Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

เตือนภัย ระวังรถแท็กซี่ครับ

Kom

05/10/2009 00:52:30
0
เรื่องนี้เกิดขึ้นกับผมวันนี้เลยครับ ผมกับแฟนโทรเรียกแท็กซี่ผ่านทางศูนย์วิทยุแท็กซี่ ไม่บอกละกันว่าที่ไหน
ระหว่างทางกลับบ้านขณะที่แท็กซี่วิ่งอยู่ในซอยมืดๆ อยู่ๆแฟนผมก็มาจับแขนผมแน่นมาก
แล้วก็บอกผมว่าอยากลงจากแท็กซี่ ผมก็เลยลงจากแท็กซี่กัน บริเวณที่มีร้านค้าสว่างๆและคนเยอะๆ


พอลงมาจากแท็กซี่สักพักแฟนผมร้องไห้เลย แล้วก็เล่าให้ฟังว่า ขณะที่ขับผ่านซอยมืดๆนั้น
แฟนผมบอกว่าสังเกตเห็นว่าคนขับแท็กซี่เอามือไปทำเหมือนโปรยอะไรสักอย่างผ่านหน้าช่องแอร์บ่อยมาก
หลังจากนั้นแฟนผมก็รู้สึกชาเกือบทั่วตัวแล้วก็มีอาการมึนเหมือนจะเป็นลม


หลังจากที่ผมซื้อน้ำให้กินแล้วก็ค่อยดีขึ้น เลยอยากเขียนมาเตือนเพื่อนๆทุกคนให้ระวังตัวกันด้วยนะครับ
ปกติผมก็ขึ้นแท็กซี่กันประจำแต่ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเลย เคยแต่ได้ยินคนอื่นเล่าให้ฟัง


ก็เพิ่งจะมาเจอกับตัวเองนี่แหละครับ เพราะนี่ขนาดผมไปกับแฟนยังโดนขนาดนี้
ถ้าผู้หญิงคนเดียวก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนะครับ ขอให้เตือนคนรู้จักให้ระวังตัวกันด้วยนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

lazorous

05/10/2009 00:57:43
0
น่ากลัวๆ

ระวังตัวมากๆนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

Vichien

05/10/2009 01:00:28
0
เสียดายน่าจะได้รูปพรรณสันฐาน ทะเบียนรถมาด้วย....

คนเลวๆอย่างนี้ไม่ควรปล่อยให้ลอยนวล
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

Vichien

05/10/2009 01:01:58
0
ความจริงถ้าเรียกรถผ่านศูนย์วิทยุ...น่าจะตามตัวได้ไม่ยาก

อยากรบกวนเอาเรื่องนี้ไปแจ้งความด้วยครับ...เพื่อป้องกันไม่ให้มันไปทำอันตรายคนอื่นอีกได้...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

FEWSG89

05/10/2009 01:31:24
0
น่ากลัวๆๆๆ

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

maxeal

05/10/2009 01:46:12
0
แจ้งความเลยครับ

อย่าไปยอมมมมมมมมมมมมมมมมมม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

ก๊วกกี้

05/10/2009 07:40:10
แล้วคนขับจะไม่มึนไปด้วยเหรอครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

petch_a_vet

05/10/2009 08:13:35
0
อันตรายเหมือนกันนะครับ ผมว่าแจ้งความอย่างพี่วิเชียรว่าไว้น่าจะดีนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8

Kai

05/10/2009 08:15:20
0
ผมว่าคนขับมันน่าจะมียาแก้ของมัน อาจจะกินกันไว้แล้ว หรือมันค่อยเอามาดมทีหลัง

อันตรายมากๆครับ คือกฏหมายไม่แรง ก็เลยได้ใจ ไม่กลัวเกรง และที่สำคัญไม่มีใครเอาจริง
พูดแล้วมันเหมือนน้ำท่วมปากครับ ได้แต่บ่น

ต้องรอให้มันเกิดเรื่องขึ้นก่อน แล้วก็วิ่งเต้นกันแก้ไข(แห่กันมาล้อมคอก)เพื่อแย่งกันเอาหน้าไปก่อน... เป็นยังงี้ประจำ..


ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

Tanan

05/10/2009 08:50:10
0
จับตัดตอนให้หมด ไอ้พวกนี้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

ก๊วกกี้

05/10/2009 09:12:25
ไอ้เรื่องยากิน ยาดมแก้/กัน.. มันไ่ม่มีหรอกนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11
ความคิดเห็นที่ : 12

Tokiotorr

05/10/2009 09:16:31
2
น่ากลัวจังคับ ขอเอาไปบอกต่อนะครับ
ขอบคุณคับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13

Hypermale

05/10/2009 09:27:29
มันไม่ใช่หนังกำลังภายในที่จะมียาพิษ ยาแก้พิษนะครับ
ดูจากอาการแล้ว น่าจะมีการรั่วภายในห้องโดยสาร และอาจมี คาร์บอนมอนนอกไซต์เข้ามามากกว่า สังเกตุได้ว่าคุณคมไม่เป็นอะไรเลย เนื่องจากเป็นผู้ชายเลยมีความทนทานได้มากกว่า
ยิ่งคนขับดมทุกวัน ร่างกายจะสร้างเม็ดเลือดแดงไว้จำนวนมากเพื่อให้สามารถลำเลียงออกซิเจนได้เพียงพอ

ข้อมูลประกอบนะครับ
\\\"คาร์บอนมอนนอกไซด์คืออะไร

คาร์บอนมอนนอกไซด์เป็นก๊าซพิษ ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของก๊าซคาร์บอน 1 อะตอม กับก๊าซออกซิเจน 1 อะตอม คุณสมบัติที่สำคัญของก๊าซนี้ก็คือ ไม่มีสี แต่มีกลิ่นเหม็นมาก

/*
การที่ก๊าซนี้เป็นอันตรายต่อชีวิตมนุษย์ก็เพราะว่า เมื่อก๊าซนี้เข้าไปในร่างกายของเราแล้ว มันจะไปรวมตัวตามเส้นเลือด และจะรวมตัวกับฮีโมโกลบิลกับเม็ดเลือดแดง ทำให้ฮีโมโกลบิลไม่สามารถนำก๊าซออกซิเจนไปที่สมองได้ ทำให้เราหมดสติและตายได้ หากไม่มีการพยาบาลให้ทันท่วงที
*/

ก๊าซพิษนี้จะพบมากในบริเวณที่เป็นแหล่งขุดเจาะถ่านหิน หรือควันจากท่อไอเสียรถยนต์หรือเครื่องจักรต่างๆ เป็นต้น \\\"
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14

Uthen

05/10/2009 11:51:40
0
แจ้งความเลยครับ
ขอบคุณครับที่เตือน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15

bankhalkdown

05/10/2009 12:06:58
0
แจ้งความเลยครับ

อย่าอลุ่มอล่วย มันเป็นอันขาด ไม่เกิดกับเราอีกหน่อย

ก็ต้องเกิดกับคนอื่นๆ ครับ สังคมไทยทุกวันนี้เละ

ก็เพราะว่าชอบอลุ่มอล่วยนี่แหละ ทำอะไรไม่จริงจัง

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 16

ก๊วกกี้

05/10/2009 12:32:50
- -\\\'

..
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17

Norn

05/10/2009 14:06:48
0
แจ้งความเลยครับให้ตรวจสอบดู อย่านิ่งนอนใจ คนต่อไปอาจไม่โชคดีอย่างคุณ....
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 18

Hypermale

05/10/2009 15:00:00
อย่าหาว่าผมมาเบรคเลยนะครับ คือเรื่องบางเรื่องที่มันไม่เป็นความจริง พอเราพูดกันมากๆ เชื่อกันมากๆ ในความคิดของทั่วไป มันจะต้องเป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน ซึ่งมันไม่ใช่เลย

มีทั้งการยืนยันจากบรรดา วิสัญญีแพทย์ ต่างๆว่ามันไม่มีตัวยาแบบนี้ให้ใช้กันแน่นอน ตามที่คุณ ก๊วกกี้ ได้เอาลิงค์มาแปะไว้ เนื่องจากมันมีทั้งเรื่องระยะเวลา และปริมาณที่ต้องละเอียดมากเป็นที่หลักมิลลิกรัม จึงไม่มีทางที่ผู้ใช้จะสามารถใช้กับเหยื่อได้อย่างแน่นอน

ซึ่งโดยมากเหยื่อของการตกทองมักจะไม่ยอมบอกว่าตัวเองเป็นเหยื่อจากความโลภแน่นอน
ส่วนการวิงเวียนศรีษะก็เป็นตามที่เรียนมาด้านบนคือผลของคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งสังเกตุง่ายๆคือบางทีเวลาเราขึ้นรถเมล์เรามักจะงีบหลับได้บ่อยๆ

และขอให้พิจารณากันด้วยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 19

So Gallant

05/10/2009 15:21:28
0
ผมสังเกตมาได้หลายเดือนแล้ว เจอแท๊กซี่หลายคันที่ประตูทางขวา (ด้านคนขับ) ตรงเบาะผู้โดยสาร จะเปิดไม่ได้ ไม่รู้ทำไม เคยถามคนขับแล้ว เขาบอกว่ามันเสีย...


แต่กับเรื่องยาอะไรสักอย่างนี่ เกิดขึ้นกับแม่บ้านที่บ้านของผมเอง โดนป้ายเข้าที่ท้ายทอย รู้สึกตัวอีกที สร้อยคอทองคำหายไปแล้ว ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน

แต่ผมอยากจะให้แจ้งความจะดีกว่าครับ เป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ อย่างน้อยที่สุดแท๊กซี่คันนั้นจะได้ปรับปรุงไม่ให้คาร์บอนมอนนอกไซด์ไปรบกวนผู้โดยสารอีก

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 20

ก๊วกกี้

05/10/2009 15:56:37
37


ถ้ามียาอย่างว่า.. ผมเอาไปป้ายเศรษฐีตามห้างหรูๆ จะดีกว่ามั้ยครับ



ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 21

PooM

05/10/2009 18:50:42
เรื่อง ประตูด้านขวาที่ไม่ให้เปิด

เหมือนว่า เขาจะกันไม่ให้ ผู้โดยสาร ขึ้น ลง ฝั่งนั้น

เพราะมันไม่ใช่ ทางเท้า หนะครับ

อันตรายมั๊ง - -
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 22

man

05/10/2009 19:15:05
0
ผมว่าไอ้ยาป้ายอะมีจริงอะครับ แต่ไอ้โปรยใส่แอร์นี่ไม่น่านะครับ
ส่วนไอ้เรื่องCOผมว่าจริงนะครับ รถแก๊สเดี่ยวนี่มันเป็นงี้อะครับ
จากที่นั่งพวกรถตู้ไรงี้ ไม่รู้เหมือนกันอะเปล่า อิอิ
แต่ก็ขอให้ทุกคนระวังตัวนะครับ เดี่ยวนี้สังคมอันตรายๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 23

นายมั่นคง

05/10/2009 21:01:43
0
เอ้า ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม เวลาโดยสารรถสาธารณะ ขอให้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นกันทุกๆๆ คนจ้า ทุกสังคมมีทั้งคนดีและมิจฉาชีพปะปนกันเยอะจนแยกยากจ้า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 24

ping_seksan

05/10/2009 21:33:30
25
ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ที่เล่าให้ฟังนะครับ แฟนผมก็ใช้บริการแท็กซี่บ่อยอยู่เหมือนกัน จะได้ไปเตือนคุณเธอให้รู้จักป้องกันหรือว่าทางที่ดี หลีักเลี่ยงไปเลยก็น่าจะดี
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 25

Square

05/10/2009 22:05:48
มีวิธีแก้ง่ายๆนะ

ขึ้นรถไปก็โทรบอกพ่อแม่พี่น้อง(แกล้งโทรก็ได้) ว่าตอนนี้ขึ้นรถคันนี้ ทะเทียนอะไร สีอะไร คนขับชื่ออะไร

ปลอดภัยขึ้นอีกเยอะ ผมเป็นผู้ชายนั่งดึกๆคนเดียวยังทำเลย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 26

Smart

05/10/2009 22:05:51
0
เวลาที่ขึ้นแท๊กซี่ ถ้าเรามีมือถือติดตัว (เดี๋ยวนี้ก็คงมีกันเกือบทุกคนมั้งครับ) ให้โทรไปหาคนในครอบครัว หรือเพื่อน หรือแฟน บอกทะเบียนรถ สีรถ และบอกว่าเราจะไปไหน พูดให้คนขับได้ยินเลยครับ

ผมเคยแม้กระทั่งพูดอำๆ ไปซะงั้น เพราะปลายทางไม่รับสายเฉยเลย ... น่าจะเป็นอีกทางที่ช่วยได้ไม่มากก็น้อยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 27

Musicogenic51

06/10/2009 02:25:47
4
ไม่ใช่ไม่มีครับ มีครับ

เคยเจอมากับตัวครับ เจอตอนขึ้น taxi ดึกวันหนึ่ง ของผมนี่นั่งหลังซ้าย ขับมาสักครู่จู่ๆคนขับเปิดกระจกฝั่งเขา แล้ว ผมได้กลิ่นอะไรบางอย่าง น่าจะเป็นไอระเหยอะไรบางอย่างครับเหมือนมาจากใต้เบาะหน้า สักครู่ผมรู้สึกมึนงง มือเท้าเปลี้ย เหมือนจะวูบ รู้สึกผิดปกติ ผมรีบเปิดกระจกให้ลมเข้าแล้วหาจุดที่คนมากๆไฟสว่างลง นั่งมึนอยู่หลายนาทีกว่าจะพื้นตัว ไม่ใช่ carbondioxide แน่ครับ

เคยเจอหนึ่งครั้ง แท็กซี่ให้เรารอในรถแล้วเขาไปห้องน้ำ ก่อนหน้านั้นจะมีพฤติกรรมแปลกๆผิดสังเกตุ ระวังเขารมยาเราครับ

กรณีนี้ผู้ชายมีความทนทานในการได้รับสารกว่าหญิงครับ หญิงจึงออกอาการก่อนชายครับ

ผมเป็นคนตัวใหญ่และแข็งแรงไม่เคยเป็นลม ตรวจเช็คร่างกายสม่ำเสมอ เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นลมแค่นั่งรถธรรมดาชั่วครู่เดียวแล้วจะเป็นลม โชดดีที่ไม่โดนรูดทรัพย์ หรือบาดเจ็บ

เล่าให้ฟังเป็นตัวอย่างครับ ว่าอย่าประมาท ผิดปกติอะไรให้ระวังตัวไว้ ทำตามท่านข้างบนพูดก็ดี ขนาดผมเป็นผู้ชายยังโดนเลย แต่โชคดีช่างสังเกตุเลยรอดมาได้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 28

FEWSG89

06/10/2009 02:38:58
0
จะมียาไม่มี ก็ระวังกันละกันครับผม

ใช้วิธีโทรสับ คุยกับเพื่อนหรือที่บ้าน ว่าเอออยู่บน แท็กซี่ ทะเบียน นี่ สีอะไร

ว่ากันไป

ผมฟังมาจากรายการทีวี(ผู้หญิงถึงผู้หญิง) น่ะ

แต่ผมชายเต็มตัวน่ะ ฮ่าๆ

ลองดูครับผม อย่างน้อยทำให้คนขับแท๊กซี่ ที่คิดว่าจะทำ ต่างๆได้ คิดสักหน่อย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 29

เพนกวิน

19/10/2009 15:03:30
ภัยบนรถแท็กซี่ โดนมอมด้วยสเปรย์ยาสลบ

รถคันนี้ทะเบียน ทร-957 หรือ S-957 คนขับไม่รู้ชื่อ เพราะป้ายที่ติดรูปหน้าคนขับหน้ารถกับหน้าคนขับคนนี้ เป็นคนละคนกัน คนขับเป็นผู้ชายอายุประมาณ 40-50 ปี ตัวใหญ่ และอ้วน ไม่ดำ ใส่แว่นสายตาใส
เราทำงานอยู่ในซอยจรัญฯ 13 และเป็นคนหนึ่งที่ใช้บริการรถแท็กซี่เป็นประจำ เพื่อไป-กลับ ที่ทำงานกับบ้าน ซึ่งในการเดินทางจากที่ทำงานและบ้านนั้น จะใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที เป็นอย่างมาก
จนกระทั่งวันที่ 22 กันยายน 2552 เวลาเลิกงาน 4 โมง ครึ่ง เราได้ออกมาเรียกรถแท็กซี่จากหน้าโรงงานเพื่อกลับบ้านตามปกติ ซึ่งทุกครั้งที่จะต้องขึ้นรถกลับบ้าน แฟนจะเป็นคนส่งขึ้นรถกลับบ้านทุกครั้ง เพื่อช่วยดูแท็กซี่ เหมือนช่วยสกรีนความปลอดภัย เพราะเค้าก็ไม่ค่อยไว้วางใจแท็กซี่มากนัก
เมื่อเราเห็นรถแท็กซี่สีฟ้าคันนี้ขับมาช้า ๆ เราเลือกรถคันนี้ เพราะว่าไม่ซิ่งดี น่าจะปลอดภัย เราจึงโบกรถคันนี้ เราขึ้นรถได้สักพัก ระหว่างนั้นเราเห็นคนขับเอามือมาหยิบโน่น หยิบนี่ แถวมิเตอร์ ตอนแรกเราก็ไม่ได้เอะใจอะไรมากนัก สักพักคนขับก็เริ่มพฤติกรรมแบบเดิม เราเริ่มเอะใจ และแกล้งทำเป็นมองที่มิเตอร์เพื่อดูค่าโดยสาร ระหว่างนั้นไอ้คนขับมันคงรู้ตัวว่าเราเริ่มสงสัย มันเปลี่ยนมือไปทำข้างตัวมันด้านขวามือ ซึ่งเรานั่งด้านหลัง ข้างซ้าย และจะมองไม่เห็นแล้วว่ามันทำอะไรอยู่
เราเริ่มไม่ชอบมาพากลแล้ว เราจึงหยิบโทรศัพท์มือถือไว้ในมือ และกดถ่ายวีดีโอไว้ ซึ่งมันไม่รู้หรอกว่าเราได้ถ่ายวีดีโอไว้ เราเริ่มถ่ายทะเบียนรถด้านซ้าย และ รอบ ๆ ในรถไว้ แต่ไม่สามารถมองหน้ามันได้ เห็นแต่ด้านหลัง คนขับตัวใหญ่ และอ้วน ไม่ดำ ใส่แว่นสายตา
และไม่นาน เราเริ่มรู้สึก อึดอัด เหมือนได้กลิ่นแอลกอฮอล์ แต่ก็ไม่แน่ใจว่ากลิ่นมันมาจากไหน ได้กลิ่นถึง 2 ครั้ง เราพยายามปิดจมูก แต่เริ่มรู้สึกหายใจไม่สะดวก คล้าย ๆ เหมือนจะเป็นลม พยายามตั้งสติ พอพ้นแหล่งชุมชนในซอย เข้าเส้นทางหลักแถวถนนราชพฤกษ์ จะมีแต่เลนรถวิ่ง เหมือนว่ามันเร่งยาสลบเพื่อต้องการให้เราหมดสติ หรือหลับเร็วขึ้น เราเริ่มหายใจไม่ออก จึงกดปุ่มข้างซ้ายเพื่อเลื่อนกระจกลง และบอกมันว่าพี่ ๆ ขอเปิดกระจกรถหน่อยนะ เพราะหายใจไม่ออก เมื่อได้อากาศข้างนอกเข้ามาบ้าง ก็พอช่วยให้หายใจออกบ้าง แต่หลังจากนั้นไม่ถึง 2 นาที เราเริ่มชาตั้งแต่ขาขึ้นมาเรื่อย ๆ เหมือนแขนขาไม่มีแรง กำลังจะหมดสติ หรืออาจจะหลับไปในอีกไม่กี่นาที แต่ในใจตอนนั้นคิดแล้วว่าโดนมอมยาด้วยสเปรย์แน่นอน จะกดโทรศัพท์หาแฟน กดโทรศัพท์ไม่ได้แล้ว ไม่มีแรง และมือสั่นไปหมด จึงตัดสินใจช่วงวินาทีนั้นเปิดประตูรถออกไป ขณะรถกำลังวิ่งอยู่ แล้วบอกให้มันจอดรถ ซึ่งมันหันมามองและค่อย ๆ จอดรถข้างทาง เมื่อรถชะลอ เรารีบลงจากรถและชะโงกมองค่าโดยสารที่มิเตอร์ และจ่ายเงินให้มัน 50 บาท ซึ่งมันแค่ 45 บาท มันก็ไม่ทอนด้วย (แต่เราก็ไม่อยากได้แล้ว เงินทอนหน่ะ) และมันก็ไม่พูดอะไรกับเราเลยสักคำ (แล้งน้ำใจมาก) ถ้าเป็นคนขับรถแท็กซี่ที่ปกติดี ไม่มีพฤติกรรมที่น่าสังสัยแบบนี้ เราคิดว่าเค้าน่าจะหันมาถามผู้โดยสารว่า คุณเป็นอะไร ไปโรงพยาบาลมั๊ย แต่นี่เชื่อมั๊ย ว่ามันไม่พูดอะไรกับเราเลย ตั้งแต่เราเปิดกระจกรถลง
จนกระทั่งลงมายืนที่เกาะกลางถนน เมื่อเรายืนพักอยู่ประมาณ 2-3 นาที และตั้งสติได้ ก็ข้ามถนนมาเพื่อโทรศัพท์หาแฟนเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเราให้เค้าฟัง และเมื่อกลับถึงบ้าน เราเล่าให้พี่ที่ทำงานและแม่ฟัง เค้าให้เราโทรหา ร่วมด้วยช่วยกัน และ จส 100 แต่เราโทรติดที่รายการ ร่วมด้วยช่วยกัน เราจึงเล่าเหตุการณ์ให้พี่เค้าฟัง และแจ้งทะเบียนรถที่เราโดยสาร
เรากลัวว่าในวันนั้น มันจะต้องไปทำร้ายกับคนอื่น ด้วยวิธีการที่มันทำกับเราแน่นอน
ในช่วงวินานั้น ถ้าหากเราคิดว่า อีกไม่ถึง 5 นาที ก็จะถึงบ้านเราแล้ว อดทนนิดหนึ่ง เราคงหลับและหมดสติไปแล้ว
จึงขอเตือนภัย ให้เป็นอุทาธรณ์ สำหรับผู้ที่ต้องโดยสารรถแท็กซี่ ให้ระวังตัวด้วยค่ะ เพราะมันเป็นภัยใกล้ตัว ที่เราไม่อาจคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเราเอง

*** เราอยากโพสต์ให้ทุก ๆ คนทราบว่า เรื่องของคุณคมนั้น เรื่องจริง เหมือนเรื่องด้านบนที่เราเจอกับประสบการณ์จริง ซึ่งเราได้ไปหาคุณหมอเพื่อตรวจสารเคมีนี้ แต่เราไปวันรุ่งขึ้น ซึ่งคุณหมอบอกว่าไม่เจอแล้ว เพราะมันเจือจางเร็ว ดังนั้นหากใครเจอเหตุการณ์อย่างนี้อีก ให้จอดตรงคนเยอะ ๆ และล็อคคนขับไว้ แจ้งตำรวจเลย...
แต่อย่างว่าใครไม่เจอสถานการณ์จริง ก้อไม่รู้หรอกว่ามันสับสนและน่ากลัวขนาดไหน ..
ตอบข้อข้องใจ ว่าทำไมคนขับถึงไม่เป็นไร ... เราถามคุณหมอมาแล้ว ซึ่งคุณหมอเป็นคนไขข้อข้องใจให้เราฟังเองว่า แปลกใจไหมว่าทำไมคนขับถึงไม่มีอาการอย่างเรา...เพราะคนขับได้ปิดช่องแอร์ตรงที่เค้านั่ง และนั่งชิดติดพวงมาลัย เพื่อหลีกเลี่ยงการดมสารชนิดนี้ให้มากที่สุด และเปิดกระจกลดลงมานิดนึงเพื่อให้อากาศตรงนั้นมีการไหลเวียน ฉะนั้นผู้โดยสารที่เป็นเหยื่อ ทุกรายจะมีอาการอย่างนี้ ทุกราย
ซึ่งอาการของแฟนคุณคม บอกได้เลยเหมือนเราเลย....

หากใครไม่เชื่อ...ต้องเจอกับตัวเอง...แล้วจะรู้เอง...ว่าเรื่องนี้มีจริง ๆ กับแท็กซี่บางคนที่จิตใจสกปรก

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 30

22

10/01/2010 21:25:48
การป้องกัน
--จดทะเบียนรถ /รหัสข้างรถ /บางคันจะมี รหัสที่กระจก ด้านหลังรถ อันนั้นให้จดด้วย /ดูชื่อให้ดีว่าเป็นแท๊กซี่ขอบริษัท อะไรตรงข้างรถ อย่าเหมารวม เพราะแท๊กซี่มันมีเยอะมากและหลายศูนย์มากเช่นกัน /จำสีรถ/เวลาขึ้น-จากไหน-ไปทีไหน-ถึงกี่โมง/ ถ้าจำรูปร่างหน้าตาได้ก็ดี เพราะบางที รถ 1 คันแต่คนเช่าหลายคน /เวลาโทรแจ้ง อย่าแจ้งที่เดียว แจ้งไปหลายๆศูนย์ เพราะศูนย์ไม่ได้มีที่เดียว
**ข้อข้างบน ต้องจดให้ดี เผื่อ ลืมของได้ด้วย จะทำให้หาง่ายมากขึ้น**
ส่วนอันนี้..กันโดนยาบนรถ...
--ก่อนที่จะขึ้นแท๊กซี่ เตรียมน้ำไปเลย 1 ขวด ถ้ารู้สึกผิดปกติ ให้ค่อยๆจิบน้ำตลอด ((ย้ำ))จิบตลอด.
--เปิดกระจก ให้อากาศถ่ายเท
--บอกให้แท๊กซี่หยุดรถแล้วลง หรือ หาที่มีคนแล้วลงทันที
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
"เตือนภัย ระวังรถแท็กซี่ครับ"