
สวัดดีครับทุกๆท่าน วันนี้ว่างเลยอยากจะทำรีวิวแบบงูๆปลาๆมาให้อ่านให้ชมกันครับ
เผอิญว่าผมมีโอกาสได้ครอบครองหูฟัง inear เรือธงอันเลื่องชื่อของ 2 ค่ายจาก 2 ทวีป
นั่นก็คือ Fitear TG334 กับ AKG3003 เลยอยากจะมาขอนำเสนอ
หัวข้องที่ขึ้นในหัวประโยคว่า AKG3003 จงเปลี่ยนความคิดของท่านใหม่นั้น พอดีว่าก่อนจะสอยตัวนี้มาใช้ได้อ่านรีวิวของใครหลายๆคนรวมถึงเฮียมั่นด้วยครับ ซึ่งจากที่พอฟังคร่าวๆนั้น เป็นหูฟังที่ขับง่าย Soundstageไม่โอ่โถงมากนัก และก็เสียงร้องโดดเด่น แหลมโดดเด่นเฟี้ยวฟ้าวแต่ไม่บาดหู
แต่.............ท่านอย่าเพิ่งปักใจเชื่อครับ เพราะหูฟังตัวนี้ ออกมาผิดที่ผิดเวลา
อ้าว -.- ทำไมพูดงั้นอะ
ก็เพราะว่าจากความรู้สึกของผมครับ หูตัวนี้ไม่ใช่หูที่ขับง่ายเลยครับ เป็นหูที่ขับยากถึงยากมากกกกกกก
ถ้าท่านจะเอาความสามารถของมันที่แท้จริงแล้วนั้น ด้วย ipod iphone ธรรมดาขับไม่หมดหรอกครับเผลอๆออกไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ ไหงพูดงั้นเพราะว่าจากการที่ได้ลองด้วยตัวเองพร้อมกับการเบิร์นหูฟังด้วยระบบที่คิดว่าเยี่ยมของผมผ่านไป 30 ชั่วโมงผลที่ได้ออกมา อืมมมมมมมันไม่ธรรมดาเลยครับพูดได้ว่ากิน fitear 334 ขาดในบางด้านเลยด้วยซ้ำมันเป็นหูฟัง inear ที่มีเอกลักษณ์แบบที่ inear หลายๆเจ้าทำไม่ได้เลยครับ
ชุดที่ผมใช้ทดสอบ เนื่องจากเป็นหูฟังพกพา ฉะนั้น มันต้องพกพาง่าย
ผมเลยจับต่อกับ AK100 (นี่แหละครับความหมายของคำว่าผิดที่ผิดเวลาที่กล่าวไปข้างต้น ตอนที่มันออกแรกๆ AK100 ยังเป็นตัวอ่อนอยู่เลย)
ซึ่งมีชื่อเสียงเรียงนามว่าขับหูฟัง PK1 ได้สบายๆแบบไม่ยากเย็นนัก ผลที่ได้นั้นผมต้องเร่งเสียงไปจน 65 กำลังถึงออก ทั้งที่ฟัง PK1 แค่ 55 ก็ออกหมดจดแล้ว แล้วเสียงที่ได้เป็นต้องร้องว้าวแบบว่าตกใจกันเลยทีเดียว ผมจับมาฟังกับเพลงที่หูฟังที่ผ่านๆมาฟังยังไงก็ไม่ได้อรรถรสอย่าง เพลง nessun dorma ของ luciano pavarotti ซึ่งสำหรับผมผมว่ามันเป็นเพลงปราบเซียน แต่พอฟังกับ AKG3k3 แล้วนั้นนักร้องดูเป็นตัวใหญ่และเหมือนมาร้องอยู่ข้างหน้าบอกได้คำเดียวว่าขนลุกครับ วงorchesta ที่คอยบรรเลงเพลงนั้นโอบล้อมและโออ่า soundstage นั้นเหมือนได้ไปฟัง opera จริงๆซึ่งผมไม่เคยพบกับ inear ตัวไหนมาก่อนไม่มีอับไม่มีอั้นเลยครับ
ไว้เดี๋ยวผมจะมารีวิวแบบละเอียดช่วงเย็นๆนะครับ
ต้องไปทำงานต่อละคร้าบบบบ ฟิ้ววววว~~~~~~
ปล.ความเห็นทั้งหมดเป็นความรู้สึกและประสบการณ์ส่วนตัวหากผิดถูกเช่นไรขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ