Nuforce DDA-100 ครับ
ราคามน่าจะ 18k มั้ง

https://www.nuforce.com/index.php?option=com_k2&view=item&layout=item&id=306&Itemid=370

USB: 2.0 compatible
Inputs: 2 x TOSLINK, 1 x RCA Coaxial 75-Ohm, 1 x USB2.0 adaptive mode
Maximum Sampling Rate: 24-bits
Bit Resolution: 16-24-bits
Power output: 75W x 2 (4 Ohm), 50W x 2 (8 Ohm)

USB Samping Rates: 44.1, 48, and 96kHz
S/PDIF Sampling Rates: 44.1, 48, 88.2, 96, 176.4kHz

Nuforce Dia แต่ไม่มี USB input แต่ใช่ M3Tech hiFace 2 แปลง USB to Co Ax ได้ครับ

https://www.nuforce.com/index.php?option=com_k2&view=item&id=9:amp-product-3&Itemid=861#specifications

2

Teac A-H01 ครับ

@ cal2ibsy
ทำไมไม่เลือก Audioengine 5+ ที่เป็น Active Powered Speaker ไปเลยละครับ
อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องมากังวลว่าจะหาเอาแอมป์กี่วัตต์มาขับลำโพง passive ครับ
และถ้าใช้ powered speaker แล้ว เราก็หา usb dac ตัวเล็กๆมาวางซ่อนไว้หลังลำโพงได้สบายเลย

ส่วนพวก amplifier ก็จะแยกแยะออกเป็น 4 อย่างหลักๆตามนี้ครับ
Pre Amp - จะเป็นตัวรับสัญญานจาก Line Level source ต่างๆเช่น CD Tuner Aux และมีสวิ๊ชเลือกว่าจะต้องการฟังจากอะไร แล้วก็ผ่านปุ่ม volume เพื่อส่งต่อไป Power Amp
Power Amp - เป็นตัวขยายกำลังให้เพียงพอที่จะเอาไปขับลำโพงต่างๆครับ
Intergrated Anp - ก็คือ pre amp กับ power amp ที่รวมอยู่ในเครื่องเดียวกันครับ

DAC Amplifier - คือ Pre Amp หรือ Intergrated Amp ที่มีวงจร DAC ในตัวมันเองครับ

ปล. ไม่ลองมองดู KEF X300A หรือครับ แค่ลากสาย usb มาเสียบก็จบแล้วครับ
http://www.kef.com/html/hk_en/showroom/digital_music_solutions/X300A/overview/

โฮ่ คุณ RockDragon จี้ได้ถูกจุดมากๆ ทีแรกผมก็ลังเลระหว่าง
Audioengine P4 + DAC Amplifier
กับ
Audioengine 5+ + pure dac(ไม่ผ่านภาคขยาย ใช้ภาคขยายที่ลำโพงอย่างเดียว)

ถ้าหาแนว ลากสายยูเอสบี จากคอม มา INT.AMP ก็มี

Nuforce DDA-100 ครับ ,Nad 356 bee ,Cambridge 651A ราคาในงบ

หลักๆการใช้ preamp มีเงื่อนไขการแมชชิ่ง กับเพาว์เวอร์อีกนะครับ

ส่วนการใช้งานตาม ท่านRockdragon เลยครับ ส่วนตัวแนะนำเล่น INT.AMP ดีกว่าครับ

เผื่ออนาคต อยากเปลี่ยน ลำโพง จะสะดวกกว่าครับ เลือกฟังแนวเสียงที่ชอบ แล้วก็ไปหาลองฟังเยอะๆๆ ดีกว่าครับ