Toggle Dropdown
ค้นหา
ค้นหาชื่อสินค้า
ค้าหารีวิวและบทความ
ค้นหาโปรโมชั่น
ค้นหาฟีดข่าว
ค้นหาไฮไลท์
TH
EN
หน้าแรก
สินค้า
เว็บบอร์ด
เกี่ยวกับเรา
สาขา
วิธีชำระเงิน
ติดต่อเรา
Guest
อีเมล์ / ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
ลืมรหัสผ่าน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
หรือ
ค้นหาโดย Google
ค้นหาทุกคำ
ค้นหาชื่อกระทู้
ค้นหาชื่อผู้ตั้งกระทู้
เว็บบอร์ดจับฉ่าย
หูฟังมือสอง
ซื้อขายจิปาถะ
รีวิวและบทความ
กระทู้เฮีย
คลับ
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย
ช่องทางการติดต่ออื่น
All
5
10
15
ราคา ของระบบ ที่ดี
Shared
ติดตามกระทู้นี้
แจ้งลบ
chinwgb
03/07/2015 09:01:08
ทุกท่านคิดว่าราคา ของระบบที่ดี ที่จะเล่นหูฟังระดับ mid-end ไปจนถึง high-end ได้ดีมีประสิทธิภาพ ควรอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1
tangkoo.
03/07/2015 09:49:45
ส่วนตัวผมว่าโจทย์กว้างมากครับ
ขึ้นอยู่กับหูฟัง+source+DAC-AMP+สายสัญาณต่างๆ
แต่สำคัญสุดน่าจะอยู่ที่ การแมทชิ่งกันมากกว่าครับ ถ้าแมทกันดีๆบางทีไม่เกินครึ่งแสน ก็ได้mid-end ดีๆ ใช้ยาวๆ ได้ชุดนึงแล้วครับ
ส่วนตัวผมว่าโจทย์กว้างมากครับ
ขึ้นอยู่กับหูฟัง+source+DAC-AMP+สายสัญาณต่างๆ
แต่สำคัญสุดน่าจะอยู่ที่ การแมทชิ่งกันมากกว่าครับ ถ้าแมทกันดีๆบางทีไม่เกินครึ่งแสน ก็ได้mid-end ดีๆ ใช้ยาวๆ ได้ชุดนึงแล้วครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2
TBJTBT
03/07/2015 16:20:40
0
คำว่าระบบที่ดี มันเป็น subjective ครับ
ดีของแต่ละคนมันไม่เท่ากัน และไม่เหมือนกัน
เพื่อนๆผมหูฟัง+Dac+Amp+สายต่างๆ 2-3 หมื่น มันก็ Happy สุดๆ บอกว่าดีแล้ว พอใจ ณ จุดนี้
เมื่อก่อนตัวผมเองใช้หูตัวละ 8-9 พัน DAC/Amp หลักพัน ก็ว่ามันแหล่มแล้ว
ผ่านไปซักพัก ไปซื้อหูราคาหลักหมื่น + DAC/Amp หลักหมื่น + สายอีกหลายพัน ก็ว่าเฮ้ยมันดีกว่าชุดเดิม
ตอนนี้เปลี่ยนไปใช้หู planar magnetic รวมทั้ง system หลักแสนก็รู้สึกว่ามันดีขึ้นไปอีก
จนต้องมาคิดว่า เท่าไหร่ถึงจะพอหว่า ดีแล้ว ก็ว่ามีดีกว่ามาเพิ่มเรื่อยๆ
ล่าสุดคุณหลุยส์เอา HE6 มาให้ลอง ฟัง 5 นาที ถอดคืนเลย กลัวเสียตังค์
ไม่ได้กลัวค่าหูฟังนะ กลัวค่าแอมป์กับสายมากกว่า
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
กลับมาที่คำถามว่า....
ราคาของระบบที่ดี ที่จะเล่นหูฟังระดับ mid-end ไปจนถึง high-end ได้ดีมีประสิทธิภาพ ควรอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่
ระดับ Hi-End มีล้านนึงก็ไม่จบครับ ขอตอบระดับ Mid-End ละกัน เพราะผมคงอยู่แค่ตรงนี้
ราคากลางๆที่จะเล่น Mid-End ให้ ok น่าจะอยู่ที่ประมาณ 150,000 - 200,000 บาทครับ
หูฟัง 3x,xxx บาท
แอมป์ 3x,xxx บาท
DAC/Player 3x,xxx บาท
สาย Upgrade หูฟัง + สาย RCA + สาย USB 4x,xxx บาท
ระบบไฟต่างๆ สาย Power Cord, กรองไฟ, ปลั๊กผนัง 3x,xxx บาท
ปล. ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆเลย
คำว่าระบบที่ดี มันเป็น subjective ครับ
ดีของแต่ละคนมันไม่เท่ากัน และไม่เหมือนกัน
เพื่อนๆผมหูฟัง+Dac+Amp+สายต่างๆ 2-3 หมื่น มันก็ Happy สุดๆ บอกว่าดีแล้ว พอใจ ณ จุดนี้
เมื่อก่อนตัวผมเองใช้หูตัวละ 8-9 พัน DAC/Amp หลักพัน ก็ว่ามันแหล่มแล้ว
ผ่านไปซักพัก ไปซื้อหูราคาหลักหมื่น + DAC/Amp หลักหมื่น + สายอีกหลายพัน ก็ว่าเฮ้ยมันดีกว่าชุดเดิม
ตอนนี้เปลี่ยนไปใช้หู planar magnetic รวมทั้ง system หลักแสนก็รู้สึกว่ามันดีขึ้นไปอีก
จนต้องมาคิดว่า เท่าไหร่ถึงจะพอหว่า ดีแล้ว ก็ว่ามีดีกว่ามาเพิ่มเรื่อยๆ
ล่าสุดคุณหลุยส์เอา HE6 มาให้ลอง ฟัง 5 นาที ถอดคืนเลย กลัวเสียตังค์
ไม่ได้กลัวค่าหูฟังนะ กลัวค่าแอมป์กับสายมากกว่า
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
กลับมาที่คำถามว่า....
ราคาของระบบที่ดี ที่จะเล่นหูฟังระดับ mid-end ไปจนถึง high-end ได้ดีมีประสิทธิภาพ ควรอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่
ระดับ Hi-End มีล้านนึงก็ไม่จบครับ ขอตอบระดับ Mid-End ละกัน เพราะผมคงอยู่แค่ตรงนี้
ราคากลางๆที่จะเล่น Mid-End ให้ ok น่าจะอยู่ที่ประมาณ 150,000 - 200,000 บาทครับ
หูฟัง 3x,xxx บาท
แอมป์ 3x,xxx บาท
DAC/Player 3x,xxx บาท
สาย Upgrade หูฟัง + สาย RCA + สาย USB 4x,xxx บาท
ระบบไฟต่างๆ สาย Power Cord, กรองไฟ, ปลั๊กผนัง 3x,xxx บาท
ปล. ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆเลย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3
more
03/07/2015 16:28:22
0
high-end นี่คงไม่จำกัดเลยครับ DAC ตัวเป็นสิบล้านก็มีขาย
ส่วน Mid end ในความคิดผมน่าจะราวๆ 100k-500k อะครับ แพงกว่านี้น่าจะเปน hi end น้อยๆแล้ว
ส่วนชุดส่วนตัวผมก็ He6 ครับ ชอบตัวนี้จริงๆ ส่วนราคาระบบนี้ไม่อยากนับเลยเห็นตัวเลขแล้วใจมันหายๆ ไงไม่รู้ ว่าเราจัดไปเยอะจัง น่าจะเรียกว่าเป็น mid end ได้
high-end นี่คงไม่จำกัดเลยครับ DAC ตัวเป็นสิบล้านก็มีขาย
ส่วน Mid end ในความคิดผมน่าจะราวๆ 100k-500k อะครับ แพงกว่านี้น่าจะเปน hi end น้อยๆแล้ว
ส่วนชุดส่วนตัวผมก็ He6 ครับ ชอบตัวนี้จริงๆ ส่วนราคาระบบนี้ไม่อยากนับเลยเห็นตัวเลขแล้วใจมันหายๆ ไงไม่รู้ ว่าเราจัดไปเยอะจัง น่าจะเรียกว่าเป็น mid end ได้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4
Hsung
03/07/2015 18:32:20
346
ใช่ครับ ยิ่งพูดยิ่งเศร้า สองปีที่แล้ว ยังเล่นแค่ SR60 + DAC-amp DAC zero เอง
ตอนนี้ เอ่อ พูดไม่ออก เลยหลักหมื่นไปไกลแล้ว....ฮือ ฮือ ฮือ ..
ใช่ครับ ยิ่งพูดยิ่งเศร้า สองปีที่แล้ว ยังเล่นแค่ SR60 + DAC-amp DAC zero เอง
ตอนนี้ เอ่อ พูดไม่ออก เลยหลักหมื่นไปไกลแล้ว....ฮือ ฮือ ฮือ ..
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5
Ace of Hearts
03/07/2015 18:58:29
6
เฉพาะฟังด้วยหูฟังเบื้องคงต้องแบ่งเป็น portable กะ desktop ก่อน
ถ้าเอาเสียงที่ได้จากระบบ ราคามีส่วนเยอะ งบประมาณที่ลงทุนไปมากเท่าไหร่ ก็ยังไม่ใช่ตัวกำหนดชี้วัดว่า เสียงที่ได้ คือระดับ ไฮเอนด์ แล้ว เสียงต้องถึงระดับแค่ไหน ถึงจะถือว่าเข้าชั้นไฮเอนด์? คงจะต้องมีการสร้างมาตรฐาน เกณฑ์วัดที่เป็นที่ยอมรับกัน ทุกวันนี้ก็มีหลายเจ้า หลายสำนัก พยายามจัด โดยการรีวิวส์ น่าสนใจครับ เราจะได้รู้ว่า ระบบที่แมทช์ชิ่งกันแล้วต้นทุนต่ำสุด ที่เข้าขั้น ไฮเอ็นด์ มีตัวไหนบ้าง อิ ๆ
ยกเว้นมองแบบการตลาด คือเรนจ์สินค้าชนิดนี้ ช่วงราคานี้ คือผู้บริโภค ตลาดล่าง กลาง บน ก็ง่ายครับ
เฉพาะฟังด้วยหูฟังเบื้องคงต้องแบ่งเป็น portable กะ desktop ก่อน
ถ้าเอาเสียงที่ได้จากระบบ ราคามีส่วนเยอะ งบประมาณที่ลงทุนไปมากเท่าไหร่ ก็ยังไม่ใช่ตัวกำหนดชี้วัดว่า เสียงที่ได้ คือระดับ ไฮเอนด์ แล้ว เสียงต้องถึงระดับแค่ไหน ถึงจะถือว่าเข้าชั้นไฮเอนด์? คงจะต้องมีการสร้างมาตรฐาน เกณฑ์วัดที่เป็นที่ยอมรับกัน ทุกวันนี้ก็มีหลายเจ้า หลายสำนัก พยายามจัด โดยการรีวิวส์ น่าสนใจครับ เราจะได้รู้ว่า ระบบที่แมทช์ชิ่งกันแล้วต้นทุนต่ำสุด ที่เข้าขั้น ไฮเอ็นด์ มีตัวไหนบ้าง อิ ๆ
ยกเว้นมองแบบการตลาด คือเรนจ์สินค้าชนิดนี้ ช่วงราคานี้ คือผู้บริโภค ตลาดล่าง กลาง บน ก็ง่ายครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6
bookzadx
03/07/2015 19:22:59
8
คิดถึงสมัยเริ่มเล่นใหม่ๆ re02+classic80gb ผมว่ามันสุดยอดมากๆ
หลายปีผ่านไปก็อ่านรีวิวไปคันไปเปลี่ยนชุดไปเรื่อยๆ
มันไม่จบหรอกครับ เอาจริงๆถ้ายังเข้าเว็บนี้อยู่
ระบบที่มี ผมคิดว่ามันhi-endสำหรับผมแล้วครับ ถึงราคามันจะlow-endในสายตาคนอื่น
คุณตามหาเสียงที่ชอบ เสียงที่ใช่ หรือ ตามหาระบบที่ดีและราคาสูง
คิดถึงสมัยเริ่มเล่นใหม่ๆ re02+classic80gb ผมว่ามันสุดยอดมากๆ
หลายปีผ่านไปก็อ่านรีวิวไปคันไปเปลี่ยนชุดไปเรื่อยๆ
มันไม่จบหรอกครับ เอาจริงๆถ้ายังเข้าเว็บนี้อยู่
ระบบที่มี ผมคิดว่ามันhi-endสำหรับผมแล้วครับ ถึงราคามันจะlow-endในสายตาคนอื่น
คุณตามหาเสียงที่ชอบ เสียงที่ใช่ หรือ ตามหาระบบที่ดีและราคาสูง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7
เชื่อกรู
03/07/2015 19:35:13
ถ้ามันจบง่ายๆ ร้านเฮียมั่นคง ไม่อยู่มาได้นานขนาดนี้หรอก
เล่นไปเรื่อยๆเหนื่อยก็พัก แล้วมาเล่นใหม่นะพี่น้องงงง
ถ้ามันจบง่ายๆ ร้านเฮียมั่นคง ไม่อยู่มาได้นานขนาดนี้หรอก
เล่นไปเรื่อยๆเหนื่อยก็พัก แล้วมาเล่นใหม่นะพี่น้องงงง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8
chinwgb
03/07/2015 22:10:48
กระทู้นี้ผมตั้งมา ลองสอบถามความเห็นหน่ะครับ เพราะเห็นว่าหลายครั้งที่มีการพูดคุยสอบถามกันในบอร์ด เกี่ยวกับ หูฟัง อย่างเช่น hd800 hd650 ms pro akg701 rs1 ก็มักจะไปเข้าเรื่องว่า หูฟังไม่เท่าไหร่แต่ระบบที่ใช้ร่วมนี่น่าจะต้องดีระดับนึง หรือต้องดีมากๆ ถึงจะทำให้ตัวหูฟังแสดงศักยภาพได้เต็มที่อย่างที่มันควรจะทำได้ ก็เลยอยากลองสอบถาม ดูว่า ระบบดีๆที่ใช้กับหูพวกนี้ มันน่าจะราคาซักเท่าไหร่หน่ะครับ
กระทู้นี้ผมตั้งมา ลองสอบถามความเห็นหน่ะครับ เพราะเห็นว่าหลายครั้งที่มีการพูดคุยสอบถามกันในบอร์ด เกี่ยวกับ หูฟัง อย่างเช่น hd800 hd650 ms pro akg701 rs1 ก็มักจะไปเข้าเรื่องว่า หูฟังไม่เท่าไหร่แต่ระบบที่ใช้ร่วมนี่น่าจะต้องดีระดับนึง หรือต้องดีมากๆ ถึงจะทำให้ตัวหูฟังแสดงศักยภาพได้เต็มที่อย่างที่มันควรจะทำได้ ก็เลยอยากลองสอบถาม ดูว่า ระบบดีๆที่ใช้กับหูพวกนี้ มันน่าจะราคาซักเท่าไหร่หน่ะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9
Hsung
06/07/2015 13:51:29
346
ผมว่าขึ้นอยู่ที่ความพอใจของแต่ละคนครับ มันเลยกำหนดตายตัวไม่ได้
อีกอย่างขอทราบนิยามของระบบด้วยครับ หมายถึงอุปกรณ์อะไรบ้าง
ถ้าหมายถึงทุกอย่างตั้งแต่สายหูฟังจนถึงสาย USB ต่อเข้าคอม
สำหรับชุดผมแล้วก็ประมาณ 3 เท่าของราคาหูฟังครับ
ผมว่าขึ้นอยู่ที่ความพอใจของแต่ละคนครับ มันเลยกำหนดตายตัวไม่ได้
อีกอย่างขอทราบนิยามของระบบด้วยครับ หมายถึงอุปกรณ์อะไรบ้าง
ถ้าหมายถึงทุกอย่างตั้งแต่สายหูฟังจนถึงสาย USB ต่อเข้าคอม
สำหรับชุดผมแล้วก็ประมาณ 3 เท่าของราคาหูฟังครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10
more
06/07/2015 16:49:08
0
ระบบของเครื่องเสียงนั้นมีมานานกว่าหูฟังมาก เพราะฉะนั้นอุปกรณนั้นจะมีให้เลือกได้หลากหลายมากๆครับ อย่างหูฟัง ถ้าระดับราคา 40k-50k ก็ได้รุน top ของแต่ละค่ายแล้ว แต่ระบบเครื่องเสียงนั้นไม่ไช่
บางทีสายสัญญาณ มีถึงเส้นเป็นแสนๆ สายไฟเส้นเป็นแสน ถ้าจะเอาแค่ดีตามหลักการก็แค่เปลี่ยนสายพวกนั้นให้อย่างน้อยตัวนำใหญ่ๆ เกรดทองแดงๆดีๆ มีการป้องกันสัญญาณรบกวน ซึ่งถ้าเอาแค่นี้สายไฟเส้นละ 3-4 พันก็มีคุณสมบัตนี้แล้วครับ แต่คนเราเมื่อได้ลองแล้วดีขึ้นๆก็อยากลอง รุ่นแพงไปเรื่อยๆ
สำหรับผมถ้าระบบดีๆ ผมว่า DAC AMP ซัก สามหมื่น สายสัญญาณซักห้าพัน usb ห้าพัน กรองไฟซักสามพัน สายไฟอีกเส้นละ ห้าพัน สายหูฟังประมาณหมื่นนึงแล้วก็เดินระบบไฟฟ้าใหม่หมดให้สายซักเบอร์ 6 แค่นี้ผมว่าก็เรียกได้ว่าเป็นระบบที่ดีทางเทคนิคแล้ว ส่วนชอบเสียงรึเปล่าอันนี้ไม่รู้
ส่วนถ้าลองไปเรื่อยๆมันจะหยุดไม่อยู่ ตอนนี้ชุดผมน่าจะเลยหูไป 8 -9 เท่าแล้ว
ระบบของเครื่องเสียงนั้นมีมานานกว่าหูฟังมาก เพราะฉะนั้นอุปกรณนั้นจะมีให้เลือกได้หลากหลายมากๆครับ อย่างหูฟัง ถ้าระดับราคา 40k-50k ก็ได้รุน top ของแต่ละค่ายแล้ว แต่ระบบเครื่องเสียงนั้นไม่ไช่
บางทีสายสัญญาณ มีถึงเส้นเป็นแสนๆ สายไฟเส้นเป็นแสน ถ้าจะเอาแค่ดีตามหลักการก็แค่เปลี่ยนสายพวกนั้นให้อย่างน้อยตัวนำใหญ่ๆ เกรดทองแดงๆดีๆ มีการป้องกันสัญญาณรบกวน ซึ่งถ้าเอาแค่นี้สายไฟเส้นละ 3-4 พันก็มีคุณสมบัตนี้แล้วครับ แต่คนเราเมื่อได้ลองแล้วดีขึ้นๆก็อยากลอง รุ่นแพงไปเรื่อยๆ
สำหรับผมถ้าระบบดีๆ ผมว่า DAC AMP ซัก สามหมื่น สายสัญญาณซักห้าพัน usb ห้าพัน กรองไฟซักสามพัน สายไฟอีกเส้นละ ห้าพัน สายหูฟังประมาณหมื่นนึงแล้วก็เดินระบบไฟฟ้าใหม่หมดให้สายซักเบอร์ 6 แค่นี้ผมว่าก็เรียกได้ว่าเป็นระบบที่ดีทางเทคนิคแล้ว ส่วนชอบเสียงรึเปล่าอันนี้ไม่รู้
ส่วนถ้าลองไปเรื่อยๆมันจะหยุดไม่อยู่ ตอนนี้ชุดผมน่าจะเลยหูไป 8 -9 เท่าแล้ว
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11
bigtoro1
07/07/2015 01:00:51
68
ความเห็นส่วนตัวครับ เนื่องด้วยชุดที่ใช้หลักประจำตอนนี้มันชุดโลโซครับ และคงจบที่ชุดนี้ละครับ เพราะคงขยับมากกว่านี้ไม่ได้มากนะ คงได้อีกนิดหน่อยครับ ชุดผมประกอบด้วยหูฟัง-แอมป์หูฟัง-สายRCA-สายไฟ เซ็ตนี้ราวๆ5หมื่น ชุดเหลักนะ ไม่รวมอุปกรณ์เสริมที่ต้องใช้ร่วมนะรวมถึงเครื่องเล่นที่มีทั้งหมดนะ รวมถึงระบบไฟที่ผมทำเฉพาะห้องผมห้องเดียวทั้งเบรกเกอร์ ปลั๊กไฟ เพราะถ้ารวมทั้งระบบจริงๆนั่งคิดดู ผมทเริ่มต้นจากms-1+cd walkman เซ็ตนี้ราว6000
เมื่อ7ปีที่แล้วนะ ปัจจุบันผมเต็มระบบแล้วละ ขาดแค่DACตัวเดียว ก็นั่งคิดอยู่ทุกวันตอนเจอของราคาดีๆที่ห้องมือ2หรือมีของออกใหม่ที่ราคาไม่แพงว่าจะซื้อดีไมหนอเพราะผมใช้แอมป์หูฟังเป็นหลัก เอาว่าเต็มระบบของผมถ้ารวมทุกอย่างขุดหลัก-อุปกรณ์เสริมที่ต้องใช่-เครื่องเล่น-ระบบไฟที่ทำเฉพาะ แสนหนึ่งน่าจะได้นะนี้ ส่วนตัวผมว่าระบบไฟสำคัญที่สุดในระบบครับก่อนจะอัพอย่างอื่น ผมว่าทำระบบไฟให้ดีก่อนดีหรือเปล่า ใช้สายไฟซักเบอร์ 6ตามคนข้างบนบอก หาเบรกเกอร์ดีๆสักตัว ถ้ามีเงินก็จัดแบบออดิโอเกรดสักตัวจบ หาปลั๊กไฟดี แล้วแต่งบ แล้วเดินสายเลย อย่างน้อยน่าจะได้สัก3ปลั๊ก โดยส่วนนี้ใช้แต่กับชุดฟังเพลงอย่างเดียวนะ น่าจะเห็นผลแล้วคุ้มกว่าในระยะยาวนะ ส่วนหูฟังแอมป์หรือสายก็แล้วแต่งบที่คุณมีครับ ที่คุณสามารถจ่ายไหวครับ ที่ผมบอกจ่ายไหว เนื่องด้วยแต่ละคนมีความสามารถในการจ่ายไม่เท่ากัน งานนี้มันต้องถามตัวคุณเองละครับว่าจ่ายไหวแค่ไหนครับ สำหรับผมแล้วเดินทางมาไกลกว่าที่คิดครับ เรื่องแอมป์กับหูฟังผมจบแล้วครับ เหลือแต่สายRCAครับ เนื่องด้วยผมต้องใช้หลายเส้นครับ สายที่มีอยู่ตอนนี้บางเส้นมันแม็ตกับแอมป์ตัวเก่าครับ พอเปลี่ยนแอมป์เหมือนมันไม่ค่อยเข้ากันครับ นอกจากนั้นยังมีเรื่องDACที่ยังต้องคิดต่อไปครับ
ตอนนี้ผมลองเอาเครื่องเล่นcdแบบวินเทจยี่ห้อซันซุยต่ิอเข้ากับภาคขยายของคอมโปยี่ห้อTECHNICS โดยใช้สายไฟแถมนะ ส่วยสายrcaก็เป็นสายd.i.yราคาไม่กี่ร้อยบาท
ส่วนหูฟังgrado ps-500 บอกได้แค่ว่าเสียงไม่ธรรมดานะ ถ้าไม่นับหูฟัง เครื่อง+คอมโป+สายrca ราคาไม่ถึง5000 แต่เสียงที่ได้ยินมันเกินค่าตัวไปเยอะเลยนะ ดังนั้นความเห็นส่วนตัวครับ ทำระบบไฟพื้นฐานให้ดีก่อนครับ อย่างอื่นจะดีตามมาครับ ชุดที่คุณพอใจอาจไม่ต้องจ่ายเยอะก็ได้ครับ สำหรับผมแล้วพอใจสุดๆครับ เรียกว่าหายข้องใจเลยครับ อาจอัพอีกเล็กน้อยครับ แต่รวมๆก็จบแล้วครับชุดหลักที่ใช้ฟังเพลงของผมครับ ตอนนี้เรียกได้ว่าผมฟังเพลงด้วยความสบายใจและหมดห่วงครับ เพราะมันคงอัพไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วครับ เรียกว่าถึงขีดจำกัดสำหรับผมแล้วครับ ที่เหลือคงเป็นการปรับปรุงเล็กๆน้อยๆ เติมสิ่งที่ผมคิดว่ายังขาดหายไปครับ
ความเห็นส่วนตัวครับ เนื่องด้วยชุดที่ใช้หลักประจำตอนนี้มันชุดโลโซครับ และคงจบที่ชุดนี้ละครับ เพราะคงขยับมากกว่านี้ไม่ได้มากนะ คงได้อีกนิดหน่อยครับ ชุดผมประกอบด้วยหูฟัง-แอมป์หูฟัง-สายRCA-สายไฟ เซ็ตนี้ราวๆ5หมื่น ชุดเหลักนะ ไม่รวมอุปกรณ์เสริมที่ต้องใช้ร่วมนะรวมถึงเครื่องเล่นที่มีทั้งหมดนะ รวมถึงระบบไฟที่ผมทำเฉพาะห้องผมห้องเดียวทั้งเบรกเกอร์ ปลั๊กไฟ เพราะถ้ารวมทั้งระบบจริงๆนั่งคิดดู ผมทเริ่มต้นจากms-1+cd walkman เซ็ตนี้ราว6000
เมื่อ7ปีที่แล้วนะ ปัจจุบันผมเต็มระบบแล้วละ ขาดแค่DACตัวเดียว ก็นั่งคิดอยู่ทุกวันตอนเจอของราคาดีๆที่ห้องมือ2หรือมีของออกใหม่ที่ราคาไม่แพงว่าจะซื้อดีไมหนอเพราะผมใช้แอมป์หูฟังเป็นหลัก เอาว่าเต็มระบบของผมถ้ารวมทุกอย่างขุดหลัก-อุปกรณ์เสริมที่ต้องใช่-เครื่องเล่น-ระบบไฟที่ทำเฉพาะ แสนหนึ่งน่าจะได้นะนี้ ส่วนตัวผมว่าระบบไฟสำคัญที่สุดในระบบครับก่อนจะอัพอย่างอื่น ผมว่าทำระบบไฟให้ดีก่อนดีหรือเปล่า ใช้สายไฟซักเบอร์ 6ตามคนข้างบนบอก หาเบรกเกอร์ดีๆสักตัว ถ้ามีเงินก็จัดแบบออดิโอเกรดสักตัวจบ หาปลั๊กไฟดี แล้วแต่งบ แล้วเดินสายเลย อย่างน้อยน่าจะได้สัก3ปลั๊ก โดยส่วนนี้ใช้แต่กับชุดฟังเพลงอย่างเดียวนะ น่าจะเห็นผลแล้วคุ้มกว่าในระยะยาวนะ ส่วนหูฟังแอมป์หรือสายก็แล้วแต่งบที่คุณมีครับ ที่คุณสามารถจ่ายไหวครับ ที่ผมบอกจ่ายไหว เนื่องด้วยแต่ละคนมีความสามารถในการจ่ายไม่เท่ากัน งานนี้มันต้องถามตัวคุณเองละครับว่าจ่ายไหวแค่ไหนครับ สำหรับผมแล้วเดินทางมาไกลกว่าที่คิดครับ เรื่องแอมป์กับหูฟังผมจบแล้วครับ เหลือแต่สายRCAครับ เนื่องด้วยผมต้องใช้หลายเส้นครับ สายที่มีอยู่ตอนนี้บางเส้นมันแม็ตกับแอมป์ตัวเก่าครับ พอเปลี่ยนแอมป์เหมือนมันไม่ค่อยเข้ากันครับ นอกจากนั้นยังมีเรื่องDACที่ยังต้องคิดต่อไปครับ
ตอนนี้ผมลองเอาเครื่องเล่นcdแบบวินเทจยี่ห้อซันซุยต่ิอเข้ากับภาคขยายของคอมโปยี่ห้อTECHNICS โดยใช้สายไฟแถมนะ ส่วยสายrcaก็เป็นสายd.i.yราคาไม่กี่ร้อยบาท
ส่วนหูฟังgrado ps-500 บอกได้แค่ว่าเสียงไม่ธรรมดานะ ถ้าไม่นับหูฟัง เครื่อง+คอมโป+สายrca ราคาไม่ถึง5000 แต่เสียงที่ได้ยินมันเกินค่าตัวไปเยอะเลยนะ ดังนั้นความเห็นส่วนตัวครับ ทำระบบไฟพื้นฐานให้ดีก่อนครับ อย่างอื่นจะดีตามมาครับ ชุดที่คุณพอใจอาจไม่ต้องจ่ายเยอะก็ได้ครับ สำหรับผมแล้วพอใจสุดๆครับ เรียกว่าหายข้องใจเลยครับ อาจอัพอีกเล็กน้อยครับ แต่รวมๆก็จบแล้วครับชุดหลักที่ใช้ฟังเพลงของผมครับ ตอนนี้เรียกได้ว่าผมฟังเพลงด้วยความสบายใจและหมดห่วงครับ เพราะมันคงอัพไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วครับ เรียกว่าถึงขีดจำกัดสำหรับผมแล้วครับ ที่เหลือคงเป็นการปรับปรุงเล็กๆน้อยๆ เติมสิ่งที่ผมคิดว่ายังขาดหายไปครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12
hvk
08/07/2015 00:44:39
ผมว่าแบ่งแบบ mid-fi กับ hi-fi จะเข้าท่ากว่านะครับ เพราะในตลาดตอนนี้มีเครื่องเสียงหลายชิ้นราคา hi-end ทว่าคุณภาพ mid-fi ครับ สำหรับผม mid-fi คือระบบที่ให้โทนเหมือนดนตรีสดได้ครับ ส่วน hi-fi คือเหมือนมีดนตรีสดพร้อมบรรยากาศครับ
สำหรับ mid-fi ผมว่าพวก Dac 4-50,000 ผสมกับแอมป์หูฟัง 4-50,000 ก็ถือว่าจบได้เลยครับ สายสัญญานสำหรับระดับนี้ ราวๆ 8,000-13,000 กำลังเหมาะสมครับ พวก 4-5 พันซื้อมามันไม่ได้ดีกว่าสายแถมสักเท่าไหร่ครับ ดีกว่าก็ดีกว่าแบบนิดหน่อย ไม่ได้แตกต่างมากมาย รอซื้อพวก 8-13,000 ไปเลยคุ้มค่่ากว่าครับ รวมๆก็แสนต้นๆ ให้คุณภาพได้เหมือนฟังดนตรีสดเล่นรอบหัวแล้วครับ พวกน้ำหนัก โฟกัส มิติโฟกัสนิ่ง โทนนัลสมจริงไม่มีย่านไหนนำ จังหวะตรงตามจริง ช้าได้ เร็วได้ ควมคุมทุกอย่างได้อย่างสมจริง ฟังได้ทุกแนว
ส่วน hi-fi นี้ต้องจ่ายอีกเยอะครับ เช่น Dac 50,000 ขึ้น แต่สำหรับผม ในราคาระดับนี้ผมให้คะแนน dac ต่ำสุดเพราะส่วนต่างของ Dac 50,000 กับ 50,000 อัพ นั้นน้อยลงมากกว่าช่วงราคาของระดับ mid-fi ครับ ตรงนี้แอมป์ต้องใช้ระดับพวก 80,000 อัพครับ สำหรับแอมป์หูฟัง เช่นพวก Bakoon, Ear HP4, Cary 300 SEI, Luxman P1u/P700, Vioelectric v281, Cavali Liquid สายสัญญาน ก็ระดับพวก 15k-25k ครับ ชุดพวกนี้ให้ทุกอย่างได้แบบ mid-fi ฟังเผินๆไม่ต่างเท่าไหร่ แต่ฟังดีๆเนื้อเสียงจะเปิดขึ้น ทว่าเนื้อกลับเนี่ยนขึ้้น สูง กลาม ต่ำ มีน้ำหนัก กลม ประกายฉ่ำ สมจริงขึ้นอีกระดับ โฟกัส ช่องไฟ มิติ นิ่งแปรเปลี่ยนไปตามเพลงที่อัด ราวกับว่าชุดที่ใช้ไม่มีขอบจำกัดครับ จริงๆ Hi-fi ต่างจาก Mid-fi ที่ refinement เป็นหลักๆครับ
ส่วนพวก entry-level ส่วนใหญ่ผมว่ามันจะออกแนวเด่นอย่างด้อยอย่างครับ เช่นเบสกระชับทิ่งตัวดี ลึก โทนัลสมดุลย์ แต่เนื้อเสียงกลับไม่เปิดกลมหมน ดันอู้อีๆมีสากเสี้ยนซะงั้น หรือไม่ก็กลางแหลมสดเด่น แต่ปลายแข็ง ฟังเหมือนตะมีรายละเอียแต่ทว่าเอาเข้าจริงๆมันขึ้นขอบ แนวๆนี้หละครับ คือฟังเผผินๆมันก็ฟังได้ แต่พอตั้งใจฟังแบบเอาจริงเอาจังมันก็มีอะไรให้ติไปหมด เสียงมันไม่สมจริงแบบสองชุดด้านบนครับ มีขาดเกินๆ
ข้างบนนี้คร่าวๆในความเห็นของผมนะครับ สำคัญที่สุดคือการเลือกของมาเข้าชุดครับ สมัยนี้มีหลายๆญี่ห้อราคา hi-fi แต่เสียง entry level หรือมีราคา entry level เสียง hi-fi ปนๆกันไปเกลือนในตลาดครับ ต้องเลือกให้เป็น คนเลือกเป็น ใช้งบประมาณได้คุ้มค่าและไปถึงจุด Hi-fi ได้เร็วครับ ถ้าเลือกไม่เป็น จ่ายราคา summit-fi แต่เสียงที่ได้ เป็น entry level ก็มีเยอะแยะครับ สำคัญที่สุดห้ามหลอกตัวเองครับ ต้องยอมรับชุดเราขาดเหลืออะไรและให้แก้ให้ตรงจุดครับ ส่วนใหญ่สมัยนี้ชอบบอกว่าชอบกันรสนิยมส่วนตัวอย่างงู้นอย่างงี้ สำคัญต้องรู้จักเสียงสมจริงเหมือนดนตรีสดก่อนครับ แล้วค่อยมาแต่งเติมให้เป็นแนวทางที่ตัวเองชอบอีกที เล่นได้แบบนี้ก็จูนเสียงได้ทุกชุดทุกยุคทุกที่ครับ ไม่มีโดนหลอก มันก้เหมือนคนวาดภาพครับ ศิลปินต้องหัดเบสิกวาดให้สมจริงก่อน แล้วค่อยใส่ซิกเนเจอร์ตัวเองลงไป ไม่ใช่วาดจับฉ่ายแล้วบอกว่าติส แบบนี้เรียกไร้แนวทาง เรียกว่าเลอะเทอะครับ จุดนี้แหละครับเป็นจุดอ่อนที่สมัยนี้หลายๆญี่ห้อผุดสู่ตลาดแล้วขายได้เป็นจำนวนมากโดยอาศัยทัศนคติแนวๆนี้ของกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ครับ
ผมยกตัวอย่างนะครับ สมมุติผมตั้งงบไว้ 100,000 บวกลบ โจทย์ของผม ผมเอาเสียงเหมือนดนตรีสดแต่ผมขอ color ให้มันมีความผ่อนคลายบ้าง ในงบนี้ผมขอ Hifiman He500 ใช้กับ Burson soloist ใช้ DAC Nad d1050 ใช้สายไฟ audioquest nrg x2/3 สายสัญญาน audioquest diamondback สาย usb ก็ใช้ audioquest cinamon ตรงนี้ผมจูนเอามาให้มันมีโทนแบบดนตรีสดที่ผมบอก ผสมความผ่อนคลายยนิดๆ ก็ถือว่าจบหละครับ
ถ้าผมไปเลือก He6 ผมจะต้องเอาแอมป์กำลังเยอะ โอมห์ต่ำ คุณภาพดี มาขับ ซึ่งต้องใช้ bryston เป็นขั้นต่ำ ซึ่งรวมๆกันทำให้ผมเหลืองบกับ dac และสายสัญญานต่างๆน้อยมาก ดังนั้นในเคสนี้ เลือกแบบแรก ให้เสียงตรงโจทย์ของผมมากกว่าครับ แม้ว่า component หลักๆอย่างหูฟัง อาจจะเป็นตัวรอง flagship ครับ
กับโจทย์เดียวกัน ถ้าผมฟังไม่เป็น ผมอาจจะไปมั่วเอา fostex th600 แอมป์ audio gd reference 10 แบบมี dac ในตัว สาย nordorst blue heaven ยกเช็ท ซึ่งรวมๆจากการแมทย์ชิ่งให้เสียงสดคมขึ้นขอบเกินจริง แม้รายละเอียดจะให้ได้ในระดับสุดยอด ถ้าฟังเป็นต้องบอกว่าชุดนี้เสียงผิดปรกติไม่สมดุลย์ลงตัว แต่ผมก็หลอกตัวเองว่ามันดี รายละเอียดยยิ่งเยอะยิ่งดี โดยไม่สนใจความจริง แถมเสิรมประเด็นด้วยว่านี่ก็เชทราคาเรือนแสนเหมือนกัน ต้องดีเหมือนชุดแรกสิ
ถ้าลองเปิดใจอ่านๆเคสที่ผมยกมาคร่าวๆ จะเข้าใจดีครับ ว่าควรจะหยุดตรงไหน และเลือกชุดแบบไหนจะทำให้ชุดของคุณ เป็นชุดที่ดีได้
ผมว่าแบ่งแบบ mid-fi กับ hi-fi จะเข้าท่ากว่านะครับ เพราะในตลาดตอนนี้มีเครื่องเสียงหลายชิ้นราคา hi-end ทว่าคุณภาพ mid-fi ครับ สำหรับผม mid-fi คือระบบที่ให้โทนเหมือนดนตรีสดได้ครับ ส่วน hi-fi คือเหมือนมีดนตรีสดพร้อมบรรยากาศครับ
สำหรับ mid-fi ผมว่าพวก Dac 4-50,000 ผสมกับแอมป์หูฟัง 4-50,000 ก็ถือว่าจบได้เลยครับ สายสัญญานสำหรับระดับนี้ ราวๆ 8,000-13,000 กำลังเหมาะสมครับ พวก 4-5 พันซื้อมามันไม่ได้ดีกว่าสายแถมสักเท่าไหร่ครับ ดีกว่าก็ดีกว่าแบบนิดหน่อย ไม่ได้แตกต่างมากมาย รอซื้อพวก 8-13,000 ไปเลยคุ้มค่่ากว่าครับ รวมๆก็แสนต้นๆ ให้คุณภาพได้เหมือนฟังดนตรีสดเล่นรอบหัวแล้วครับ พวกน้ำหนัก โฟกัส มิติโฟกัสนิ่ง โทนนัลสมจริงไม่มีย่านไหนนำ จังหวะตรงตามจริง ช้าได้ เร็วได้ ควมคุมทุกอย่างได้อย่างสมจริง ฟังได้ทุกแนว
ส่วน hi-fi นี้ต้องจ่ายอีกเยอะครับ เช่น Dac 50,000 ขึ้น แต่สำหรับผม ในราคาระดับนี้ผมให้คะแนน dac ต่ำสุดเพราะส่วนต่างของ Dac 50,000 กับ 50,000 อัพ นั้นน้อยลงมากกว่าช่วงราคาของระดับ mid-fi ครับ ตรงนี้แอมป์ต้องใช้ระดับพวก 80,000 อัพครับ สำหรับแอมป์หูฟัง เช่นพวก Bakoon, Ear HP4, Cary 300 SEI, Luxman P1u/P700, Vioelectric v281, Cavali Liquid สายสัญญาน ก็ระดับพวก 15k-25k ครับ ชุดพวกนี้ให้ทุกอย่างได้แบบ mid-fi ฟังเผินๆไม่ต่างเท่าไหร่ แต่ฟังดีๆเนื้อเสียงจะเปิดขึ้น ทว่าเนื้อกลับเนี่ยนขึ้้น สูง กลาม ต่ำ มีน้ำหนัก กลม ประกายฉ่ำ สมจริงขึ้นอีกระดับ โฟกัส ช่องไฟ มิติ นิ่งแปรเปลี่ยนไปตามเพลงที่อัด ราวกับว่าชุดที่ใช้ไม่มีขอบจำกัดครับ จริงๆ Hi-fi ต่างจาก Mid-fi ที่ refinement เป็นหลักๆครับ
ส่วนพวก entry-level ส่วนใหญ่ผมว่ามันจะออกแนวเด่นอย่างด้อยอย่างครับ เช่นเบสกระชับทิ่งตัวดี ลึก โทนัลสมดุลย์ แต่เนื้อเสียงกลับไม่เปิดกลมหมน ดันอู้อีๆมีสากเสี้ยนซะงั้น หรือไม่ก็กลางแหลมสดเด่น แต่ปลายแข็ง ฟังเหมือนตะมีรายละเอียแต่ทว่าเอาเข้าจริงๆมันขึ้นขอบ แนวๆนี้หละครับ คือฟังเผผินๆมันก็ฟังได้ แต่พอตั้งใจฟังแบบเอาจริงเอาจังมันก็มีอะไรให้ติไปหมด เสียงมันไม่สมจริงแบบสองชุดด้านบนครับ มีขาดเกินๆ
ข้างบนนี้คร่าวๆในความเห็นของผมนะครับ สำคัญที่สุดคือการเลือกของมาเข้าชุดครับ สมัยนี้มีหลายๆญี่ห้อราคา hi-fi แต่เสียง entry level หรือมีราคา entry level เสียง hi-fi ปนๆกันไปเกลือนในตลาดครับ ต้องเลือกให้เป็น คนเลือกเป็น ใช้งบประมาณได้คุ้มค่าและไปถึงจุด Hi-fi ได้เร็วครับ ถ้าเลือกไม่เป็น จ่ายราคา summit-fi แต่เสียงที่ได้ เป็น entry level ก็มีเยอะแยะครับ สำคัญที่สุดห้ามหลอกตัวเองครับ ต้องยอมรับชุดเราขาดเหลืออะไรและให้แก้ให้ตรงจุดครับ ส่วนใหญ่สมัยนี้ชอบบอกว่าชอบกันรสนิยมส่วนตัวอย่างงู้นอย่างงี้ สำคัญต้องรู้จักเสียงสมจริงเหมือนดนตรีสดก่อนครับ แล้วค่อยมาแต่งเติมให้เป็นแนวทางที่ตัวเองชอบอีกที เล่นได้แบบนี้ก็จูนเสียงได้ทุกชุดทุกยุคทุกที่ครับ ไม่มีโดนหลอก มันก้เหมือนคนวาดภาพครับ ศิลปินต้องหัดเบสิกวาดให้สมจริงก่อน แล้วค่อยใส่ซิกเนเจอร์ตัวเองลงไป ไม่ใช่วาดจับฉ่ายแล้วบอกว่าติส แบบนี้เรียกไร้แนวทาง เรียกว่าเลอะเทอะครับ จุดนี้แหละครับเป็นจุดอ่อนที่สมัยนี้หลายๆญี่ห้อผุดสู่ตลาดแล้วขายได้เป็นจำนวนมากโดยอาศัยทัศนคติแนวๆนี้ของกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ครับ
ผมยกตัวอย่างนะครับ สมมุติผมตั้งงบไว้ 100,000 บวกลบ โจทย์ของผม ผมเอาเสียงเหมือนดนตรีสดแต่ผมขอ color ให้มันมีความผ่อนคลายบ้าง ในงบนี้ผมขอ Hifiman He500 ใช้กับ Burson soloist ใช้ DAC Nad d1050 ใช้สายไฟ audioquest nrg x2/3 สายสัญญาน audioquest diamondback สาย usb ก็ใช้ audioquest cinamon ตรงนี้ผมจูนเอามาให้มันมีโทนแบบดนตรีสดที่ผมบอก ผสมความผ่อนคลายยนิดๆ ก็ถือว่าจบหละครับ
ถ้าผมไปเลือก He6 ผมจะต้องเอาแอมป์กำลังเยอะ โอมห์ต่ำ คุณภาพดี มาขับ ซึ่งต้องใช้ bryston เป็นขั้นต่ำ ซึ่งรวมๆกันทำให้ผมเหลืองบกับ dac และสายสัญญานต่างๆน้อยมาก ดังนั้นในเคสนี้ เลือกแบบแรก ให้เสียงตรงโจทย์ของผมมากกว่าครับ แม้ว่า component หลักๆอย่างหูฟัง อาจจะเป็นตัวรอง flagship ครับ
กับโจทย์เดียวกัน ถ้าผมฟังไม่เป็น ผมอาจจะไปมั่วเอา fostex th600 แอมป์ audio gd reference 10 แบบมี dac ในตัว สาย nordorst blue heaven ยกเช็ท ซึ่งรวมๆจากการแมทย์ชิ่งให้เสียงสดคมขึ้นขอบเกินจริง แม้รายละเอียดจะให้ได้ในระดับสุดยอด ถ้าฟังเป็นต้องบอกว่าชุดนี้เสียงผิดปรกติไม่สมดุลย์ลงตัว แต่ผมก็หลอกตัวเองว่ามันดี รายละเอียดยยิ่งเยอะยิ่งดี โดยไม่สนใจความจริง แถมเสิรมประเด็นด้วยว่านี่ก็เชทราคาเรือนแสนเหมือนกัน ต้องดีเหมือนชุดแรกสิ
ถ้าลองเปิดใจอ่านๆเคสที่ผมยกมาคร่าวๆ จะเข้าใจดีครับ ว่าควรจะหยุดตรงไหน และเลือกชุดแบบไหนจะทำให้ชุดของคุณ เป็นชุดที่ดีได้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13
hvk
08/07/2015 00:51:46
11
หรือถ้าผมจะจูนด้วย fostex th600 ผมอาจจะเลือก Woo audio wa7 ผสมกับสาย Transparent หรือ Cardas เสริมเสียงกลางกับแหลมให้เนี่ยนเปิดขึ้น ลดอาการขึ้นขอบ เมื่อรวมกับแอมป์หลอด woo wa7 ที่ให้สปีดที่ถือว่าเร็วสำหรับหลอด พร้อมกับความนุ่มโปร่งกังวาลของหลด เสริมกันก็จะได้ชุดที่มีแรงประทะแน่น ลึก แหลมมีประกาย กลางอิ่ม ฟังเพลินสมจริง ให้ผลลัพท์คล้ายๆชุดแรก ลงตัวเหมือนกัน แต่แน่นอนครับมีรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกันบ้าง เช่นระบบเปิดบรรยากาศจะโปร่งโล่งกว่า ระบบปิดเบสจะทิ่งตัวได้ลึกและมีน้ำหนักกว่า แต่รวมๆฟังเพลินโทนแบบเครื่องดนตรีจริงครับ บรรยากาศอาจจะต่างกันเหมือนฟังแจ๊สในร้านอาหาร กับ แจ๊สในห้องอัด เป็นต้นครับ
หรือถ้าผมจะจูนด้วย fostex th600 ผมอาจจะเลือก Woo audio wa7 ผสมกับสาย Transparent หรือ Cardas เสริมเสียงกลางกับแหลมให้เนี่ยนเปิดขึ้น ลดอาการขึ้นขอบ เมื่อรวมกับแอมป์หลอด woo wa7 ที่ให้สปีดที่ถือว่าเร็วสำหรับหลอด พร้อมกับความนุ่มโปร่งกังวาลของหลด เสริมกันก็จะได้ชุดที่มีแรงประทะแน่น ลึก แหลมมีประกาย กลางอิ่ม ฟังเพลินสมจริง ให้ผลลัพท์คล้ายๆชุดแรก ลงตัวเหมือนกัน แต่แน่นอนครับมีรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกันบ้าง เช่นระบบเปิดบรรยากาศจะโปร่งโล่งกว่า ระบบปิดเบสจะทิ่งตัวได้ลึกและมีน้ำหนักกว่า แต่รวมๆฟังเพลินโทนแบบเครื่องดนตรีจริงครับ บรรยากาศอาจจะต่างกันเหมือนฟังแจ๊สในร้านอาหาร กับ แจ๊สในห้องอัด เป็นต้นครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14
chinwgb
08/07/2015 15:41:00
เท่าที่อ่านความเห็นของแต่ละท่านมา ส่วนใหญ่ถ้าเป็นเครื่องเสียงสมัยนี้ ระบบที่เรียกได้ว่าดี น่าจะ มีใกล้ๆแสน หรือ แสนกว่าๆ ระบบในที่นี้ ไม่รวมตัวหูฟังนะครับ
ส่วนเรื่องการ matching นั้นผมขอมองเป็นอีกเรื่องแล้วกันนะครับ เหมือนคนชอบรสชาติอาหารต่างกัน
แต่ผมคิดว่า ถ้ามีงบให้ แสนห้า กับ ห้าหมื่น ผมก็มีความเชื่อว่า เสียงของระบบแสนห้าจะต้องรีดเร้นหูฟังระดับอ้างอิงได้ดีกว่า ระบบห้าหมื่นแน่ๆคับ 55555
เท่าที่อ่านความเห็นของแต่ละท่านมา ส่วนใหญ่ถ้าเป็นเครื่องเสียงสมัยนี้ ระบบที่เรียกได้ว่าดี น่าจะ มีใกล้ๆแสน หรือ แสนกว่าๆ ระบบในที่นี้ ไม่รวมตัวหูฟังนะครับ
ส่วนเรื่องการ matching นั้นผมขอมองเป็นอีกเรื่องแล้วกันนะครับ เหมือนคนชอบรสชาติอาหารต่างกัน
แต่ผมคิดว่า ถ้ามีงบให้ แสนห้า กับ ห้าหมื่น ผมก็มีความเชื่อว่า เสียงของระบบแสนห้าจะต้องรีดเร้นหูฟังระดับอ้างอิงได้ดีกว่า ระบบห้าหมื่นแน่ๆคับ 55555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ตอบกระทู้ :
"ราคา ของระบบ ที่ดี"
รายละเอียด :
ชื่อ :
รหัสความปลอดภัย :
ตกลง
ตั้งค่าใหม่
แจกหูพิเศษ :
แจ้งลบกระทู้ / ข้อความ
สาเหตุ :
โพสที่แจ้งลบ
แจ้งโดย
เหตุที่แจ้ง
สถานะ