ลำโพงแบบ ACTIVE หรือลำโพงที่มีภาคแอมป์ในตัว สังเกตง่ายๆว่าจะต้องมีการเสียบปลั๊กไฟในการใช้งานครับ ซึ่งลำโพงแบบนี้จะมีการฟังภาคแอมป์ใส่เข้าไปในลำโพงพร้อมใช้งานเลย โดยแต่ละค่ายนั้นก็จะทำภาคแอมป์ขึ้นมาใช้ขับลำโพงของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นวงจรแอมป์แบบ Class AB หรือ Class D และเป็นแบบแอมป์ 2ch ธรรมดาหรือ Bi-Amp ก็จะเรียกเป็น ACTIVE Speaker ทั้งหมดครับ และวงจรตัดแบ่งความถี่เสียง หรือ Crossover Network ที่แบ่งหน้าที่การทำงานของเสียงต่ำ และเสียงสูง สามารถเลือกใช้ได้ทั้งแบบวงจร Passive และ Active ครับ
ข้อดีของลำโพงแบบ ACTIVE คือ สามารถใช้งานได้ง่าย เพียงเสียบปลั๊กต่อเครื่องเล่นเพลง ก็ใช้งานได้แล้ว และการจูนเสียงระหว่างภาคแอมป์และลำโพงในตัวนั้น จะ Matching มาจากโรงงานผู้ออกแบบเลย ซึ่งแน่นอนว่าลำโพงตัวนี้ได้ใช้ภาคแอมป์ที่เหมาะสมกับดอกลำโพงของเค้าแน่ๆ แถมสามารถใส่ฟังก์ชั่นอื่นๆไปในลำโพงได้ อย่างเช่น DAC หรือ Bluetooth เป็นต้น
ลำโพงแบบ ACTIVE หรือลำโพงที่มีภาคแอมป์ในตัว สังเกตง่ายๆว่าจะต้องมีการเสียบปลั๊กไฟในการใช้งานครับ ซึ่งลำโพงแบบนี้จะมีการฟังภาคแอมป์ใส่เข้าไปในลำโพงพร้อมใช้งานเลย โดยแต่ละค่ายนั้นก็จะทำภาคแอมป์ขึ้นมาใช้ขับลำโพงของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นวงจรแอมป์แบบ Class AB หรือ Class D และเป็นแบบแอมป์ 2ch ธรรมดาหรือ Bi-Amp ก็จะเรียกเป็น ACTIVE Speaker ทั้งหมดครับ และวงจรตัดแบ่งความถี่เสียง หรือ Crossover Network ที่แบ่งหน้าที่การทำงานของเสียงต่ำ และเสียงสูง สามารถเลือกใช้ได้ทั้งแบบวงจร Passive และ Active ครับ
ข้อดีของลำโพงแบบ ACTIVE คือ สามารถใช้งานได้ง่าย เพียงเสียบปลั๊กต่อเครื่องเล่นเพลง ก็ใช้งานได้แล้ว และการจูนเสียงระหว่างภาคแอมป์และลำโพงในตัวนั้น จะ Matching มาจากโรงงานผู้ออกแบบเลย ซึ่งแน่นอนว่าลำโพงตัวนี้ได้ใช้ภาคแอมป์ที่เหมาะสมกับดอกลำโพงของเค้าแน่ๆ แถมสามารถใส่ฟังก์ชั่นอื่นๆไปในลำโพงได้ อย่างเช่น DAC หรือ Bluetooth เป็นต้น