ถ้าเดินไฟใหม่ ให้มีกราวน์ได้ทำได้ทำเถอะครับ
ไม่งั้นซื้อพวกเครื่องกรองไฟ/ปลั๊กกรองไฟ มาก็เสียเงินไปฟรีๆ

เผลอๆ ไม่มีกราว์ เวลาเปิดปิดสวิชที่เครื่องกรองไฟ ไฟรั่วจะมาลงที่ตัวถังเครื่องกรอง ระวังโดนไฟดูดนะครับ

แล้วขาปลั๊กอย่าไปหักเลยครับ เสียของขายต่อไม่ได้ได้ราคาครับ

ถ้าคิดจะใช้เครื่องกรองไฟ/ปลั๊กกรองไฟ ต้องมีระบบกราวน์ครับ ระบบถึงจะสมบูรณ์ เพราะไอ้พวกขยะทางไฟฟ้าจะได้มีทางไหลออกลงที่กราวน์ครับ

"แล้วขาปลั๊กอย่าไปหักเลยครับ เสียของขายต่อไม่ได้ได้ราคาครับ" ---> เห็นด้วยครับ

ปล.ถ้ายังไม่สะดวกเดินสายไฟใหม่ ก็ซื้อตัวแปลง 3 ขาเป็น 2 ขา มาใช้พลาง ๆ ไปก่อนครับ

ขอบคุณ คุณ หูทองพ่อง กับคุณ Padungcs มากเลยนะครับ สำหรับคำแนะนำ ผมคงใช้ ตัวแปลงต่อไปก่อน

...
..ขอแก้นิดนึงว่า เร็วๆคุณพ่อผมเพิ่งเดินสายไฟใหม่ไป ห้องอื่นมีกราวน์ เกือบทุกห้องแล้ว แต่ห้องนอนผมที่เป็นห้องเก่า ที่ยังไม่มี กรณีนี้ผมควรทำยังไงดีครับ ถ้าเปลี่ยนแค่ปลั๊กผนังจะได้มั้ยครับ? หรือถ้าเดินสายไฟห้องผมด้วย ยุ่งยากรึเปล่าครับ? = =

แนะนำเป็นเปลี่ยนปลั๊กผนังไปเลยครับ ถ้ายังไม่สะดวกเดินสายใหม่ ก็แค่เปลี่ยนปลั๊กผนังเปน audio ไปก่อนครับ

ถ้าที่บ้านมีกราวน์แล้ว ไม่ยากหล่ะครับ
จั๊มป์สายกราวน์มาที่ห้องนอนได้เลย แล้วใส่ปลั๊กผนังเลือกเอายี่ห้อดีๆ หน่อยครับ อย่างน้อยๆ ก็เอาพานาตัวร้อยกว่าบาท พวกยี่ห้อถูกกว่านี้ไม่ได้เรื่องแล้วครับ

แต่ถ้าจะเอาให้ดี ไหนๆ จะเดินไฟใหม่แล้ว ก็ทำให้มันดีๆ ไปเลยครับ ใช้กันยาวๆ เลยทีเดียวจบครับ


1. แยกเบรกเกอร์ใหม่สำหรับเครื่องเสียงโดยเฉพาะครับ
โดยต่อมาจากเมนเบรกเกอร์ที่บ้านเลย อย่าไปพ่วงกับเบรกเกอร์อื่นๆ ในบ้านครับ
เบรกเกอร์ก็เลือกขนาดสัก 30 แอมป์
ถ้าประหยัดหน่อยก็เป็นเซฟตี้เบรกเกอร์ของพานา ตัวละประมาณ 120-160 แล้วแต่ร้าน
แต่จะให้ดีเพิ่มงบอีกนิดเอาเบรกเกอร์เกรดโรงงานไปเลยครับ ตัวมันจะใหญ่ๆ หน่อย หน้าสัมผัสภายในมันจะเยอะกว่าเบรกเกอร์ทั่วๆไป
พวกยี่ห้อ mitsubishi รุ่น NF63 CV 30a หรือถูกลงมาก็ salzer แบบในรูปนะครับ



2. สายไฟจากเมน์เบรกเกอร์ ไปยังเบรกเกอร์เครื่องเสียง และสายไฟจากเบรกเกอร์เครื่องเสียงไปยังปลั๊กผนัง
ให้ใช้สายไฟเบอร์ vaf 2*6sq ยี่ห้อไทยยาซากิหรือบางกอกเคเบิ้ลครับ เพื่อกำลังไฟที่มาเต็มๆครับ


3. สายกราวน์เราก็เลือกใช้สาย thw 1*4sq ยี่ห้อไทยยาซากิหรือบางกอกเคเบิ้ลครับ แล้วเอาไปจั๊มสายกราวน์เดิมของบ้าน หรือถ้าจะให้ดีก็ตอกแท่งกราวน์ใหม่เลยก็ได้ครับ


4. ปลั๊กปนังเลือกเอายี่แบบเกรดอุตสาหกรรม/โรงพยาบาล เช่น Hubbell HBL8300GY ตัวละ 900 บาท ครับ ถ้าถูกหน่อยก็ของ salzer ครับ หรือย่างน้อยๆ ของพานาก็ยังดีครับ
เลือกจำนวนเต้ารับให้พอดีกับอุปกรณ์เลยครับ อย่างน้อยๆ ก็มีซัก 2 ตัว = เสียบได้ 4 อุปกรณ์
อาจจะเป็นตัวถูกตัวนึง ตัวแพงตัวนึง เป็นต้น

ปลั๊กพ่วงกรองไฟ ก็ขายออกเถอะครับ ทำตามที่ผมบอกแบบนี้เสียงดีกว่าและคุ้มค่าในระยะยาวกว่ากันเยอะ

ลงทุนประมาณ 2000 กว่าบาทก็ได้ระบบไฟดีๆ สำหรับเครื่องเสียงแล้วครับ ใช้กันยาวๆ เลย จะ upgrade อะไรก็เห็นผลแบบชัดเจนครับ

อย่าไปหักครับ เพราะสายที่ติดมากับ Clef เป็นสายขนาดใหญ่ มีคุณภาพดีอยู่แล้ว แต่ไหนๆๆแล้ว ให้ลงทุนเดินสายใหม่และเดินกราวด์มา ใส่ปลั๊กผนังดีๆๆซัก 1-2 ตัว จะต่อพ่วงกันก็ได้ รับรองว่าใช้ได้ยาวๆๆเลยครับ

ขอบคุณมากเลยครับ สำหรับคำแนะนำ T T น่าจะต้องทำอย่างที่ว่าจริงๆ แต่น่าจะต้องศึกษาพอสมควรเลยแหะๆ เพราะผมไม่รู้อะไรด้านนี้เลย ช่วงนี้ก็คงต้องใช้ตัวแปลงไปก่อน 55 .. :)

ที่บ้านผมก็ไม่มีกราวน์ แต่ด้วยความอยากลองเลยซื้อที่กรองไฟมาใส่เหมือนกัน ตอนนั้นบอกเลยว่าเสียง drop ลง ก็ไปเปลี่ยนสายไฟ ปลั๊กโน่นนี่ชดเชยกลับมา แต่มีวันนึงทำน้ำเปียกที่พื้น ขาก็เหยียบอยู่แล้วไปแตะโดนตัวถังปลั๊กกรองไฟ ก็ดูดสิครับ ดีว่าไม่เยอะ จี๊ดๆ เหมือนที่คุณหูทองพ่องบอกเป๊ะ

แต่วันนั้นทำให้เกิดการทดลองเรื่องมีกราวน์กับไม่มีเสียงต่างกันไหม

ของชุดผมไม่มีกราวน์ เสียงมันรู้สึกอุดอู้ๆ ไม่สบายหู แหลมไม่สุด ที่เคยคิดว่าต้องเปลี่ยนสายต่างๆให้ดีขึ้นไปอีก พอลองต่อกราวน์ กลายเป็นสงัดขึ้น เสียงคมชัดขึ้นทันตา เข้าใจเลยที่ท่านที่มีประสบการณ์มาบอกว่าต้องทำเพราะอะไร ไม่งั้นกลายเป็นต้องลงทุนในชิ้นอื่นๆต้องแพงอีกเท่าไหร่เพื่อชดเชยระบบไฟที่ไม่ดี

ไม่งั้นกลายเป็นต้องลงทุนในชิ้นอื่นๆต้องแพงอีกเท่าไหร่เพื่อชดเชยระบบไฟที่ไม่ดี


+++++ HE1000 ++++++
บวกๆๆๆๆ เห็นด้วยจร้า

อยากจะบอกว่าลงทุนกับระบบไฟคุ้มค่าที่สุดครับ ได้ผลในระยะยาวครับ อย่างบ้านผมสร้างบ้านใหม่ต้องลงทุนใหม่หมดเรื่องระบบไฟ หมดตัวก็ว่าได้ แต่สิ่งที่ได้กับมาผมว่าคุ้มครับ เพราะต้องเราใช้ยาวครับ ลงทุนครั้งเดียวจบ ไม่ต้องยุ่งอะไรอีก ชุดผมก็เล็กๆ สายrcaที่ใช้ส่วนใหญ่ก็เป็นสายดีไอวาย ที่ราคาไม่แพงเท่าไร แต่เสียงที่ได้ยินนี้มันต่างกับไฟบ้านหลังเก้่าอย่างเห็นได้ชัดเจนครับ แนะนำว่าแยกเบกเกอร์สำหรับห้องฟังเพลงต่างหากครับ แต่ถ้าไม่สามารถทำได้แบบคห.5ทำแบบผมก้ได้ครับ ใช้เบรกเกอร์ใสเพิ่มใต้ตูเบรกเอร์หลักเพิ่มอีกตัวครับ ใช้ขนาด30แอมป์ ถ้าไม่มีตังก็ใช้ยี่ห้อเดิมที่เคยใช้ครับ ถ้ามีแนะนำซีเมนต์เกนดออดิโอครับ ราคาพันกว่าบาทต่อ1ตัวครับ เบรกย่อยที่ใช้ตามปรกติตัวละ100กว่าบาทครับ แต่ถ้าอยากจัดหนักและมีตังเหลือจัดยี่ห้อABL SURSUMครับ ยี่ห้อเยอรมัน ผลิตที่เยอรมัน เอาตัวที่Cryoนะ เห็นมีหลายโรงงานเอายี่ห้อนี้ไปCryo แล้วแปะสติกเกอร์ว่าCryoมาจากโรงงานไหน มันมีหลายโรงงาน แต่ไม่ว่าโรงงานไหนแพง.....55555 ตัวในภาพ มือ1ขายตัวละ6500บาท แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว เพราะเช็คล่าสุดเวปที่ขายเอาเอาของโรงงานPerFlow Quantum Mechenics มาแทน แต่เบรกก็เป็นABL SURSUMเหมือนเดิม ขายถูกกว่าหน่อย3900ต่อตัว เวปไหนไปหาเอาเอง เดินสายเบอร์6 สายดินเบอร์4 ส่วนปลั๊กไฟแนะนำsalzer ราคาไม่เกิน200บาทต่อตัว แต่ถ้ามีทุนHubbell IG8300 Cryogenicตัวละ1700ครับ อาจถูกกว่านี้แล้วแต่คนขาย แต่ถ้าอยากให้หายข้องใจปลั๊กไฟเกรดออดิโอครับคือคำตอบครับ ห้องผมมีปลั๊กไฟ4ตัวครับมี
1Hubbell IG8300 Cryogenic
2Leviton ไม่ทราบรุ่น
3Shunyata SR-Z1
4furutech GTX-D gold
เสียงไม่เหมือนกันสักด้วยครับ เรียกว่าเกือบจบแล้วครับ ตอนนี้เหลือแค่เปลี่ยนหมายเลข2ก็จบครับ
ปล.ห้องผมใช้2เบรกนะ เบรกแรกใช้กับคอม พัดลม ส่วนนี้ผมใช้กับHubbell IG8300 Cryogenicแล้วต่อปลั๊กพ่วงครับ เบรกตัวนี้ใช้ตัว100กว่าบาทครับ ส่วนที่เหลืออีก3ปลั๊กผมต่อตรงครับทั้งหมดครับ ส่วนนี้ผมใช้เบรกเกอร์ตัวดังภาพละครับ

ผมทำกราวน์เองเลยครับ
โดยใช้สายไฟเศษๆที่เหลือในบ้าน+อแดปเตอร์แปลงจาก3ขาไป2ขา

โดยก่อนเสียบอแดปให้เอาสายไฟมาทำเป็นห่วงวงกลม แล้วคล้องไว้ที่ขากราวน์แอล้วค่อยใส่อแดปเตอร์ทับ มันจะหนีบสายไฟไว้พอดี จากนั้นก็เอาปลายสายไฟอีกข้างหนึงไปแปะกับพื้น โดยใช้แลคซีนแปะไว้ครับ

ผมใช้วิธีนี้แก้ปัญหาไฟดูดจากโน๊ตบุ๊ค แต่ไม่รู้เหมือนกันว่ากรณีอื่นจะช่วยได้มั้ย น่ะครับ