ติดใจคาแรกเตอร์เสียงอนาลอคฮะ เสียงขุ่นๆ ซึ่ง EB ปัจจุบันไม่ทำแล้วฮะ

สำหรับผมอะไรเก่าๆ นี่มีคุณค่ามากครับ นอกจากหายากแล้วยังเก่าไม่เหมือนใครอีกต่างหาก ที่สำคัญของเก่าให้สิ่งที่ของใหม่ให้ไม่ได้ หรือมีสิ่งที่ของใหม่ไม่มีครับ

ผมมองว่าสมัยก่อน พวกหูฟังก่อนยุคหูขาวเข้ายึดครอง จะพยายามทำหูฟังออกมาในแนวของแบรนด์ตัวเองมากก แบบไม่ง้อเพลย์เยอร์ (E888,PK1/2, Aiwa) แถมแต่ละตัวราคาจะสูงมาก เพราะสมัยก่อนมัน Niche มาก ไม่ค่อยมีคนเล่นหูฟังเหมือนสมัยนี้เท่าไหร่ การจะเอาของแพงๆ โลหะราคาสูงๆ มาทำเป็นไดรฟ์เวอร์หูฟังแบบไม่แคร์ต้นทุน/ราคาขาย (เพราะยังไงก็ขายได้) มันก็เลยไม่ใช่เรื่องยาก

แต่พอสมัยยุคคนใช้โทรศัพท์มาเป็น DAP หลัก (เหมือนที่จ๊อบส์เคยคิดไว้ตอนปีราวๆ 2005 ว่าสุดท้ายแล้ว มือถือฟังเพลงได้ จะมาแย่งตลาด DAP ไป)คนแคร์คุณภาพเสียงน้อยลง หูฟังกลายเป็นแฟชั่น (ยุคหูขาว,Beats) ทำให้หูฟังรุ่นหลังๆส่วนใหญ่ออกแบบให้ดูดีมาก่อน (เชื่อผม มันมีจริงๆ แบบที่ไม่แคร์ว่าเสียงจะเป็นยังไง ขอแค่ใส่แล้วดูไม่ตลกหรือเหมือนพวกเนิร์ด Geek พอ)

ส่งผลให้หูฟังยุคสมัยนี้ส่วนใหญ่จะดูดีกว่าสมัยก่อน แต่เสียงจะสู้สมัยก่อนไม่ได้แล้ว (เอา E888,PK2 มาลองชนกับหูฟังในปัจจุบันที่ราคาใกล้ๆกันสิครับ ผมยังนึกไม่ออกด้วยซ้ำ เอียร์บัดตัวไหนที่ทำได้ขนาดนั้น) Sennheiser ก็ทิ้งเอกลักษณ์ Dark Sound มาเป็น กลางหนาไป เพราะ DAP ที่เป็นมือถือส่วนใหญ่ เสียงที่ออกมาจะเป็นกราฟตัว U หงาย การมีหูฟังกลางหนาจะทำให้เพลงไม่แห้ง แถมฟังแล้วไม่ล้าด้วย..

ผมว่ามันน่าเศร้านะ

ปล ผมมาบ่นอะไรเนี่ย 5555555555555555 // เอาย่อๆคือสมัยก่อนมันเสียงดีสมัยนี้ละกันครับ

เห็นด้วยกับคุณTheeranai อย่างแรงที่ว่า ติดใจคาแรกเตอร์เสียงอนาลอคฮะ เสียงขุ่นๆ ซึ่ง EB ปัจจุบันไม่ทำแล้ว
เดี๋ยวนี้เสียงออกใสบางๆ ไม่ค่อยมีเนื้อซะมากกว่า
เมื่อก่อนเอาแค่หูแถม iriver รุ่นแรกๆ นี่ก็ไม่ต้องไปเสียตังค์ซื้อหูใหม่แล้ว

ขอบคุณทุกคำตอบครับ ถ้างั้นหูเก่าๆก็ยังน่าเล่นอยู่ น่าจัดมาลองเปรียบเทียบกะหูรุ่นใหม่ๆเหมือนกันนะครับ

แต่ละตัวมันให้อารมณ์ที่หูยุคใหม่ให้ไม่ได้
e484 .. มันมีเอกลักษณ์สุดๆ ทั้งมิติ การวางเวทีทัเงหมดไปหลังหัว เสียงออกแนวอนาล๊อคและมีสเนห์สุดๆ ฟังแล้วหยุดแค่เพลงเดียวไม่ได้...ผมมีMX985และ980เทียบไม่ได้เลยสำหรับผม (ในบางแนวเพลง)

ส่วนตัวอื่นๆ เช่นe472, Aiwa D2 ก้อให้ความเป็นอนาล็อคและเอกลักษณ์ของตัวมันเอง มันหาได้ยากมากในหูยุคใหม่ๆ

สรุป..ต้องแล้วแต่คนชอบครับ และคนชอบแนวนี้ก้อมีอยู่มากพอสมควร ที่ราคายังสูงคงเพราะหาไม่ได้แล้ว

จขกท.ต้องลองฟังครับ แล้วจะรู้ครับ แต่อาจไม่ชอบแนวนี้ก้อได้นะ555

สูงสุดคืนสู่สามัญ อารมณ์นั้นรึปล่าวครับ5555

สูงสุดสู่สามัญก็ไม่เชิงนะ

หูรุ่นเก่าเสียงมันอนาลอค ลื่นไหลฟังสบาย หูรุ่นใหม่เน้นคมชัด มากกว่า

ดีทั้งคู่แต่หูเก่าหาไม่ได้แล้วเลยมีราคา

มันหายาก เป็นของสะสม ถ้ามีโอากาศผมก็อยากเก็บ pk3 สายคู่ pk2 สายคู่ มาเก็บไว้เหมือนกัน

ผมว่าคำตอบมันก็เป็นอันเดียวกับเวลาที่ถามว่าทำไมคนถึงเล่นเครื่องเล่นแผ่นเสียงกับแอมป์หลอดอยู่ ทั้งๆ ที่เทคโนโลยีมันก็ไปไกลแล้วล่ะครับ ^^"

เพราะมันให้เสียงที่เครื่องเสียงยุคปัจจุบันให้ไม่ได้ไงครับ

นึกแล้วยังเสียดาย แต่ก่อนเคยมี แต่ก็ทิ้งไปหาของใหม่ตามกระแส

เอียร์บัดสมัยนี้แม้จะได้รายละเอียดเพิ่มขึ้น แต่ความเป็นดนตรีมันก็ลดลงครับ

หลายอย่าง ครับ หูฟังแต่ละตัว ให้อารมณ์ต่างกัน และมันมีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ รุ่นเก่า ๆ ยากที่จะหาตัวรุ่นใหม่ มาเทียบ แต่รุ่นใหม่ ก็ใช่ว่าจะไม่ดีเพียงแต่ยุคสมัยเปลี่ยน อุปกรณ์ ไฟล์ในการฟัง มันเปลี่ยนไป หูฟังก็ต้องปรับเปลี่ยน แต่ผมก็ยังหยิบ earbud aiwa มาฟังอยู่ ก็คนมันชอบ !!!

ส่วนตัวผมคิดว่ามันเป็นศิลปะ เป็นงานฝีมือ ในช่วงเวลา ในยุคนั้นๆ รวมถึงวัตถุดิบที่ใช้ในยุคสมัยนั้นๆด้วยครับ ความใส่ใจที่ต่างกัน QC ที่ต่างกัน ทำไมหูรุ่นเดียวกันบางตัวเสียงยังไม่เหมือนกัน่ แล้วทำไมหูบางตัวทำขายเฉพาะในญี่ปุ่น บางตัวขายทั่วโลก

ไม่ใช่หูสมัยใหม่นั้นไม่ดีหรือทำไม่ได้นะครับ แต่เหมือนเป็นบุคลิก เป็นความชอบมากกว่า เหมือนกับทำไมไม่เล่นสาย Optical ดันกลับไปเล่นสาย RCA สายอะนาล็อค Digital Player มีทะลึ่งไปเล่น MD CD ที่จะพังมิพังแหล่

อีกหลายปัจจัยไม่ว่าจะ ฝีมือสมัยก่อน>สมัยนี้ ตะกั่วธรรมดาสมัยก่อน>ตะกั่วหลากหลายยี่ห้อสมัยนี้ สายหูฟังสมัยก่อน>สายเยอะแยะเลือกไม่ถูกสมัยนี้ ไดรเวอร์สมัยก่อน>ไดรเวอร์สมัยนี้

สมัยที่เล่นหู Aiwa D9 ที่ขายไปยกกล่องสภาพใหม่ตอนนั้นแค่ 2500 บาท แต่ทำไมสมัยนี้ราคาถึง.. ไปตามคุณค่าทางจิตใจของกลุ่มคนรีวิว กลุ่มคนเล่น ทั้งๆที่เสียงและบุคลิกก็ไม่ได้ครอบคลุมหรือเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

คุณค่าในตัวมันเองล้วนๆครับ บางทีราคา 200-400 บาทในหูเก่าๆแห้งๆใกล้ตาย ดันกลับให้อะไรที่คุ้มค่ากว่าการจ่ายเงินถึง 1000-2000 ก็มี

ผมเชื่อว่าของเก่าพวกนี้ไม่มีใครอยากประกาศให้โลกรู้ว่ามันดียังไงหรอกครับ เพราะรังแต่จะพาให้ราคาขึ้นและหายาก ยกเว้นแต่การเล่นของตามกระแสที่กลัวราคาตก ก็ต้องคอยดันคอยประคองให้กระแสมันอยู่ตลอด(ขออภัยที่พูดตรง) พ่อค้ากลัวราคาตกประมาณนั้น มองในแง่ดีหน่อยก็จะได้มีกลุ่มคนเล่นแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันได้เยอะขึ้นในหูเก่าๆ
และการนำหูเก่าๆมารีวิว ช่างเป็นอะไรที่ทรมานคนที่คันและตามหาครับ หูบางตัวไม่ได้หาง่ายๆ หูบางตัวหามาก็เสียงไม่เหมือนกันอีก

ผมโชคดีได้เจอผู้ใหญ่ เจอพี่ๆที่รักในเสียงเพลง ต้องขอบคุณครับที่เขาได้แบ่งปันหูดีๆเก่าๆเป็นของที่เขารัก เป็นศิลปะสมัยก่อนมาให้ผมมากมาย ทั้งๆที่ผมไม่ใช่คนที่หาของเก่าเป็นหรือหูทองหูเทพอะไรเลย อาศัยชอบก็ซื้อ เสียงซ้ำ หรือฟังไม่ครบ เบื่อ ระบายของหาเงินฯลฯ ก็ค่อยขายออกไป

หากใครเข้าสู่เส้นทางหูเก่าพวกนี้แล้ว ค่อยๆเดินทาง เปิดตาเปิดหูเปิดใจ ไม่ปิดกั้นนะครับไม่ว่าจะยี่ห้อ
Sony, Aiwa, Panasonic, Pioneer, Yamaha, Denon, Sharp หรือยี่ห้ออื่นๆนอกกระแส บางทีอาจจะจบที่หูเก่าๆเดินเจอตามคลองถมตัวละ 150 บาท แล้วกลับบ้านขายหูจีนพันกว่าทิ้งก็ได้ ใครจะรู้

ความเห็นส่วนตัวล้วนๆครับ ตอนนี้พอจบกระบวนการพวก 484 472 d9 d2 v99 ฯลฯ ก็มองหาอะไรที่แปลกไปบ้าง ปล่อยวางไม่ยึดติดอะไรเดิมๆ ไม่ต้องหาอะไรที่เป็นที่สุด แค่ฟังแล้วสบาย ลื่นไหล ไม่ต้องสูงสุดไม่ต้องไปคืนสามัญ แค่ตามหาตามที่ใจต้องการ

ขอทุกท่านมีความสุขกับการเสพย์ศิลปะผ่านหูครับ^^

ถ้าตอบแบบช่าง คงบอกว่า หู earbud แทบไม่มีการพัฒนาโครงสร้างภายในเลย เอาหูสิบปียี่สิบปีที่แล้วมาแกะข้างในดูจะเห็นว่ามันแทบไม่ต่างจากปัจจุบัน
ดังนั้นเรื่องเสียงก็จะไม่ได้แตกต่างทำนองว่าหูใหม่จะเสียงพัฒนาจนดีกว่าหูเก่า จะออกแนวว่าต่างคนต่างจูนเสียงเป็นแบบต่างๆเสียมากกว่า ทำให้คนซื้อก็เลือกเสียงที่ตนชอบ เก่าใหม่ไม่เกี่ยวซะมากกว่าครับ

เหมือนที่เล่นเครื่องเสียงบ้านแนววินเทจ เอาแผ่นเสียงมาเล่นอ่ะครับ

แนวเสียงก็คนละเรื่องกับปัจจุบันเลย ผมมี Sony E-888 เทียบกับ Sony XBA-H2 บอกว่าเหมือนคนละยี่ห้อก็ได้นะ แต่ Sony รุ่น E ทั้งหลายทำสายได้บอบบางไม่กล้าใช้มาก

ภาพประกอบความเข้าใจ

Sony MDR-E888 Japan ฟังกับซาวน์อะเบ๊าท์ Sony Radio Cassette Player WM-FX45 แล้วมันลงตัวมากครับ ได้กลิ่นอายย้อนยุคแบบ x2 ซึ่งหาไม่ได้จากเครื่องเล่นยุคใหม่กับหูฟังรุ่นใหม่
เป็นเสน่ห์ที่ทำให้ผมหลงใหลและรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปวัยเด็กอีกครั้ง

เคยฟัง e282 ฟังจนดับคาหู สบายใจเลย 150 บาท ใช้ฟังไปแสนห้า