เออหว่ะ

เสียงที่เราฟังแล้วมันชอบมันใช่นั่นแหละเสียงดี

แปลว่า ซื้อเหอะ เชื่อเฮีย

ในความคิดของผมน่ะ เสียงดีหมายความว่า


ฟังแล้ว ไม่น่าเกียจ ฟังแล้ว ไม่รีบดึง หรือ ถอดหูฟัง ขว้างทิ้ง (ผมเคยเอาค้อนทุบน่ะ inear แอบสาดิส ^^!) ฟังแล้ว ให้เสียงครบทุกย่าน คือ ไม่ใช้ฟังแล้วได้ยินเบส ตูม ตูม!.. แต่เสียงร้อง และแหลม หายเงียบ อันนี้(ยกตัวอย่างครับ ^0^) คือจะหนักไปทางไหนก็ได้แต่ต้องไม่มากเกินไป

แล้วอีกส่วนหนึ่งคือ ผู้ฟังครับ ก็แล้วแต่ว่าใครชอบหนัก ชอบโปร่ง เคลียร์ อันนี้บังคับกันไม่ได้จริงๆครับ ^^

ฟังแล้วชอบ ไม่ว่าจะชอบเสียงแบบไหน ตัวนั้นแหละเสียงดี

ถูกจริตตัวเอง !!

คหสต นะครับ
ถ่ายทอดเสียงได้เหมือนต้นฉบับมากคือเสียงดี กระบวนการฟังเพลงนั้นเริ่มจากนักดนตรีบันทึกเสียงลงสื่อแล้วระบบเครื่องเสียงของเราก็แปลงสื่อกลับมาเป็นเสียง ดังนั้นถ้าถ่ายทอดได้ตรงก็คือเสียงดี

เรามีวิธีอะไรที่จะรู้ว่า ถ่ายทอดได้ตรงจากต้นฉบับบ้างหรือครับ ?

ได้ยินแล้วมีความสุขแค่นั้นพออ่ะคร๊าบ ^_^

มันเป็น Feeling !!!! hahahaha

อันนี้แล้วแต่คน ว่าชอบแบบไหน

แต่พอสรุปได้คร่าวๆ ว่าเป็นเสียงที่คนทั่วๆ ไปชอบคับ

ถ้าเราไม่รู้ว่าชอบแบบไหน ... ให้ไปลองเครื่องเสียง หรือชุดหูฟังราคาแพงๆ รุ่นที่ขายดีๆ ดูคับ

ข้ออนุญาตนิดนึงนะครับ ถ้าผิดพลาดประการใดต้องข้อโทษไว้ ณ ที่นี้ พอดีผมได้มีโอกาสไปเข้าในวงการเกี่ยวกับ Sound Engineer อยู่นิดนึง ประมาณสักขาข้างขวา 555+

ขอมาบ่นๆไว้ อาจมีประโยชน์ หรือ โทษ กับใครก็ขอโทษด้วยไว้ครับ

เสียงดี คือ เสียงที่ไม่ถูกดัดแปลงจากต้นฉบับครับ แล้วมีความเป็นธรรมชาติที่สุด ซึ่งมันก็จะไปเกี่ยวกับพวก Sample Rate , Bit Depth ครับ

Sample Rate หมายถึง จำนวนครั้งต่อ 1 วินาที ที่ข้อมูลเสียงถูกจับ ซึ่ง Sample Rate เนี่ยจะมีหน่วนเป็น KHz ยกตัวอย่าง 1KHz เท่ากับ 1000 ตัวอย่างต่อวินาที
ซึ่งในปัจจุบันไฟล์ต่างๆที่เรารู้จัก มักคุ้นก็จะมี Sample Rate ที่ 44.1 KHz , 48 KHz , 88.2 KHz , 96 KHz , 192KHz ซึ่งพวก Sample Rate สูงๆจะใช้งานในส่วน Studio

Bit Depth หมายถึง อัตราส่วนของพื้นที่ว่างของคลื่นเสียงใน 1 วินาที ยิ่ง Bit Depth มากเท่าไหร่ รูปร่างของ Digital Audio ก็จะใกล้เคียงกับ Analog มากขึ้น

Bit Depth ก็เช่น 16bit 24bit ว่ากันไป

Sample Rate มาก ความยาวของความถี่หรือ Frequency Range ก็จะกว้าง
Bit Depth มาก การ Distor ของเสียงก็จะน้อยกว่า

จากภาพนะครับ แกน Y คือ Bit Dept และแกน X คือ Sample Rate

เสียงปกติ ธรรมชาติ จะเป็นดังรูปครับเส้นโค้งๆสวยๆ เส้นสีฟ้าครับ

ซึ่งจากรูปนะครับ ลองสังเกตุรูป 1 2 3 นะครับ
รูปที่ 1 และ 2 ดูจุด Bit Depth สูงสุดครับ จะเห็นว่ามันตัดเหลี่ยมเลย จุดนี้ครับที่มา Distor หรือ เสียงแตก

รูปที่ 2 Bit Depth น้อยครับ จะเห็นได้กราฟต่ำอยู่ดีๆโดดไปสูงเลย ซึ่งเสียงจะขาดความเป็นธรรมชาติไปครับ

รูปที่ 3 Bit Depth และ Sample Rate ค่อนข้างสูงดูจากกราฟครับ ค่อนข้างใกล้เคียงเสียงจริง ดังน้ันเสียงจะมีความใกล้เคียวต้นฉบับมากครับ

กราฟ Bit Depth มีการขึ้นของข้างไม่ห่างกันมาก

Sample Rate ที่มาร์คจุดเสียงค่อนข้างละเอียด

ดังนั้นที่เพื่อนๆเถียงกันว่าไฟล์นั้น ไฟล์นี้เสียงดีกว่าไหมก็ตามนั้นครับ ไฟล์ที่มีพวก Bit สูงๆยิ่งได้เสียงที่ดีครับ

- Bit ต่ำไปแปลง Bit สูง เช่น Mp3 320kbps แปลง Aiff 1411kbps ถามว่าดีขึ้นไหม ตอบไปเลยครับ ไม่มีทางดีขึ้นแน่นอน ได้แต่เนื้อที่มาเพิ่ม แต่ย่านเสียงมันจะมาจากไหน คงไม่ใช่ไสยศาสตร์นะครับ 5555+

- Bit สูงๆ แปลงลง Bit ต่ำ ก็ตามเนื้อผ้าครับ พวกเสียงสูงถึงหายไป ฟังแล้วสากเสี้ยน บาดหู ขาดความพริ้ว Bass พวก Deep จัดๆก็หายไป

เพิ่มนิดนึงครับ CD ที่เราฟังนั้น Sample Rate จะอยู่ที่ 44.1 KHz Bit Depth 16 ไม่ต้องอาจหารแปลงไฟล์เกินนี้นะครับมันเกินจริง 555+

ซึ่งงานใน Studio ห้องอัดบ้านเราส่วนมากที่ทำงานกันจะอยู่ที่ Sample Rate 48 KHz , Bit Depth 24bit ประมาณนี้ครับเพราะยังไงพอทำลง CD ก็แปลงลงอยู่ดี :'D

หึหึ

เสียงดี ก็คือ เสียงที่เราชอบนั่นแหละครับ ถูกต้องมากที่สุดครับ


ตัวอย่างที่เสียงเราไม่ชอบ ก็มีครับ ต่อให้อัดเสียงระดับโลกเทพๆ เราฟัง ตกลง คนร้องว่าอะไร ยังไม่รู้เลย ก็มี เครื่องดนตรี เช่นกัน อัดเสียงระดับโลก ตกลงเล่นโน๊ตตัวไหนหว่า


------------------------------

ถ้าจะพัฒนา เสียงที่ดี ที่ว่านี้ ได้อีก คือ ทำให้เสียง ชัดมากที่สุด+อื่นๆได้อีก ลดnoise (เสียงรบกวนหรือเสียงซ่า)

ชัดที่นี้ ก็แล้วแต่ เครื่องเสียง+หูฟัง+สาย+แผ่นCD(DVD) + นั่นโน่นนี้ได้อีก

เสียงดีคือเสียงที่เราชอบ นี่เป็นประโยคที่ยังไม่สมบูรณ์ครับ ต้อง เสียงดี(ในความเห็นของเรา)คือเสียงที่เราชอบ

เพราะถ้าเอามาสั้นๆแค่ เสียงดีคือเสียงที่เราชอบ จะมีปัญหาตามมาอีกเพียบ เช่นงั้นเสียงที่เราชอบแต่อีกคนไม่ชอบมันดีหรือไม่ ควรเอาใครเป็นตัวตั้งเพื่อตัดสินความดีของเสียง

เสียงดีหรือไม่ควรมีวิธีการที่เป็นที่ยองรับตัดสิน เช่น วิธีของคุณ iARMz ซึ่งเป็นเรื่องที่คนฟังเพลงทั่วไปไม่ค่อยรู้ครับเพราะมันเฉพาะทางเกินไป

เหมือนเรื่องหนังแหละครับที่หลายคนมักบอกว่าหนังดีคือหนังที่เราชอบ ซึ่งก็ควรจะต้องวงเล็บไว้เช่นกันว่า ดีสำหรับเรา ไม่งั้นคนชอบกับไม่ชอบมาเจอกันก็เถียงกันตายพอดี

เสียงที่ตรงตามแผ่นที่สุด อาจไม่ใช่สิ่งที่คนฟังเพลงทุกคนต้องการคับ

เช่นผมเอง ผมชอบเสียงที่ติด colour ในทางที่ผมชอบ เพื่ออรรถรสในการฟังเพลงคับ

หูฟังประเภม monitor ราคาแพงๆ หลายๆ ตัวผมฟังแล้วรู้สึกว่ามันจืดชืด

คหสต นะคับ

สำหรับผมก็ เบสกระชับ ออก color หน่อยๆ

เสียงร้องใสๆ ^_^