มันอยู่ที่คนชอบน่ะครับ ว่าชอบฟังแบบไหนมากกว่า เรื่อง inear นี่มันมีองค์ประกอบอย่างอื่นมาเกี่ยวข้องที่มากกว่าเรื่องเสียงอย่างเดียวด้วยครับ

มันมีตั้งแต่ราคา การสวมใส่ ประเภทของโฟมหรือจุกยางที่ชอบ และหน้าตาเข้ามาเกี่ยวข้อง

ปัญหาใหญ่คือการสวมใส่อีกเหมือนกัน inear ทุกตัว ถ้าใส่ไม่เป็น ความถี่บางย่ายจะหายไปในพริบตา

inear บางตัวถ้าอยากจะได้เบสที่มากขึ้น บางครั้งต้องแลกด้วยน้ำตา 5555 คือต้องกล้าๆ ยัดให้เข้าไปในรูหูให้ลึกๆ อีกครับ

2 ตัวนี้ผมว่าพอฟัดพอเหวี่ยงกันครับ แต่ E4C เสียงจะเป็น monitor กว่า คือเที่ยงตรงและไม่เน้นเสียงทางด้านใดด้านหนึ่ง

ขณะที่ UE5 นั้นเบสจะมาเป็นพระเอก และเป็นหูฟังที่มีสีสันจัดจ้านกว่าอีกเล็กน้อยครับ

5555 บางทีวิจารณ์แบบนี้ บางครั้งผมยังโดนด่าก็มี บางคนฟัง CX300 แล้วบอกไม่มีเบส หาว่าผมโกหกอีกว่าเบสมันเยอะและบวมกว่าปกติ

ต้องลอง search ครับว่ารายละเอียดในเบื้องลึกมันมีตรงไหนที่ถูกใจเรามั่ง

ในช่วงปลายเดือนนี้ บริษัทมหาจักร จะมาจัดแนะนำสินค้า shure JBL harman/kardon ในร้านผม ซึ่งมีหูฟังให้ฟังกันจนกว่าจะอ้วกแตกกันไปข้างนึง

และผมตั้งใจว่า ในช่วงที่เค้ามาจัดประชาสัมพันธ์ จะพยายามขายราคาให้แฟนๆ ถูกที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ 555

ปกติทุกวันนี้ ก็ขายถูกจนแทบจะไม่เหลือชีวิตแล้ว 55

ขอเสริมนิดนะครับ Shure e3c, e4c ไม่แน่ใจว่า e5c, e500 ด้วยรึเปล่าที่สามารถเอายาง 3 ชั้นของ etymotic มาใส่ได้ ทีนี้เบสจะออกมากขึ้นครับ เพราะมันจะเข้าไปลึกกว่ายางเดิมของ Shure แต่ตอนเปลี่ยนมาใชยาง 3 ชั้นของ etymotic ้ใหม่ๆนี่คันหูมาก ขอบอกว่ารักจะใช้ inear ต้องหมั่นแคะขี้หูนะครับ

ใส่กันได้เน้อ shure e500
ผมเอา 3 ชั้นของ ety มาตัดให้เหลือ2
รู้สึก 3 ชั้นมันจะลึกไปหน่อยใส่แล้วอึดอัดๆ
แต่ 3 ชั้นก็กันเสียงได้ดีที่สุดเลยนะเท่าที่ลองมา