สวัสดีครับ เนื่องจากผมนั้นเป็นคนที่ชอบฟังเพลง เป็นอย่างมาก และ เป็นคนนึงที่ชอบสะสมหูฟังเป็นชีวิตจิตใจ โดยหูฟังที่ผมสะสมนั้น จะมีแต่ in ear และ full sized เอียร์บัดคู่ใจผมตอนนี้คือ Pk2 ส่วน Full Sized นั้นเป็น AKg k271 mk II ปกติผมเป็นคนชอบฟังเพลงสบายๆ พวก pop acoustic jazz blues ไม่ใช่พวกหูเหล็กเท่าไร ศิลปินที่ชอบเป็นพิเศษ คือ ETC, Jetset'er, Groove Riders พวกนั้นครับ และเนื่องด้วยผมเบื่อในหน้าตาของเจ้า pk2 ผมจึงเสาะหา เอียร์บัดไปเรื่อย จนกระทั่งมาเจอเจ้า Mrice/Baldoor E100 ที่พวกฝรั่งเขาร่ำลือกันเหลือเกิน หนักหนา ไม่ว่าจะเป็น Head-fi.org, headphonelist และอีกมากมาย ครับ
ตัวหูฟังนั้นมีสองสี ดำและแดง สายสีแดง ตัวสายมีลักษณะเป็นทรง Prism ทำให้มันไม่พันกันง่าย ตัวหูฟังนั้นทำจากพลาสติกดำ มีสีแดงขุดเป็นหลุมลงไป และ มีตัวหนังสือบอก ซ้าย ขวา ตามปกติ ตรงตัวแยกเป็นพลาสติกดำเขียนชื่อรุ่นว่า E100 ตรงแจ๊คก็เช่นกัน เป็นพลาสติกด้านนึงเขียนว่า Baldoor อีกด้านเขียนว่า Mrice ส่วนของแถมในตัวกล่องนั้นมีแค่ ฟองน้ำ แบบธรรมดากับแบบเจาะรู เหมือน Yuin เลย โดยรวมมันเป็นหูฟังตัวนึงที่สวยใช้ได้เลยครับ สีแดงสดดี พลาสติกก็ดูแข็งแรงใช้ได้
มาถึงสิ่งสำคัญที่ทุกคนรอคอย ผมขอออกตัวก่อนนะครับว่าผมไม่ได้หูทองอะไรมากมายนะครับ 555 นั่นคือเสียงนั่นเองครับ ในการฟังเพลงรีวิวครั้งนี้ผมใช้ คอมต่อ ไฟล์ที่เล่นใช้จาก CD แผ่นแท้หมดครับ หูฟังตัวนี้ก่อนฟังผมได้เบิร์นไป 150 ชม ครับ ในการรีวิว ผมขอใช้ Pk2 เป็นตัวเทียบนะครับ
เสียงเบส: ตัวผมเป็นคนไม่ชอบหูฟังเบส ทะลวงโลก บวมๆ กระแทกๆ อยู่แล้ว โดยเบสของ Mrice E100 เป็นเบสที่สะอาด มีหัวโน้ต เก็บตัวเร็ว ในส่วนของ Deep Bass มีน้อยไปหน่อย โดยเบสใน E100 นั้นเป็นลูกเล็กกว่า pk2
เสียงกลาง: เสียงกลางนั้นจะหนากว่า pk2 มีความหวาน sweet vocal อืมมม... ฟัง Olivia Ong นี่เคลิ้มเลยละครับ เสียงสแนร์นี่ ฟังแล้วมันโป๊ะๆนุ่มๆดีมากครับ
เสียงแหลม: หูฟังตัวนี้มีเสียงแหลมที่คล้ายๆ Pk2 แหลมละเอียด ทอดไปได้ไกล แต่ผมชอบแหลม pk2 มากกว่า
Soundstage: soundstage ตัวนี้กว้างพอสมควรเลย ชิ้นดนตรีใหญ่กว้า Pk2 ฟังแล้วมีความเป็น 3D
โดยรวม
หูฟังตัวนี้มีเสียงที่ค่อนข้าง Bright รายละเอียดดี เบสมีหัวโน้ตมาให้สัมผัส การแยกชิ้นดนตรีทำได้เฉียบขาด แต่ทาง impact ของเครื่องดนตรี จะน้อยกว่า pk2 สักหน่อย แต่มีซาวด์ที่หนากว่า หวานกว่า เสียงแหลม ฟังแล้วกรุ๊งกริ๊งใช้ได้ครับ กับราคา 13 ปอนด์ ผมว่ามันคุ้มค่ามากๆกับเงินที่เสียไปครับ ถ้าจับคู่แอมป์ดีๆผมว่าไปได้ไกลครับ ตัวนี้ผมให้เป็นรอง Pk2 นิดหน่อยครับ เพราะผมว่า pk2 พริ้วไหวกว่าครับ (คหสต.) แต่หน้าตาผมให้ตัวนี้ชนะขาดครับ
ข้อดี
- เสียงเพราะมาก ทั้งโปร่ง ทั้งมีมิติ เสียงกลางแหลมดี เบสสะอาด เทียบกับค่าตัว ถือว่าคุ้มมาก
- ดีไซน์สวย
- สายไม่พันกันง่าย และ แข็งแรงดี
ข้อเสีย
- อาจใหญ่ไปสำหรับหูบางคน ทำให้หลุดง่าย
- การเก็บเสียงไม่ดีเท่า In-ear