ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ของ Peninsula Shopping Centre เดินทางมาสะดวก หากมาโดยรถไฟฟ้าก็มาลงที่สถานี City Hall เดินมาไม่ไกลก็จะถึงห้างดังกล่าว หาไม่ยากเพราะอยู่ติดกับโรงแรม Peninsula เลยครับ ข้างๆก็จะเป็น Funan Digital IT Mall คล้ายๆกับฟอร์จูนบ้านเราครับ
ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ของ Peninsula Shopping Centre เดินทางมาสะดวก หากมาโดยรถไฟฟ้าก็มาลงที่สถานี City Hall เดินมาไม่ไกลก็จะถึงห้างดังกล่าว หาไม่ยากเพราะอยู่ติดกับโรงแรม Peninsula เลยครับ ข้างๆก็จะเป็น Funan Digital IT Mall คล้ายๆกับฟอร์จูนบ้านเราครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3
Maximize
15/06/2013 19:58:23
0
มารอชมครับป๋ม!!
มารอชมครับป๋ม!!
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4
Motoguro
15/06/2013 20:01:34
0
ร้าน Null Audio จะมีป้ายโฆษณาหูฟังยี่ห้อ Rooth Professional Audio แปะเต็มผนังด้านหน้าของร้าน ไปครั้งแรกแทบดูไม่ออกว่าเป็นร้านขายหูฟังจนเห็นป้ายด้านบนจึงมั่นใจ
ร้าน Null Audio จะมีป้ายโฆษณาหูฟังยี่ห้อ Rooth Professional Audio แปะเต็มผนังด้านหน้าของร้าน ไปครั้งแรกแทบดูไม่ออกว่าเป็นร้านขายหูฟังจนเห็นป้ายด้านบนจึงมั่นใจ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5
Onionknight
15/06/2013 20:05:44
0
รอชมครับ
รอชมครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6
JOKER_THX
15/06/2013 20:10:49
7
wowwwww!!
wowwwww!!
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7
Motoguro
15/06/2013 20:32:49
เจ้าของร้านทั้งสองคนเข้ามาทักทายและให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง พร้อมกับให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมา คนขวาคือ Steven Lee ส่วนคนซ้าย คุณ บอย ปกรณ์ (ผมจำชื่อไม่ได้หน่ะครับ)
เจ้าของร้านทั้งสองคนเข้ามาทักทายและให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง พร้อมกับให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมา คนขวาคือ Steven Lee ส่วนคนซ้าย คุณ บอย ปกรณ์ (ผมจำชื่อไม่ได้หน่ะครับ)
จากนั้นผมเริ่มทดลองฟัง Null Audio: Elpis
ครั้งแรกที่ไปที่ร้าน ผมได้ทดลองฟัง Elpis Versionแรก ของทางร้านที่เพิ่งเปิดตัวสดร้อนๆแต่ไปถึงกลับไม่ทันโปรโมชั่นลดราคาเปิดตัวอีก ทางร้านบอกว่าครบ 100 คนแล้ว หมดไวแท้...ไหนๆก็มาละก็เลยขอทดลองฟังสักหน่อย ประเดิมด้วย Adele - Live at Royal Albert Hall เสียงร้องเด่นจนเหมือนเอา Adele มาร้องข้างหู รายละเอียดเครื่องดนตรีทำได้ดีพอตัว แต่ยังกระจุกตัวกันเป็นก้อน ไม่กระจายแผ่ออกเต็มเวที ทั้งเปียโน และ เครื่องดนตรีอื่น ผมฟังอัลบั้มนี้แล้วมักจะนึกภาพตามเสทือนตอนนั่งดูแผ่นคอนเสิร์ทไปด้วย มีความอบอุ่นในเนื้อเสียง คือ ฟังแล้วพอรู้ว่านักร้องไม่ได้หุ่นสเลนเดอร์ น้ำเสียงจะมีมวลพอให้จับความรู้สึกได้ ผมเองก็ไม่ได้ฟังเพลงแนวเดียวเลยลองหลายๆแนวจึงตามด้วย Olivia Ong, Simone Kopmajer, Santana, Bob Marley, Jason Mraz และ เพลงป๊อปร๊อคทั่วไป ตลอดจน เพลงอคูสติก สรุป ฟังเพลงได้หลากหลายแนว ฟังได้สนุก เบสมีน้ำมีนวล จัดมาเต็ม โดยรวมทำได้น่าประทับใจสมราคาค่าตัว หากถามแบบตรงไปตรงมา โดยส่วนตัวหูฟังตัวนี้ไม่เข้ากับแนวเสียงที่ผมชื่นชอบเลยไม่ประทับใจจนจะควักกระเป๋าจ่ายเมื่อเทียบกับ หูฟัง In-Ear ตัวอื่นในระดับราคาเดียวกัน
หลังจากผ่านไปร่วม 2 เดือน วันนี้ผมได้มีโอกาสไปย่านนั้นเลยแวะไปสักหน่อย
ทางร้านบอกว่า Null Audio: Elpis New Version มาแล้วนะสนใจไหม ทางร้านบอกว่า Version นี้ได้พัฒนาจากรุ่นก่อนโดยนำคำติชมจากลูกค้าที่ได้ซื้อไปใช้นำมาปรับปรุงสินค้าให้ดีขึ้น และคาดว่าน่าจะเป็น Final Version และกำลังเร่งทำตัว Demo Version นี้ส่งมาให้ทางร้านมั่นคงในเร็วๆอีกด้วย
เอ้าไหนๆมาแล้ว เจ้าภาพก็เชื้อเชิญซะขนาดนี้ ขอลองฟังสักหน่อย
ผมได้เปลี่ยนสายจากของเดิมที่แถมมาคือ Arete Series ไปเป็น Lune Series เนื่องจากใช้สาย Lune Series กับ TF10 อยู่แล้วเพื่อจะได้ใช้สายที่แนวเสียงใกล้เคียงกับที่ฟังอยู่ จะต่างก็เพียงหูฟัง สาย และ หูฟังชุด Demo ได้ผ่านการใช้งานมาในระดับนึงแล้ว ชั่วโมงใช้งานคงไม่ต่างจากสายที่ผมใช้เท่าไหร่ ส่วนหัวต่อชุด Demo ทางร้านใช้ Oyaide ซึ่งต่างกับของผมที่เป็น Viablue รายละเอียดของเสียงอาจต่างเพียงเล็กน้อย แต่โทนเสียงและบุคคลิกของสายน่าจะไปในแนวทางเดียวกัน ผมเองไม่ได้เป็นคนพิถีพิถันมากในส่วนปลีกย่อย ลองฟังกันเลยละกัน
จากนั้นผมเริ่มทดลองฟัง Null Audio: Elpis
ครั้งแรกที่ไปที่ร้าน ผมได้ทดลองฟัง Elpis Versionแรก ของทางร้านที่เพิ่งเปิดตัวสดร้อนๆแต่ไปถึงกลับไม่ทันโปรโมชั่นลดราคาเปิดตัวอีก ทางร้านบอกว่าครบ 100 คนแล้ว หมดไวแท้...ไหนๆก็มาละก็เลยขอทดลองฟังสักหน่อย ประเดิมด้วย Adele - Live at Royal Albert Hall เสียงร้องเด่นจนเหมือนเอา Adele มาร้องข้างหู รายละเอียดเครื่องดนตรีทำได้ดีพอตัว แต่ยังกระจุกตัวกันเป็นก้อน ไม่กระจายแผ่ออกเต็มเวที ทั้งเปียโน และ เครื่องดนตรีอื่น ผมฟังอัลบั้มนี้แล้วมักจะนึกภาพตามเสทือนตอนนั่งดูแผ่นคอนเสิร์ทไปด้วย มีความอบอุ่นในเนื้อเสียง คือ ฟังแล้วพอรู้ว่านักร้องไม่ได้หุ่นสเลนเดอร์ น้ำเสียงจะมีมวลพอให้จับความรู้สึกได้ ผมเองก็ไม่ได้ฟังเพลงแนวเดียวเลยลองหลายๆแนวจึงตามด้วย Olivia Ong, Simone Kopmajer, Santana, Bob Marley, Jason Mraz และ เพลงป๊อปร๊อคทั่วไป ตลอดจน เพลงอคูสติก สรุป ฟังเพลงได้หลากหลายแนว ฟังได้สนุก เบสมีน้ำมีนวล จัดมาเต็ม โดยรวมทำได้น่าประทับใจสมราคาค่าตัว หากถามแบบตรงไปตรงมา โดยส่วนตัวหูฟังตัวนี้ไม่เข้ากับแนวเสียงที่ผมชื่นชอบเลยไม่ประทับใจจนจะควักกระเป๋าจ่ายเมื่อเทียบกับ หูฟัง In-Ear ตัวอื่นในระดับราคาเดียวกัน
หลังจากผ่านไปร่วม 2 เดือน วันนี้ผมได้มีโอกาสไปย่านนั้นเลยแวะไปสักหน่อย
ทางร้านบอกว่า Null Audio: Elpis New Version มาแล้วนะสนใจไหม ทางร้านบอกว่า Version นี้ได้พัฒนาจากรุ่นก่อนโดยนำคำติชมจากลูกค้าที่ได้ซื้อไปใช้นำมาปรับปรุงสินค้าให้ดีขึ้น และคาดว่าน่าจะเป็น Final Version และกำลังเร่งทำตัว Demo Version นี้ส่งมาให้ทางร้านมั่นคงในเร็วๆอีกด้วย
เอ้าไหนๆมาแล้ว เจ้าภาพก็เชื้อเชิญซะขนาดนี้ ขอลองฟังสักหน่อย
ผมได้เปลี่ยนสายจากของเดิมที่แถมมาคือ Arete Series ไปเป็น Lune Series เนื่องจากใช้สาย Lune Series กับ TF10 อยู่แล้วเพื่อจะได้ใช้สายที่แนวเสียงใกล้เคียงกับที่ฟังอยู่ จะต่างก็เพียงหูฟัง สาย และ หูฟังชุด Demo ได้ผ่านการใช้งานมาในระดับนึงแล้ว ชั่วโมงใช้งานคงไม่ต่างจากสายที่ผมใช้เท่าไหร่ ส่วนหัวต่อชุด Demo ทางร้านใช้ Oyaide ซึ่งต่างกับของผมที่เป็น Viablue รายละเอียดของเสียงอาจต่างเพียงเล็กน้อย แต่โทนเสียงและบุคคลิกของสายน่าจะไปในแนวทางเดียวกัน ผมเองไม่ได้เป็นคนพิถีพิถันมากในส่วนปลีกย่อย ลองฟังกันเลยละกัน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17
Motoguro
15/06/2013 22:48:14
0
เริ่มจากอัลบั้มแรกที่ผมยังพอจำเค้ารางของเสียงตอนได้ฟัง Version แรก ได้
Adele - Live at the Royal Albert Hall
ประเดิมเพลงแรกด้วย Take It All พอสิ้นเสียงเปียโนเปิดตัว Adele ก็เปล่งเสียงร้อง ความรู้สึกแว้บแรกคือ เสียงโปร่งและเปิดกว้าง เวทีเสียงมันแผ่กว้างออกมากกว่า เวอร์ชั่นแรก อย่างชัดเจน ฟังแล้วรับรู้ได้ว่า Adele ยืนห่างออกไป ไม่ได้มายืนร้องจ่อที่ข้างหูดังครั้งก่อน ฟังแล้วทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้น บรรยากาศเสียงรอบข้างทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในห้องโถง เสียงร้องมีน้ำมีนวล เสียง Adele พอจับได้ว่า นักร้องรูปร่างประมาณไหน
ขาดไม่ได้กับเพลงที่หลายคนชื่นชอบ Someone Like You เสียงร้องโปร่งแบบมีน้ำมีนวล ไม่หวานเจี๊ยบ แต่จะประมาณน้ำเชื่อมข้นๆ เวทีเสียงกว้าง เสียงเปียโนที่เล่นอยู่เป็นแบ็คกราวด์พอจับรายละเอียดได้ ไม่เบลอ
ถัดมาเพลง Rolling In The Deep ฟังแล้วสนุก เสียงเบสมาเป็นลูก มาแบบมีน้ำหนัก แต่นุ่มนวล หัวเบสจะกลมมน ไม่กระแทกกระทั้น(แบบรถกระบะใส่ SubWoofer เต็มหลังกระบะเปิดแข่งกัน...ไม่รู้จะบรรยายไง)เอาเป็นว่าเบสไม่ล้นจนรู้สึกกระอักกระอ่วน ฟังเพลงนี้แล้วสนุกตามกับเพลง
เริ่มจากอัลบั้มแรกที่ผมยังพอจำเค้ารางของเสียงตอนได้ฟัง Version แรก ได้
Adele - Live at the Royal Albert Hall
ประเดิมเพลงแรกด้วย Take It All พอสิ้นเสียงเปียโนเปิดตัว Adele ก็เปล่งเสียงร้อง ความรู้สึกแว้บแรกคือ เสียงโปร่งและเปิดกว้าง เวทีเสียงมันแผ่กว้างออกมากกว่า เวอร์ชั่นแรก อย่างชัดเจน ฟังแล้วรับรู้ได้ว่า Adele ยืนห่างออกไป ไม่ได้มายืนร้องจ่อที่ข้างหูดังครั้งก่อน ฟังแล้วทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้น บรรยากาศเสียงรอบข้างทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในห้องโถง เสียงร้องมีน้ำมีนวล เสียง Adele พอจับได้ว่า นักร้องรูปร่างประมาณไหน
ขาดไม่ได้กับเพลงที่หลายคนชื่นชอบ Someone Like You เสียงร้องโปร่งแบบมีน้ำมีนวล ไม่หวานเจี๊ยบ แต่จะประมาณน้ำเชื่อมข้นๆ เวทีเสียงกว้าง เสียงเปียโนที่เล่นอยู่เป็นแบ็คกราวด์พอจับรายละเอียดได้ ไม่เบลอ
ถัดมาเพลง Rolling In The Deep ฟังแล้วสนุก เสียงเบสมาเป็นลูก มาแบบมีน้ำหนัก แต่นุ่มนวล หัวเบสจะกลมมน ไม่กระแทกกระทั้น(แบบรถกระบะใส่ SubWoofer เต็มหลังกระบะเปิดแข่งกัน...ไม่รู้จะบรรยายไง)เอาเป็นว่าเบสไม่ล้นจนรู้สึกกระอักกระอ่วน ฟังเพลงนี้แล้วสนุกตามกับเพลง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 18
นายมั่นคง
15/06/2013 23:04:37
4,294
ขอบคุณมากๆๆสำหรับข้อมูลของร้าน Null ครับ
รอชมด้วยคนครับ 555
ขอบคุณมากๆๆสำหรับข้อมูลของร้าน Null ครับ
รอชมด้วยคนครับ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 19
Motoguro
15/06/2013 23:16:59
0
อัลบั้มที่ 2 Marantz: High-End Audiophile Test Demo SACD 14th Edition
เพลงแรก The Men You Were เสียงเคาะและเสียงกลองจับได้ถึงน้ำหนักการตี ฟังแล้วพอจะแยกแยะเครื่องดนตรีออกเป็นชิ้นได้ ไม่กองรวมกันเป็นก้อน เสียงร้องออกโทนอบอุ่น ฟังแล้วรับรู้ได้ว่าคนร้องอยู่หน้า เครื่องดนตรีเขยือบออกไปด้านหลังนักร้อง
เพลงที่ 2 London Paris Carddiff จะเป็นเพลงบรรเลงมีแต่เสียงเครื่องดนตรี เสียงเกากีตาร์มีความกังวาน เสียงแหลมที่เหมือนเสียงกระดิ่ง (ไม่รู้เสียงเครื่องดนตรีอะไร) จะแหลมแบบมีน้ำหนัก มีความหวานแต่จะไม่ทอดไปไกลจนสุด เสียงแหลมไม่ทิ่มหูประเภทแหลมเฟี้ยวแบบดินสอเหลามาใหม่ๆ
เพลงที่ 3 Sinner Prayer เบสจากกระเดื่องมาแน่นๆ หัวเบสจะมนๆ เสียงแผดเครื่องเป่ามีความอบอุ่น
เพลงที่ 4 Field of Gold ฟังเสียงนักร้องหญิงแล้วมีมวล ออกโทนอบอุ่น เหมือนน้ำเชื่อมข้นๆ แต่ไม่ถึงกับอุดอู้ ฟังแล้วมีความโปร่งในบรรยากาศโดยรอบ
เพลงที่ 7 Guitar Compasion เสียงดีดกีตาร์มีความกังวาน พอจับสัมผัสเสียงของสายหลังดีดได้ว่ายังสั่นอยู่ ไม่กุดด้วนไปเสียทีเดียว แม้รายละเอียดจะไม่ระยิบระยับ แต่ก็ให้รายละเอียดได้ในระดับหนึ่ง
อัลบั้มที่ 2 Marantz: High-End Audiophile Test Demo SACD 14th Edition
เพลงแรก The Men You Were เสียงเคาะและเสียงกลองจับได้ถึงน้ำหนักการตี ฟังแล้วพอจะแยกแยะเครื่องดนตรีออกเป็นชิ้นได้ ไม่กองรวมกันเป็นก้อน เสียงร้องออกโทนอบอุ่น ฟังแล้วรับรู้ได้ว่าคนร้องอยู่หน้า เครื่องดนตรีเขยือบออกไปด้านหลังนักร้อง
เพลงที่ 2 London Paris Carddiff จะเป็นเพลงบรรเลงมีแต่เสียงเครื่องดนตรี เสียงเกากีตาร์มีความกังวาน เสียงแหลมที่เหมือนเสียงกระดิ่ง (ไม่รู้เสียงเครื่องดนตรีอะไร) จะแหลมแบบมีน้ำหนัก มีความหวานแต่จะไม่ทอดไปไกลจนสุด เสียงแหลมไม่ทิ่มหูประเภทแหลมเฟี้ยวแบบดินสอเหลามาใหม่ๆ
เพลงที่ 3 Sinner Prayer เบสจากกระเดื่องมาแน่นๆ หัวเบสจะมนๆ เสียงแผดเครื่องเป่ามีความอบอุ่น
เพลงที่ 4 Field of Gold ฟังเสียงนักร้องหญิงแล้วมีมวล ออกโทนอบอุ่น เหมือนน้ำเชื่อมข้นๆ แต่ไม่ถึงกับอุดอู้ ฟังแล้วมีความโปร่งในบรรยากาศโดยรอบ
เพลงที่ 7 Guitar Compasion เสียงดีดกีตาร์มีความกังวาน พอจับสัมผัสเสียงของสายหลังดีดได้ว่ายังสั่นอยู่ ไม่กุดด้วนไปเสียทีเดียว แม้รายละเอียดจะไม่ระยิบระยับ แต่ก็ให้รายละเอียดได้ในระดับหนึ่ง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 20
Motoguro
15/06/2013 23:27:08
0
อีกอัลบั้มนักร้องหญิงที่หลายคนประทับใจ
Simone Kopmajer - Nothing's Gonna Change
เพลง How Deep Is Your Love สามารถรับรู้ได้ถึงความตื้นลึกของนักร้องและเครื่องดนตรี เสียงนักร้องฟังแล้วอบอุ่น มีมวล โดยยังคงความหวานของเสียงไว้ ส่วนการแสดงเสียงเครื่องดนตรีที่มีรายละเอียดระยิบระยับยังทำได้ไม่เด่นนัก (ส่วนตัวรู้สึกว่าเสียงที่ว่าคล้ายๆกับ การตีกลองโดยใช้อุปกรณ์ที่ส่วนปลายเป็นเส้นลวดฝอยๆ
เพลง Way Back To Love เวทีเสียงโปร่ง และ กว้างใช้ได้ เสียงตีเกราะเคาะไม้จับได้ถึงน้ำหนักเบาค่อย หน้ากลองจะหย่อนหน่อยๆ ไม่ตึงเปรี๊ยะ ส่วนเปียโนที่เล่นเป็นแบ็คกราวด์ยังแสดงรายละเอียดของตัวโน๊ตได้ไม่ดีนัก
อีกอัลบั้มนักร้องหญิงที่หลายคนประทับใจ
Simone Kopmajer - Nothing's Gonna Change
เพลง How Deep Is Your Love สามารถรับรู้ได้ถึงความตื้นลึกของนักร้องและเครื่องดนตรี เสียงนักร้องฟังแล้วอบอุ่น มีมวล โดยยังคงความหวานของเสียงไว้ ส่วนการแสดงเสียงเครื่องดนตรีที่มีรายละเอียดระยิบระยับยังทำได้ไม่เด่นนัก (ส่วนตัวรู้สึกว่าเสียงที่ว่าคล้ายๆกับ การตีกลองโดยใช้อุปกรณ์ที่ส่วนปลายเป็นเส้นลวดฝอยๆ
เพลง Way Back To Love เวทีเสียงโปร่ง และ กว้างใช้ได้ เสียงตีเกราะเคาะไม้จับได้ถึงน้ำหนักเบาค่อย หน้ากลองจะหย่อนหน่อยๆ ไม่ตึงเปรี๊ยะ ส่วนเปียโนที่เล่นเป็นแบ็คกราวด์ยังแสดงรายละเอียดของตัวโน๊ตได้ไม่ดีนัก
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 21
Motoguro
15/06/2013 23:33:05
0
นักร้องหญิงอีกสักคน Norah Jones
เพลง New York City เสียงเบสมาแบบนุ่มนวล เสียงออดอ้อนของนักร้องหญิงจะมีน้ำมีนวล ปลายเสียงที่จะแหบหน่อยๆจะแสดงรายละเอียดได้ไม่เด่นชัดนัก
เพลง Don't Know Why เสียงร้องหวาน แม้จะไม่พริ้วไหวแต่จะออกโทนอบอุ่น ปลายเสียงไหลไปได้ไม่สุดเสียง ส่วนเสียงแหลมไม่ทิ่มเสียดแทงหู เหมือนกับ เวอร์ชั่นแรก
นักร้องหญิงอีกสักคน Norah Jones
เพลง New York City เสียงเบสมาแบบนุ่มนวล เสียงออดอ้อนของนักร้องหญิงจะมีน้ำมีนวล ปลายเสียงที่จะแหบหน่อยๆจะแสดงรายละเอียดได้ไม่เด่นชัดนัก
เพลง Don't Know Why เสียงร้องหวาน แม้จะไม่พริ้วไหวแต่จะออกโทนอบอุ่น ปลายเสียงไหลไปได้ไม่สุดเสียง ส่วนเสียงแหลมไม่ทิ่มเสียดแทงหู เหมือนกับ เวอร์ชั่นแรก
ปิดท้ายกับ Bob Marley อัลบั้ม Legend (The Best Of Bob Marley & The Wailers
เพลง Is This Love ได้อารมณ์เหมือนมีวงดนตรีมาเล่นโอบล้อม เคาะตรงโน้นที ตรงนี้ที ฟังแล้วเคลิ้มตาม ได้อารมณ์สนุกของเรกเก้
ปิดท้ายกับ Bob Marley อัลบั้ม Legend (The Best Of Bob Marley & The Wailers
เพลง Is This Love ได้อารมณ์เหมือนมีวงดนตรีมาเล่นโอบล้อม เคาะตรงโน้นที ตรงนี้ที ฟังแล้วเคลิ้มตาม ได้อารมณ์สนุกของเรกเก้