่ผมบอกว่าควรมีdapเพราะมันจะรีดประสิทธิภาพออกมาได้เต็มที่กว่ามาก แต่อย่างที่บอกถ้าเราพอใจและมีความสุขคือจบครับ หลายครั้งผมก็เอาanswerของผมมาต่อกับoppoผมเหมือนกันซึ่งก็เพราะดีไม่ได้แย่เลย

น้ำยังไงก็ยังเป็นน้ำครับ ใช้ดื่มแก้กระหายได้ อยู่ในภาชนะใดก็มิได้ลดคุณค่าของน้ำลงไป แต่..

ถ้าจะต่อตรงกับไอโฟนผมว่าแค่ Dita The Answer ก็ฟินแล้วครับ เสียงกลางกลมกล่อม เบสแม้จะไม่สามารถลงลึกได้เท่า The Truth แต่ก็มีมาพอสมควรนะครับ เพลงที่ฟังจากไอโฟนถ้าไม่ถึง DSD หรือ 24/192 ผมแนะนำ Dita The Answer ครับ
ผมมีหลานสาวใช้ The Answer ต่อตรงจาก Sony Xperia Z ตอนนี้ไม่ยอมเปลี่ยนไปใช้หูฟังรุ่นอื่นแล้วครับ ก่อนหน้านั้นใช้ Beat พอได้ฟังเสียง The Answer หลานสาวบอกหลงรักเลยครับ ทั้งอากับหลานเลยกลายเป็น Dita Fan กันทั้งคู่เลย

Ibasso DX90 + DHC Complement 4 + Lisa L3 + DITA Truth
ผมว่ามันเป็น การ synergy ครับ มิใช่แค่บวก แต่เป็นการผนึกกำลัง เปลี่ยนตัวใดออกไป เสียงจะเปลี่ยนไปแบบลดฮวบทันที มันก็คือการแม็ทชิ่งนั่นแหละครับ แต่เป็นแม็ทชิ่งเซ็ทที่เป็น synergistic model

จากRef8 เปลี่ยนเป็น Complement4 หากมองด้วย"ตา" เราจะเห็นว่ามันเกินเหตุ สายm2m ที่แพงกว่าเพลเยอร์ไปหลายสตางค์ แต่หากคิดในแง่ตัวเงิน เปลี่ยนอะไรอย่างอื่นในวงเงินนั้น ไม่อาจสร้างผลการเปลี่ยนแปลงได้เท่า ต่อให้คงอย่างอื่นไว้และเปลี่ยนเพลเยอร์ที่แพงกว่านี้(มาก)

จากเดิม แอมป์Algorithm Duet เปลี่ยนเป็น Lisa L3 มันลงล็อค มันsynergy ให้กับDITA Truthแสดงศักยภาพได้แบบไม่น่าเชื่อ ความฉ่ำของมวลเสียง ความเป็นสามมิติของอิมเมจ การแยกช่องว่างระหว่างชิ้นดนตรี ความเป็นดนตรีที่ลื่นไหลต่อเนื่อง...ทั้งที่ในแง่ราคา L3 ไม่ได้ห่างกับ Duet สักเท่าใด ทั้งที่เดิม เปลี่ยนจาก AUNE B1มาเป็น Duet ก็ได้อะไรหลายอย่างมากขึ้นอยู่แล้ว ทั้งความสะอาด โฟกัส แบ็คกราวน์ที่เงียบ ความสงัดของเสียง

ทั้งหมดนี้ หากหูฟังไม่ใช่DITA Truth มายา..หรือแทบต้องเรียกเป็น มหามายาของเสียง จะไม่บังเกิดให้ได้สัมผัสได้ถึงเพียงนี้

หากไม่ได้สัมผัสด้วยโสตตนเอง สิ่งที่เป็นนามธรรมพวกนี้มันอธิบายให้เป็นรูปธรรมยากครับ เหมือนว่า การเห็นความงามของรุ้งกินน้ำด้วยตา หากไม่เคยเห็น บรรยายไปว่ามีแสงเจ็ดสีปรากฎขึ้นในอากาศ ให้สวยงามอย่างไร คนที่ไม่ได้เห็นด้วยตาคงไม่อาจซึมซับรับทราบความงามที่เกิดขึ้นจริง

และนี่ คือ ผลจากการจัดเข้าชุดอย่างถึงที่สุดในความคิดของคนเล่นสองคนนะครับ เปลี่ยนองค์ประกอบไปอย่างหนึ่ง ผลหรือภาพรวมจะไม่ออกมาเป็นอย่างนี้

แท่งแก้วปริซึ่ม หากตั้งอยู่ไม่ถูกตำแหน่ง ไม่อาจกระจายแสงให้เห็นเป็นเจ็ดสีครับ

แถมให้อีกภาพ ว่าถ้าเปลี่ยนจากเพลเยอร์เป็นโทรศัพท์ ดูแล้วจะรู้สึกอย่างไร..คือแทบไม่ต้องลองฟังเลยครับ555

ผมเอง มิใช่ผู้สนับสนุนการใช้แอมป์อย่างเป็นทางการนะครับ ไม่ว่ายี่ห้อไหน เพื่อนๆหลายท่านอาจจะทราบดีว่า ผมถนัดการใช้โทรศัพท์เป็นเพลเยอร์มาแต่ไหนแต่ไร แต่ของพรรค์นี้ มันอยู่ที่ความเหมาะสมครับ ของหลายอย่างมันควรจะอยู่ในองค์ประกอบอันควร ไม่อย่างนั้น มันก็ค่อนข้างเสียเปล่า..ไม่ได้แปลว่า ไม่ได้ แต่เสียเปล่า ก็คือเสียเปล่าแหละครับ ภาษาไทยไม่ต้องแปลอะไรซับซ้อน ส่วนที่ว่า พร้อมจะเสีย ก็เป็นความพอใจส่วนบุคคลครับ ไม่ใช่เรื่องผิดหรือถูก หากพอใจเสียอย่าง ก็คือพอใจครับ





ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ NOKIA X1 มีโอกาสได้แจมชุดระดับนี้ 5555555555555

ยังมีอีกตัวครับ ที่ได้ลองฟังร่วม ก็ไม่เลวทีเดียว กับการลองเอา Recorder มาใช้เป็นเพลเยอร์ หน้าตาได้อารมณ์มากครับ และบังเอิญขนาดเกือบเท่า Lisa L3 เสียด้วย

เจ้านี่คือ DR100ii ครับ เสียงออกแนวเข้มข้นคมชัด เปรียบเทียบแบบเข้าใจง่ายแต่ประสาทๆคือ เสียงมันคล้าย Grado SR325 ครับ ^ ^

ผมยังไม่ค่อยเข้าใจอ่ะครับ พี่เหน่งบา ขอยื้มมาฟังได้มั้ยครับ อิอิ

ถ้าตามหัวกระทู้
1. กลางพุ่งกว่า> K3003
2. เบสดีกว่า> Truth
3. ขับง่ายสุด> Answer

แถมให้อีกนิด
4.สมูธสุด> K3003

แล้วแต่จะพิจารณาครับ ต่อไรก็ได้ ถ้าชอบเสียงสะอย่างก็จัดมือหนึ่งอย่างเป็นทางการไปเลย

ขอขอบคุณทุกๆความเห็นค่ะ

คุณ artpiggoที่เห็นรูปนั่น ยืมเขาฟังทุกชิ้นครับ ^ ^ ไม่ใช่สินทรัพย์ของผมเลยสักรายการเดียว

งานนี้เรียกว่า บุญหล่นทับ หรือ ด้านได้ อายอดก็ว่าได้ คือทำใจกล้าหน้าด้านยืมของเขามาฟังร่วมกัน เพราะเคยฟังแยก Truth กับ L3 แล้วสัมผัสได้ถึงคุณสมบัติในแง่ความเป็นสามมิติ การแยกช่องว่างระหว่างชิ้นดนตรี ระหว่างระนาบของวง ของแต่ละเครื่อง เลยอยากรู้ว่า ถ้าเอามาจัดชุดร่วมกันจะเป็นอย่างไร

ท่านเจ้าของแอมป์ทนความหน้าด้านของผมไม่ไหว เลยส่งมาให้ลองฟัง จะเล่าว่า สภาพนี่ใหม่กริ๊บเท่าแกะกล่องเลยครับ ผมจะจับนี่ต้องดูมือตัวเองเลยว่าสะอาดพอหรือเปล่า(ผิวของเครื่องทำเป็นสีด้าน เป็นรอยง่ายมาก) ดูในภาพสุดท้าย เวลาจะเอาของอย่างอื่นมาวางซ้อน ผมต้องตลบแผ่นหนังขึ้นมากันมันสัมผัสกันเลยครับ ส่วนDX90นี่มีซองหนังหุ้มอยู่แล้ว

ผลการลองฟังนี่ เป็นความประทับใจไม่รู้ลืมครับ ถือเป็นชุดที่ดีที่สุดเท่าที่ประสพการณ์อันน้อยนิดของตัวเองได้ฟังมา (DITA Truth ผ่านการเบิร์นและใช้งานอย่างโชกโชนจนตัดปัญหาเรื่องว่าได้ที่หรือยัง และจะบอกว่า กว่ามันจะถึงจุดนี้...น่าจะร่วมหกเจ็ดร้อยชั่วโมงครับ เสียงก่อนหน้านี้ที่ได้ฟัง(ผมฟังDITAตัวนี้ตั้งแต่เริ่มเบิร์น หลายรอบ)เทียบไม่ได้กับวันที่ได้ฟังรวมชุดวันนั้น ใครตัดสินใจซื้อTruth ทำใจไว้ก่อนได้เลยครับ ไม่ต้องถามถึงสองสามร้อยชั่วโมงนะครับ เส้นทางมันยาวไกลกว่านั่นมาก

ปกติก็จะบอกว่าต่อมือถือได้นะครับ พวก uiem top top ของหลายๆค่ายเช่น Shure, Westone, UE, Sony หรือแม้กระทั่ง Fitear

แต่เท่าที่ไปลองมา Dita, 3003 พวกนี้ขี้ฟ้อง เลือก source พอสมควรเลยครับ เกรงว่าต่อมือถือจะซี้ดซ้าดเกินไปหน่อย เสียง ซซซ สส ทร มาเต็ม T- T