
สวัสดีปีใหม่ครับ ผมห่างหายจากการเข้ามาตอบกระทู้ ตั้งกะปลายปีที่แล้ว เพราะไม่สบาย เชื่อไม๊ว่า ผมเพิ่งเคยไข้ขึ้นสูง 40 องศาก้อคราวนั้นแหล่ะครับ ถ้าไม่ี่ได้ แม่น้องทอยส์สุดที่รัก คอยดูแล
ผมคง ไม่ได้มาเป็น Tokiotorr อย่างทุกวันนี้ (ฮ่าๆๆ ไม่รู้ใครทันโฆษณา ของพี่เอก สรพงศ์ ชาตรีชุดนี้บ้าง อิอิ)
ไหนจะต้อง หาทางออกมาจากเมือง ที่ผมอยู่ ซึ่ง ณ เวลานั้นหิมะตกหนักมากสุดในรอบ 25 ปี จนผมต้อง จรลีก่อนเวลาหนึ่งวันเพราะ ไม่สามารถรอให้ ฟ้าเป็นใจได้ ผม
บินออกจากบ้านที่นี่ วันที่ 17 ไฟล์ทบ่าย เป็นไฟล์ทเดียวในรอบ สี่ห้าวันนั้น ที่เครื่องขึ้นได้ นอกนั้นต้อง cancel หมดเพราะ หิมะตกหนัก มากกกกกกกกกกกกกกกกกก
ใครว่าอยู่เมืองนอกสบายครับ ^_^ ไม่จิงทั้งหมดหรอกครับ
กลับมาไทย ก้อ ซึมซับอากาศร้อนและความอบอุ่นจากครอบครัว เพื่อน พี่พี่น้องๆในบอร์ด เรา ผมมีโอกาสได้พบปะ หลายท่าน ไม่ว่าจะเป็น
เฮียเบียส น้าแทน (Piggy) น้องวุธ Collagen (น้ำใจประเสริฐมาก ขอบอก) พี่อ้อ เดอะแพะ พี่โหน่ง พี่เต้_พ่อน้องแพง น้าหมู น้องหลุยส์ น้องโอม สุดหล่อประจำ
ประตูน้ำ และได้คุยกันผ่าน โทรศัพท์ ก้อหลายคน ทั้ง พี่หมอทัตเทพ พี่ชิม(เสียงหล่อเกินห้ามใจ) พี่หมอ Vet น้องพง สุดเท่ น้องเว่อ พี่น้อย พี่พันแสน พี่เชียร
และก้อยังมีอีกหลายท่านที่ผมไม่มีโอากาส ได้พบ หรือ แม้แต่ โทรไปหา ไม่ว่าจะเป็น เฮียมั่นสุดหล่อ พี่เล็กปากน้ำ พี่เล็กสุ1000 พี่คณิต (ว่าจะไปกราบแนบอกเรื่อง หู HD580 ซะหน่อย ก้อไม่มีเวลา) ลุงปุ๊ย ของน้องทอยส์ น้องติ(ย่องมาฟัง) และอีกหลายยยยยยยต่อหลายคนที่ อยากคุยอยากเจอกันแบบตัวเป็นๆ หากไม่ได้เอ่ยชื่อท่านไดไม่ได้หมายความว่าผมไม่ได้ละลึกถึงนะคับ ขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย
กลับมาเรื่องที่ผมอยากจะ นำมาแลกเปลี่ยนกันซักหน่อย "ปีใหม่นี้เราจะทำอะไรดีดีให้ตัวเองบ้างครับ" ผมเองกลับไปก้อเจอแต่คนไม่สบาย แม่น้องทอยส์เป็นไข้หวัดใหญ่
พ่อผม เป็นปอดอักเสบ (หลังจากหนีกลับมาสูบบุหรี่อีกครั้ง) เพื่อนๆพี่ครับ ปอดอักเสบเนี่ยมัน ใกล้กับ มะเร็งปอดมากนะครับ คือ หากไม่ดูแบตัวเองดีดี เจ้าเนื้อร้าย
มันก้อจะโผล่มาเยี่ยมเยียนเราได้แบบไม่รู้ตัว เลยล่ะ
ถ้าถามว่า ทำไมพ่อผมเป็นปอดอักเสบ คือ พ่อผมเนี่ย แกเป็น Playboy มาก่อนครับ เอาเป็นว่าแกเที่ยว แกดื่ม แกใช้ชีวิตวัยรุ่นมาตั้งแต่ ประถมว่าง่ายๆ
พ่อผมเล่าให้ฟังว่าแก ดูดบุหรี่ มาตั้งแต่ ป.2 !!! ครับ มิได้หูฝาดหรอกครับ ป.2 จิงๆ ตอนนี้ พ่อผมอายุ 73 ก้อง่ายๆดูดมาหกสิบกว่าปีแล้ว
เมื่อซัก สามปีก่อน พ่อผมเจ็บหน้าอกมาก ต้องเข้าไป admit ที่ รพ.พระมงกุฎ อยู่เป็นเดือน ตอนนั้น แกเป็นหนักมาก จนหลายๆคน ทำใจแล้ว หมอบอกว่าแกมีเนื้อร้าย
แต่ ก้อปรากฎว่า เป็นแค่ เนื้องอก (แต่เป็นเนื้อดีนะครับ) แต่ก้อนั่นแหล่ะคับ มันบ่งบอกว่าคุณ มีอาการผิดปกตอแล้ว ครอบครัวผม ดีใจมาก ที่พ่อผ่านช่วงนั้นมาได้ แต่แกก้อยัง แอบ แม่ผม ไปดูดอีก เป็นครั้งคราว อาจจะไม่ได้เป็นซอง แต่ก้อ สูบต่อเนื่องมา ว่างั้นเหอะ
คราวนี้มาล่าสุดตอนผมกลับมา ผมตกใจมาก เพราะพ่อผมแก ผอมกว่าเก่ามาก แล้วแกก้อ เจ็บหน้าอกตลอดเวลา จะจามที จะไอที ร้าวไปทั้งตัว(แกบอกครับ)ทีนี้พอไป หาหมอ หมอก้อ X-Ray เชื่อไม๊ครับ ผมเองไม่กล้าดูมาตลอด แต่คราวนี้ ต้องดูเพราะหมอบังคับ ปอดพ่อผม เป็น รูเต็มไปหมด และ ดำมากครับ ท่านได นึกภาพไม่ออก ก้อ เอา ฟองน้ำที่ถูตัวเด็กเล็ก มา เจาะรูและ เอาไปรมควันน่ะคับ อย่างนั้นเลย
สิ่งที่ทำให้ผมสะเทือนใจคือ พ่อผมเนี่ย นั่ง นับวันรอที่ น้องทอยส์ จะกลับไปไทย โดยแกรักน้องทอยส์ มาก แกจะเอาปากกามาขีดฆ่าที่ปฎิทิน และ เขียนเป็น ตัวเลข countdown ไว้เลยว่า อีกกี่วัน น้องทอยส์ จะกลับ (เหมือน road to Olympic ทางช่อง 7 ยังไงยังงั้นเลยครับ) ที่นี้วันที่พ่อแม่และ ทุกคนไปรับผมวันที่ ผมกลับไปไทย แกต้องไปรอที่ สนามบิน แบบ ทรมาณ อยู่ สามสี่ ชม.ครับ เพราะเครื่อง Delay พอเจอหน้าหลาน ก้อไม่มีแรงจะเล่น จะชื่นชมแล้ว เพราะแกฝืนมานาน กลับไปผมก้อต้องพาแกไป admit ทันที พอตรวจเสร็จ หมอ บอกว่า ต้อง อยู่ รพ.นะ กลับไม่ได้ เชื่อไม๊คับ พ่อผม น้ำตาไหลด้วยความเสียใจ แกนั่งนับวันที่จะได้เห็นหน้าหลานได้เล่นกับหลานมา หกเจ็ดเดือน สุดท้าย ยังไม่ได้หอมหลานเลยซักฟอด ก้อต้องไปนอน รพ.ซะแล้ว ผมนี่ เสียใจมากครับ เลยไปคุยกะคุณหมอ อีกห้อง แกก้อบอกล่ะ คับว่า อันตราย หากจะกลับไป แต่ก้อไม่ใช่ว่าไม่ได้ หากมีการดูแลอย่างดี และมีอะไรผิดปกติ ก้อ รีบมาทันที อย่างนั้น พอจะ อนุโลมได้ ผมก้อรับปากคุณหมอ โดยจะมา ตรวจ ในอีก 1 week ถัดไป พอผมกลับมาแล้วบอกแก เชื่อไม๊ครับ ผมไม่ได้เห็นสีหน้า ดีใจของพ่อผม ขนาดนี้มานานมากแล้ว แล้วก้อก้อ จะถอดสายน้ำเกลือกลับบ้าน เด๋วนั้นเลย เพราะกลัวหมอเปลี่ยนใจ (ฮา)
สิ่งที่ผมกล่าวหลังจาก อรัมภบทมานานคือ สิ่งที่ผมนึกล่วงหน้าไปในอีก สิบ หรือ ยี่สิบปี ข้างหน้าครับ
"หากผมยังไม่เลิก สูบบุหรี่"
ผมเองก้อดูดบุหรี่มาไม่ได้นาน เพิ่งแค่ประมาณ ห้าหกปีแค่นั้นเอง (สั้นมากหากเทียบกับคนอายู สามสิบรุ่นผม)ผมผ่านการ "ตั้งใจเลิก" "เลิกเล่นๆ" "โดนบังคับเลิก" และ "อีกหลายๆเลิก" มากว่า สิบครั้ง แต่ก้อยังสูบอยู่ มากน้อยแล้วแต่เหล้าเข้าปาก ผมเคยปฎิญาณไว้ว่า พอน้องทอยส์คลอดออกมา จะเลิกถาวร แต่ก้อยับยั้งใจตัวเองไม่ได้ แอบกลับไปดูดอีก แต่ก้อน้อยลงเพราะจะดูดแต่ที่ทำงาน เชื่อไม๊คับ
ผม หมดเงินไปกับการเลิก สิ่งๆนี้ไปหลายแล้ว แต่ก้อยังเลิกไม่ได้ซะที บางครั้ง แม่น้องทอยส์ มาคุยมาขอร้อง ผมก้อรู้สึกผิดก้อ เลิกได้ ช่วงนึง เด๋วพอตัวเอง มีข้ออ้างทางอารมณ์ ไม่ว่าจะ งานเครียด โดนเจ้านายบ่น หรือ อะไรก้อตาม ก้อจะ กลืนน้ำลายตัวเองกลับมาดูดอีกจนได้ บางครั้งดูหนังที่เกี่ยวกับ พ่อลูก แล้ว In ก้อฟิต ทิ้ง บุหรี่ไป แถวนึง ทิ้ง Zippo อันละเป็นพัน แต่ก้อ อดได้ไม่นาน ก้อ แว้งกลับมาทำร้ายตัวเองอีก
หลายๆคนถามผมว่า ดูดไปเพื่ออะไร มัรนหอมเหรอ มันหวานเหรอ มันอร่อยเหมือนกินของที่ชอบเหรอ หากจะตอบกันตรงๆก้อคงบอกว่า "ไม่" เลย มีแต่สิ่งแย่ๆ ที่เกิดตามมาหลังจาก ดูดบุหรี่ทั้งนั้น เริ่มจาก เสียตังค์ บุหรี่ที่นี่ ซองละ ร้อบบาท นิดๆนะครับ พี่น้อง ไหนจะ กลิ่นปาก ผมเนี่ยกังวลมากหลังจาก ดูดผมก้อจะ ไม่กล้าเล่นกับลูกเลย เพราะกลัวเค้าเหม็นแล้วจะไม่เข้าใกล้ผม ไหนจะสุขภาพ ที่เราๆคนสูบรู้อยู่แล้ว แต่ไม่อยากรับรู้มันแค่นั้นเอง
ผมเอง เคยไป สาบทสาบาน มาหลายที่ ว่าจะเลิก เคยโดนของเข้าเพราะทำไม่ได้ก้อ มี แต่ที่สุดแล้ว คนที่ได้รับผมเสียที่สุด คือ คนที่อยู่รอบข้างเราครับ
ผมลอง นึกภาพดูว่า ผม เป็นพ่อผม และคนที่ ต้องไปคุยกับหมอเป็นน้องทอยส์ คงทำให้ลูกต้องเสียใจมาก เชื่อไม๊คับ มัน แว๊บขึ้นมาเลยว่า "เลิกแม่งเหอะว๊า" ก่อนจะแย่ไปกว่านี้
ผมทั้งอ้วนทั้ง กินเหล้า ทั้งดูดบุหรี่ จะเอาอะไรอีกหล่ะ ให้สิ่งแย่ๆกับร่างกาย ผมทำมาเกือบหมดครับ ไม่เคยคิดว่า ร่างกายเรามันจะพัง จะเสื่อมก่อนวัยอันควร
ผมผมนั่งถามตัวเองดูว่าทำไมผมเลิกไม่ได้ เหมือนหลายๆท่านที่ "หักดิบ" ได้เลยภายในวันเดียว จนถึงทุกวันนี้ เชื่อไม๊คับว่า คำตอบมันง่ายมาก ซะ จนน่า "ตบกะโหลก" ตัวเองเลย เหตุผลที่แท้จริง ไม่ได้เกี่ยวกับ สารไดๆทางการแพทย์ หรือ อะไรที่มันซับซ้อนหรอกครับ มันก้อแค่ "ใจกูยังอยากสูบอยู่" ก้อแค่นั้นแหล่ะคับ เอ้าจิงๆ ผมกล้าท้า เลยสำหรับท่านที่ยังดูดอยู่ หากเราอยากเลิกจิงๆ ทำไมเราจะทำไม่ได้ ที่บอกว่าทำไม่ได้ เลิกไม่ได้ เพราะ เรายังไม่อยากเลิกต่างหากครับ ผมตระหนักข้อนี้ ตอนที่ แม่น้องทอยส์ บอกผมว่า "เค้าบังคับให้ผมรักตัวผมเอง ไม่ได้หรอก หากผมยังไม่รักตัวผมเองเลย" ผมฟังแล้วก้อ นึกออกครับ ว่าทำไมผมยังเลิกมันไม่ได้ซะที
ณ ตอนนี้ ผมไม่ได้แตะ บุหรี่ มาได้ 9 วันแล้ว แน่นอนครับ ใน เก้าวันนี้ มีความ "อยาก" กลับไปดูดอีก มากกว่า สิบครั้ง ไหนจะตอนที่เห็นเค้าดูดกันที่สนามบิน ไหนจะตอนกินข้าวอิ่ม ไหนจะตอน เข้าห้องน้ำ (ตอนข้าศึกโจมตี พร้อมกับอ่านหนังสือไปด้วยนะ สุขสุดๆ) ไหนจะตอนเครียดๆ หลังนั่งเคลียงาน ไหนจะตอนหนาวๆ โอ้ยสารพัด เหตุผลที่ มันน่ากลับมาสูบอีก แต่ ถึง ณ ตอนนี้ ผมก้อยังไม่หลงกลมันครับ ผมไม่รู้ว่า ผมจะผ่านการ "ทำดีให้ตัวเอง" ครั้งนี้รึป่าว หรือ จะ ตบะแตกไปเมื่อไหร่
แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอกก้อคือ ท่านที่ยังสูบอยู่ ลอง "คิดถึง" คนที่เรารักมากกกกกกกกกกกๆ ดูครับ เอามันมาเป็นแรงคอย "ตบหน้า" ตัวเองทุกครั้งเวลาอยากกลับมาดูด
อีก ลองกันซักตั้งครับ ผมคนนึงละ เริ่มแล้ว ผมไม่สามารถบอกทุกคนได้ครับว่าทำอย่างไร แต่ผมบอกได้คำนึง ผมไม่อยากให้น้องทอยส์ ต้องเอาข้าวมาผมให้ที่ รพ. ตอน มาเยี่ยมผม เวลาที่ผมเป็น มะเร็งปอด หรือ โรค ถุงลมโป่งพองหรอกครับ ผมอยากพาลูกไปเที่ยว ใช้เวลาที่เหลืออยู่กับเค้า(เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันจะเหลือเวลาอีกเท่าไหร่) ใช้เวลาที่เรามีอยู่ หาความสุขกับคนที่เรารักดีกว่าครับ
อย่าหาว่าผมปากดี ทั้งๆที่เพิ่งหยุด มาได้แค่ 9 วันนะคับ ผมก้อจะพยายามทำในสิ่งที่ต้องทำเช่นกันครับ