Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

อี้อืม จนเกือบ อืมอี้

เพลงสวรรค์

27/09/2013 22:17:35
0



บางครั้งบรรยากาศรอบข้างอบอวลไปด้วย noise และเสียงแหลมที่บาดหูเกินไป
เมื่อปรับลด gain ลงมาบ้าง
อ่าห์...เสียงกลางนุ่มหวานขึ้นมาหน่อย
ปลายแหลมที่เคยบาดหูก็กลับเนียนละเอียดขึ้น
วิธีปรับปรุงเสียงของบรรยากาศรอบๆตัวเราที่ดีที่สุด
ก็คือการเติมเสียงหัวเราะลงไปนั่นเองครับ

เมื่อคราวที่ผมจำต้องไปเรียนหนังสือที่แดนไกล
พี่สาวและน้องสาว (ตัวแสบ) ที่มักจะเป็นคุ่กัดกับผมอยู่เสมอ
เมื่อเวลาอยู่บ้าน
กลับห่วงใยน้องชายเป็นนักหนา เพราะรู้รสชาติของคำว่า "ไกลบ้าน" เป็นอย่างดี
ต่างก็ขยันขันแข็งในการสรรหาขนมนมเนย, หนังสือหนังหาที่ผมโปรดปราน
(สตาร์ซอคเกอร์และพอคเก็ตบุ๊คต่างๆ) กับของใช้จุกจิก
ที่หาได้ยากในยามที่อยู่ต่างแดน ส่งไปให้มิได้ขาด
ได้รับบ้าง ไม่ได้รับบ้าง
และในจำนวนหลายๆเล่มของหนังสือ ที่พี่สาวส่งไปให้นั้น
มีอยู่เล่มหนึ่ง ผมจำชื่อไม่ได้แล้ว เป็นเรื่องขำขันของจีน
ประเภทรวมเรื่องสั้น เรื่ิองละ 3-4 บรรทัด ผมอ่านได้ยังไม่ทันถึงครึ่งเล่ม
ก็ถูกเพื่อนๆ นักเรียนไทยด้วยกัน ขอยืมไปผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันอ่าน
เป็นที่ถูกอกถูกใจของหลายๆคน
และตั้งแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้ หนังสือเล่มนั้นก็ไม่ได้หวลคืน
สู่อ้อมอกของเจ้าของเดิมอีกเลย

ผ่านไปสิบกว่าปี แต่ผมก็ยังพอจะจำเค้าโครงเรื่อง
ของบางเรื่อง บางตอนได้ลางๆ พอจะนำมาเรียบเรียงเล่าสู่กันฟังได้บ้าง
แต่ก็ขออนุญาตดัดแปลงเพิ่มเติมขึ้นมา
เพราะเนื้อเรื่องเดิมน่าจะมีความยาวเพียง 3-5 บรรทัดเท่านั้น

ขยับมาใกล้ๆครับ มาหัวเราะกันดีกว่า


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ผืนแผ่นดินมังกร จะอยู่ในยุคไหน สมัยใด ราชวงศ์อะไรก็มิต้องใยดี
จะเป็นเมืองใด แคว้นอะไรก็มิพักต้องคาดเดาให้เสียเวลา
ยังมีกระทาชายนายหนึ่ง จะชื่อเรียงเสียงไร มิปรากฏหลักฐานแน่ชัด
กระทาชายนายนี้ ตะแกอาศัยอยู่กับเมียแกแค่สองคน
สูแกมีคุณสมบัติอยู่ประการหนึ่ง คือแกขี้ลืมอย่างมหาวายร้าย ลืมได้ลืมดี
ลืมมันทุกอย่างที่ขวางหน้า แม้แต่เมียตัวเองก็ยังจำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
เป็นที่อิดหนาระอาใจแก่เมียบังเกิดเกล้าของตะแกเป็นที่ยิ่ง

จนอยู่มาวันหนึ่ง ความอดทนอดกลั้นของเมียแกก็อ่อนกำลังลง
นางเมียยื่นคำขาดเป็นอาญาประกาศิต
ให้เจ้าผัวตัวดีต้องรีบไปโม เอ๊ย! ไปรักษาอาการขี้ลืมซะให้สิ้นซาก
จัดแจงแนะนำชื่อแซ่ ของซินแสผู้มีชื่อเสียง ที่นางมั่นใจว่ามีความสามารถ
รักษาโรคขี้ลืมของผัวได้แน่ ซินแสคนนี้อาศัยอยู่อีกเมืองหนึ่ง
ระยะทางเพียงขี่ม้าไปสองวัน

เมื่อสูแกได้รับข้อเสนออันมิอาจปฏิเสธ (แหม..คุ้นๆ นะ) จากเมียรัก
และตะแกก็ยังพอมีสติสัมปชัญญะ ยังพอจำได้ถึงฤทธิ์เดชฝ่ามือสะดือระทม
และลูกถีบสะท้านทรวงของเมียแกได้เป็นอย่างดี
อย่ากระนั้นเลย ถ้ายังขืนมาทำเป็นทองไม่รู้ร้อน มีหวังชะตาอาจถึงฆาต
เงาหัวมีสิทธิ์ขาดได้
ว่าแล้วสูแกก็กระวีกระวาด จัดเตรียมม้าและเสบียงกรังพร้อมอาวุธ
เพื่อเตรียมตัวเดินทางในเช้าวันรุ่งขึ้น

เมื่อถึงเวลาเช้า ตะแกก็ขึ้นหลังม้า สะพายธนู ถือลูกศรไปด้วยหนึ่งลูก
รีบขี่ม้าออกจากบ้านพร้อมเสียงของนางเมียที่ตะโกนไล่หลังมาว่า
"ถ้าไม่หาย อย่ากลับมาให้เห็นหน้านะ....ึง!"

สูแกกระหยิ่มใจ ภูมิใจเป็นนักหนาว่าเมียของแกนี่ช่างเป็นห่วงเป็นใยในตัวแกเหลือเกิน
จะหาเมียดีๆอย่างนี้ได้จากที่ไหนอีก

เมื่อขี่ม้ามาได้ซักพักใหญ่ๆ สูแกก็ให้มีอาการ "ปวดอึ" ขึ้นมากะทันหัน
ไม่ได้การละ แกคิดในใจ
เห็นทีจะต้องแวะทำธุระซะให้เรียบร้อยก่อน
ว่าแล้วตะแกก็ชะลอม้าและสอดส่ายสายตา หาทำเลเหมาะๆ
ในการสะสางภารกิจอันสำคัญยิ่งในเวลานี้

พลันสายตาแกก็เหลือบไปเห็น "ทำเลทอง" เป็นพุ่มไม้มีใบดกหนา
เป็นเกราะกำบังสายตา เพื่อป้องกันภาพ "อุจาด" ได้เป็นอย่างดี
พื้นที่รอบข้างหรือก็เรียบเตียน สะอาด แถมยังมีไม้ใหญ่แผ่กิ่งใบให้ร่มเงา
และยังเป็นที่ผูกม้าอีกต่างหาก ช่างเหมาะแก่การศึกครั้งนี้ของแกเป็นอย่างยิ่ง

สูแกกระหยิ่มยิ้มย่องด้วยหัวใจที่พองโตคับอก พลางนึกในใจว่า
ตัวแกนี้ช่างมีสติปัญญาเหนือคน ไม่เสียแรงที่เคยศึกษาตำราพิชัยสงครามของ "ซุนวู" มาบ้าง
เพราะคนธรรมดาทั่วไป ไหนเลยจะมีสติปัญญาในการเลือก "ชัยภูมิ" ที่เหมาะเจาะเช่นนี้ได้

ตะแกคิดไปคิดมาด้วยความปลื้มปิติในระดับสติปัญญาของตัวเองอยู่หลายตลบ
จนลืมไปว่า ตัวแกมีภารกิจอะไร ณ สถานที่แห่งนี้

เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง ตะแกก็รีบลงจากหลังม้า นำม้ามาผูกกับต้นไม้
เอาลูกศรปักดินไว้ แล้วจัดแจงทำธุระด้วยความเพลิดเพลินเจริญใจเป็นที่ยิ่ง

เมื่อเสร็จกิจ สูแกก็ลุกขึ้นและหันกลับมา
เมื่อนั้นสายตาของตะแกก็พลันไปเห็นลูกศร ที่ตะแกปักดินเอาไว้
"ไอ๋ย๋า ! ใครลอบยิงอั๊ววะ?"

ด้วยความตกใจแทบสิ้นสติ ตะแกทำหน้าเลิ่กลั่ก ผงะถอยหลังไปสองก้าว
จึงเหยียบเข้าเต็มๆกับ "อึ" ของแกที่ยังอุ่นๆอยู่

สูแกผู้น่าสงสาร ทำหน้ากระอักกระอ่วน สะอิดสะเอียน ขยะแขยงสุดประมาณ
เอาเท้าถูไถกับพื้นดินเป็นพัลวัน ปากก็บ่นไป สบถไปไม่หยุดหย่อน
"ซวยจริงๆเลย เหยียบขี้หมาแต่เช้า"

เมื่อตะแกขอยืมผืนดินและผืนหญ้าในการชำระ "ขี้หมา" ออกจากอุ้งเท้าของแกได้
จนเป็นที่น่าพอใจแล้ว สูแกก็เงยหน้าขึ้น
"เฮ้ย! ม้าใครวะ?"

ตะแกหันซ้ายหันขวา ดูทางหนีทีไล่ เมื่อเห็นว่าปลอดคน
จนแน่ใจว่าที่แห่งนี้ มีเพียงแกคนเดียว
"เฮ้ย! ม้าไม่มีเจ้าของนี่หว่า เอาซะเลย"

แกรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจเป็นนักหนา จัดการแก้เชือกแล้วขึ้นขี่หลังม้าอย่างทะมัดทะแมง
พอใจกับโชควาสนาของตัวเองเหลือหลาย

และเมื่อนั้น ก็ให้บังเกิดอาการคิดถึงเมียขึ้นมาโดยทันใด
และสงสัยเหลือเกินว่า สูแกมาทำอะไรอยู่แถวนี้หว่า?
อย่ากระนั้นเลย เอาม้าตัวนี้ไปอวดเมียดีกว่า
เอาความดีความชอบจากเมียรักซักหน่อย แกคิด
ว่าแล้วก็ควบม้าตะบึงกลับไปบ้าน

เมื่อถึงบ้าน นางเมียพลันไดียินเสียงผัว ก็ให้แปลกใจนัก
มันขี่ม้าออกไปไม่กี่เพลา ไฉนมันจึงกลับมาเร็วนัก นางคิด
"ตามเคย มันลืมอีกตามเคย เวรจริงๆ"

เมื่อปะหน้ากัน นางจึงนำล่องออกไปด้วยสูตรสำเร็จรูปในการด่า
ที่ใช้อยู่ประจำเป็นชุดแรก
แต่คราวนี้ ตะผัว "มีเถียง"
"เอ๊ะ! นังนี่ ไม่รู้จักมักจี่ เจอหน้าก็ด่าเอา ด่าเอา มันเรื่องอะไรวะ"

เหตุการณ์ต่อจากนี้ ขอท่านทั้งหลายได้โปรดใช้จินตนาการ รวมทั้งวิจารณญาน
แต่อย่าให้รุนแรงนักนะครับ เหอะ เหอะ

ถ้าชอบก็กด Like บ้างน้าาา
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

p,p

28/09/2013 09:21:18
สนุกดีครับ ภารกิจเกือบสำเร็จถ้าไม่เหลือบไปเห็นลูกศรเสียก่อน 555

นึกๆสงสารเมียเจ้าหมอนี่ ทีหลังเมียมันจะกล้าส่งไปอีกไหม๊เนี่ยยย ฮ่า ฮ่า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

ผ่านมา

28/09/2013 09:23:55
ว่าแต่ทำไมมันยังจำเมียมันได้หว่า 55
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

เรือใบสีทอง

29/09/2013 00:38:38
0
ตลกอ้ะ ชอบครับ ปกติชอบตลกจีนแบบนี้อยู่แล้ว^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"อี้อืม จนเกือบ อืมอี้"