แรงขับของแอมป์ ค่า โอมห์ ค่า เดซิเบล มีผลต่อคุณภาพเสียงอย่างไรครับ มีความสัมพันธ์กันอย่างไรครับ
ไปอ่านมาหลายเว็บมากครับเพราะตอนนี้กำลังเตรียมวางแผนชุด fullsize พกพาได้ครับ หูฟังมีในดวงใจครับ player กับ amp ชั่งใจระหว่าง hm-901 หรือชุด HIFI-M8 ห่วงเรื่องเรี่ยวแรงอาจส่งผลต่อคุณภาพครับ
หูที่เล็งเป็น plarna 50 ohm 94 db ครับ สายที่มาค่อนข้างใหญ่และหนักครับ เลยคิดว่าขั้วเล็กๆอย่าง 901 น่าจะรับไม่ไหวน่ะครับ ขั้วน่าจะเป็น balanced ครับ
มีการคำนวนเบื้องต้นว่าหูตัวที่ผมสนใจใช้กำลังขับ 500 mw ที่ 90 db ครับ
จากข้อมูลข้างต้นมีการเสนอหลายความคิดเห็นมากครับ บางท่านว่าถ้าแอมป์ ยิ่งกำลังขับสูง ยิ่งทำให้กว้างขึ้น เบสลงลึกขึ้น แหลมไปได้ไกลขึ้น หลายท่านว่าไม่เกี่ยว ผมไม่ค่อยเข้าใจนักเพราะเป็นภาษาอังกฤษ และ เป็ศัพท์เฉพาะเยอะมากครับ
มีท่านใดมีความรู้ ความเข้าใจและ พร้อมอธิบายได้บ้างครับ ถ้าสอนคำนวนคร่าวๆได้น่าจะดีครับ เพราะช่วยในการมองหาและช่วยตัดสินใจว่าจะลองตัวใดบ้างก่อนไปลองจริงน่ะครับ
Guest
ช่องทางการติดต่ออื่น
แรงขับของแอมป์ ค่า โอมห์ ค่า เดซิเบล มีผลต่อคุณภาพเสียงอย่างไรครับ มีความสัมพันธ์กันอย่าง
moohunt21
17/08/2013 20:00:42
0
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0betterake
17/08/2013 22:21:52
0
เท่าที่ผมเคยเจอ แมทชิ่งมันค่อนมาทางไสยศาสตร์มากกว่าคณิตศาสตร์น่ะครับ
player บางตัวดูสเป็คแล้วน่าจะขับออกแค่ earbud แต่ผมลองเอา full size 63โอห์มมาจับ มันก็ขับออกและดีด้วย แต่เจอ earbud แค่16 โอห์มบางตัวเข้าไปเป๋เลยก็มี
ค่าบางตัวที่เค้าไม่ค่อยพูดถึง ก็คือค่าความต้านทานของ player ตรงขาออก อันนี้ก็มีผลครับ เอามาคำนวณได้เสียด้วย
ขั้นตอนการออกแบบวงจร จะใช้ศาสตร์และการคำนวณชั้นสูง
แต่ขั้นตอนจูนสุดท้ายระดับที่ต้องใช้ประสบการณ์สูงสุด เค้าใช้หูในการตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นค่า capacitor , ทิศทางของสาย หรือความอิ่มกังวาลอะไรต่างๆ
หูระดับเพชร ฟังแล้วบอกได้ด้วยซ้ำว่าขั้วฟิวส์หรือสายไฟกลับทิศ แหลมยังไม่สุด เบสยังอิ่มกว่านี้ได้อีก อันนี้เครื่องตรวจไม่เจอครับ ขั้นตอนนี้เครียดกว่าคำนวณเยอะเลย
เล่าๆมานี้ไม่ใช่อะไรครับ ง่ายๆคือไปลองแมทช์เอาเอง ถ้าชอบก็ใช่เท่านั้นล่ะครับ
player บางตัวดูสเป็คแล้วน่าจะขับออกแค่ earbud แต่ผมลองเอา full size 63โอห์มมาจับ มันก็ขับออกและดีด้วย แต่เจอ earbud แค่16 โอห์มบางตัวเข้าไปเป๋เลยก็มี
ค่าบางตัวที่เค้าไม่ค่อยพูดถึง ก็คือค่าความต้านทานของ player ตรงขาออก อันนี้ก็มีผลครับ เอามาคำนวณได้เสียด้วย
ขั้นตอนการออกแบบวงจร จะใช้ศาสตร์และการคำนวณชั้นสูง
แต่ขั้นตอนจูนสุดท้ายระดับที่ต้องใช้ประสบการณ์สูงสุด เค้าใช้หูในการตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นค่า capacitor , ทิศทางของสาย หรือความอิ่มกังวาลอะไรต่างๆ
หูระดับเพชร ฟังแล้วบอกได้ด้วยซ้ำว่าขั้วฟิวส์หรือสายไฟกลับทิศ แหลมยังไม่สุด เบสยังอิ่มกว่านี้ได้อีก อันนี้เครื่องตรวจไม่เจอครับ ขั้นตอนนี้เครียดกว่าคำนวณเยอะเลย
เล่าๆมานี้ไม่ใช่อะไรครับ ง่ายๆคือไปลองแมทช์เอาเอง ถ้าชอบก็ใช่เท่านั้นล่ะครับ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0Archibald
17/08/2013 22:27:35
4
http://www.forum.munkonggadget.com/detail.php?id=106378
อ่านเลยครับแล้วท่าน จะปวดหัวยิ่งกว่าเดิม ^ ^"
อ่านเลยครับแล้วท่าน จะปวดหัวยิ่งกว่าเดิม ^ ^"
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0moohunt21
18/08/2013 04:57:01
0
ขอบคุณนะครับสำหรับข้อแนะนำครับ แต่ผมยังมีข้อสงสัยอยู่บ้างน่ะครับ อ้ออีกอย่างแอมป์บางตัวไม่มีให้ลองน่ะครับ หรือบางทีที่สนใจก็อยู่คนละร้านน่ะครับ อยากรวบให้ตัวเลือง่ายขึ้น อาจจะไม่กระจัดกระจายนักน่ะครับ แต่ยังไงถ้ามีให้ลองคงต้องไปลองก่อนซื้อแน่ๆล่ะครับ
เข้าใจตามลิ้งค์ครับว่าไม่ได้มีผลต่อคุณภาพเสียงเป็นหลักครับ ถ้าต่างหู ต่างค่าย ต่างรุ่น แต่ที่สงสัยนะครับคือ
1.แอมป์ที่มีกำลังขับมากกว่า กับน้อยกว่าส่งผลต่อหูฟังอย่างไรบ้างครับ เพราะที่สงสัยคือความสัมพันธ์ของแอมป์ที่ส่งผลต่อหูฟังตัวเดิมครับ
2. มีวิธีการคำนวนไหมครับว่าหูฟังตัวนี้ต้องการกำลังขับเท่าใดครับ เพราะน่าจะช่วยลดตัวเลือกลงได้น่ะครับ อ้อ แอมป์ด้วยนะครับ เพราะบางทีบอกโอมห์ บอกวัตต์บ้าง ต้องการทราบครับว่าตัวเลขประมาณไหนน่ะครับ
3.ที่อ่านๆมาเพราะผมไม่เคยใช้หูชนิดนี้คือพวก plarna หรือ ortho เช่น LCD2, HE-500, HE-5 หรือหูตะกูลจำพวกนี้เห็นว่ากันว่าขับยากมาก ทั้งที่ค่าต่างๆไม่ได้ไม่ได้ดูน่าจะขับยากเลยครับ
เข้าใจตามลิ้งค์ครับว่าไม่ได้มีผลต่อคุณภาพเสียงเป็นหลักครับ ถ้าต่างหู ต่างค่าย ต่างรุ่น แต่ที่สงสัยนะครับคือ
1.แอมป์ที่มีกำลังขับมากกว่า กับน้อยกว่าส่งผลต่อหูฟังอย่างไรบ้างครับ เพราะที่สงสัยคือความสัมพันธ์ของแอมป์ที่ส่งผลต่อหูฟังตัวเดิมครับ
2. มีวิธีการคำนวนไหมครับว่าหูฟังตัวนี้ต้องการกำลังขับเท่าใดครับ เพราะน่าจะช่วยลดตัวเลือกลงได้น่ะครับ อ้อ แอมป์ด้วยนะครับ เพราะบางทีบอกโอมห์ บอกวัตต์บ้าง ต้องการทราบครับว่าตัวเลขประมาณไหนน่ะครับ
3.ที่อ่านๆมาเพราะผมไม่เคยใช้หูชนิดนี้คือพวก plarna หรือ ortho เช่น LCD2, HE-500, HE-5 หรือหูตะกูลจำพวกนี้เห็นว่ากันว่าขับยากมาก ทั้งที่ค่าต่างๆไม่ได้ไม่ได้ดูน่าจะขับยากเลยครับ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0เหน่งบา
18/08/2013 08:39:02
0
ค่าที่ว่า มันแสดงประสิทธิภาพได้ครับ แต่แสดงคุณภาพไม่ได้
ยิ่งเรื่องแม็ทชิ่งนี่ ละเอียดลึกซึ้งขึ้นไปอีก อย่างคุณbetterakeว่าเลยครับ
มันเริ่มเป็นศิลป์ในการเล่นแล้วอ้ะครับ ไม่ใช่ศาสตร์
แน่นอนว่าค่าต่างๆมีประโยชน์แน่ อย่างน้อยก็ให้รู้คุณสมบัติประจำตัวของเครื่องเล่น หูฟังนั้นๆ
เพื่อจะได้หาอุปกรณ์ที่เหมาะสมมาใช้งานด้วย แต่พอขั้นต่อมา ต้องฟังสถานเดียวครับ
เพราะแค่หู(ประสาทการรับรู้,ความชอบ,เพลงที่ฟัง)ของแต่ละคน ก็ต่างกันได้มากมายแล้วครับ
ยิ่งเรื่องแม็ทชิ่งนี่ ละเอียดลึกซึ้งขึ้นไปอีก อย่างคุณbetterakeว่าเลยครับ
มันเริ่มเป็นศิลป์ในการเล่นแล้วอ้ะครับ ไม่ใช่ศาสตร์
แน่นอนว่าค่าต่างๆมีประโยชน์แน่ อย่างน้อยก็ให้รู้คุณสมบัติประจำตัวของเครื่องเล่น หูฟังนั้นๆ
เพื่อจะได้หาอุปกรณ์ที่เหมาะสมมาใช้งานด้วย แต่พอขั้นต่อมา ต้องฟังสถานเดียวครับ
เพราะแค่หู(ประสาทการรับรู้,ความชอบ,เพลงที่ฟัง)ของแต่ละคน ก็ต่างกันได้มากมายแล้วครับ
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0เหน่งบา
18/08/2013 08:43:56
0
อย่างพาวเวอร์แอมป์บ้าน สองร้อยห้าสิบวัคต์ สองแสนกว่า กับยี่สิบวัตต์ สองแสนกว่าเช่นกัน
ยังมีประเด็นได้เปรียบเสียเปรียบแบบกินกันไม่ลง ขึ้นอยู่กับไปใช้กับลำโพงอะไร
และพอเปลี่ยนสายสัญญาณก็ยิ่งเป็นตัวแปรให้เกิดความรู้สึกว่า บางชุดบางขณะ ตัวยี่สิบวัตต์ ให้คุณสมบัติบางประการ ทิ้งห่างตัววัตต์เยอะได้ด้วยซ้ำครับ
...อันนี้ก็จำเขามาเล่านะครับ ตัวเองไม่มีวาสนาจะได้ฟังหรอกครับ ^ ^.......
ยังมีประเด็นได้เปรียบเสียเปรียบแบบกินกันไม่ลง ขึ้นอยู่กับไปใช้กับลำโพงอะไร
และพอเปลี่ยนสายสัญญาณก็ยิ่งเป็นตัวแปรให้เกิดความรู้สึกว่า บางชุดบางขณะ ตัวยี่สิบวัตต์ ให้คุณสมบัติบางประการ ทิ้งห่างตัววัตต์เยอะได้ด้วยซ้ำครับ
...อันนี้ก็จำเขามาเล่านะครับ ตัวเองไม่มีวาสนาจะได้ฟังหรอกครับ ^ ^.......
ให้กำลังใจ 0 หยิกหู 0 แจกหู 0