วันนี้ 25 พ.ค. 2556 ผมมีรีวิวมาฝากให้อ่านกันครับ
หลาย ๆ ท่านน่าจะได้เคยอ่านรีวิว iRiver H120 จากผมไปแล้ว
และก็ iRiver H320 ก็มีทำไปแล้วเช่นกัน ลอง search ดูนะครับถ้าอยากไปอ่าน
มาคราวนี้มันคัน ๆ กับ iRiver H140 คือ ผมอยากได้สีดำนั่นเองละ
เพราะ iRiver H120 ที่เคยได้มานั้นมันสีเงิน ซึ่งก็สวยน่ะ แต่ผมชอบสีดำ
จึงหาเรื่องควานหาสีดำแบบสภาพต้องสวยและต้องยกกล่องให้ได้ (หายากมาก ๆ เลย)
และก็ไปได้มาครับ จาก อเมริกา ฮ่าๆๆ ตอนแรกเขาลงขายไว้ 190 USD
ก็ประมาณ 6,000 กว่าบาท สภาพสวยมาก ๆ เลยละ ผมก็เล็งไว้ละ แต่ก็ไม่กดซื้อ
จนวันนึงเขาลดเหลือ 150USD เลยกดซื้อเลย
ถึงเมืองไทยก็ 6,300 บาท แบบว่าค่าส่งแพงอ่ะครับ ฮ่าๆๆ
(ฝรั่งกลัวคนไทยอ่ะ ส่งแบบแพงทุกที) บางท่านอาจจะว่าแพง
แต่สำหรับผม ผมชอบอ่ะ ความรู้สึกแบบนี้มักทำให้ใช้เงินเป็นเบี้ยเสมอ เอิ๊กๆๆ
เอาละมาเริ่มดูกันเลยดีกว่าครับ มีทั้งหมด 40 ภาพ
เหมือนเดิมนะครับ เป็นการรีวิวแบบง่าย ๆ เล่าประกอบภาพเหมือนเคย ๆ
นี่ละครับ ยกกล่องที่ได้มา
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_01_zps4f311acf.jpg)
สิ่งที่ผมสังเกตุและก็ยังหาคำตอบไม่ได้นั่นก็คือ คำว่า H140D ไอ้ตัว D นี่ละครับ
มันมีความหมายยังไงหนอ คือปกติมันไม่มีต่อท้ายกันน่ะเนี่ย
เกือบลืมบอก H140 ก็คือใช้ Harddisk 40GB
ถ้า H120 ก็คือใช้ Harddisk 20GB ครับ ต่างกันแค่นี้ละ รหัสเครื่องบอก HDD
H110 (originally iHP-100, later iHP-110): 10 GB hard drive
H115 (originally iHP-115): 15 GB hard drive
H120 (originally iHP-120): 20 GB hard drive
H140 (originally iHP-140): 40 GB hard drive
พอดูของในกล่องมีเท่านี้ละครับ
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_02_zps6e7bbece.jpg)
อย่างที่เขาเขียนหน้ากล่องบอกไว้ละว่า ไม่มีซองหนัง และ รีโมท ไม่มีนะจ๊ะ
ส่วนหูฟังก็คุ้น ๆ กันเลย
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_03_zpsf11f3960.jpg)
MX400 นั่นเอง ผมว่าหูรุ่นนี้ทนสุด ๆ ครับ การันตีความทน
นี่ไงบอกไว้เลยหน้ากล่องว่าไม่แถมนะ
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_04_zps0bf70706.jpg)
ไม่แถมรีโมทนี่ไม่แคร์เลย เพราะปกติผมไม่ฟังผ่านรีโมทอยู่แล้ว
ต่อตรงตลอด แต่ไม่แถมซองหนังนี่สิ อยากจะร้องไห้
เอาละก้าวต่อไปอย่าไปท้อ พลิกหลังกล่องดู spec
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_05_zpsa1babfa0.jpg)
spec แบบนี้ยุคนี้ใคร ๆ ก็ทำได้ ดังนั้นอย่าไปแคร์ ฮ่าๆๆ
แต่สิ่งที่เจ๋งสำหรับผมคือ
ไฟล์ mp3 ระดับ 128-320kbps นั้นฟังแล้วเสียงดีชะมัดบนเครื่องนี้
คงเป็นเพราะเรื่อง impact ความมีเนื้อมีหนังมีมวลของเสียง
ซึ่งต้องยกความดีให้กับ chip เสียง DAC ของฟิลลิปในยุคนั้น
มีบาร์โค๊ดบอกซีเรียลเครื่องด้วยนะ
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_06_zps85046db0.jpg)
ไว้เดี๋ยวมาอวดเรื่องซีเรียล ตอนนี้ข้ามไปก่อนครับ
มาดูหน้าตาของ H140D กันบ้างดีกว่า
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_07_zps9e4b1e2c.jpg)
เครื่องที่ผมได้มานี้ เรียกว่าสภาพ 99% เลย เหมือนของใหม่มาก ๆ
ไม่มีริ้วรอยที่หน้าจอ ไม่มีริ้วรอยที่ตัวเครื่อง ไม่มีสีหลุดสีลอก รอยถลอกใด ๆ
แกะกล่องออกมาทีแรกมือสั่นเลย คือตกใจอ่ะ ไม่คิดว่าสภาพมันจะเวอร์ขนาดนี้
และแน่นอน นิสัยผม แปะแผ่นกันรอยซะเลยตัดเอง
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_08_zps0c7e3579.jpg)
การสั่งงานเรื่อง FF , RW , Enter, Volume + - ก็จาก Jog นี่ละครับ
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_09_zpsa7c2fc1a.jpg)
ก็เหมือน ๆ กับที่ iRiver T10 นั่นละครับ ใช้ Jog นี่ละ
ด้านข้างเครื่องทั้งสองด้าน
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_10_zpsd077335a.jpg)
ก็จะมีปุ่ม Power, Stop และก็ปรับโหมด
ส่วนอีกฝั่งก็ปุ่ม Rec ครับ
ที่เรียกว่าเจ๋งในรุ่นนี้คือ การปล่อย Optical Out
ซึ่งคนชอบนำไปใช้ต่อ Amp ในที่นี้ผมไม่พูดถึง เพราะผมชอบพกพา
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_11_zps8e0a455f.jpg)
จากรูปบน ก็จะมีช่อง Phone , รีโมท, Optical In, Out
จากรูปล่าง ก็จะมีช่องเสียบ adaptor ชาร์จไป และช่อง USB
ด้านหลังเครื่องก็งาม ๆ เลย ไม่มีริ้วรอย อยากจะกรี๊ดให้แต๋วแตก
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_12_zpsaf118231.jpg)
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_13_zps9ec799c7.jpg)
นี่ละที่อยากอวดครับคือ ซีเรียลเครื่องกับตรงตรงกัน (แค่เนี้ย) -_-"
มันเป็นความรู้สึกดีของคนสะสมน่ะครับ T_T
มาดูกันต่อ ปุ่มกดใช้งานยังไง
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_14_zps6c851a91.jpg)
จริง ๆ เขาก็ทำสัญลักษณ์ไว้ดีนะครับ ถ้าเราสังเกตุดี ๆ
กดทีนึงเป็น EQ กดค้างเป็นการเข้าสู่โหมด Rec. หรือ อัดเสียงนั่นเอง
ฝั่งนี้ก็เช่นกัน
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_15_zps3e8293d1.jpg)
เรียงอธิบายปุ่มจากซ้ายไปขวา
ปุ่มแรก ถ้ากดก็เปิดเครื่อง พอเปิดเครื่องแล้วถ้ากดค้างก็จะไปโหมดวิทยุ FM
ปุ่มสอง ถ้ากดทีเดียวก็ Stop เพลง ถ้ากดค้างก็ปิดเครื่อง Shut Down
ปุ่มสาม กดทีเดียวก็ AB กดค้างก็เป็นโหมดเช่น Repeat All
เอาละเปิดเครื่องกันดีกว่า
(ผมเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองรีวิวเหมือนทำตัวเป็นแมนนวลคู่มือเลยอ่ะ) ช่างมันเนอะ
แท่นแท้น Firmware ล่าสุดเลย 1.66E อัพเองจ้า
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_16_zps26a638fb.jpg)
ใช่แล้วครับรุ่นนี้หน้าจอเป็นแค่ backlight ไม่ใช่ LCD สีสัน
จอฟ้า ๆ ตัวหนังสือดำ ๆ ครับ สวยสบายตานะ ฮ่าๆๆ
รอซักพักพอบูธเสร็จก็จะเข้าหน้าจอหลัก
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_17_zpsc98ae3bd.jpg)
จริง ๆ ตรงนี้กด Play ก็ฟังเพลงได้เลยนะ แต่ยังก่อน
ไปดูการตั้งค่ากันก่อนครับ กดปุ่ม Jog ตรงกลางค้างไว้
มันก็จะเข้าหน้าตา Setting
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_18_zps5bcead25.jpg)
ส่วนแรกก็ General การตั้งค่าพื้นฐาน
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_19_zps8f063c60.jpg)
แทบไม่ได้ใช้เลยอ่ะ
ต่อไป Display
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_20_zps35831d11.jpg)
ก็ให้เราเลือกตั้งค่าว่า จะให้แสดงไฟแบ็คไลท์นานกี่วินาที
และก็การปรับแสงสว่าง
ผ่านมา 20 ภาพแล้วนะครับ ดูเพลินเลยสิ (ตอนอัพอ่ะนานนะ ตอนดูอ่ะแว้บเดียว)
ต่อไป Timer
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_21_zpsc24a1b19.jpg)
คำสั่งมันเข้าใจง่ายนะ ผมชอบพวกเครื่อง mp3 รุ่นเก่า ๆ ก็ตรงนี้ละ
ไม่ต้องตั้งอะไรมาก (แต่เสียงต้องดีนะ) เพราะเราเอามาใช้ฟังเพลงน่ะ
ต่อไป Control
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_22_zpsbcaf7b67.jpg)
ก็แทบไม่ได้ใช้งานอะไรนะ แต่ก็จะมีตรงการตั้งค่า optical นั่นละครับ
จะใช้ก็มาเปิด ON หรือไม่ใช้ก็ OFF ซะนะครับ
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_23_zpsea83b558.jpg)
ต่อไป Mode
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_24_zps969242c2.jpg)
ก็การตั้งพวก Repeat , Shuffle ทำนองนี้ ตั้งตามสะดวก
ว่าจะเอา Repeat เพลงเดียวหรือ Repeat ทั้งเครื่องหรือ Repeat แค่ Directory
ต่อไป Sound อ่ะฮ้า ผมใช้งานนะตรงนี้อ่ะ
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_25_zpsb6313975.jpg)
ใครจะฟังแบบ Flat ก็ฟังไป ผมชอบปรับ EQ เสียงให้ถูกใจตัวเอง
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_26_zps64040763.jpg)
ก็มี EQ ให้เลือกนะครับ แต่ผมชอบปรับเอง (ทำเป็นเก่งอ่ะ)
มันก็มีให้ปรับแค่ Bass กับ Treble อ่ะนะ ฮ่าๆๆ
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_27_zps4a432db2.jpg)
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_28_zps2a313945.jpg)
ตัวนี้อัดเบสได้แรงดีเหลือเกินไม่ไหว ปกติผมใส่ระดับ 20 (บ้าดีแท้)
แต่อันนี้ต้องยอมแพ้อ่ะ ส่วนทริเบิลนี่เต็มตรูดไปลวดเพ่ย
อ้อ จับไปลง Rockbox ได้นะครับ แต่ผมไม่เอาอ่ะ ชอบเดิม ๆ นี่ละ
ถ้าลง Rockbox นี่ปรับได้อีกเพียบ เรียกว่าเทพขึ้นเยอะเลยละ ฟัง flac ได้นะถ้าลง rockbox
ในส่วนของ SRS นั้น ในยุคนั้นทาง iRiver ก็ยกย่องเรื่องระบบนี้ของเขา
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_29_zps0e061cdd.jpg)
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_30_zps13f90faf.jpg)
แต่ผมไม่ปรับอะไรเลยอ่ะ ปรับมากหลอนอ่ะครับ
ต่อไป Record
ในโหมดนี้ก็เกี่ยวกับการบันทึกการอัดนั่นเองครับ
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_31_zps2fa05c27.jpg)
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_32_zps68444642.jpg)
บอกตรง ๆ เลยครับ ไม่ได้ใช้เลยอ่ะ
เอาละ ๆ ออกมาฟังเพลงกันดีกว่า
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_33_zps8f424993.jpg)
นี่ก็หน้า Root ของไฟล์ในเครื่องนะครับ ซึ่งเราจะสร้างโฟลเดอร์อะไรขึ้นมาก็ได้
อย่างผมสร้างโฟลเดอร์ชื่อ MUSIC ขึ้นมา
และพอเข้าไปก็จะเจอโฟลเดอร์ย่อย ๆ ที่ผมใส่เพลงไว้อีก
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_34_zps028f8ae3.jpg)
กดฟังเลย ชอบมาก ๆ ตอนนี้กับวง Greasy Cafe
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_35_zps1a746191.jpg)
ซื้อ CD แผ่นแท้มา แล้วก็มาริบเป็น mp3 320kbps แบบเต็มสูบทุกอย่าง
ชอบจริงๆ เลย เพลงประโยคบอกเล่าของ Greasy Cafe แบบว่า แนวอ่ะ
พอดีมือเลยนะ
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_36_zpsde9e5b3e.jpg)
เครื่องค่อนข้างมีน้ำหนักนะครับ แต่ไม่ได้หนักอึ้งนะ
เพราะตัวเครื่องวัสดุกว่า 90% เป็นโลหะ ที่เหลือเป็นพลาสติก ABS
พลาสติกก็ตรงหัวท้ายเครื่องที่เป็นสีเงิน ๆ นั่นละครับ
งามแท้ ๆ
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_37_zpsff2eeec2.jpg)
จับถ่ายรูปคู่กับ H320 ครับ
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_38_zpsbc9bbfa8.jpg)
สภาพกริ๊บ ๆ เจอกับ กริ๊บ ๆ
เก็บ spec มาฝากอีกแล้ว
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/spce-iriver-H320_2_zps76a13f7f.jpg
<br />
<br />)
![](http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_40_zps5230fc20.jpg)
ก็ต้องยอมรับครับว่าสมัยก่อนนี่ INNO Design นี่ทำออกมาสวยน่าเก็บยิ่งนัก
ถึงช่วงท้ายนี้ ไม่พูดเรื่องเสียงก็คงโดนติแน่ ๆ เอาไงดีละ
เพราะไฟล์ที่ใช้ฟัง ผมเป็น mp3 ตั้งแต่ 128 - 320 kbps ทั้งนั้น
ไม่ได้ใส่ .wav หรือนามสกุลอื่น ๆ ไว้เลย แต่แค่ .mp3 ฟังก็เสียงดีแล้วละครับ จริง ๆ นะ
มันแปลกดีนะ เรื่องความเงียบความนิ่ง มันทำได้ดีมาก เอางี้ละกัน
ผมเขียนโดยใช้ไฟล์ mp3 ที่ 320kbps เป็นมาตรฐานละกันนะครับ
Soundstage ขอบอกว่า ทำได้ดีมาก ๆ
ซ้าย ขวา รายละเอียดดีมาก วางตำแหน่งของชิ้นดนตรีได้ชัดเจน ชอบมาก ๆ
เสียงร้อง ทำได้ดีนะครับ วางตำแหน่งได้ดี ไม่ล้นเลยหน้าผาก
แต่ผมปรับเบสเยอะ ก็จะทำให้เสียงต่ำมันดึม ๆๆ ดันถอยออกไปครับ ได้มิติดีนะ
พวกเสียงแหลมเสียงใส รายละเอียดนั้นก็ทำได้ดีครับ ไม่แผดจนเวอร์
ผมฟังเพลงบรรเลงเยอะนะ เยอะมาก ๆ ฟังเครื่องนี้แล้วไม่ล้าหูนะ
Image ก็ถือว่าชัดเจนดีเรื่องมิติเครื่องดนตรี แต่ใครเน้นฟังเพลงมันส์ ๆ นี่น่าจะชอบนะ
เรื่องเบสนี่มีให้แบบเพียบเลยละถ้าปรับเยอะอ่ะ
ผมใช้หูฟังอย่าง Grado RS1i นี่ ได้ Deep Bass ด้วยนะ พวกกลองหนังของจีน นี่ตีมีพริ้วกลอง
ผมเทสด้วยเพลงของ Soundtrack เรื่อง Hero ตีกันตุ้มๆ ๆ ใครชอบ impact แน่น ๆ ชอบเบส นี่โดนแน่
impact นี่คงต้องพูดเรื่องเสียงเบสนั่นเอง แบบว่า ปรับเยอะนี่มาเป็นลูกเลย
หูสะเทือน อืมมมมม ๆๆ เลย ฮ่าๆๆ ชอบนะ
คือถ้าใครเป็นคนชอบฟังเสียงกลอง เสียงสะแน ผมว่าชอบแน่ ๆ
เพราะเสียงกลองนี่ชัดเจนดีนะ มันปรุงมาพอดิบพอดีเลยทีเดียวเชียว
Transparency ความใส นี่ผมเทสจากเพลงของ Frank Steiner Jr.
อัลบั้ม i ching symphony (ผมก็มีรีวิวไว้นะ)
รายละเอียดของ ลาเบล (แทงเหล็กเล็ก ๆ แขวนเป็นราว ๆ แล้วเอามือรูด)
และเสียงของพิณ ที่ดีดในอัลบั้ม Touching Silk
เรียกได้ว่า คมชัดในระดับที่ไฟล์ mp3 จะทำได้เลยละ สอบผ่านนะ
แต่สิ่งที่ชอบคือ image นี่ละครับ มันรู้สึกดีจริง ๆ มิติมันดีนะ แนวอุ่น ๆ สบาย ๆ
คือ ถ้าฟัง .wav เนี่ย คงแจ่มกว่านี้อีก แต่ก็กินพลังงานแบ็ตเยอะถ้าฟัง .wav
ผมว่า แบ็ตผมที่มากับเครื่องตัวนี้ คงไม่น่าเกิน 5 ชั่วโมงแน่ ๆ สำหรับ mp3
ดังนั้น สั่งจาก ebay มาละครับ ไว้เปลี่ยนแน่ ๆ ฮ่าๆๆ
สรุปว่า H140 ฟังได้กับทุกแนวจริง ๆ เพลงร้องก็ได้ ป๊อบก็ได้ ร็อคก็ได้ ร็อคยิ่งมันส์เลยอ่ะ
คือ ผมเข้าไปอ่านเว็บฝรั่งหลายเว็บนะ เขายกย่องรุ่นที่เป็นเรือธง Flag Ship
ผมเจออยู่ 4 รุ่น ใน mp3 ยุคก่อนนะ
ก็จะมี iRiver H120/140, iRiver H320/340, Cowon X5 และ Kenwood D9
ไอ้ตัวท้ายสุดนี่หายากมาก ๆ นะ Kenwood D9 ผมก็พยายามหาอยู่
แหมเขียนไปแบบนี้ อาจจะมีคนแย่งหาแน่ ๆ แต่ก็ไม่เป็นไรครับ ใครเงินเยอะกว่าก็ได้ไปเนอะของแบบนี้
http://i1197.photobucket.com/albums/aa439/auns555/iriver_h140_39_zps385c531a.jpg
สุดท้ายทั้งหมดนี้อาจจะโอเวอร์เลยก็ได้ เพราะเกิดจากความชอบส่วนตัวล้วน ๆ
อย่างว่าครับ เรื่องหู เรื่องเสียง แต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน อ่านเอาเพลิน ๆ ละกันครับ
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมยึดถือมาตลอดคือ ต้องฟังเพลงที่เราชอบ ไม่ใช่ฟังเพลงที่เสียงดี
แต่ถ้ามีเพลงที่เราชอบ และเป็นเพลงที่บันทึกเสียงมาดี แบบนี้คุ้มค่าแน่ ๆ
แต่ละรุ่นแต่ละเครื่องมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ซึ่งถ้าเราชอบข้อดีของมันมากกว่าข้อเสีย
ก็สมควรที่จะซื้อมันครับ
โอกาสหน้า จะมารีวิว Cowon X5 ครับ ในแบบของผมนะ
เพราะมีคนเขารีวิวไว้บ้างแล้ว แต่ผมจะรีวิวในแบบของผมนี่ละครับ
ขอขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ
auns555 (อั๋น) สันติ
โทร. 089-078-5670
[email protected]