1. เพื่อให้ไฟไหลผ่านวงจรต่างๆ แรกๆ วงจรและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตา่งๆกระแสจะเดินไม่ค่อยสะดวก พอเรา burn มันจนเข้าที่ทำให้เครื่องสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่2. บางทีก็เป็นคำปลอบใจสำหรับคนที่ซื้อของมาแล้วไม่ถูกใจ ก็มักจะพูดว่ายังไม่พ้นเบิร์น ซึ่งจริงๆ แล้วถ้าเสียงมันไม่ถูกใจยังไงต่อให้พ้นเบริ์นมันก็ยังไม่ใช่อยู่ดี

ตาม REP บนเลย คับ ขนาด รถยนต์ ยังต้อง BURN เครื่อง ก่อนใช้งานไปเรื่อยๆ เลยคับ ประสิทธิภาพรถยนต์ ถึง จะ เข้าที่ได้เต็ม 100%

เครื่องเล่นนี่ตัวดีเลยครับ เป็นอุปกรณ์ที่มีชิ้นส่วนอีเล็คโทรนิคมากมายมาประกอบการ เส้นทางไหลของกระแสเต็มไปหมด ยิ่งต้องการการเบิร์นที่เหมาะสมเช่นกันครับ วิธีง่ายๆ ก็คือเปิดฟังไปพร้อมๆๆกับหูฟังนั่นแหละครับถือว่าเบิร์นได้เช่นกันครับ 555

จุกโฟมยังต้องเบินเลยครับ ไม่งั้นเสียงมันจะแข๊งๆ

จุดประสงค์ของการเบิร์น(Burn)เครื่องเล่น
เนื่องจากเครื่องฯที่เพิ่งผลิตออกมาขายใหม่ๆ สายไฟและแผงวง
จรที่เป็นเส้นทางเดินของกระแสไฟฟ้า การจัดเรียงโมเลกุลของ
สายไฟยังเปะปะไม่เป็นระเบียบ ทำให้เกิดความต้านทานสูง
มีผลกับคุณภาพเสียง พอเราเบิร์นหรือเปิดเล่นไปเรื่อยๆ การจัด
เรียงโมเลกุลของสายไฟหรือทางเดินของกระแสไฟจะเริ่มเป็นระเบียบ เข้าที่เข้าทางแล้ว ความต้านทานของกระแสไฟจะลด
ลง เป็นผลให้กระแสสัญญาณเสียงเดินได้Smoothและฉับไว
ขึ้น เสียงเพลงจากเครื่องเล่นจึงมีความไพเราะและสมจริงเหมือน
ต้นฉบับที่บันทึกมา

ขอบคุณความเห็น 4 ครับ ปกติไม่ชอบใช้จุกโฟม เลยไม่มีข้อมูลตรงนี้เลย

ผมว่าซื้อมาก็เปิดฟังๆไปตามปกตินั่นแหละครับ
ไม่ต้องไปซีเรียสเรื่องการเบิร์นมาก
ฟังไปนานๆแล้วเสียงดีขึ้น ก็นึกซะว่าเป็นสิ่งที่มาทดแทนค่าเสื่อมของสินค้าที่ซื้อมาแล้วกันครับ
คิดแบบนี้แล้วสบายใจดี