ดัน...ๆๆ ช่วยบอกหน่อยนะก๊าบบ พอดีอยากจะลองไฟล์เสียง bitrate สูงๆมาใส่ classic มั่งอ่าคับ

ขั้นแรก ที่ไอจูน เข้าไปที่ edit - preferrences - ที่แท๊บแรก general
กดที่ปุ่ม import setting ด้านใน เลือกที่ import useing เลือกเป็น apple lossless encoder
โอเคแล้วก็เสร็จครับ CD แท้ หรือ CD ก็อปก็ได้ครับ แต่ถ้าเป็น CD ที่สร้างขึ้นมาจากไฟล์ต่างๆ จะไม่มี album artwork ครับ

แม่นแล้วจ้า 555

ขอบคุณครับบบ

ว่ากันยาวเลยครับ .......


ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า

โดยปกติ Audio CD จะบันทึกตามมาตาฐานคือ 16 bit
ด้วยอัตรา Sampling 44,100 Hz

Bit คือ ความสามารถในการให้รายละเอียดเสียง, ระดับความเบาค่อย ถ้า16 bit จะได้ 65535 ระดับเสียง

Sampling Rate คือ ค่าที่เป็นตัวบอกความต่อเนื่องของเสียง, Audio CD จะใช้ Sampling 44,100 Hz มาจากค่าความถี่เสียงสูงสุดที่คนสามารถได้ยิน(~22.05 kHz) คูณ 2 (เพราะเป็นสเตอรืโอ 2 ชาแนล)

ก็คือ 44.1 khz

44,100 samples per second x 16 bits per sample x 2 channels = 1,411,200 bit/s = 1,411.2 kbit/s

ดังนั้น ไฟล์ audio cd ตามมาตรฐาน Bit Rate จะอยู่ที่ 1411 k ครับ ไม่ใช่ 320 k





และ ที่มาของ 320k มันคือ Bit Rate ที่ mp3 สามารถจะบันทึกได้สูงสุดเท่านั้นล่ะครับ


และ.........


ถ้าเป็นไฟล์ lossless มันถึงจะเป็นการบีบอัดแบบไม่สูญเสีย
นั่นก็คือ เมื่อนำมาแปลงกลับเป็น .wav จะได้ข้อมูลเหมือนกันทุก bit ไม่ว่าจะเป็น lossless นามสกุลใดๆก็ตาม

ดังนั้น Bit Rate ของ lossless ก็จะอยู่ที่ 1411 k เหมือน cd audio ครับ เพราะไม่เกิดการศูญเสียเลย เหมือนการใช้ zip บีบไฟล์ คลายออกมาก็ได้ต้นฉบับ เหมือนกันทุกอย่าง
เพียงแต่ไฟล์ lossless คือการบีบอัดที่สามารภเล่นได้เลย ไม่ต้องคลายออกมา



lossless ที่เห็นๆกันก็จะ จะต่างไปตามค่ายของโปรแกรม หรือลิขสิทธิ์

ได้แก่

Apple Lossless - ALAC (Apple Lossless Audio Codec)
Direct Stream Transfer - DST
Free Lossless Audio Codec - FLAC
Meridian Lossless Packing - MLP
Monkey's Audio - Monkey's Audio APE
RealPlayer - RealAudio Lossless
Shorten - SHN
TTA - True Audio Lossless
WavPack - WavPack lossless
WMA Lossless - Windows Media Lossless

เป็นต้น ซึ่งนามสกุลต่างๆพวกนี้ นำมาแปลงกลับ ก็จะได้ .wav ที่ข้อมูลเหมือนกันหมด



ดังนั้น การจะแปลง CD audio เป็น lossless ก็จะขึ้นอยู๋กับการใช้งานของแต่ละท่านครับว่าใช้กับ โปรแกรม หรือ player ตัวไหน แตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล
เช่นใช้ ipod ก็เซต iturn ให้ rip เป็น Apple Lossless เป็นต้น



ทีนี้มาถึง mp3
มันเรียกว่าบีบอัดไม่ได้เต็มปากเต็มคำเท่าไหร่ครับ
มันเป็นการเข้ารหัสใหม่ และย่อขนาดโดยการตัดทอนสิ่งที่มันเห็นว่าไม่จำเป็นเช่น คลื่นความถี่ที่สูงหรือตํ่าจนไม่ได้ยิน เป็นต้น
mp3 จัดว่าเป็น บีบอัดข้อมูลแบบสูญเสียบางส่วน (Lossy data compression) หรือ Lossy นั่นเอง

เอาง่ายก็คือ ถ้าคุณ โอเมก้า บอกว่าแปลงเป็น lossless แต่ดันได้ Bit Rate มาแค่ 320 k

แปลว่า ผิดอย่างแรงเลยครับ อิๆๆๆ


เรื่อง Bit Rate นี่ก็เถียงกันยาวและนานมาก บางคนก็บอก 128 ก็พอ บ้างก็ว่า 192 ก็ฟังไม่ออกแล้ว
อีกหลายคนว่า 192 กับ 320 ฟังยังไงๆๆๆ ก็ฟังไม่ออก

อันนี้ก็แล้วแต่บุคคลครับ ห้ามกันไม่ได้ ใครพอใจ และสะดวกที่เท่าไหร่ ก็ RIP เลยครับ

- ที่น้อย ฟังไม่ออก จะ 128k หรือ 96k ก็ไม่ว่ากัน
- ที่มาก เวลามาก แต่ฟังไม่ออก จะ rip 320k หรือ lossless ก็ไม่ว่ากัน ถือว่าซื้อความสบายใจครับ

- มีที่ มี เวลา ฟังออก ก็ออกเดินทางสู่ความละเมียดละในวงการ head-fi ไปด้วยกันครับ


แต่ผมบอกได้เลยว่า มิติมันต่างกันครับ ใครจะเชื่อไม่เชื่อ ไม่ว่ากันครับผม ^ ^



แต่สำหรับผม รุ่นเก๋า เราต้องแผ่นแท้ วู๊ววววววว!!!!!!!!!!!!!!!!!

โอ้..เยี่ยมไปเลยครับคุณnitroboy ขอขอบคุณอีกคนครับ

แล้วถ้าผม rip flac จาก CD ของแท้จากนอก แต่มันได้แค่ 789kbps อะครับ
มันเป็นเพราะอะไรหรอครับ
แล้วผม config อะไรใน foobar rip บ้างครับ

พอผม porperties ดูมันก็เขียนว่า 16bits per sample
Sample Rate 44100 hz
ซึ่งเท่าที่ผมลองคำนวนมันก็ต้องได้ตามที่คุณ nitroboy พูด
แต่มันดันไม่ได้อะครับ

ผมเนื่องจาก foobar มันปรับไม่ได้ละเอียดนะครับ แปลงเป็น 320 kbps ยังไม่ได้เลย ได้แต่vbr 245 คุณธนัน ลองใช้ dbpoweramp ซิครับ ริบเป็นflac มีหลายระดับให้เลือก เลืองที่ 0 สูงสุดไปเลย แต่ก็ไฟล์ใหญ่ขึ้น

จะลองดูครับ ขอบคุณครับ

ขอบคุณเหล่าสมาชิกทั้งหลายเด้อ ช่วยกันคนละไม้ล่ะมือดีจังเลยล่ะ 55

และแล้วผมก็ทำยังไง flac ก็ได้สูงสุดแค่ 880kbps สำหรับ CD Andrew Lloyd Webber
แต่ wave set แล้วได้ 1411kbps yo!!! wooho!!!! แต่ฟังไม่ออก 555 ฟังไม่ออกระหว่าง
880kbps กับ 1411kbps มาเล่าให้ฟังครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ให้คำแนะนำครับ

ลืมบอกไปครับ 720kbps ต่างกับ 1411kpbs เยอะอยู่แนะผมว่า เสียง 1411kbps ใสมากๆๆๆ เสียงตัว
s เวลานักร้องออกเสียง ใจหายเลยอุอุ

ผมขอแก้นึดนึงนะครับ เพราะอ่านลวกๆรีบๆมากไปหน่อย และไม่รู้จะอธิบายยังไงให้เข้าใจง่ายๆ
เลยมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนนิดนึง (นิสเดียวจริงๆ)

จาก

Sampling Rate คือ ค่าที่เป็นตัวบอกความต่อเนื่องของเสียง, Audio CD จะใช้ Sampling 44,100 Hz มาจากค่าความถี่เสียงสูงสุดที่คนสามารถได้ยิน(~22.05 kHz) คูณ 2


การที่ต้อง คุณ2 ไม่ใช่เพราะเป็นสเตอริโอ 2 ch ครับ

แต่คูณสองเพราะทฤษฎีการสุ่มบอกว่า ถ้าจะสุ่มสัญญาณ discrete ออกมาเป็น continuous แบบให้ได้ใจความครบถ้วน ต้องใช้ความถี่ในการสุ่มเป็นสองเท่าของความถี่สูงสุดของสัญญาญ discrete

แก้ให้แล้วเด้ออ

นั้นเอา .....โดนเต็มๆ งงกันไปเลย 5555
เอาไว้ใครอยากรู้ต้องไปเรียนครับ ตอนผมเรียน งงเป็นบ้าเลยคุณหละ nitroboy
แต่พอผมเล่นพวก audio อะไรต่างๆ เข้าใจหมดเลยที่เรียนมาสงสัยว่า ตอนเรียนทำไมโง่จังวะ
อิอิ

ถ้าจะ RIP ให้เป็น FLAC ให้ได้ 1411kbps
มีกระบวนการยังไงบ้างครับ
ลองทำดูก็ยังได้ไม่ถึง
ของคร่าวๆ ครับ เดี๋ยวไปแกะต่อเอง

FLAC ที่หาโหลดได้ก็ 825kbps เอง

รบกวนด้วยครับ
ขอบคุณครับ

จะว่าไปที่คุณ nitroboy พูดมันก็จริงครับ มิติต่างกันเยอะ มากๆ เลยครับ

ลองฟังเพลงเดียวกัน หลับตาฟัง จะรู้เลยว่านักร้องยืนตรงไหนนะครับ

แบบในหัวอ่ะครับ อธิบายไม่ถูก คนเล่นกีตาร์กับตีกลองอะไรประมาณนี้อ่ะครับ

ถ้าอยากได้ 1411kbps ก็ต้องเป็น .wav หรือไม่ก็ .aiff ครับ

เพราะถ้าเป็น FLAC ยังไงก็น้อยกว่า 1411kbps ครับ ขึ้นอยู่กับสัญญาณดนตรีว่ามีความซับซ้อนมากแค่ไหน ถ้าซับซ้อนมากก็อาจจะอยู่ที่ 900-1000kpbs นิดๆ ถ้าซับซ้อนน้อย ก็ 700-900kpbs ครับ

ว่าแต่หูดีกันจัง ฟังแยกระหว่าง FLAC กับ WAVE ออกด้วย ผมฟังไม่เห็นออกเลย

หนับหนุนให้ฟังไฟล์แบบไม่บีบอัดอีกคนครับ ความจุของipodตอนนี้เป็นหลัก100Gแล้ว ใช้ไฟล์แบบไม่บีบอัดสบายเลย เช่น AIFF,WAV ขอบอกว่าฟังแล้วจะอุทานว่า \"รู้งี้ฟังแบบนี้ตั้งนานแล้ว\"

มีความสุขกับการฟังเพลงนะครับทุกๆคน