ตอนแรกนี้ยังไม่เข้าเรื่องตามกระทู้นะครับ
ปกติผมจะใส่บาตรเช้ามืดวันอังคาร ซึ่งเป็นวันที่พ่อเสียชีวิต (ก่อนหน้านี้แม่เป็นคนใส่บาตร ตอนหลังแม่สุขภาพหลังและเข่าไม่ค่อยดี ผมเลยเป็นคนทำแทน)
มีพระเดินสายให้ใส่บาตรประมาณ 6-7 รูป อายุมากมากบ้าง มากน้อยบ้าง...คือ หกสิบกว่า ห้าสิบกว่า สี่สิบกว่า พระหนุ่มๆบ้าง เณรหนึ่ง
ไม่ถึงเดือนก่อน ผมเิริ่มสังเกตว่า หลวงตารูปที่ปกติจากมาถึงเป็นท่านแรก ไม่มารับบาตรสองสัปดาห์แล้ว รู้สึกสังหรณ์ไม่ค่อยดี
สัปดาห์ที่สองผมก็เลยถามหลวงน้ารูปที่ปกติจะมาเป็นคิวที่สอง(ยังกับคำในห้องซื้อขาย = =*)ว่า หลวงตาแก่ๆที่ปกติจะมาก่อนท่าน ไปไหนเสียเล่าครับ(พยายามคิดในแง่ดีว่า บางครั้ง บางท่านอาจติดธุระ รับกิจนิมนต์)
คำตอบคือท่านมรณะภาพไปแล้ว...เป็นลม ล้มหัวฟาดพื้น แล้วไม่นานก็มรณะภาพ
ถึงจะพอคาดเดาไว้บ้างอยู่แล้ว แต่ผมช็อคเล็กๆครับ เพราะเรียกว่า ยังเห็นกันไม่นาน สิบยี่สิบวันก่อน ยังใส่บาตรท่านอยู่เลย
คิดเสียว่าก็ดี ที่ท่านไม่ทุกข์ทรมานอยู่นาน ไม่ต้องเจ็บป่วย เจ็บปวดมากมายก่อนตาย
และ รู้สึกว่าความตาย อยู่ไม่ห่างชีวิตเราเลย
วันเสารที่ ๑๙ ตุลาคมที่ผ่านมา ผมไปงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติที่ศูนย์ประชุมฯ กลับมาถึงบ้านสามทุ่ม แม่ก็บอกหน้าเศร้าๆว่า พระที่เราจะใส่บาตรได้ น้อยลงไปอีกรูปแล้ว
ปรากฎว่าคราวนี้ คือหลวงน้ารูปที่ผมเพิ่งถามข่าวหลวงตารูปแรกครับ น่าจะเสียชีวิตจากเส้นโลหิตในสมองแตก ปกติท่านจะตื่นเร็วมาก เพราะท่านรับหน้าที่ตีระฆังตอนตีสี่ แต่วันที่๑๗ที่ผ่านมา ท่านไม่ได้ทำหน้าที่ จนสายก็ยังไม่ออกมา คนที่วัดก็เลยพังประตูเข้าไปดู เจอท่านนอนไม่ได้สติอยู่ พาไปส่งโรงพยาบาล หมอก็ช่วยไม่ได้แล้ว เพราะคงเป็นแบบนั้นตั้งแต่เมื่อคืน
ท่านมรณภาพอย่างสงบวันที่๑๘ตอนกลางคืน
ผมรู้สึกช็อคมากกว่าเดิมมากครับ เพราะเพิ่งใส่บาตรท่านเมื่อวันที่๑๕ ที่ผ่านมานี่เอง และค่อนข้างผูกพันกับท่านแม้จะไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว เนื่องจากท่านมีกิริยาที่สำรวมเวลามารับบาตร เท่าที่สังเกต ท่านจะใช้บาตรลูกนิดเีดียว เดินบิณฑบาตรชั่วครู่เดียวก็เดินกลับ คือรับบาตรแค่พอฉัน ไม่ได้รับข้าวของชาวบ้านมากมายเพื่อประโยชน์อย่างอื่น (แค่ในตลาดข้างบ้าน ก็มีพระยืนอยู่หน้าร้านขายกับข้าวรอโยมมาใส่ แล้วถ่ายใส่ถุงให้เห็นอยู่หลายรูปละครับ)
จากที่ไม่เคยรู้จักท่าน แต่เลื่อมใสวัตรปฏิบัติเล็กๆน้อยๆที่พอสังเกตเห็น ทราบข้อมูลเพิ่มจากผู้บอกข่าวการมรณะภาพของท่านว่า ท่านเป็นพระที่ขยัน ปฏิบัติกิจของสงฆ์อย่างดี ทำงานวัด ช่วยงานวัด ถ้าพอมีปัจจัยบ้าง ก็ซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นถวายให้วัด ไม่ได้มี หรืออุปกรณ์อย่างอื่นอันเกินกว่าสมณะพึงครอบครอง
ท่านอาุยุไม่มากครับ ยังไม่ห้าสิบด้วยซ้ำ
ตอนไปรดน้ำศพเมื่อเย็นวันที่๒๐ ผมอยู่จนบรรจุท่านเข้าโลง นอกจากกรอบรูปท่านที่ตั้งอยู่ ยังเห็นใบแต่งตั้งอะไรสักอย่างหนึ่ง ว่าท่านเป็นพระใบฎีกา และจบนักธรรมเอก
ความตายไม่เคยละเว้นใครเลยครับ
คิดเหมือนตอนทราบข่าวหลวงตารูปแรกว่า ดีที่ท่านไม่ต้องเจ็บป่วยทรมานนานๆก่อนจะต้องละสังขาร
ถ้าโลกหลังความตายมีจริง คงไม่้ต้องห่วงท่าน สิ่งที่ท่านทำมาตลอดชีวิต ย่อมทำให้ท่านไปสู่ที่ดีงาม
รู้สึกปลงเล็กๆว่า ชีัวิตคนนี่สิ้นสุดกันง่าย เห็นกันอยู่หลัดๆจริงๆ
และนึกถึงพุทธปัจฉิมโอวาทที่ว่า "สิ่งทั้งหลาย(รวมทั้งชีวิตนี้) มีความเสื่อมสลายเป็นปกติธรรมดา ขอพวกท่านจงใช้ชีวิตที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ด้วยความไม่ประมาทเุถิด"