“Better Sound Through Research” นั้นเป็นสโลแกนเก๋ๆ ที่ Bose ใช้มาตลอดเวลานับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทขึ้นมา โดยการนำทัพของ Dr. Amar G. Bose ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่ก่อตั้งแต่แบรนด์นี้หลังจากเรียนจบวิศวะไฟฟ้าล่ะครับ
สำหรับลำโพงของ Bose นั้น แม้ว่าสินค้าบางรุ่นจะจัดอยู่ในระดับ Flag Ship แต่ก็ยังถือว่าเป็นแบรนด์ ที่คนธรรมดาสามารถจับต้องได้อยู่ดีครับ และในปัจจุบันจะเป็นว่า Bose นั้นได้ออกผลิตภัณฑ์ต่างๆ มาตอบสนอง Life Style ทุกประเภท ซึ่ง Soundlink Color เช่นเดียวกัน
“Better Sound Through Research” นั้นเป็นสโลแกนเก๋ๆ ที่ Bose ใช้มาตลอดเวลานับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทขึ้นมา โดยการนำทัพของ Dr. Amar G. Bose ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่ก่อตั้งแต่แบรนด์นี้หลังจากเรียนจบวิศวะไฟฟ้าล่ะครับ
สำหรับลำโพงของ Bose นั้น แม้ว่าสินค้าบางรุ่นจะจัดอยู่ในระดับ Flag Ship แต่ก็ยังถือว่าเป็นแบรนด์ ที่คนธรรมดาสามารถจับต้องได้อยู่ดีครับ และในปัจจุบันจะเป็นว่า Bose นั้นได้ออกผลิตภัณฑ์ต่างๆ มาตอบสนอง Life Style ทุกประเภท ซึ่ง Soundlink Color เช่นเดียวกัน
วัสดุโดยรวมของรุ่นนี้จะแตกต่างจาก Bluetooth Speaker ของ Bose อยู่บ้าง คือจากปกติที่ Bose นั้นจะออกแบบให้ออกมาดูเรียบหรู แต่กับรุ่น Soundlink Color นั้นออกแบบให้เน้นไปทาง Sport นิดๆ
ดังนั้นตัว Body ของ Soundlink Color นั้นส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติก และ เสริมขอบยางรอบด้าน เพื่อให้สามารถหยิบจับได้กระชับมือ ไม่หลุดมือง่ายครับ ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่ Bose เค้าไม่มองข้ามเรื่องนี้ครับ
วัสดุโดยรวมของรุ่นนี้จะแตกต่างจาก Bluetooth Speaker ของ Bose อยู่บ้าง คือจากปกติที่ Bose นั้นจะออกแบบให้ออกมาดูเรียบหรู แต่กับรุ่น Soundlink Color นั้นออกแบบให้เน้นไปทาง Sport นิดๆ
ดังนั้นตัว Body ของ Soundlink Color นั้นส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติก และ เสริมขอบยางรอบด้าน เพื่อให้สามารถหยิบจับได้กระชับมือ ไม่หลุดมือง่ายครับ ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่ Bose เค้าไม่มองข้ามเรื่องนี้ครับ
ปุ่มต่างๆที่ใช้คอนโทรล Bose Soundlink Color จะอยู่บริเวณด้านบนของตัวเครื่องครับ โดยมีทั้งหมด 6 ปุ่มด้วยกัน ซึ่งถ้าสังเกตุดีๆ รุ่นนี้ออกแบบเหมือนกับ Bluetooth Speaker รุ่นอื่นๆ ของ Bose นั่นล่ะครับ ซึ่งจุดนี้ต้องบอกว่าสะดวกสบายมากๆครับ
ซึ่งในส่วนของการเชื่อมต่อ Bluetooth นั้นก็ไม่ยุ่งยากครับ เพราะมีปุ่มเชื่อมต่อมาให้เฉพาะ หรือถ้าต้องการฟังเพลงผ่าน Port aux ก็สามารถทำได้โดยกดปุ่ม aux ได้เช่นกันครับ สะดวกจริงๆนะเออ
ปุ่มต่างๆที่ใช้คอนโทรล Bose Soundlink Color จะอยู่บริเวณด้านบนของตัวเครื่องครับ โดยมีทั้งหมด 6 ปุ่มด้วยกัน ซึ่งถ้าสังเกตุดีๆ รุ่นนี้ออกแบบเหมือนกับ Bluetooth Speaker รุ่นอื่นๆ ของ Bose นั่นล่ะครับ ซึ่งจุดนี้ต้องบอกว่าสะดวกสบายมากๆครับ
ซึ่งในส่วนของการเชื่อมต่อ Bluetooth นั้นก็ไม่ยุ่งยากครับ เพราะมีปุ่มเชื่อมต่อมาให้เฉพาะ หรือถ้าต้องการฟังเพลงผ่าน Port aux ก็สามารถทำได้โดยกดปุ่ม aux ได้เช่นกันครับ สะดวกจริงๆนะเออ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7
The แพะ
31/12/2014 15:55:51
39
นอกจากการเชื่อมแต่แบบ Bluetooth แล้ว Bose Soundlink Color นั้นยังสามารถเชื่อมต่อผ่าน Port aux ได้เช่นกันนะครับ โดย Port นี้จะอยู่บริเวณด้านหลังเครื่องครับ ถัดมาจะเป็น Port แบบ Micro USB ใช้สำหรับชาร์จไฟครับ
นอกจากการเชื่อมแต่แบบ Bluetooth แล้ว Bose Soundlink Color นั้นยังสามารถเชื่อมต่อผ่าน Port aux ได้เช่นกันนะครับ โดย Port นี้จะอยู่บริเวณด้านหลังเครื่องครับ ถัดมาจะเป็น Port แบบ Micro USB ใช้สำหรับชาร์จไฟครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8
The แพะ
31/12/2014 15:58:26
39
ทีเด็ดของรุ่นนี้อีกอย่างคือระบบ Voice Promt นั่นล่ะครับ คือระบบแจ้งเตือน ไม่ว่าจะเป็นการเริ่ม Set up ก่อนเริ่มเล่น หรือบอกระยะเวลาของแบตเตอรี่ครับ ซึ่งเรียนจบมาหลายภาษาด้วยกัน แต่น่าเสียดายที่ภาษาไทยดันเรียนไม่จบครับ ทำให้ระบบไม่รองรับภาษาไทย แต่ไม่ถือว่าเป็นปัญหาครับ เพราะภาษาประกิตสำเนียงของรุ่นนี้ถือว่าฟังได้ง่ายซะกว่า ฟังอาบังว่าวภาษาอังกฤษซะอีก 555
แต่สำหรับ Bose Soundlink Color นั้นเบสจะเก็บตัวได้เร็วกว่าเดิมอีกนิดหน่อยครับ ทำให้ฟังได้สนุกขึ้นนั่นเองครับ ถือว่าสอบผ่านในแง่ของลำโพงที่เน้นฟังแบบ Life Style ได้สบายๆครับ
ย่านแหลมนั้น แม้จะไม่ได้เป็นจุดเด่นนัก แต่ถือว่าทำได้ดีเช่นกันครับ คือมีความต่อเนื่องและรื่นไหลอยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ คือไม่มีอาการสะดุดให้เห็น เพียงแต่ถ้าเป็นเพลงที่เน้นรายละเอียดมากๆเข้ารุ่นนี้ยังเป็นรองรุ่นพี่อย่าง Soundlink mini อยู่ครับ ซึ่งขานั้นผมยกให้เป็นเต็งจ๋าไปแล้ว 555 แต่เมื่อเทียบราคาแล้วถือว่า Soundlink Color สอบผ่านข้อนี้ได้ดีอีกเช่นกัน
แต่สำหรับ Bose Soundlink Color นั้นเบสจะเก็บตัวได้เร็วกว่าเดิมอีกนิดหน่อยครับ ทำให้ฟังได้สนุกขึ้นนั่นเองครับ ถือว่าสอบผ่านในแง่ของลำโพงที่เน้นฟังแบบ Life Style ได้สบายๆครับ
ย่านแหลมนั้น แม้จะไม่ได้เป็นจุดเด่นนัก แต่ถือว่าทำได้ดีเช่นกันครับ คือมีความต่อเนื่องและรื่นไหลอยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ คือไม่มีอาการสะดุดให้เห็น เพียงแต่ถ้าเป็นเพลงที่เน้นรายละเอียดมากๆเข้ารุ่นนี้ยังเป็นรองรุ่นพี่อย่าง Soundlink mini อยู่ครับ ซึ่งขานั้นผมยกให้เป็นเต็งจ๋าไปแล้ว 555 แต่เมื่อเทียบราคาแล้วถือว่า Soundlink Color สอบผ่านข้อนี้ได้ดีอีกเช่นกัน
ส่วนกรณี out door นั้นพยายามวางบนพื้นที่แข็งๆหน่อย จะได้คุณภาพเสียงที่ดีครับ
สำหรับ Bose Soundlink Color นั้นมีวางจำหน่ายที่ร้าน Munkonggadget ทุกสาขา นะคร้าบบบบบบบบบบ
ส่วนกรณี out door นั้นพยายามวางบนพื้นที่แข็งๆหน่อย จะได้คุณภาพเสียงที่ดีครับ
สำหรับ Bose Soundlink Color นั้นมีวางจำหน่ายที่ร้าน Munkonggadget ทุกสาขา นะคร้าบบบบบบบบบบ