กล่องมาแบบสไตล์จีนเด๊ะๆๆ คือทำให้ดีกว่านี้ก็ทำไม่เป็นว่างั้นเหอะ เปิดออกมาก็ง่ายๆๆ ครับ เอาโฟมยัดหัวท้ายและรองตรงตูดหน่อย หาพลาสติกบางๆๆ คลุมซักหน่อย แค่นี้แอมป์จีนก็ขายได้ล่ะ

เจ้าแอมป์จากค่าย Audio GD ผมไม่ค่อยสนใจนัก เพราะบอกตามตรงว่ามันดำๆทมึนชอบกล และใหญ่เทอะทะมากๆๆ แต่หลังจากศึกษาอ่านข้อมูลจาก Head-Fi ผมร้องเฮ้ย ไอ้เจ้า KingWa คนทำนี่มันเป็นวิศวกรที่ออกแบบให้ Krell นี่นา

แอมป์เป็นแบบที่เห็นล่ะครับ คือดำๆๆ ถึกๆๆ หน่อย ผมจำได้ว่าเคยเปิดข้างในมานับต้นทุนการผลิต ทำให้ยิ่งประหลาดใจว่ามันทำของมันได้ไง ตัวถังแบบนี้ เกรดอุปกรณ์ที่ใช้ รวมถึงปรัชญาในการออกแบบ

ผมเป็นแฟนตั้งแต่ C2C limited พอได้ยินว่าเค้าทำ The Roc ออกมาในราคาย่อมเยากว่า Phoenix ซึ่งอันนั้นแพงจริง และผมไม่มีปัญญาซื้อมันจริงๆๆ ก็เลยลองมองตัวย่อมๆๆ ที่มีวงจรเหมือนกัน

ก็เลยกลายเป็นว่าขอลองเจ้า The Roc หน่อยล่ะ....

รูปร่างใหญ่เล็กขนาดไหน เทียบกับตัวคนที่อุ้มดูก่อนได้เลยครับ เรื่องทางเทคนิคว่ากำลังขับเท่าไหร่ ทำอะไรได้มั่ง กำลังขยายยังไง ขอให้ถามคุณ หมูหวาน ร้าน Hifimod ก่อน (เร็วๆๆ นี้จะเปลี่ยนชื่อร้านเป็น Hifilover.com แล้วเน้อ)

แอมป์ตัวหนักเหมือนกัน เรียกว่าทุ่มใส่กบาล อย่าหวังว่าจะได้มีโอกาสรอดกลับมาฟังเพลงได้อีก

ตายสถานเดียวว่างั้น....

คร่าวๆๆ ก่อนล่ะครับ The Roc นั้นเป็นชื่อนกอินทรีย์ในวรรณคดีจีน ฝรั่งเรียก The Roc แต่ถ้าไปพูดกับคนจีน ก็จะประมาณว่า อินทรีย์ของเอี้ยก้วย ในเรื่องมังกรหยกล่ะครับ

มีปุ่มโวลลุ่มแบบ Step และเล่นกับแจ๊คบาลานส์ หรือขนาด 6.3 มม.ทั่วไปได้ เรียกว่าเผื่อมาให้ดิบดีเลย มีปุ่มกดให้มันเป็นปรีแอมป์ก็ยังได้ และมี selector เลือกว่าจะรับสัญญาณจากแหล่งแบบไหนได้อีก

ฟังก์ชั่นระดับมืออาชีพ ครบๆๆ ในแอมป์ตัวนี้เลยครับ อันนี้ยังไม่ใช่รีวิวเน้อ เป็นการแกะกล่องเล่าเฉยๆๆ จ้า ยังไม่ได้เสียบไฟเลยล่ะครับ

อลังการงานฟัง !!!

ด้านหลังเห็นแล้วมึน ผมเองไม่มี source แล้วจะเอามาเล่นได้ไงล่ะเนี่ย ช่างมัน เดี๋ยวหาหัวมาแปลงก็ได้ล่ะ มีขั้วรับสัญญาณมาตรฐาน RCA มาก่อนเลย 1 ชุด และบาลานส์มา 1 ชุด

แถมขั้วอีกคุ่หนึ่ง ที่ผมยังเรียกไม่ถูกเหมือนกัน เห็นเค้าว่าเป็นขั้วรับ input ที่ใช้ในแอมป์ระดับ Hi-End อย่าง Krell เดี๋ยวขอกลับไปอ่านก่อน ผิดถูกอย่ากันล่ะเน้อ

และก็มีขั้วปลั๊ก IEC ให้สำหรับคนมือคันที่ชอบอัพเกรดสายไฟ ผมบอกตามตรง ผมยังไม่รู้เลยว่ามีขั้วอะไรบ้าง ตาลายไปหมดแล้ว.....

พระเจ้าช่วย

นั่นมันอารัยฟะหนะ

ใหญ่ดีแท้

อลังการมากเลยเฮีย

ของผม Ha1ก้อว่าใหญ่ละนะ

ป๊าดๆ

สุดยอด

สรุปว่ามาแล้ว แต่ดีหรือไม่ก็ไม่รู้ล่ะ 555 บางคนบอกว่า แหม เฮียเอามาขาย เฮียก็ต้องบอกว่าดี....ไม่ใช่ล่ะ เพราะของพรรค์งี้ หลอกต้มไม่ได้ คนฟังเป็นผู้ตัดสินครับ ผมแค่อาสาเป็นทูตเจริญสัมพันธไมตรีให้เท่านั้นเอง 555

แต่ดูจากหน่วยก้านแล้ว บอกตามตรงผีเห็นผียังคร้าม !!

เพราะหน้าตารูปร่างของ The Roc มันบอกว่ามันเอาจริง ไม่ใช่เอาเล่นๆๆ...555

แล้วจะมารายงานเรื่องเสียงต่อเน้อ ขอลาไปเสียบปลั๊กก่อนล่ะจ้า 555

พี่เล็กกกกกกก...

เจอแล้ว อุปกรณ์ทดสอบ hydra 555

โอว... ซี๊ดดดดด

ง่ะ แอมป์หูฟังที่มีอินพุทแบบบาล้านซ์ สุดยอด อยากฟังเสียงจริงๆ ว่าจะเทพขนาดไหน แอมป์หูฟังแบบบาล้านซ์ (อยากจะรู้ว่าเทพแค่ไหนต้องลองเอาไปต่อกับเครื่องเล่นซีดีที่มีอินพุทแบบบาล้านซ์ ถูกๆ ก็ CEC 3300R แหละครับ)

ปล. แอมป์ที่มีวงจรบาล้านซ์แท้ๆ จะเสียงดีกว่าแบบทั่วไปที่เป็นอันบาล้านซ์ครับ เพราะมันจะมีภาคขยายเพิ่มขึ้นอีก 1 ชุดไว้ขยายด้านลบ (อันบาล้านซ์จะมีแค่บวกกับกราวน์ แต่บาล้านซ์มีบวก ลบ กราวด์ ทำให้มีภาคขยายเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวของวงจรปกติ) ทำให้ต้นทุนสูงกว่า แต่มีข้อดีคือสัญญาณต้นทางแรงกว่าแบบอันบาล้านซ์สองเท่า ทำให้ต่อสายได้ยาวกว่าโดยที่สัญญาณไม่ดรอป จึงนิยมในงาน PA แถมสัญญาณรบกวนจะถูกหักล้างกันเองจนหมดไป ทำให้ Noise Floor ต่ำกว่าด้วยครับ

เฉพาะภาคamp single endนี่รบกวนจับมากัดกับ C2C ด้วยนะครับเฮีย

ผมคงต้องเห่าหอนไปตามประสา บรู๊ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เฮียเอามาต่อกับอะไรครับ? CD player ?

นั่นน่ะซิครับ ผมมี CD Sony D25s portable เท่านั้นเอง 555 ถ้าเอาตัวนี้มาเล่นก็เท่ากับหาเหาใส่หัว (ทั้งๆๆ ที่หัวโกร๋นไม่มีผมนี่ล่ะ) 555

แต่เดี่ยวจะลองดูครับ เพราะถ้าใครมีโครงการจะเล่น DAC ดีๆๆมาพ่วงต่อ หรือชุดใหญ่ๆๆ ผมว่าตัวนี้พอรองรับได้หลายอย่างล่ะ


เดี๋ยวลองให้ครับ ผมเองบอกตามตรง รัก Vampire มากๆๆๆ จนรุ้สึกไม่อยากรักใครอีก แต่เห็น The Roc มาแบบนี้ คาดว่าต้องลองเปรียบเทียบก่อนซะแล้วล่ะ ค่าตัวมันไม่ถูกล่ะ ออกจะหนักพอควรล่ะครับ.....


เอ้า ว่างเดี๋ยวมาเล่าครับ 555

พี่น้อย! เอา hydraที่ผมไปก็ได้นะ ชักใจคอไม่ค่อยดี

ไอ้นั่นมาไอ้นี่โผล่ 555

^
^
oh no!! 555

แค่นี้ก็ต้องเจียมเนื้อเจียมตัวจะแย่อยู่แล้วครับ..รอรีวิวเฮียดีกว่า แล้วค่อยยุคนอื่นต่อ 555

ผมนึกว่าต่อระหว่าง ipod ไปหูฟังสะอีกครับ อิอิ

ROC เป็นชื่อที่เป็นจีนมากๆเลยครับ Republic of China

อะเย้ววว สงสัยเอามาต่อกับ iPod เหมือนเดิมดีกว่าเอิงเงย 555 ขืนบ้าซื้อซีดีมีบาลานส์อีก สงสัยผมจะทำใจไม่ได้ซะก่อน

ราคามาเมื่อตะกี๊ครับ คือ 28900 บาท



ช่วงนี้สั่งทาง audio GD บอกลดให้อีก 5% ล่ะเน้อ

ถามได้ครับ ไอ้หมูหวานเป็นตัวแทนจำหน่าย Audio GD อยู่ จัดการได้เน้อ...555



เดี๋ยวว่างผมจะลอง แล้วบอกว่ามันเป็นแนวไหน เอาแบบรายงานก่อนเบิร์นว่าเป็นไงคร่าวๆๆ ละกันเน้อ 555

เฮียครับ
เปิดฝา เปิดฝา เร้วๆๆๆๆๆ
ผมอยากดูข้างใน
555555

สงสัยเดินทางสาย kingwa นี่
ได้หมดตูดแน่ ๆ
นี่ถ้าดันทำ portable นะครับ
มีหวัง
เอื๊อกกกก

เอ้า วันนี้คุยโทรศัพท์กับพี่สมัครเล่นตั้งนาน ดันลืมเล่าถึงแอมป์ซะเนี่ย 555



คุยให้ฟังแบบรวบยอดคร่าวๆๆ ก่อนเน้อ



ผมลองต่อกับซีดี Portable สลับกับม้าแก่คู่ใจ iPod photo ใช้สาย HomeGrown DNA ว่าจะหา source ดีๆๆ มาลอง แต่คงได้แค่นี้ในวันนี้ล่ะครับ 55 เล่นชุดขวัญใจคนยากไปก่อนล่ะกัน ไว้ค่อยไปยืมซีดี Balance มาลองครับ


เจ้าหูฟังผมต้องบอกแฟนๆ HF2 ว่า ผมลองเปลี่ยนฟองน้ำไปใช้เป็นแบบอันใหญ่สุด แบบเดียวกับที่ใช้ใน PS-1000 ซึ่งผลออกมาต้องบอกว่าดีโคตรจริงๆๆ แต่เดี๋ยวค่อยมาเล่าส่วนในเรื่องของหูฟัง Grado อีกทีจ้า แต่บอกว่าเท่าที่ทดลองมาหลายวัน มีข้อดีมากกว่าข้อเสียมากๆๆๆๆ


แอมป์ The Roc นั้น เปิดปุ๊บคือดีปั๊บ ผมไม่คาดหวังว่ามันจะดีหรือต้องรอให้มันดีด้วยการเบิร์น เพราะอันนี้ฟังกันแบบเสียบปลั๊กแล้วฟังเลย จะเบิร์นคงต้องว่ากันวันหลัง

อาการปกติของแอมป์ที่ไม่เบิร์นยังไม่เจอครับ คือครบหมด ไม่มีอะไรด้วน แต่สิ่งที่ดีมากๆ คือความกว้างของ soundstage มาตามสไตล์ตระกูล audio GD ล่ะครับ


และจุดเด่นคือเสียงนั้นกระจ่าง ไม่มีการติดบาง หรือจัด แต่ออกไปทางติดหวานปะแล่มนิดๆๆ ไดนามิกดีเยี่ยม เสียงออร์แกนท่อต่ำๆๆ ครางได้ใจพอตัว กระเดื่องที่เคยได้ยินเบาๆๆ กระตุกๆๆ กลับมีแรงปะทะมากขึ้น น้ำเสียงออกทางสะอาด เนียน ไม่เน้นไปทางไหนมากนัก ฟังกับเพลงบรรเลงแผ่น Denon Hifi String แล้วจับใจ เพราะเครื่องสีนั้นเรียงออกมาเป็นคนๆๆ เลย เรียกว่าจับคันชักไวโอลิน ไล่ตามเก้าอี้ที่นั่งเลยล่ะครับ

แต่อันนี้ต้องบอกว่าผมใช้ขั้ว RCA ธรรมดา ซึ่งคาดว่าถ้าเป็นแบบ Balance เต็มๆๆ น่าจะไปได้อีกหลายฉึก และแปลกที่ว่าผมต่อพื้นๆๆ แต่ได้ฉากหลังที่มืดโคตรๆๆๆ ชิ้นดนตรีลอยปุดๆๆๆ ขึ้นมาทีละชิ้นๆๆ


มีข้อที่ผมติติงนิดนึง คือ gain volume ครับ คือผมใช้ Grado เป็นตัวทดลองขำๆๆ ปรากฏว่าต้องเร่ง Volume เยอะเหมือนกัน แต่เนื่องจาก Source ที่ผมมีค่อนข้างเบากว่าปกติก็เป็นได้

เวลาฟังผมต้องเร่งไปถึง 13.00 น. ถึงจะดังสะใจ ซึ่งมองๆๆ แล้วอาจจะดูเหมือนไม่มีแรง แต่ผมคิดว่าไม่มีผล นี่ก็ว่าจะไปเอา Sennheiser HD800 มาลองซะเลย แต่คิดว่าสอบผ่านฉลุยแน่ๆๆ เพราะ HD800 นั้นขับง่ายครับ แต่แอมป์ Signature Stage ก็ดังขี้หูร่วงแล้ว 555


เอ้า เอาแค่นี้ก่อน เพราะเป็นการเสียบปลั๊กแล้วฟังแค่ 1 ชั่วโมง ผมอาจจะกลับคำให้การในชั้นศาลอีกก็ได้นะครับ 555

อ้าว เฮียไปฟังแอมป์เพลินซะแล้ว T_T

รอรายงานผล มาเล่าต่ออีกหน่อยดิครับเฮีย

จ๊ากๆๆๆ เพิ่งเปิด ยังไม่ได้เบิร์นอะไรเลยเน้อ เดี๋ยวมาเล่าต่อทีหลังจ้า 555

เหอ เหอ...เฮียเอาของแรงมายั่วอีกแล้ว....


Vampire ผมยังฟังไม่คุ้มเลย...พักหลังๆ ไม่รู้เป็นไร...ต่อเจ้าMS-2iผมฟังไปฟังมา ดันชอบต่อกับ PK1 มากกว่าอะ....สงสัยหูตัวเองจัง...ยิ่งฟังยิ่งรู้สึกของถูกดีกว่า...5555

555 เฮียเชียรใช้ Vampire ดีแล้วล่ะครับ ไม่เป็นรองใครหรอกครับ ตัวที่อยู่ในมือเฮียเชียรนั่นดีมากครับ....555


เมื่อคืนฟัง The Roc ทั้งคืน เดี๋ยววันนี้เปิดทิ้งไว้ทั้งวันครับ แล้วค่อยมาบรรยายสรุปให้ฟังกันอีกทีเน้อ 555

รอฟัง REVIEW ครับ

555 ยังลองๆๆ อยู่ล่ะครับเฮียอ๊อด อ่านใน Head-fi เค้าว่าขับพวก HD-800 กับ D-7000 ได้ค่อนข้างดีมากๆๆๆๆ

แต่ผมติงหน่อยเดียว gain โวลุ่มมันตั้งอ่อนไปหน่อยนึง คือต้องเร่งมาก แต่ไม่มีผลต่อเสียงเลยแม้แต่น้อย

โวลลุ่มมันเป็น 24 step แล้วเค้าตั้งค่าช่วงต้นๆๆ ของการหมุนไว้ค่อนข้างอ่อนมากคร้าบบ

ดันกันเฮียเบี้ยวครับ...

555 ก๊วกกี้ทวงเลยนะ ไม่ลืมๆๆๆ ไม่ลืม เพียงแต่ฟังให้แน่ๆๆ หลายๆๆ คืนก่อน ตอนนี้ผมเปิดทิ้งไว้แบบ non stop คือเปิดมันไปเรือย เบิร์นคู่กับ Grado HD-2 ไปซะเลย

เสียดายชะมัดเลย ผมไม่มีอุปกรณ์ที่มีบาลานส์ในมือ สงสัยต้องเล่าเท่าที่ฟังได้เองล่ะเน้อ 555