ผมขอเล่าประสบการณ์ของตัวเองนะครับ ผมเคยเล่นหูฟังตั้งแต่ สองพันกว่า จนถึงหมืนกว่าบาท ผมพบอยู่เรื่องนึงก็คือ เสียงที่ดี กับ เสียงที่ชอบมันต่างกันครับ ถ้าฟังจากที่รีวิว แล้วจินตนาการเอง รับรองว่าได้เสียงที่ไม่เหมือนความจริงแน่นอนครับ

การที่ผมได้ฟังหูฟังหลายๆชนิด และการได้ฟังเพลงไปด้วย อย่างน้อยที่สุดเราจะรู้รสนิยม ของตัวเองนะครับ สำหรับผม การหาหูฟังที่ดีที่สุด คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเพลงที่ฟัง ก็มีความหลากหลาย ทั้งในแง่ของ วิธีการเล่น หรือแม้แต่วิธีการบันทึก หรือ คุณภาพของfile เพลง

หูฟังบางตัว อาจไม่ดีสำหรับหลายๆคน แต่อาจให้ความสุขกับตัวเราได้ครับ ดังนั้นตั้งงบประมาณเลยครับ แล้วค่อยๆฟัง จากราคาต่ำสุดที่เราตั้งไว้ในใจ และที่สำคัญผมเชื่อว่า คุณJookkk คงมีความคิดในใจแล้วว่า หูฟังตัวใหม่อยากได้คาแรคเตอร์ อะไรเพิ่มเติม ค่อยๆฟัง แล้วก็ค่อยเลือกครับ ถ้าไม่ใช่ อยากไปเลือกครับ

อันนี้แนะนำเพิ่มนะครับ การซื้อหูฟังมือหนึ่ง ข้อดีคือการได้ลองฟังนานๆครับ การซื้อมือสอง คงจะไม่ได้ลองฟังเปรียบเทียบ ครับ เสียงอาจจะแตกต่างจากเดิม แต่ไม่ได้หมายความว่า เราจะชอบมันจริงๆ ครับ

อย่างผมเอง ก็เคยลองฟัง Shure 215 , Shure315 อย่างกรณีนี้ ผมพบว่าเสียงของ 315ดีกว่าจริงๆครับ แต่ผมชอบ 215 มากกว่าครับ แต่ทดลองฟังยาวๆแล้ว ก็พบว่า ผมไม่ชอบทั้งสองตัวแหละครับ หึหึ

หวังว่าคงมีประโยชน์บ้างนะครับ

ผมขอเล่าประสบการณ์ของตัวเองนะครับ ผมเคยเล่นหูฟังตั้งแต่ สองพันกว่า จนถึงหมืนกว่าบาท ผมพบอยู่เรื่องนึงก็คือ เสียงที่ดี กับ เสียงที่ชอบมันต่างกันครับ ถ้าฟังจากที่รีวิว แล้วจินตนาการเอง รับรองว่าได้เสียงที่ไม่เหมือนความจริงแน่นอนครับ

การที่ผมได้ฟังหูฟังหลายๆชนิด และการได้ฟังเพลงไปด้วย อย่างน้อยที่สุดเราจะรู้รสนิยม ของตัวเองนะครับ สำหรับผม การหาหูฟังที่ดีที่สุด คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเพลงที่ฟัง ก็มีความหลากหลาย ทั้งในแง่ของ วิธีการเล่น หรือแม้แต่วิธีการบันทึก หรือ คุณภาพของfile เพลง

หูฟังบางตัว อาจไม่ดีสำหรับหลายๆคน แต่อาจให้ความสุขกับตัวเราได้ครับ ดังนั้นตั้งงบประมาณเลยครับ แล้วค่อยๆฟัง จากราคาต่ำสุดที่เราตั้งไว้ในใจ และที่สำคัญผมเชื่อว่า คุณJookkk คงมีความคิดในใจแล้วว่า หูฟังตัวใหม่อยากได้คาแรคเตอร์ อะไรเพิ่มเติม ค่อยๆฟัง แล้วก็ค่อยเลือกครับ ถ้าไม่ใช่ อยากไปเลือกครับ

อันนี้แนะนำเพิ่มนะครับ การซื้อหูฟังมือหนึ่ง ข้อดีคือการได้ลองฟังนานๆครับ การซื้อมือสอง คงจะไม่ได้ลองฟังเปรียบเทียบ ครับ เสียงอาจจะแตกต่างจากเดิม แต่ไม่ได้หมายความว่า เราจะชอบมันจริงๆ ครับ

อย่างผมเอง ก็เคยลองฟัง Shure 215 , Shure315 อย่างกรณีนี้ ผมพบว่าเสียงของ 315ดีกว่าจริงๆครับ แต่ผมชอบ 215 มากกว่าครับ แต่ทดลองฟังยาวๆแล้ว ก็พบว่า ผมไม่ชอบทั้งสองตัวแหละครับ หึหึ

หวังว่าคงมีประโยชน์บ้างนะครับ

ผมก็ไม่รู้จักทุกตัวหรอกนะครับ แต่เท่าที่ลองๆมาผมเริ่มหูฟังตัวละ สองพันกว่าบาทแล้วโดดไปเกือบหมื่น หลังจากนั้นก็โดดไปที่หมื่นกลางๆ จนสุดท้ายมาจบชุดพกพาที่สองหมื่นหมายๆ
ตัว UM MERLIN
ทุกๆครั้งที่กระโดดแต่ละระดับราคามันก็ กระโดดแบบก้าวข้ามเลยนะครับ อันนี้ไม่ได้พูดถึงตัวนั้นเบสเยอะตัวนั้นเบสน้อย ตัวนั้นแหลมหรือทุ้ม พวกนี้เป็นปัจจัยเชิงปริมาณครับ ว่าอะไรเยอะหรือน้อยอันนี้ ไม่พูดถึงเพราะแต่ละยี่ห้อจูนมาไม่เหมือนกัน
แต่ถ้าพูดถึงปัจจัยด้านคุณภาพที่จะได้แน่ๆถ้าอัพราคาขึ้นไปคือ
1 พื้นหลังเงียบขึ้นแน่นอน ความขุ่นมัวยิ่งรุ่นแพงยิ่งไม่มีครับ
2 การแยกแยะเครื่องดนตรี ยิ่งแพงยิ่งแยกแยะขาดกันเด็ดขาด ตอนผมเปลี่ยนรุ่นแต่ละครั้งก็คิดเสมอว่าตัวที่เปลี่ยนมานั้นนี่ แยกแยะดีแล้ว พอไปตัวแพงกว่ามันก็มีตัวดีกว่า
3 มิติ เมื่อแยกแยะขิ้นดนตรีเสร็จแล้วมันก็ต้องมีการจัดวาง ว่าแต่ละชิ้นมันควรจะไปอยู่ตรงไหน ใน 3 มิติรอบๆหัวเรา ยิ่งรุ่นแพงจะจัดวางได้ดีขึ้น รูปวงสวยงาม ไม่แบนเป็นหน้ากระดานครับ


ถ้าให้พูดว่ายิ่งแพงยิ่งดีก็อาจไม่ถูกต้องซะทีเดียวแต่ของแพง แล้วยังขายได้มันก็พิสูจตัวเองมาพอสมควรแล้วว่า ขนาดกูขายแพงยังมีคนซื้อเลย แปลว่าถ้าไม่ดีกว่าของถูกใครจะจ่ายเงินเพิ่มมาซื้อมัน

ในช่วงราคาต่ำกว่าหมื่นถึงหมื่นกลางๆ ในหลายๆแบรนด์ คุณภาพเสียงจะยังแปรผันไปตามราคาครับ
แต่ถ้าสูงกว่านั้นไปเรื่อยๆก็จะเริ่มเป็นไปตามกฏการลดน้อยถอยลงของผลได้ครับ

แต่ปัจจัยก็มีไม่น้อยครับ บางทีเราจะไม่จบกับตัวสูงๆ(เช่น ตัวผมเองที่ทั้งลองทั้งซื้อ iem รุ่นสูงๆ แต่ก็กลับมาจบที่ตัวกลางครับ) เพราะเราอาจจะชอบแนวเสียงบางประการของตัวรุ่นน้องที่รุ่นพี่ให้ไม่ได้ แม้ว่าในทางเทคนิคแล้วตัวรุ่นพี่จะดีกว่าก็ตามครับ

จึงเป็นที่มาของแนวคิดที่ว่า การลองด้วยตัวเองดีที่สุด ครับ สำหรับคนที่รักในการฟังเพลง คำว่า ดี หรือ ไม่ดี นั้นจะกำกวมครับ น่าจะใช้คำว่า ถูกใจเรา หรือ ไม่ถูกใจเรา มากกว่า

ยิ่งกับพวกรุ่นสูงๆ(ทั้งด้าน iem และ fullsize) จะเริ่มเห็นแนวคิดนี้ได้ชัดขึ้นครับ เพราะทุกตัวนั้นมีข้อดีข้อเสียต่างกันหมด เพียงแค่แนวเสียงจะเป็นไปตาม house sound ของแบรนด์นั้นๆ แต่ทุกตัวก็มีคุณภาพเสียงที่ ดี ที่เราปฎิเสธไม่ได้จริงๆเหมือนกันหมดครับ

ดังนั้นถ้าซื้อตามนิยามคำว่าดี คงต้องซื้อหมดร้านเลยล่ะครับ
เรื่องนี้ถ้าเล่นหูฟังไปนานๆเข้าจะเข้าใจอย่างถี่ถ้วนเองครับ ไม่จำเป็นต้องรีบครับ(และพอถึงตอนนั้นเราก็จะรู้เองว่าหูเรากำหนดมาม่ามาให้เรากี่ซองครับ)

เขียนมายาว กลับเข้าสถานการณ์ของจขกท.นะครับ(ขอโทษด้วยนะครับ ถ้าเขียนเยอะไป)
จากที่ว่ามาข้างต้นคือพยายามลองและเลือกตามความชอบตัวเองครับ ถ้าจขกท.ไม่พอใจกับเสียงตัวในราคาย่านนี้ และ มั่นใจว่าเดินทางต่อในการเล่นหูฟัง ผมแนะนำให้ก้าวข้ามไปเลยครับ
ผมเองก็เคยเป็นเหมือนกัน พยายามจำกัดงบตัวเองไม่ให้เปลือง แต่ท้ายสุดเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา กลายเป็นเปลืองมากกว่ารุ่นสูงๆบางรุ่นครับ

แต่จะไปตัวไหนราคาใด ลองให้เยอะนะครับ และ อย่าพยายามหลอกหูตัวเองไปตามรีวิวต่างๆครับ การอ่านรีวิว/ความเห็นต่างๆให้ใช้เป็นองค์ประกอบครับ อย่าใช้เป็นตัวหลักในการตัดสินใจครับ

ขอบคุณครับที่ตอบเคลียร์มากๆ เรื่องฟังผมคงไม่มีโอกาสเพราะอยู่ต่างจังหวัดเลยต้องสุ่มๆไปตามรีวิวมั่งตามความเห็นคนที่ใช้มั่งก็โอเคระดับนึง แต่ได้ฟังความเห็นทั้งสองท่านแล้วรู้สึกเคลียร์ไปอีกเยอะ รึคงไม่พ้นที่ว่า"เจ็บแต่จบ"ซะละมั้งครับ555555

ผมเห็นด้วย เรื่องคุณภาพตามราคา ส่วนมากมักจะเป็นเช่นนั้น แต่ไม่เกี่ยวกับความคุ้มค่านะครับ เช่นหูฟังราคา สองหมื่นดีกว่า หูฟังราคาห้าพันมั้ย ดีกว่าแน่นอนครับ แต่ไม่ใช่ดีกว่าห้าเท่า ตามราคานะครับ บางคนซื้อเฉพาะสายอัพอย่างเดียว สองสามหมื่น ราคาอาจจะเกือบเท่า หรือเกินราคาหูฟังด้วยซ้ำ แต่เสียงดีขึ้นร้อยเปอร์เซ็นต์ ตามราคามั้ย ผมก็ว่าไม่นะ บางคนดีขึ้น ยี่สิบสามสิบ เปอร์เซ็นต์ก็พอใจแล้ว ผมว่าเรื่องเสียงมันขึ้นอยู่กับ รสนิยม ความชอบเป็นหลัก ความเห็นส่วนตัว ถ้าจะวัดความคุ้มค่า แบบปอนด์ต่อปอนด์ เหมือนนักมวย ผมว่าหูฟังราคาไม่เกินหมื่นต้นๆ น่าจะคุ้มค่ามากที่สุดแล้วครับ

thank..k.Melonpan ใช่เลยเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย555

ของแบบนี้ต้องค่อยๆเล่นค่อยๆศึกษาไป ตามโอกาส และกำลังทรัพย์ครับ ตราบใดที่ไม่ทำความเดือดร้อนแก่คนรอบข้าง แน่นอนของราคาแพงย่อมต้องดีกว่าถูก ไม่งั้นคงไม่มีคนซื้อ เลือกทุกอย่างตามความเหมาะสมครับ เหมือนรถยนต์ครับ ทุกวันนี้เราขับโตโยต้า ก็มีความสุขได้ไม่แพ้ขับเมอร์เซเดสครับ

จากประสบการณ์ของตัวเองหลังจากเคยใช้ตั้งแต่หูฟัง 300-500 อัพเป็น 1000 อัพเป็น 10000 จนปัจจุบันไปไกลเลยเถิดไปเยอะๆ จากเพลย์เยอร์ เซาวอเบาท์มาCD Player, MD, MP3 Player จน 24bit dap ลงชุดตั้งโต๊ะ...(หวังว่าจะไม่เลอะเทอะไปไกลกว่านี้แล้ว)

ได้คำตอบว่า เสียงที่ชอบ เพลงที่ใช่ ไลฟ์สไตล์ที่โดนใจ ไม่มีวันได้คำตอบจากคนอื่นๆ เลยครับ ใช้เองลองเองเท่านั้นที่จะตอบได้ปัจจุบัน ใช้ CIEM ตัวหลายหมื่นสลับกับ UIEM ตัวไม่กี K บางทีมีสลับไปเอียบัดบ้าง หูใหญ่ก็สลับไปตัวเล็กใหญ่ตามจังหวะ ฉะนั้นอย่าไปสนใจที่ "เสปค" หรือที่บอกต่อๆ กันว่า "ดี" มากครับ ฟังที่เนื้อคำวิจารณ์ที่บอกแนวทางเสียง Signature ของแบรนด์หรือหูฟังตัวนั้นเพื่อจำกัดทางในการลองก็พอครับในกรณีที่ไม่ว่างนักก็พอครับ แล้วก็ไปลองเองเป็นดีที่สุด

ปล.ช่วงนี้กำลังหลง Tesla ของ Bayerdynamic สงสัยมีลองอีกหลายตัวซะล่ะมั้ง

ราคามันไม่ได้บอกคุณภาพเสียงเสมอไปนะครับ
เพราะราคาหู มันมีเรื่อง วัสดุที่ใช้ ยี่ห้อหูฟัง ฯลฯ มาประกอบ เคยเจอ หู ath รุ่นนึง เสียงก็งั้นๆ แต่วัสดุดูดีมาก(ฝาครอบทำจากไม้หรูหรามากทีเดียว) เลยแพงขายตั้งหมื่นกว่า เสียงสู้หูหน้าตาบ้านๆราคาสี่พันกว่าไม่ได้ก็มี เพราะราคามันไปลงที่design ยี่ห้อ และ วัสดุหมด ไม่ได้ไปลงที่เสียงน่ะครับ

ผมก็เล่นมาไม่ค่อยเยอะนะครับ แต่เท่าที่ฟังๆมาพวกตัวราคาสูงๆที่คนเค้าเล่นๆกันหลายๆตัวให้เสียงที่ตัวถูกๆให้ไม่ได้ครับ

แต่!! จะชอบรึป่าวนี้อีกเรื่องนะครับ

เช่น บางตัวรายละเอียดมาเยอะแยะเลย แต่ผมไม่ค่อยชอบ ฟังนานๆมันล้า

เห็นด้วยกับ คห.11 ครับ
อย่าล่าสุดลอง 846 กับ C6iem
846 รายละเอียดมาพึบพับเต็มไปหมด ซึ่งมันดีเยี่ยมมาก แต่ผมกลับรู้สึกมันเยอะไปแถมล้าหู
C6iem รายละเอียดสู้ไม่ได้ แต่มาแบบนุ่มๆ เน้นมวลเบส ผมกลับชอบมากกว่า 846

ซะงั้น @_@"

ปล. ตอนนี้หูประจำผมใช้ RE400 / Koss Ksc35 / MS-1
แต่ละตัวราคาไม่แพงเลย แต่ก็แบ่งๆฟังกันได้ครบแนว ... ชีวิต ดี๊ดี !! .. ^_^

คิดเหมือนกับหลายๆคห.ด้านบนครับ หูฟังแพง ก็ุณภาพดีไปตามราคา

แต่หูฟังดี ไม่ได้หมายความว่าเราจะชอบนะครับ

บางทีก็อยากใช้คำว่าสูงสุดคืนสู่สามัญ คนบางคนเริ่มต้นที่หูฟังราคา 2พันนิดๆ แล้วต่อยอดไปเกือบหมื่น หมื่นกว่าๆ ลองมาหลายรุ่น สุดท้ายมาจบที่หูฟังราคา2พันกว่าเหมือนเดิม แต่เป็นรุ่นอื่นที่ฟังแล้วถูกใจ อาจจะไม่ได้มีรายละเอียดที่ดี มิติอาจจะไม่กว้าง แต่อยุ่ในระดับที่ลงตัวกับหูเรา

ปล ผมก็เป็น1คนที่ตามหาหูฟังคู่นั้นอยู่เหมือนกันครับ

คุณภาพเสียงดี ราคาถูกๆ มีเยอะแยะ ยกตัวอย่างนะ ข้าพเจ้าซื้อ Xiaomi Piston 3 ของแท้ มาจากประเทศจีน ราคาแค่ 800 บาท รวมค่าทาง airmail ส่งเรียบร้อย ไม่เชื่อไปลองฟังดู แล้วไปเทียบกับหูฟังแพงๆดู ว่าต้องจ่ายเท่าไรถึงจะชนกับเจ้า Xiaomi Piston 3 ได้