เอาไปเข้าเครื่องเบิร์นของทางร้านน่าจะได้มั้งครับ

ให้ล้างสนามแม่เหล็ก ประมานนั้นมั้งครับ

รอผู้รู้ครับ ^_^

ผมไม่แน่ใจนะครับว่ามันกลับไปเหมือนเดิมรึป่าวแต่ส่วนใหญ่หูเก็บนานๆเบสไม่เท่ากันบ้าง เบสเบาลงบ้าง เฮ้อ ต้องมาเบิร์นใหม่ครับบางตัวก็กู้ไม่ขึ้น.....ถ้าเก็บนาน

6 เดือนครับ ไม่มีหลักสูตรเร่งรัด หรือจะแก้ได้แต่ก็เหมือนแผลที่เปิดแล้วเย็บแหละครับ ถ้าทิ้งให้หายก็นานกว่าจะสมาน แต่ถ้เย็บก็ได้แต่โอกาสแผลฉีกก็มีครับ

ของผมกำลังเข้ากระบวนการนั้นอยู่เหมือนกันครับ สองตัว
PK2 กับ R02 ตอนนี้ช่วงเดือนที่ห้าแล้ว ยังต้องให้ผ่านพฤษภาอีกเดือน
แล้วก็จะไ้ด้เวลาลองเบิร์นใหม่

ที่จริงเคยคิดอีกอย่างหนึ่ง แต่มันไ่ม่อาจทำได้ในสภาวะปกติ
...Cryogenic... แต่ก็แค่คิดเล่นๆครับ ว่าจะมีผลยังไง

เคยอ่านการตั้งคำถามแบบนี้ คนตอบคิดละเอียดยิ่งขึ้นไปอีก
เขาว่า ถ้าจะทำ ก็ต้องแยกชิ้น(ยกตัวอย่างแจ็คตัวผู้)ทำ ไครโอฯ
แล้วค่อยมาประกอบร่างใหม่ เพราะถ้าเอาแจ็คทั้งตัวไปทำ
หากผ่านการลดอุณหภูมิที่องศาวิกฤติขนาดนั้น การหดตัวของวัตถุแต่ละชิ้นจะไม่เท่ากัน
......อ่านแล้วแทบคิดตามไม่ทัน

ท่านใดมีข้อมูล ช่วยมาแบ่งปันความรู้ให้บ้างนะครับ ^ ^

หูฟังที่ใช้แล้ว ไม่ได้ฟังนาน ๆ มันจะพังเอาครับ ส่วนการเบิร์นคือการทำให้ทุกชิ้นส่วนของไดร์ฟเวอร์ มันเข้าที่เข้าทางที่ควรจะเป็น

ถ้าทิ้งไว้นานๆ โดยไม่ได้ฟังไม่น่าจะทำให้มันกลับมาเหมือนใหม่ แต่จะทำให้มันเสื่อมสภาพซะมากกว่าน่ะครับ

ปล ผมคิดของผมคนเดียวนะครับ ผิดพลาดประการใดขอโทษด้วยนะครับ แค่อยากมาคุยกะพี่โป้งเฉยๆ 555

ขอบคุณเพื่อนๆๆทุกท่านนะครับผมสำหรับคำแนะนำ


นายนิคสบายดีนะ อย่าเอาแต่ทำงานเก็บตังค์อย่างเดียวหล่ะ ชวนคนข้างๆๆไปเที่ยวด้วยกันบ้างเด้อ :-)

การรีเบิร์นหูฟัง (จริงๆก็เพิ่งเคยได้ยินนี่ล่ะ)ที่ถูกต้องก็จงนำหูฟังอันนี้ไปเปลี่ยนดอกลำโพงของหูฟังเสียใหม่ อันนี้ล่ะคือการรีเบิร์นที่ถูกต้อง แต่ถ้าเปลี่ยนสายหรือแจ็คใหม่แล้วเบิร์นใหม่ ก็เรียกว่ารีเบิร์น สาย/แจ็ค หาได้เรียกรีเบิร์นหูฟังไม่ ส่วนจะเอาหูฟังเอาเดิมที่ใช้งานไปนานๆแล้วมาเบิร์นใหม่ เขาเรียกกันว่า"ปัดฝุ่น"จะตรงประเด็นกว่านะ การที่เราใช้งานไปนานๆกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน แจ็ค สาย และ Voice Coilของลำโพง กระแสไฟฟ้ามันได้ไปจัดเรียงโมเลกุลในลวดตัวนำไฟฟ้าคงที่แล้ว ไม่มีหลักหรือทฤษฎี อะไรสนับสนุนการรีเบิร์นนี้นะ ไม่เคยเห็น แต่ถ้าใช้ไปนานๆแล้วมีสนามแม่เหล็กตกค้างอันนี้มีผลการทดลองสนับสนุนอยู่ทั่วไป ผมว่าเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ทำให้เกิดความวิตก เวลานั่งฟังเพลงแล้วจะมีความสุขได้เหรอ ว่าจะไม่แล้วเชียว แต่เห็นคิดกันไปต่างๆนาๆ 5555 ก็เป็นความเห็นส่วนตัวใว้อ่านกันเล่นๆนะ

พี่โป้งสนใจจะเป็นหนูลองยาไหมครับ ผมเคยเอาหูฟังมาล้างสนามแม่เหล็กด้วยเจ้าเครื่องนี้ เสียงเปลี่ยนแน่ๆครับ แต่ไม่รับรองว่าจะดีขึ้นหรือแย่ลงนะก๊าบบบ

เรื่องมันมีอยู่ว่า เป็นธรรมดาสิ่งของ เครื่องใช้ เมื่อใช้งานไประยะหนึ่ง มันย่อมมีการเสื่อมโทรม เป็นปกติของมัน แม้แต่คนก็ยังมีชำรุดทรุดโทรม ดังนี้หูฟังก็เช่นกันใช้ไปนานๆ มันก็ย่อมเสื่อมลงไปบ้างตามการใช้งาน ยิ่งไปเจอพวกที่ชอบเปิดฟังแรงๆจนพร่าบ่อยๆก็ย่อมพังเร็ว การที่จะให้ของที่ผ่านการใช้งานไปนานๆแล้วจะให้มีคุณภาพเหมือนของใหม่ที่เพิ่งออกมาจากห้างไม่มีหรอก เท่าที่ดูๆมักจะไม่ค่อยมีใครคำนึงถึงเรื่องนี้กัน คิดกันแค่เพียงเมื่อเบิร์นจนได้ที่แล้วเสียงมันจะคงที่ไปเช่นนั้นตลอด จริงไหม?

อาจไม่เหมือนใหม่ครับ ยังไม่ทราบเหมือนกัน
อีกเดือนกว่าจะได้ลองทฤษฏีนี้ดู
หากว่า ทำให้เปลี่ยนไปจากที่เบิร์นผิดได้บ้าง ก็ดีใจแล้วครับ
ได้ผลยังไงจะมาเล่าสู่กันฟังครับ ^ ^

ได้ผลยังไงแล้วลองๆเล่าให้ฟังบ้างล่ะพี่แหน่งบา 5555 แต่ยังไง ยังไง ผมก็ว่าหลักการแปลกๆๆ ยังไงชอบกลอยู่นะ คล้ายๆกับเราซื้อรถมาแล้วเอาไปรันอินแล้วใช้งานไประยะหนึ่ง แล้วเราก็ไปได้ยินคำเล่าลือต่างๆซึ่งไม่ตรงกับเรา เราจึงเอารถไปจอดทิ้งใว้นานๆแล้วอยู่มาวันหนึ่งเราก็ขับของมาเพื่อบอกใครๆว่า "ข้าพเจ้ากำลังรันอินเครื่องใหม่ให้ถูกต้องแล้วนะ" 5555 ผมพิมพ์ไปก็ยังนึกขำไปนะเนี่ย5555 เคยเห็นแต่รถเก่าถ้ารันอินใหม่นี่หมายถึงการเปลี่ยนแหวน ลูกสูบ หรือเสื้อสูบใหม่น่ะ

การเบิร์นผิดแบบไหนกันนั้นผมก็ไม่รู้นะ แต่ถ้าเบิร์นกันแบบใช้แผ่นTestโหดๆ เช่นแผ่น Knock Out 2000(แผ่นนี้มีคำเตือนบอกใว้หน้ากล่อง) , แผ่นล้างสนามแม่เหล็ก ฯลฯ ที่บันทึกเสียงมาแบบรุนแรง แล้วเราเอาไปเปิดแบบรุนแรง หรือเปิดทิ้งใว้นานๆข้ามวันข้ามคืน เพื่อให้ชั่วโมงการใช้งานมันได้ครบๆ ความเห็นโดยส่วนตัวผมว่ามันก็ผิดล่ะ เพราะหูฟังของใหม่่ๆ ลวดVoil Coil ของหูฟังมันจะได้รับความร้อนมากน้ำยาที่เคลือบเป็นฉนวนป้องกันการช๊อทรอบ(การลัดวงจรข้ามรอบของขดลวด)มันจะเสื่อมคุณภาพลงได้มาก แม้แต่น้ำยาจำพวกวานีชที่เคลือบทับมาอีกที บางทียังไม่แห้งสนิท ยังไม่อยู่ตัวด้วยซ้ำไป การกระทำดังที่กล่าวมาข้างต้นนี้ล่ะ มันทำให้หูฟังอันเป็นที่รักของท่านทั้งหลายเสื่อมคุณภาพลงต่างหากรู้กันบ้างไหมล่ะ ทีนี้จะบอกว่า Re Burn มันจะช่วยได้แบบไหน ผมล่ะมองไม่ออกจิงๆ

มันไม่เหมือนกับรถหนะสิเพราะผมพิสูจมาละครับ
เคยมี shure อยู่ตัวนึงที่ผมเล่นด้วยความไม่รู้และเป็นมือใหม่ครับ เบิร์นด้วยไฟล์ล้างสนามแม่เหล็กค้างคืน ตื่นมาเท่านั้นแลเสียงเบาลงและแบนแทบไร้มิติ ยิ่งกว่าหูแถมแอปเปิ้ลอีกครับ ที่ว่าคือรุ่น 530 นะครับพอเจอแบบนี้ใจเสียเลยเลยลองแก้ไขดูด้วยการเบิร์นด้วยไฟล์ท่่ดีๆใหม่ใช้เวลา 3 วัน 3 คืนครับทำให้กลับมาได้แต่ยังไงก็ไม่เหมือนเดิมแน่นอน เหมือนแก้วที่แตกหนะครับต่อยังไงก็ยังมีรอยร้าว
การที่ ทิ้งไว้6 เดือนก็เหมือนหลอมมันใหม่นั่นแหละครับเพราะ driver มันคืนตัวแม้จะเก่ายังไงมันก็คืนตัวครับ

การทิ้งใว้นานๆเพื่อให้สนามแม่เหล็กตกค้างสลายไปนั้นเป็นไปได้อยู่ แต่การทิ้งใว้นานๆเพื่อให้ไดร์เวอร์คืนสภาพดังเดิมนั้นผมมองไม่ออก รู้แต่ว่าถ้าเก็บใว้นานๆไม่ใช้งาน ถ้าเอาไปเก็บใว้ไม่ดีล่ะก็งานเข้าแน่ๆ ยิ่งถ้ามีความชื้นเข้าไปเกี่ยวข้องได้Voil Coil หัวJack มันจะเกิดอ๊อกไซด์ ถ้าตามลวดVoil Coil จะเกิดสนิมเขียวได้ ยิ่งถ้าลำโพงบ้านจะเห็นได้ง่ายเลย บางทีขอบยางจะเหนียวเสื่อมสภาพ ถ้าขอบโฟมบางทีจับแล้วเปื่อยยุ่ยไปเลย จะเห็นได้เลยว่าอุปกรณ์พวกนี้ตอนเราซื้อมามีหลายๆอย่างที่มีซองซิลิก้าเจลป้องกันความชื้นแถมในกล่องด้วย ทุกคนก็คงพบได้ด้วยตนเองว่า ของใช้ทุกอย่างล่ะ ถ้าทิ้งใว้ไม่ได้ใช้นานๆเรานำกลับมาใช้ใหม่ จะใช้มันทำงานราบรื่นเหมือนของใช้อยู่เป็นประจำไม่ได้หรอก บ่อยครั้งของที่ทิ้งใว้นานๆแล้ว พอจะนำเอามาใช้ใหม่ ต้องซ่อม ต้องเปลี่ยนอะไหล่ เปลี่ยนชิ้นส่วนบางชิ้นใหม่