วัดที่สกุลไฟล์ อาจจะไม่ตรงทีเดียว ตอนนี้ต้องวัดที่ขนาดของไฟล์ และบิทเรท น่าจะเวิร์คกว่าจ้าๆๆๆ

แต่ละนามสกุล ก็มีแบ่งระดับคุณภาพต่างๆกันไปอีกครับ

มาเทียบกันแบบเหมารวมไม่ได้

หลักๆก็ mp3 < lossless ครับ ส่วนย่อย lossless ก็ว่ากันใหม่แต่ไม่น่าต่างกันเท่าไหร่ผมว่า flac หรือ apple lossless ก็น่าจะพอแล้วครับ

ใช้กับเครื่องเล่นอะไรเหรอครับ
apple lossless ประมาณ 30 MB มั้งครับ
flac น่าจะราวๆ 20 MB
ถ้าเลือก mp3 หรือ aac 320 vbr 44,100 น่าจะประมาณ 10 MB ครับ
อยู่ที่พื้นที่ในการจัดเก็บครับ :D

จริงๆมันอยู่ที่ความชอบนะ แต่ถ้าจะเอาตามศักดิ์ของมัน มันแบ่งเป็น3จำพวกครับ คือ

1.ไม่มีการบีบอัด และไม่มีการสูญเสีย (.WAV)

2.มีการบีบอัด แต่ไม่มีการสูญเสีย (.FLAC/.APE/.WMA(Loseless) /**AIFF(ไม่รู้ว่ามันเหนือกว่าพวกนี้หรือเปล่า แต่น่าจะอยู่ในจำพวกนี้))

3.มีการสูญเสีย [Lossy] พวกนี้ก็ได้แก่MP3 นั่นแหละครับ ตั้งแต่128Kbps จนถึง320Kbps ซึ่งKbpsถ้าผมเข้าใจอะไรไม่ผิด มันคือการส่งข้อมูลผ่านเข้าหูเรา โดยพวกไม่สูญเสีย[Loseless] จะมีบิทเรทอยู่ที่1411Kbps ยิ่งบิทเรทเยอะ คุณภาพเพลงก็ยิ่งสูงขึ้นครับ

ว่าจะกลับมาพิมพ์อีกรอบ พอดีคุณม้าน้ำตอบให้ก่อนแล้ว 555

คร่าวๆ ตามนี้ได้เลยครับ ทั้งหมดที่ว่ามา คือไฟล์ที่ทำการ Ripping มาจากซีดีอีกทีนึง คืออยุ่ที่ 16/44.1 ล่ะจ้าๆๆ

AIFF อยู่ระดับเดียวกับ WAV นี่ครับ แต่อันนึงของ Apple อันนึงของ Microsoft ถ้าผมจำไม่ผิดนะ

งะ ผมมาแย่งเฮียตอบหรือนี่ ^^" แหะๆ

ปล.พึ่งรูั้้ว่าAIFFเท่าWAVก็วันนี้ละ ^^

มาเสริม พวกไฟล์ lossless มีระดับ การบีบอัดนะครับ
บางตัวบีบอัดเยอะ ก็ขนาดเล็ก บางตัวบีบอัดน้อย ก็ใหญ่

แต่ไม่เหมือน mp3 (lossy) ที่ถูกตัดออกไปเลย

Lossless ที่บีบอัดเยอะ ก็กิน ทรัพยากรเครื่อง กินแบต เยอะ เวลาเล่น

เพิ่งรู้ ว่า aiff bitrate 1411Kbps นะเนี่ย

WAV > AIFF > FLAC > ALAC

ที่ WAV > AIFF เป็นเพราะ format ของ WAV มี endian ตรงกับ CPU ที่เราใช้กันทุกวันนี้ แต่ก่อน Apple ใช้ Big Endian AIFF ก็ Big ตาม มาทุกวันนี้เป็น Little Endian แล้ว AIFF มันก็ต้องแก้ไขอะไรหน่อยแต่ฟังแล้วไม่เหมือน CD เท่า WAV

อ่อ FLAC ก็ออก Uncompressed mode ทำให้เสียงดีเหมือน WAV แล้วนะครับ

ขอนอกเรื่องนิดนะครับ ถ้าผมจะแปลง mp3 ให้เป็น apple lossless จะได้มั้ยครับ แล้วต้องใช้โปรแกรมอะไรครับ

K' doraemonred แปลงจากไฟล์ที่มีคุณภาพต่ำไปสูง
ไม่ได้ทำให้คุณภาพมันดีขึ้นครับ :D

เพิ่มเติมเป็นข้อมูลครับ หากต้องการแปลงเป็น
apple lossless แนะนำจากแปลงจาก cd หรือไฟล์อื่นๆที่ใกล้เคียงกันครับ

โอ้ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูล
ที่ฟังอยู่มีแต่ mp3 320k ทั้งหมดเลยยังไงก็ไม่ได้สินะครับ คงต้องหาแผ่นแท้มาริบเอง ส่วนใหญ่ฟังพวก j-pop น่ะครับ อิอิ

คือมันแปลงได้ครับแต่ส่วนที่ถูกตัดออกไปแล้วมันก็ไม่ได้กลับมาอะครับเลย ได้ขนาดที่ใหญ่ขึ้นแต่คุณภาพมันเท่าเดิมอะครับ.....

โอ้ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูล
ที่ฟังอยู่มีแต่ mp3 320k ทั้งหมดเลยยังไงก็ไม่ได้สินะครับ คงต้องหาแผ่นแท้มาริบเอง ส่วนใหญ่ฟังพวก j-pop น่ะครับ อิอิ

อืม ผมก็หลงนึกว่า AIFF=WAV มาตั้งนาน แต่ก่อนเหมือนจำได้เลาๆว่า AIFF เป็น Universal มากกว่าด้วยซ้ำ แต่อยากบอกตรงๆว่าทำ blind test แล้วผมแยก LOSSLESS ด้วยกันไม่ออกเลยครับ

ส่วนตัวผมแปลง AIFF ลง CLASSIC เพราะที่มันเหลือนั่นแหละ (ฟังออกรึเปล่าไม่รู้แต่ตอนแปลงมันเร็วดี 555+)

คุณ doraemonred

ฟังเน้น j-pop คิดว่าแค่ mp3 320k ก็พอค่ะ ไม่ต้อง wav ก็ได้ เพราะเอามาฟัง j-pop ตามปกติ เสียงไม่ต่างกันมากค่ะ ถ้าเป็นเพลงไอดอลหรือเพลงอะนิเมะทั่วไปใช้แค่ mp3 320k ก็พอ นอกจากจะมีความสามารถพิเศษที่จะรับสัมผัสได้.. ค่อยใช้ wav


ถ้าจะเอามาฟังเพลงคลาสสิค หรือพวกตัวพ่อตัวแม่ J-Pop หรือ J rock ค่อยจัด wav ได้ (ต้องเพลงของพวกตัวพ่อตัวแม่ที่เน้นงานเพลงรายละเอียดสูงๆ บันทึกเสียงมาดีๆ จึงจะเห็นผลค่ะ )

ช่วงนี้ค่าเงินเยนแข็ง แผ่นแพงค่ะ.. แกลบอีกแล้ว T^T

ฟังจากแผ่นแจ่มที่สุด

เห็นคห.ของคุณพิ้งค์ฟรอยด์แล้วอึ้งเลย ในเครื่องผม เพลงอนิเมะ80%ครับ และร้อยละ90 เป็นไฟล์FLAC ที่หาจากหอสมุดโตเกียว หรือเว็บTirkx และVNSharing หากมันไม่ต่างกันจริงๆผมคงเปลืองเนื้อที่โดยใช่เหตุละ T^T

กระจ่างแล้วครับ ขอบคุณทุกความเห็นมากเลยครับ

ตอบคุณม้าน้ำค่ะ

ซื้อแผ่นของ aniplex มา เสียงไม่ค่อยดีนะคะ ฟังต่างกับ mp3 นิดเดียวเอง แทบไม่รู้สึก


ถ้าแผ่น OST พวกไฟนอล ค่อนข้างแจ่มเลยค่ะ ถ้าทำเป็น wav รู้ได้ว่าเสียงมันดังกว่า mp3 ล่ะ แต่ถ้าทำ AB test ไม่แน่ว่าจะจับแยกได้หมด

แต่ถ้าแผ่นของพวกตัวพ่อ J -rock รู้สึกชัดเลยว่าเสียงตวาดเข้มแข็งกว่า เสียงดนตรีแน่นกว่าค่ะ และบางแผ่นมันมาเป็น 24 บิต ค่ะ

เพลงเมะค่ายไหน ของใครแจ่มไม่แจ่ม ก็คงต้องลองแยกดูค่ะ ถ้าฟังไม่ออกก็จัด mp3 ไป น่าจะประหยัดที่กว่า

1 Wave 2 AAC 3 MP3

นามสกุลของไฟล์เสียง
ชนิดและรูปแบบของไฟล์เสียง
Wave
ไฟล์ Wave หรือไฟล์ที่มีนามสกุล .wav เป็นไฟล์ข้อมูลที่เป็นคลื่นเสียงที่ได้จากการบันทึกเสียง ซึ่งบันทึกเก็บไว้บนสื่อดิจิตอล เช่น ฮาร์ดดิสก์, CD สำหรับไฟล์ Wave นี้เป็นไฟล์ที่ไม่มีการบีบอัดข้อมูล ไฟล์จึงมีขนาดใหญ่ทำให้เปลืองเนื้อที่ในการเก็บข้อมูล
CD Audio (แทร็กบนซีดีเพลง)
CD Audio หรือแทร็กเพลงบนแผ่นซีดี ส่วนใหญ่จะแยกเก็บ 1 เพลงต่อ 1 แทร็ก
โดยแต่ละแทร็กจะเก็บเป็นไฟล์ .cda (CD Audio) เรียงกันเป็น Tracko1.cda,Track02.cda ไปเรื่อย ๆ
ตามลำดับ ซึ่งไฟล์ .cda นี้วินโดวส์ไม่สามารถอ่านออกมาเป็นไฟล์ข้อมูลได้โดยตรงต้องใช้โปรแกรมที่ อ่านเฉพาะขึ้นมาเล่นในแบบแทร็กบันทึกเสียงเพลง เช่น โปรแกรมเล่นซีดีทั่วไป หรือ
ใช้โปรแกรมที่อานแล้วแปลงไฟล์ .cda เช่น ไฟล์ WAV หรือ MP3 มาช่วยอ่าน
MP3
MP3 หรือไฟล์ที่มีนามสกุลเป็น .mp3 นับได้ว่าเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายมาก MP3 ใช้เทคโนโลยีย่อข้อมูลเสียงของมาตรฐาน MPEG1 ซึ่งสามารถย่อข้อมูลเสียงให้เล็กลงได้ประมาณ 10 ถึง 12 เท่า เมื่อเข้ารหัสที่อัตราบิตเรท 128 Kbps และคุณภาพเสียงที่ได้ยังมีคุณภาพระดับ CD
MIDI (Musical Instrument Digital Interface)
ไฟล์เพลง MIDI มีนามสกุลเป็น .mid เป็นไฟล์ที่บรรจุข้อมูลที่ใช้กับอุปกรณ์ดนตรี ขนาดของไฟล์ MIDI หนึ่งไฟล์จะมีขนาดประมาณ 20 ถึง 50 KB เท่านั้น เนื่องจากข้อมูล MIDI เป็นค่าตัวเลขเสียส่วนใหญ่ จึงสามารถแก้ไขได้ง่ายโดยใช้โปรแกรมเฉพาะ เช่น Cakewalk Pro Audio
RealAudio
ไฟล์เสียง RealAudio หรือไฟล์นามสกุล .ra สำหรับใช้กับโปรแกรม RealOne Player ซึ่งเป็นรูปแบบสำหรับใช้กับสื่อดิจิตอลแบบบ Streaming ที่ใช้รับฟังภาพและเสียงบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

Windows Media Audio (WMA)
ไฟล์เสียง Windows Media Audio หรือไฟล์นามสกุล .wma ซึ่งใช้กับโปรแกรม Windows Media Player ของไมโครซอฟท์ ไฟล์ WMA สนับสนุนการใช้งานไฟล์เสียงดิจิตอล

OGG Vorbis (OGG)
Ogg Vorbis หรือไฟล์นามสกุล .ogg เป็นเทคโนโลยีการบีบอัดไฟล์เสียงในรูปแบบใหม่ ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นจากรูปแบบ MP3 แต่มีความแตกต่างที่ดีกว่า คือขนาดของไฟล์จะมีขนาดเล็กกว่า คุณภาพของเสียงที่ชัดเจนกว่าและสามารถนำไปพัฒนาต่อได้

AIF, AIFF: เป็นไฟล์เสียงที่ใช้กับเครื่อง Macintosh ของ Apple มีลักษณะคล้ายกับไฟล์ Wave ที่ใช้เครื่อง PC

AU: ไฟล์เสียงที่ใช้กับระบบ Unix มีลักษณะคล้ายกับไฟล์ Wave ที่ใช้เครื่อง PC

AC3: เป็นไฟล์เสียงของวิดีโอที่บันทึกในระบบเสียงรอบทิศทาง (Surround Sound) แบบ AC-3 (Dolby Digital 5.1)

AAC: เป็นไฟล์เสียงแบบ AAc มีคุณภาพเสียงดีกว่า Mp3 สามารถแยกเสียงได้ถึงระบบ 5.1 ข่องสัญญาณ เทียบเท่า Dolby Digital หรือ AC-3 สุ่มความถี่ได้สูงสุดถึง 96 khz ซึ่งสูงกว่าซีดีเพลง และรองรับอัตราการเล่นไฟล์มีเดียสูงถึง 576 kbps

ASF: ไฟล์ .asf (Audio streaming Format) เป็นไฟล์เสียงสำหรับใช้งานบนอินเตอร์เน็ต ซึงมีลักษณะคล้าย ๆ กับ RealAudio

mp3< flac(lossless)< wav(uncompress)< wav 24bit< dsf< dsd

มังผมไม่มีความรู้