ถ้าให้ถึงกับผลิตเองเลย. มันคงยากที่เกิดขึ้นได้
เพราะตลาดบ้านเราเล็กเกิน ต้องส่งออกถึงจะรอด แล้วจะส่งออกใครจะซื้อ
จะทำของถูกก็หมดปัญญาสู้จีน จะทำของดีเราก็ไม่มีโนฮาวไม่มีเทคโนโลยีไปสู้เจ้าอื่นๆ สรุปผลิตเองเจ๊งแน่ๆ ไม่คุ้มค่าในการลงทุนเลย

no offense นะครับ ถ้าตั้งใจทำจริงๆยังไงมันก็เป็นไปได้อยู่แล้วครับ แต่ผมเห็นคนไทยส่วนใหญ่จะริเริ่มอะไรบางอย่างส่วนใหญ่มักจะท้อบ้าง คิดว่าเป็นไปไม่ได้บ้าง ถ้าคิดบวกและโฟกัสอยู่กับสิ่งที่ทำผมเชื่อว่ายังไงมันก็น่าจะเกิดขึ้นได้อยู่ละครับ ขอแค่เชื่อว่าทำได้

จริงครับถ้าทุนหนาและทนขาดทุนในระหว่างการวิจัยได้ ก็อาจเป็นไปได้ แต่ต้องอยู่ในเงื่อนไขคือเงินถึงและฉลาดพอที่จะมีผลวิจัยที่สู้กับคู่แข่งได้ เพราะจะทำให้ถูกแบบจีนนั้นปิดประตูไปเลยครับ ประเทศเราจาดปัจจัยที่จะทำต้นทุนให้ถูกขนาดจีนได้ แล้วพอค้องมาวิจัยจาก0 นักลงทุนคนใหนอยากจะเสี่ยงแหล่ะพร้อมที่จะขาดทุน ซึ่งไม่มีอะไรรับรองว่าผลวิจัยจะออกมาสู้กับคู่แข่งได้ แล้วยังต้องมาทำตลาดส่งออกอีก ขายในประเทศอย่างเดียวไม่คุ้มแน่นอน
ความเสี่ยงมันมากเกินไปครับ คนจะทำต้องรวยและรักจริงๆทุกจะทำ โอกาสเจ๊งมันสูงเกินแถมเงินลงทุนก็คงเยอะพอควร

ถ้าที่คลอดออกมาเป็น product จริงๆเลยก็มีแอมป์กับสายของพี่ชิมครับ เห็นว่าออกมาประสบความสำเร็จอยู่พักนึงก่อนที่พี่แกจะเบื่อแล้วไปเล่นจักรยานต่อครับ http://www.chimgimmick.com/Product.html

คนไทยเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลกครับ แต่ชอบตัดอนาคตตัวเองด้วยการบอกว่าทำไม่ได้ ทั้งๆที่ยังไม่ได้เริ่มทำจริงๆ ถ้าเชื่อว่าทำได้จริงๆ ต่อให้มีเสียงค้านจากใครก็แล้วแต่ ยังไงก็ทำได้ครับ

ต้องมีคนออกทุนครับ ทั้งทุนวิจัย และทุนในการผลิต รวมทั้งกลยุทธ์ในการลดต้นทุนของวัตถุดิบ มีคนหาตลาด

แต่ที่พอทำได้ตอนนี้เลยคือ ไปจ้างโรงงานเค้าผลิต แต่อย่างน้อยต้องมีข้อมุลที่ทำวิจัย,ทดลอง ออกมาแล้วในแบบของ brand

เราเอง ถ้าเป็นตัวบุคคลทำเอง บ้านเราเหมาะกับสไตล์ อินดี้ครับแบบที่ พี่ชัยB Rabbit โมนั้นละครับ

แต่ถ้าจะสร้างแบบ AKG Senn Sony ยากมากๆครับ

เรื่องทุนนี่ถ้าตั้งใจเขียนโครงการดีๆแล้งลองลงไปขอระดมทุนในkickstarter หรือIndiegogo ได้ครับแต่คือต้องมีโครงการและรายละเอียดต่างๆให้ชัดเจน. ตัวอย่างที่เห็นมีทำๆกันก็อย่างเช่น geek wave ของLH Labs หรือ Aurisonic Rocket ของทางAurisonic ผมก็เห็นตอบรับกันดีนะครับ

Kick Starter นี่ถ้าไอเดียเจ๋ง ทำพรีเซนท์ดีๆนี่เปลี่ยนชีวิตได้เลยนะครับ

คลิกสตาร์ทต้องขายนวัตกรรมใหม่ๆครับ จะไปขายหูฟังที่มันเหมื่อนเดิมแบบทั่วไปแล้วบอกเสียงดี ไม่มีใครสนับสนุนหน่ะสิครับ อีกอย่างก่อนจะเข้าไประดมทุนในคลิกสตาร์ท เราต้องมีชิ้นงานตัวต้นแบบที่พร้อมผลิตแล้ว คือต้องผ่านการวิจัยและพัฒนามาจนพร้อมจะผลิตแต่ขาดเงินทุนในการผลิต ผมเขียนมาตลอดนี้ไม่ใช่จะแย้งหรือมองโลกในแง่ร้ายอะไร
แต่มองถึงความเป็นจริง

สรุปเป็นไปได้ครับครับที่จะตั้งโรงงานผลิตเอง แต่ทุนและใจถึงหรือเปล่า

อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ ถ้าเชื่อว่าทำได้ และเริ่มทำ ถ้าคิดว่าไม่ได้แต่เริ่มก็จะไม่ได้ครับ

ผมอยากเห็นแบรนด์ไทย ไปสู้นอกได้นะครับ อาจจะเป็น m2m หรือ d2m เสียงดีๆแต่ไร้สาย

- อย่าแตะขากันเอง
- อย่าหยิ่งทนง
- อย่าคดโกงลูกค้า
- อย่าค้ากำไรเกินควร
- อย่าทอดทิ้ง
- อย่าดูถูกกันเอง

นอกนั้นมีครบหมดแล้ว อ่อ สามัคคี อีกอย่างแล้วกันครับ :)

+1 คุณ JOKER_THX ครับ

ผมว่าวงการบันเทิงบ้านเรามันเป็นปัญหาหลักเลยครับเรื่องนี้
-เพลงวนเวียนซ้ำซากฟังกันได้แค่ในประเทศ
-หนังก็ไม่ค่อยต่างจากเพลงเท่าไหร่
ซึ่งผมว่า สื่อบันเทิงก็ดันเป็นเส้นทางโปรโมทหลักๆของอุปกรณ์พวกนี้ซ่ะด้วยซิครับ

Samsung ยังได้ขายสินค้าเพราะใช้นักร้องเป็นพรีเซนเตอร์
Sony ก็ขายสินค้าโดยใช้ภาพยนตร์เป็นพรีเซนเตอร์หลัก(Columbia Picture) และไหนยังจะมีค่ายเพลงSony Musicเป็นของตัวเองอีก ให้นักร้องที่สังกัดเป็นพรีเซนเตอร์แบรนด์ในตัว

ไหนจะพวกเครื่องดนตรีของYAMAHAอีก ผมว่าไปคอนเสิร์ตที่ไหน รับรองต้องเห็นนักดนตรีใช้ของเค้าซักชิ้นแหละ

เพราะคนส่วนใหญ่ในโลกผมว่าเค้าเลือกซื้อพวกนี้ชิ้นแรกตามดารานักร้องที่ตนเองชอบใช้กันทั้งนั้น

มันคล้ายๆอารมย์อุปทานหมู่ว่าใช้สินค้าแบบนี้แล้วจะดูดี ร้องเพลงเพราะ ฟังเพลงของนักร้อง(ที่ชอบ)เพราะ

ดูตัวอย่างง่ายๆว่าทำไมคนแทบจะทุกคนในโลกถึงรู้จักหูฟังBeats เพราะพี่แกเล่นแจกให้คนดังๆในวงการต่างๆใช้ซ่ะแทบทุกวงการ

น่าจะเป็นไปได้พอสมควร เพราะสินค้ากลุ่มนี้มักถูก position ให้อยู่ในกลุ่มสินค้า custom แล้วราคาจะสูงตามการวางแบรนด ครับ แม้จะไม่สูงไปทับกลุ่ม hi end แต่ผมว่ามันมีที่ว่างพอให้ยืนในโลกสากลเลยนะครับ

จริงๆหากลองดูวงการอื่นๆ สินค้ากลุ่มนี้มีคนนิยมเล่นกันเยอะครีบ เช่นปืน Les Bear หรือ infinity ที่ผลิตกันมาจากโรงรถหลังบ้านจนโตแล้วขยายไลน์การผลิตลงมาจับตลาดอื่นๆ ทั้งตลาดบนขึ้นกว่าเดิม และตลาดต่ำลง จนเกือบเบียดกับตลาดmass production เลย
ทั้หมดนี้ เริ่มมาจาก จุดเล็กๆ ที่กล้าเดินและทำในสิ่งที่ชอบ ทั้งนั้นครับ

แอมป์หรือสายซักตัวผมว่าบ้านเราอาจจะทำไหว แต่ถ้าพวก dap หรือ dac คงต้องมีความรู้กันจริงๆจังๆล่ะครับ

ถ้าลองสังเกตุจะเห็นว่าถ้าสินค้าชนิดไหนมีฐานอยู่ในประเทศนั้นแล้ว จะมีแบรนด์ลักษณะเดียวกันโผล่ตามมาเรื่อยๆ ปัญหาหลักตอนนี้คือความรู้อย่างที่หลายๆท่านได้กล่าวไว้แล้ว สินค้าบ้านเราตอนนี้มันมีแต่ลักษณะ diy ถ้าเกิดต้องทำกันจริงๆจังๆ คงยังต้องมีอีกเยอะที่ต้องทำ อย่างการวัดค่าต่างๆ(SNR, THD, Noise บลาๆๆ) ต้องวิจัยกันจริงจัง (อย่างพวก class ต่างๆของแอมป์มีข้อดีข้อเสียยังไง) กว่าจะได้สินค้าดีๆซักชิ้นนี่หมดหลายเงินแน่นอน

ผมว่าหลายๆคนไม่ได้สนใจค่าต่างๆที่เขาวัดกันมาให้เลย แต่ลองสังเกตุครับ พวกproduct ดีๆไอค่าพวกนี้มันจะดูดีทั้งนั้น (อย่างพวก chord hugo, ak240, dx90) อย่างน้อยมันก็บอกคนสร้างครับว่าสิ่งที่ทำมามันถูกทางแล้ว

ที่ผมบอกว่ามันยากเพราะหลังจากที่ลองอ่านอะไรหลายๆอย่างแล้วมันรู้สึกชื่นชมคนทำของพวกนี้จริงๆ อย่างกระทู้นี้ถ้าใครสนใจการทำ dac ลองไปอ่านดูครับ

http://www.head-fi.org/t/701900/schiit-happened-the-story-of-the-worlds-most-improbable-start-up/1185#post_10605619

มีเขียนเกี่ยวกับการ design dac กับ เขียนเกี่ยวกับclass amp ไว้บ้าง ไม่มีความรู้นี่อ่านแล้วมึนเลย (ใครมึนนะ อ้อ...ผมเอง)

ขนาดผมแค่ผลิตที่วางหูฟัง มองง่ายง่ายยังยากเลยครับ แต่พวกนี้มันต้องอาศัยความบ้า ฮ่าฮ่า

ตอน design ยังต้องคิดอีกว่าจะใช้ชิ้นส่วนจากไหน จะเอาชิ้นส่วนนั้นๆมาใช้ทดสอบได้ยังไง พวก opamp คงพอหาได้ แต่ถ้าพวกชิพต่างๆอย่าง dap เนี่ยต้องใช้ cpu แล้วจะใช้ของใครล่ะ จะเอามาทดลองใช้แค่ชิ้นเดียวนี่จะทำยังไงดี หรือพวก dac นี่ก็ต้องใช้ตัวถอดสัญญาณจากพวก usb coax optical อีก แถมมีกันหลายเจ้าซะด้วย ของใครดีกว่ากันอีกล่ะ ผมว่าแค่คนคิดเรื่องแค่นี้ก็ท้อแล้วครับ

ยังมีเรื่องหลัง design ซะอีก อย่างพอคิดไว้แล้วว่าจะทำยังไง ก็ยังต้องคิดว่าจะไปหาคนทำ pcb จากไหนให้ตัวต้นแบบ เพื่อเอามาเทสแล้วปรับแก้ เพราะทำให้ตัวต้นแบบนี่ทำชิ้นเดียวเองใครจะรับทำให้ หรืออาจมี ผมไม่ได้อยู่วงการนี้ผมไม่รู้ แต่อย่างน้อยก็ต้องเป็นคนที่มีความรู้และกว้างขวางในวงการพอสมควรเลย พวกหน้าใหม่ไฟแรงนี่คงยาก

แต่ถ้ามีใครทำได้ซักคนคงต้องให้ร้านเฮียกะร้านอื่นๆร่วมมือโปรโมทกันให้เต็มที่ ไม่งั้นทำๆออกมาได้ซักพักคงตายเพราะคนไม่รู้จักสินค้า

ผมชักมึนๆแล้วเขียนเยอะไปหน่อย
ข้อแก้เรื่องหลัง design ก็เป็นเรื่องหาโรงงานผลิตครับ เจ้าไหนทำดีไม่เผางานราคาถูก

มีคนเขียนเรื่อง crowd-funding อย่างพวก kickstarter ผมว่าไม่เหมาะเพราะ lhlab ที่ผลตอบรับดีเพราะแบรนด์แม่อย่าง lightharmonic มี davinci dac ที่มีรีวิวออกมาดีมากๆอยู่คนเลยเชื่อมั่น อีกอย่างเขาเคยบอกว่าต่อให้ไม่ crowd-funding เขาก็ทำของมาขายได้ ที่เขาทำเป็นเหมือนการหยั่งตลาดว่าคนต้องการแบบไหนถึงจะออกสินค้ามา (อย่าง campaign สุดท้าย geek wave มีออพชั่นให้อัพเพิ่มจนมีมากกว่า 270 เวอร์ชัน)

แค่ถ้าเริ่มจากศูนย์คุณไม่มีอะไรเลยจะทำยังไง ถ้าเอาอย่างแบรนด์ schiit ก็ส่งตัวลองไปให้นักรีวิวดังๆลอง แน่นอนถ้าสินค้าดีจริงก็อาจจะไปรอด ตัวเลือกนี้ก็วกกลับมาเรื่อง design กับความรู้

เอาเป็นว่าการเริ่มแบรนด์อะไรจริงจังนี่มันเยอะกว่าที่คิดมากมายนัก
ผมว่าต้องมีคนหาว่าผมมองโลกในแง่ลบแน่เลย 55

ทำอะไรอย่าใจร้อน ถ้ายังทำไม่ดีก็จงทำให้ดี ถ้าดีแล้ว ก็รักษาความดีไว้ และทำให้ดีกว่าเดิม ถ้าทำ(ได้)ดี ต้องดีอยู่แล้วล่ะครับ กว่าคนเราจะเดินได้ พูดได้ อ่านได้ เขียนได้ มันไม่ใช่แค่วันสองหรอก มัวแต่คิดก็ไม่ได้ทำกันพอดี ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ทำได้ หรือทำไม่ได้ มันอยู่ที่กล้าทำหรือเปล่า ทุกสิ่งทุกอย่างมันเริ่มจาก 0 ทั้งนั้น