Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

วิถีเช็คไฟกลับเฟส

ไอ้ตู้

12/06/2007 07:01:23



เพื่อนๆชาวมั่นคงมีใครพอจะทราบบ้าง
วิถีเช็คไฟกลับเฟสแบบง่ายๆมีกี่วิธีทำยังไงบ้าง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

-SweetPig-

12/06/2007 07:31:57



ถ้าง่ายที่สุดก็ไขควงวัดไฟเลยจ้า

จิ้มรูไหนแล้วไฟติดแสดงว่าเป็น line น่ะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

นายมั่นคง

12/06/2007 09:21:27



5555

เอางั้นเลยเรอะ หมูหวาน

จริงๆ มันมีวิธีเช็คไฟอีกแบบหนึ่ง ซึ่งใช้โวลต์มิเตอร์เป็นตัวเช็คครับ เป็นเทคนิคในการเช็คขั้วไฟสำหรับเครื่องเสียงโดยเฉพาะ

แต่ผมลืมไปแล้วน่ะครับ 5555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

frank602z

12/06/2007 09:24:28
ถ้าเป็น vampire ใช้นิ้วแตะก็รู้แล้วคับ
ลองอ่านดูในรีวิว...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

สาคร

12/06/2007 10:14:56
เอาแบบผู้มีประสพกาม เอ้ย ประสพการณ์ ก็เสียบแล้วฟังครับ

ถ้าถูกเสียงก็ดีกว่า แค่นั้นเองครับ

เอาแบบขี้เกียจเสียเวลานั่งฟัง ใช้มิเตอร์วัดไฟครับ เสียบเครื่องที่ต้องการทดสอบเข้ากับปลั๊ก เอามิเตอร์ตั้ง เป็น AC Volt Test

เอาโพรบข้างหนึ่งแตะตัวเครื่องส่วนที่เป็นโลหะ(กราวน์) แล้วเอาโพรบอีกข้างจับด้วยมือเปล่า

แล้วดูค่าไฟที่ขึ้นมา เสียบแบบไหน แล้วค่าไฟที่ออกมาน้อยกว่า ก็เอาอันนั้นครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

นนท์

12/06/2007 11:33:36
ถ้าเป็นกระแสไฟสลับ AC ให้ใช้ไขควงเช็คไฟ วัดที่ปลั๊กไป ทั้ง สองด้าน ด้านที่ไขควงมีไฟสีส้ม แสดงว่าเป็นไฟบวก

ส่วนไฟกระแสตรง DC ให้ใชโวล์ท้มิเตอร์ วัดไฟ โดยที่เราต้องตั้งค่ากระแสไว้สูงๆเช่น 50 โวล์ท แล้วนำเข็มวัดทั้งสองข้างสัมผัสไปที่ขั้วไฟ โดยสีแดงจะเป็นขั้วบวก สีดำจะเป็นขั้วลบ เข็มจะตีขึ้นจาะซ้ายสุดไปบอกขนาดกระแส เช่น 0-50 โวล์ท แต่ถ้าผิดขั้วเข็มจะตีกลับ ข้อควรระวับ เวลาวัดขั้วให้ใช้เข็มเขี่ยๆเอานะครับ เพราะว่าก้ากลับเฟส นานๆเข็มมิเตอร์จะตีกลับจนเข็มของมาตรวัดเสีย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

nopphong

12/06/2007 12:06:20
ผมสงสัยครับว่าการกลับเฟสจะมีผลกับแอมป์ได้ยังไง

เพราะแอมป์ใช้หม้อแปลงในการจ่ายไฟ ดังนั้นไฟที่จ่ายเข้าที่แอมป์กับไฟบ้านมันจะไม่มีการต่อกันทางไฟฟ้า เรียกว่ามัน isolate กัน การกลับเฟสจะไม่มีผล จะมีผลเฉพาะกับแหล่งจ่ายแบบ switching power supply ซึ่งบางตัวจะมีการใช้กราวด์ร่วมกับไฟบ้าน(ซึ่งอันตรายพอสมควร) โดยปรกติเราจะไม่ใช้แหล่งจ่ายอย่างนี้กับเครื่องเสียงนะครับ

เข้าใจเอาเองว่าที่บางคนกลับเฟสแล้วมีผลเพราะฟังจากคอมแล้วแหล่งจ่ายจาอคอมมันรั่วมาเพราะกลับเฟสหรือเปล่า หรือที่ผมเจอบ่อยๆคือฟัง ipod ฯลฯ แล้วชาจไปด้วย เพราะอแดปเตอร์ชาจส่วนใหญ่ใช้แบบ switching ครับ

แต่หากต้องการเช็กว่าสายไหนเป็น line สายไหนเป็น neutron ใช้ไขควงวัดสะดวกสุดครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

LuisFigo

12/06/2007 13:42:36
ช่างลึกซึ้งอะไรเยี่ยงนี้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8

สาคร

12/06/2007 22:10:48
เรียนคุณ nopphong

เรื่องนี้จัดเป็นหนึ่งในเรื่องประเภท "อิทธิปาฏิหารย์" ของคนเล่นเครื่องเสียงครับ 5555

ถ้าเอาหลักการมาอ้างอิง ก็เป็นเรื่องของ Electro magnetic Induce ครับ

ความที่ว่า สนามแม่เหล็กไฟฟ้า จากตัวหม้อแปลงตัวเบ้งๆ ในแอมพ์ไฮเอ็นด์ทั้งหลาย ต่อให้ชีลด์ ให้พันกันยังไง มันก็มีออกมามากพอที่จะ Induce เป็นอะไรต่อมิอะไร ผ่านทางแท่นเครื่อง ไปกวนตัววงจรมันได้ครับ

อย่างครั้งนึ่ง Mark levinson หรือ Cello ไม่รุผมจำไม่ได้แล้ว ทำการออกแบบแอมพ์ตัวหนึ่ง แล้วเสียงมันเริ่ดสะแมนแตนมั่กๆ อีกตอน อยู่บน Test Bed

แต่พอเอาลงแท่นเสร็จแล้วเสียงมันกลับห่วยลง แบบหาสาเหตุไม่เจอ

จนในที่สุดก็ค้นพบวิธี ใช้แท่นแอมพ์ที่เป็นวัสดุพิเศษ นำไฟฟ้า แต่ไม่นำคลื่นแม่เหล็ก ถึงได้แก้ปัญหานี้ได้

ก็อ่านเล่นกันเพลินๆนะครับ บอกได้อย่างว่า ไอ้อาการกลับเฟสนี่ ไม่ใช่ว่า จะเห็นผลกับทุกชิ้นนะครับ

กลับเฟสปลั๊กไฟ แล้วเสียงเปลี่ยนมักจะเกิดกับภาคขยายกำลังสูงๆ มากที่สุดครับ พวกปรี หรือ Source นี่มีผลบ้างแต่น้อยครับ

แล้วบางคนก็ฟังออก บางคนก็ฟังไม่่ออก ไม่ต้องไปเอาเป็นเอาตายกับมันหรอกครับ

ผมใช้มิเตอร์เช็คไฟรั่วอย่างที่ว่าไว้ข้างบน เสร็จแล้วก็จบครับ ขี้เกียจเหมือนกันที่จะฟังเทสกันเป็นชิ้นๆ

แต่ของพวกนี้ ก็แค่ทำทีเดียวอีตอนเซ็ทอัพเครื่องล่ะนะครับ เพราะเครื่องบ้านมันไม่ค่อยได้เคลื่อนย้ายกันง่ายๆนัก ไม่เหมือนพวก พอร์ทเทเบิ้ลครับ

เรื่องไฟรั่วลงกราวน์นี่ เอามิเตอร์เช็คดูก็เห็นแล้วนะครับ แม้ว่าจะไม่ใช่ สวิทชิ่งซัพพลาย ... ลิเนียร์ซัพพลายนี่แหละตัวดีนัก

ส่วนแนวทางที่ดีที่สุด สำหรับการจัดการเรื่องปลั๊กและ กราวน์ ซึ่งถ้า่ทำได้ เสียงจะดีที่สุดเท่าที่เครื่องของเราจะให้ได้เลยทีเดียวครับ

นั่นคือ เช็คขั้วปลั๊กไฟให้เรียบร้อย แล้วเดินกราวด์จากทุกเครื่ือง ลงกราวน์ร็อด ฝังดินครับ

ลากสายดินเส้นเป้งๆ ลงไปเลยครับ เช็คให้ชัวร์ว่า ทุกเครื่องในระบบ เชื่อมกราวน์ถึงกัน แล้วลงดินไป

ดีที่สุดแล้วครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

ISe

12/06/2007 22:48:17
เพราะเหตุนี้ผมถึงไม่เรียนภาคไฟ ฮาฮา
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

nopphong

12/06/2007 23:12:55
ก็ยัง งง อยู่นะครับ คือ supply แบบใช้หม้อแปลงนี่มันไม่มีทางรั่วลงกราวด์ได้นะครับ เพราะตัวมัน ลอยจากกราวด์ เหมือนหม้อแปลง isolate ที่แปลงจาก 220V เป็น 220V น่ะครับ ที่ให้จับสายตรง output ที่เป็น 220V เลย ยังไงก็ไม่ดูด(ถ้าไม่จับพร้อมกันสองเส้น) ส่วนที่สนามแม่เหล็กออกมากวนนี่เห็นด้วยครับแต่มันน่าจะออกมาเป็นเรื่องของเสียงฮัมมากกว่าและถ้ามันฮัมให้กลับปลั๊กอีกกี่รอบก็ยังฮัมอยู่ดี
ยังไงผมว่าเรื่องของกลับเฟสน่าจะมาจากวงจรไม่ดีไฟมันรั่ว หรือไม่ก็ switching power supply น่ะครับ
อย่างแอมป์หูฟังผมนี่ยังต้องใช้หม้อแปลงธรรมดา เพราะตอนแรกใช้แบบสวิทชิ่งแล้วพอกลับเฟสไฟมันวิ่งจากแอมป์กลับไปที่ ipod เข้า อะแดปเตอร์ชาจของ ipod เสียงรบกวนดังมากๆ พอเปลี่ยนเป็นแบบหม้อแปลงธรรมดานี้หายสนิทครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11

สาคร

12/06/2007 23:36:52
มีจุดหนึ่งครับ คือในแอมพ์ทุกตัว ต้องต่อจุดกราวน์ลงแท่นเครื่องอยู่แล้วนะครับ อย่างน้อยๆ ก็1จุด

ยิ่งตอนผมทำแอมพ์หลอด ที่ต้องมีความแตกต่างของแรงดันไฟในวงจร แบบหลากหลายมากๆ ต้องใช้วิธีกราวน์ลงแท่น สองจุด ซึ่งเรียกว่า 2Point Earth Sakuma Styles ด้วยครับ

กรณีของฮัมเป็นเพียงส่วนหนึ่งครับ แล้วเวลาเราเสียบขั้วปลั๊กไฟสลับกัน ในทางปฏิบัติ เราพบว่า สนามแม่เหล็กรั่วไหล มีความแตกต่างกันแบบวัดทดสอบได้เลยครับ

อย่าลืมว่า ในทางปฏิบัติ มันไม่สมบูรณ์เท่ากับการคำณวนวงจรในทางทฤษฏีน่ะนะครับ ทั้ง ดีไวซ์แต่ละตัวที่มีจุดบกพร่อง และอื่นๆอีกมากมายครับ

ส่วนกรณี สวิทชิ่งซัพพลาย ที่รั่วมากวน คือ สวิทชิ่ง ฟรีเควนซี่ เป็นหลักเลยครับ นอกจากแผ่ออกมาเป็นคลื่นรังสี ยังกระทบต่อความบริสุทธิ์ของกระแสไฟ DC อีกต่างหากครับผม มันเลยเห็นกันจะจะ

ถ้ายังงง เรื่องหม้อแปลงมันจะรั่วลงกราวนด์ได้ยังไง นึกถึง ขั้วจ่ายไฟ เซคกั่นดารี่ของหม้อแปลงนะครับ โดยมากเรามักจะใัช้วงจรจ่ายไฟ แบบ เฟสคู่ใช่ไหมครับ เช่น 15-0-15 VAC แล้ว เข้าเรคติฟาย แล้วทำเรคกูเลทให้ไฟเรียบ ไอ้ตรง 0 vac นี่แหละที่เราเอาลงกราวน์ตามหลักการ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นจุดที่สามารถ สัมพันธ์กันส่วนอื่นๆได้เป็นหลักครับผม

เรียกว่า ถ้าเราไม่เอามันลงกราวน์แท่น เครื่องก็ออสซิเลท แต่พอเอาลง ก็ต้องจัดการกับกราวน์ให้ดี

ซึ่งถ้ามันจัดการไม่ดีอะไรเกิดขึ้น


กราวน์ลูปไงครับ เพียงแต่ไม่ได้เจอกันนักเพราะถ้ามันลูป เครื่องก็ขายไม่ได้แหงมๆ 555

ผมประกอบแอมพ์ใช้เอง และ ทำให้เพื่อนไปนับสิบๆเครื่อง ทุกครั้งที่ลองวัดทดสอบไฟรั่วที่แท่นเทียบกราวด์ดิน พบตลอดครับว่าเวลา กลับปลั๊กไฟ ไฟรั่ววัดแรงดันได้ไม่เท่ากัน เพียงแต่ว่า มากหรือน้อยแค่นั้นเอง


อย่างถ้าใช้หม้อแปลง EI ที่พันมาไม่ค่อยดี นี่กลับปลั๊กไฟผิดนี่ ไฟรั่วลงกราวน์ต่างกันเป็นหลัก สิบโวลท์เลยนะครับ

แต่กับพวก Toroidal ที่ได้มาตราฐาน มักจะปัญหาน้อยกว่ามากครับ โดยมากผมวัดความแตกต่างตรงนี้ได้ต่ำกว่า 3โวลท์ ซึ่งผลกระทบต่อการฟัง จะไปอยู่การเลย์เอาท์การวางแผงวงจรในแท่นเครื่องมากกว่า ว่า วางหลบทิศทางสนามแม่เหล็กได้ดีแค่ไหน

อย่างกรณีแอมพ์หลอด บางวงจรที่อ่อนไหวมาก อย่างพวก Single End Triode อาจถึงขนาดต้องเอา โวลท์มิเตอร์ต่อกับ หม้อแปลงเอาท์พุท แล้วลองขยับหม้อแปลงแต่ละลูกบนแท่นทดสอบ หาจุดที่มี DC Offset ต่ำที่สุดเอา ต้องว่ากันแบบนั้นเลย


แต่ในพวก ไอซี หรือ โซลิดสเตททั่วไป ไม่ถึงขนาดนั้นล่ะครับ แค่ระวังกันตามสมควรก็ไม่ค่อยกวนอะไรแล้วครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12

KiZe

13/06/2007 02:32:41
ความรู้ๆๆๆ เถียงกันเยอะๆนะครับ แบบนี้ผมชอบ

เพราะผมโง่ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13

unclepiak

13/06/2007 05:06:02
โอ..มายก๊อด

ผมขออยู่ในกลุ่มโง่อีกคนครับ ฮาๆๆ

====
อ่า.. ว่าแต่ 8 คูณ 1 เท่ากับเท่าไรวะ (ระบบโพสต์ใหม่มันดูถูกกันนี่หว่า)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14

XIII

13/06/2007 10:41:31
ขอโง่ด้วยคนครับ 555+
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15

นายมั่นคง

13/06/2007 10:50:32



โห (อ้าปากหวอ) 5555


นี่มันลึกลงไปเกินกว่านักเล่นทั่วไปจะรู้นะเนี่ย 5555


เยี่ยมยุทธเลยครับพี่สาคร 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 16

สาคร

13/06/2007 10:53:46
ไม่ลึกหรอกคับเฮีย แหะๆๆ แค่ความรู้ของคนเรียน ปวช.อิเลค

แต่บวกประสพการณ์เป็นโรคบ้าเครื่องเสียงอีก สิบกว่าปี :158: เองคับ แหะๆๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17

nopphong

13/06/2007 11:14:48
อืม... ประหลาดมาก ใช้หม้อแปลงแต่ไฟรั่วได้ สงสัยต้องกลับไปเรียนใหม่

อ้อไม่ต้องแล้วเดี๋ยวไปถามในห้องหว้ากอดีกว่า อิอิ ได้คำตอบจากที่โน่นยังไงแล้วจะเอามาแปะให้อ่านกันครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 18

โอ

13/06/2007 11:36:57
หุ หุ หุ ...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 19

nopphong

13/06/2007 12:19:31



ไม่มีอะไรดีไปกว่าพิสูจน์ความสงสัยครับ เพราะเท่าที่เรียนมาจนจบวิศวะ ไม่เคยมีตำราเล่มไหนที่บอกว่าหม้อแปลงปรกติจะมีไฟรั่วลงกราวด์ได้ มีแต่สอนว่ามัน isolate กัน ผมเลยไปรวบรมเอาหม้อแปลงกับรื้อเครื่องเสียงที่บ้านออกมาตัวนึง เอามาวัดกันจะๆเลยครับ
เริ่มจากรูปแรก วัดจากอแดปเตอร์ธรรมดาครั้งแรกได้ 48 mV(0.048Volt)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 20

nopphong

13/06/2007 12:21:31



ต่อมาลองกลับด้านปลั๊กแล้ววัดใหม่ ได้ 0.056V ซึ่งถือว่าแทบไม่แตกต่างเพราะระดับ 0.056V นี่พอๆกับสัญญาณรบกวนในสายทั่วๆไป
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 21

nopphong

13/06/2007 12:22:55



ยังไม่พอ หม้อแปลงตัวนี้อาจจะมีอภินิหาร ดีกว่าหม้อแปลงทั่วๆไป เลยเอามาอีกตัว วัดได้ 33mV
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 22

nopphong

13/06/2007 12:24:00
กลับสายไฟใหม่วัดได้ 31mV ซึ่งก็ถือว่าเท่ากัน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 23

nopphong

13/06/2007 12:24:31



ลืมรูป
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 24

nopphong

13/06/2007 12:26:21



อาจจะแย้งได้ว่าก็มันเป็นหม้อแปลงไม่ได้ต่อเข้าวงจรนี่หว่า ผมเลยรื้อแอมป์ที่บ้านเปิดฝาออกมาแล้ววัด ครั้งแรกได้ 25mV(0.025volt)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 25

สาคร

13/06/2007 12:30:52
ถามใน Tech exchange กลุ่ม electronics จะตรงกว่ามั้งครับ หว้ากอ ก็เป็นอีกแนวหนึ่งนะครับ

คุณ Nopphong ลองทำการทดลองด้วยตัวเองสิครับ เป็นช่าง มิเตอร์ก็มีใกล้ๆ ตัวอยู่แล้วนิ

ประเด็นสำคัญที่อยากให้พิณา ไม่อยากให้หลงประเด็นอยู่แต่ว่า ไฟรั่วหรือไม่รั่ว เมื่อมีหม้อแปลงเป็นไอโซเลทแล้วก็อยู่ตรงที่ว่า เรานิยาม Ground ในวงจรขยายว่าอย่างไร

ต่อให้แยกวงจรไฟฟ้าออกจาก เมนไลน์ด้วย หม้อแปลงแล้วก็ตาม กราวน์ในวงจรหลังจากขด เซ็คกันดารี่ ก็ไม่ได้แปลว่า เป็น 0โวลท์นะครับ

มันคือจุดเทียบอ้างอิง แรงดันในจุดต่างๆในวงจรที่ทำงานอยู่ร่วมกัน เท่านั้นเอง

ดังนั้นเมื่อมีเครื่องหลายๆชิ้นมาต่อร่วมกัน เช่น CD player + Pre Amp + Power Amp

วงจรไฟเลี้ยงก็มาคนละชุดกันเลย แต่มาเชื่อมกราวน์ถึงกันหมด โดยปกติก็ผ่านทาง ขั้วลบ ของ Signal ที่ส่งผ่านกันเป็นทอดๆ

ไอ้การที่สลับขั้วปลั้กไฟ AC ของเครื่องแต่ละชิ้น ผิดหรือถูก มันก็เกิด Error ตรงนี้เป็นหลักครับ

เมื่อก่อนผมก็เชื่อตามตำราล่ะครับ ว่า ไฟเอซีมันไม่มีขั้ว

ซึ่งก็จริงอยู่ เพียงแต่พอใช้กันจริงๆ มันก็ขึ้นกับรายละเอียดล่ะว่าเป็นวงจรอะไร

จริงแล้วปัญหาพวกนี้จะน้อยลงมาก ถ้าไฟเอซีบ้านเรา เป็น บวก ลบ กราวน์ สามขา แล้วการเดินไฟของช่างไฟบ้านเรา มีมาตราฐานเดียวกันทั้งหมด

แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่า ช่างไฟที่เดินสายไฟฟ้าในบ้านแต่ละคน เรียงสาย Neutral กับ Line เข้าทางซ้ายหรือขวา

แค่เข้าใจไม่ตรงกันก็จบเห่แล้ว ดังนั้น ถ้าจะซีเรียสกับจุดนี้ก็วัดเอาด้้วยมิเตอร์ดีกว่าครับ ชัวร์กว่าเยอะ

บางคนไม่ชอบวิธีวัดโดยเอามือจับโพรบไว้ อย่างที่แนะนำ ก็ใช้วิธี เอาโพรบข้างหนึ่ง จิ้มที่แท่นเครื่องโลหะ ส่วนอีกข้างจิ้มที่ขั้วลบ (ขั้วที่ไม่มีไฟในปลั้กไฟบ้านน่ะครับ)

แล้วเทียบแรงดัีนไฟเอา เสียบแบบไหนแล้วไฟออกมาน้อยกว่า ก็เอาอันนั้นเป็นหลักล่ะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 26

nopphong

13/06/2007 12:34:06



ครั้งที่สองกลับปลั๊ก วัดใหม่ได้ 86mV มากกว่าครั้งแรก 0.041Volt ซึ่งน้อยมากๆไม่ถือเป็นสาระเพราะสัญญาณรบกวนในสายยังมากกว่านี้เลย

จากการทดลองนี้ ถ้าหม้อแปลงสองตัว+แอมป์หนึ่งตัวของผมไม่ได้เป็นอุปกรณ์อภินิหาร ผมฟันธงครับว่าเรื่องกลับเฟสกับหม้อแปลงปรกติเป็นเรื่องคิดกันไปเองครับ สัญญาณรบกวนน่าจะรั่วมาจากอุปกรณ์สวิทชิ่งเช่นคอมหรือเครื่องเล่นmp3 หรือซีดี มากกว่าครับ
หรือท่านใดมีหลักฐาณยืนยันแตกต่าจากผม(หลายๆตัวนะครับตัวเดียวอาจจะเกิดจากความผิดพลาดของอุปกรณ์)รบกวนโพสมาแย้งด้วยนะครับ

ปล.ที่เถียงกันนี่ไม่ได้หาเรื่องนะครับ เพียงแต่ที่เรียนมามันไม่เคยมีเรื่องกลับเฟสนี่จริงๆ ถ้ามันมีจริงสงสัยผมต้องกลับไปโวยอาจารย์ที่พระจอมแล้วว่าทำไมสอนอะไรผมมาผิดๆน่ะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 27

สาคร

13/06/2007 12:45:15
จริงแล้วที่โพสกันมาก็เป็นเรื่องเดียวกันนะครับ

เพียงแต่ต่างมุมมองเท่านั้นเอง

ในทางวิศวกรรรม Error ที่เกิดขึ้น ตามที่คุณ Nopphong วัดให้ดู สามารถตัดทิ้งได้เลย เป็นเรื่องถูกต้องตามหลักวิชาการแน่นอน ผมยืนยันอีกเสียงครับ ไม่ขัดแย้งกัน

แต่ในโลกของคนเล่นเครื่องเสียง (คนบ้าเครื่องเสียง 555) สำมะหาอะไรกับ การเปลี่ยนหัวปลั๊กไฟอันหนึ่งแล้วฟังออกว่าเสียงไม่เหมือนกัน (แต่ปลั๊กถูก กับปลั๊กแพง ไม่แน่ว่าอันไหนจะเสียงดีกว่ากันนะครับ)

อย่างที่ผมโพสไว้ข้างบนๆ ก่อนหน้านี้ ว่า การกลับขั้วปลั๊กไฟ ไม่ใช่ว่า จะฟังออกทุกเครื่ือง และทุกคนไป


แต่มันเป็นวิธีตรวจสอบเพื่อรีดเร้นคุณภาพเสียงให้อยู่ในจุดที่มั่นใจได้ว่า ดีที่่สุึด โดยไม่้ต้องเสียเงินเพิ่มแม้แต่บาทเดียว (ถ้าคุณมีมิเตอร์อยู่แล้วนะ 555)

ซึ่งจะว่าไป ที่ผมเล่น พอร์ทเทเบิ้ลมากกว่าเครื่องบ้านในช่วงหลังๆนี้ อย่างนึ่งก็เพราะว่า มันไม่ละเอียดหยุมหยิม มากขนาดที่เคยเล่น จับเสียบฟัง มีความสุขกับเพลง

มากกว่าที่จะไล่ตรวจจับหาความแตกต่างของเสียง เหมือนที่เคยทำ


ก็มีความสุขไปไม่แพ้กัน


ในทางวิศวกรรม กับ พวกนักเล่นหูทอง บางที คำตอบอันเดียวกัน ก็สามารถให้คำตอบส่วนบุคคลที่แตกต่างกันได้

แม้ว่าจะเป็นเรื่องเดียวกันครับ


สรุปว่า ถ้ากลับแล้วฟังไม่ออก ก้ไม่ต้องไปวุ่นวายกับมันหรอกครับ แต่ถ้ากลับแล้วเกิดฟังออกขึ้นมา ก็เสียเวลาหาจุดที่ดีกว่า แล้วจดไว้กับหัวปลัี๊กก็แค่นั้นเองแหละครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 28

โอ

13/06/2007 12:45:55
เอา ละครับ มันส์เเน่ครับ ความรู้ทั้งนั้นเเล้ว ไว้เดี๋ยวตอนเย็นผม กลับมาดูอีกที ดีกว่า ตอนนี้ไปทำงานละครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 29

nopphong

13/06/2007 13:23:52
แหะๆถ้าทำแล้วสบายใจอันนี้ไม่เถียงหรอกครับ แต่ที่เรียนมามันไม่มีนี่สิครับถึงได้ต้องมาถกกันว่ามันจริงหรือเปล่า
เพราะบางอย่างมันก็คิดไปเองได้เหมือนกัน จริงๆทางที่ดีน่าจะทดสอบกันเป็นชิ้นเป็นอันโดยให้คนที่บอกว่า ฟังออก เอามาปิดตา แล้วให้ลองฟังโดยสลับปลักไปมาแล้วดูผลที่ได้กันนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 30

nopphong

13/06/2007 13:43:38



มาทดลองต่อ คราวนี้มาประเด็นที่ว่ามีอุปกรณ์หลายชิ้นต่อพ่วงกัน แล้วถ้าตัวนึงกลับเฟสกับอีกตัวนึงแล้วมันมีผลไหม
ตามที่เรียนมามันไม่น่าจะมีผล เพราะทั้งสองวงจรต่าง isolate ซึ่งกันและกัน การเอากราวด์มาต่อรวมกันจึงไม่น่าจะมีกระแสไหลวนในกราวด์ได้ จะมีก็แต่กระแสของสัญญาณที่ส่วผ่าน+noise เท่านั้นครับ
เริ่มจากซิมมูเลทกันด้วยคอมก่อน หม้อแปลงในวงจรกลับเฟสกันและผมวัดที่เอ้าท์พุทของทั้งสองตัว ซึ่งตามที่เรียนมามันต้องไม่มีกระแสไหล ผลการซิมมูเลทเป็นตามที่คิดไว้จริงครับ มีกระแสแค่ 120pA(0.00000012 A.) คิดดูว่าน้อยแค่ไหนไม่มีผลกับเสียงแน่ๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 31

nopphong

13/06/2007 13:46:43



คราวนี้มาวัดจริงโดยใช้เครื่องเสียงตัวเดิมกับหม้อแปลงหนึ่งตัว
วัดครั้งแรกได้ 00.00mA ซึ่งยืนยันความคิดผมว่ามันต้องไม่มีกระแสไหลจริงๆ ซึ่งหมายความว่าต้องไม่มีความต่างศักย์หรือพูดอีกอย่างว่ามัน isolate กัน (มิเตอร์ผมวัดได้ถึง 0.01mA ครับ)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 32

nopphong

13/06/2007 13:49:06



ส่วนครั้งนี้ลองกลับปลั๊กของเครื่องเสียง(ถูกๆห่วยๆ)ดู ก็ยังวัดได้ 00.00 mA เหมือนเดิม สรุปว่าไม่มีทางที่จะมีกระแสไหลระหว่างกราวด์กับกราวด์ได้ครับ ถ้าหม้อแปลงไม่รั่วครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 33

นายมั่นคง

13/06/2007 14:14:39



5555

ขอเล่าแทรกนิดนึง

2 อาทิตย์ก่อน ยืมสายไฟคุณนัทมา 3 เส้น ทั้ง kimber ทั้ง Supra ทั้ง furutech ฟังแล้วเกิดอาการยังไม่สุด ผมก็เลยไปเสียเงินซื้อ สายไฟของ jps inwall และ หัวปลั๊ก wattgate แบบธรรมดามาอีก 2 หัว

5555 หมดตูดเลยครับ


แต่ถามว่าเสียงดีขึ้นไม๊ ชัดเจนครับ พละกำลังมาอีกพะเรอเกวียน


นี่แค่เปลี่ยนสายไฟเส้นเดียวครับ 555

ของพรรค์งี้พูดยาก ตามทฤษฎีทางไฟฟ้ (ซึ่งผมไม่รู้เรื่องเลย) มันไม่น่าจะมีผล แต่ถ้าใช้ความรุ้สึกเป็นตัววัด ผมว่าฟังออกชัดเจนมากๆๆ ครับ 555


เอ้า ใครมีอะไรดีๆ ก็มาเล่าให้ฟังกันนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 34

ไอ้ตู้

13/06/2007 14:26:11



เฮียผมก็ไปทำมาเมื่อวานสาย Supra Lolad
หัวของ Marinco
ท้ายIEC ของ Wattgate
เสียงดีขึ้นชัดเจนจริงๆครับฟังแล้วเสียงสะอาดสดใสขึ้นครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 35

นายมั่นคง

13/06/2007 14:48:20



ดีแล้วครับ สาย Lorad นี่ก็เจ๋งแล้วล่ะ มีมวลเสียง มีน้ำมีนวล มีเนื้อมีหนัง คากิ ใส้ ไข่ต้ม ครบๆ เลยครับ


5555 เจ๋งอ่ะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 36

PP

13/06/2007 14:52:45
บุคลิคของเสียงวัดไม่ได้ด้วยตัวเลข
เสียงจะเปลี่ยนบุคลิคไปตามตัวนำสัญญานที่ผ่านไป
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 37

nopphong

13/06/2007 15:20:28
สายมีผลครับเพราะในสายทุกเส้นย่อมมีความต้านทานและอัตตราการตอบสนองต่อความถี่ครับ เรียกว่าเอาเส้นทองแดงมาเส้นนึงมาขึงตรงๆแล้ววัดเราจะได้ค่า R L C ซึ่งสายแต่ละแบบจะมีค่าของมันเอง คนที่หูดีมากๆจะฟังออก แต่ถ้าจะให้เห็นชัดเจนก็ต้องที่ความถี่สูงเช่นสัญญาณวิทยุครับ แค่สายงอนิดเดียวสัญญาณหายเฉยเลยก็มี
ผมถึงไม่มาถกกันเรื่องสายสัญญาณไงครับเพราะมันมีโอกาสเป็นไปได้ แต่เรื่องกลับเฟสนี่ผมไม่เห็นความเป็นไปได้เลยมาเถียงหัวชนฝาดังโป๊กๆๆอยู่นี่แหละครับ อิอิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 38

ไอ้ตู้

13/06/2007 15:46:06



เฮียทำมาเท่าไหร่ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 39

unclepiak

13/06/2007 17:11:09
55 วุ้ย.. เสียงมาครบ ๆ แบบขาหมูตรอกซุงเลยเหรอเฮีย

555555 จะบ้าว้อยยยย !!!
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 40

นายมั่นคง

13/06/2007 20:05:29



มันยังมีมิติในทางลึกให้ถกกันอีกเยอะครับ 555

อย่างเช่นการรองด้วยยางรอง การวางอิฐไว้บนทรานฟอร์เมอร์ หรือการรองสายไฟให้ลอยจากพื้น

ของพรรค์งี้ล่ะครับ ที่ทำให้สนุก และทำให้กระแสเงินหมุนเวียนอยุ่ในวงการเครื่องเสียงครับ 5555

อย่างสายไฟดีๆ ของ nordost เส้นนึงแสนกว่า เอาไปซื้อรถเก่าๆ มือสองมาขับได้สบายๆ เลย 555

หรือลำโพงดีๆ + ปรี + เพาเวอร์โมโนบล็อค ผมว่าเอาไปซื้อบ้านขนาด 150 ตารางวาก็ได้อีก 5555


มันเป้นการเล่นแบบในเชิงลึก เล่นแบบนอกกฏเกณฆ์และนอกตำราทุกทฤษฎีจริงๆ 5555



และทุกวันนี้วงการเครื่องเสียงสามารถจะทำรายได้มหาศาลก็เพราะมันต้องมีเรื่องความรุ้สึกพิเศษของแต่ละคนมาเกี่ยวข้องด้วยน่ะครับ 555


ใครมีโสตสัมผัสดีๆ ก็เสพสิ่งดีๆ และต้องจ่ายแพงๆ กว่าคนที่โสตสัมผัสไม่ดีเสมอไป

อันนี้เป็นสัจธรรม

555


เปลืองชะมัดเลย..............
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 41

iTui

13/06/2007 21:01:59



อืออออ.....เพิ่งเข้าใจ ที่แท้เพราะผมมี "กายสัมผัส" ที่ดีนี่เอง เลยต้องจ่ายค่าอาบน้ำแพงๆ เสมอๆ อิ อิ แผล่บๆ :174:
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 42

nopphong

13/06/2007 22:01:18
เลียนแบบเฮียซักหน่อยถือว่าแซวเล่นนะครับอย่าซีเรียส
มันยังมีมิติในทางลึกให้ถกกันอีกเยอะครับ 555

อย่างเช่นเงาดำๆวูบๆ
การเคาะชามข้าวตรงทางสามแพร่ง หรือการก้มหัวมองลอดหว่างขา

ของพรรค์งี้ล่ะครับ ที่ทำให้สนุก และทำให้กระแสเงินหมุนเวียนอยุ่ในวงการเรื่องผีครับ 5555

อย่างหนังผีห่วยๆ ของไทย เรื่องนึงทำรายได้เป็นล้าน เอาไปซื้อรถใหม่มาขับได้สบายๆ เลย 555

หรือหนังผีดีๆ+โปรโมทเยอะๆ รายได้ผมว่าเอาไปซื้อบ้านขนาด 150 ตารางวาก็ได้อีก 5555


มันเป้นการดูแบบในเชิงลึก ดูแบบนอกกฏเกณฆ์และนอกตำราทุกทฤษฎีจริงๆ เพราะไม่มีตำราไหนที่พิสูจน์ได้ว่าผีมีจริง 5555



และทุกวันนี้วงเรื่องผี สามารถจะทำรายได้มหาศาลก็เพราะมันต้องมีเรื่องความรุ้สึกพิเศษของแต่ละคนมาเกี่ยวข้องด้วยน่ะครับ เพราะบางคนก็เคยเห็นผีแต่บางคนยังไงๆก็ไม่เห็นสักทีครับ 555


ใครมีสัมผัสดีๆ ก็เจอผีบ่อยๆ และต้องจ่ายแพงๆ ทำบุญสะเดาะเคราะห์ กว่าคนที่สัมผัสไม่ดีเสมอไป

อันนี้เป็นสัจธรรม

555


เปลืองชะมัดเลย..............
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 43

jo..1234

14/06/2007 07:56:19
แหะๆผมอ่านแล้วชอบ......
เพราะหลายๆอย่างมันตรงกับความคิดผม

คล้ายๆกับการตอบสนองกิเลส...ยังไงก็ยังงั้น
คุณสมบัติของอุปกรณ์...เช่นเมีย....ทำได้อย่างเดียวกัน...ยังหาเรื่องไปอาบน้ำอีก....จ่ายแพงกว่าทำไม555........................................................

จักรยานแพงๆลดน้ำหนักลงขีด......ต้องจ่ายไปหลักพันหลักหมื่น.......อุปกรณ์เสริมเครื่องเสียง.....อย่างทิปโทนี่ก็โคตรจะแพงก็สรรหาซื้อมา(อาบน้ำได้ตั้งหลายรอบ)
ถ้าเราจ้างเขากลึงเองล่ะมันจะถูกใจถูกหูไหมหนอ555ในทฤษฎีมันไม่มีแน่นอน...และผมฟังไม่ออกแน่นอนเหมือนกัน...............................555

โชคดีที่ผมเน้น.....แนวเสียงที่มันเปลี่ยนแปลงของเสียงที่มันเห็นผลชัดๆมากกว่าเลยเช่นลำโพง...ปรี..แอมป์.....เพราะผมเลิกจับผิดเสียงนานแล้ว(ไม่มีความรู้ ขี้เกียจหาความรู้เพิ่ม ความรู้ดนตรีน้อย...ฯลฯ)

....แค่มันตอบสนองกิเลสผมได้ในวงเงินที่จ่ายแล้วเหมาะสม...นั่นแหละ...ใช่เลย555

ขอบคุณครับกับความรู้ที่...คุยกันแบบสาระดีครับ

ผมได้ 6 x 2=.......โหลพอดี
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 44

pp

14/06/2007 10:54:31
ถึงคิวเฮียมั่นโดนมั่ง[แซว]
แต่ความเห็นบางอย่างก็เห็นด้วยกับ คห 42
ส่วนมิติในทางลึกนั้น คนหูยาวจะรู้มิติในทางลึกดีกว่าคนหูสั้น
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 45

นายมั่นคง

14/06/2007 19:03:30



5555

โอ๊ย รีบแซวเลย ผมยิ่งชอบ หนุกดีครับ ดีกว่าคุยธรรมดาๆ 555


เป็นเรื่องจริงในเชิงลึก หรือเบื้องลึกลงไปอีก และมีใครเคยสงสัยไม๊ว่า...............


- การฟังเพลงในบ้าน ทำไมมันถึงไพเราะสู้นอกบ้านไม่ได้ ทั้งๆ ที่ชุดในบ้านของท่านท่าน เกินกว่า 2-3 ล้านบาท แต่ดันสู้เพลงที่เปิดจากลำโพงไม่กี่หมื่นบาทนอกบ้านไม่ได้


- กินไวน์ขวดละแสนกว่าในบ้าน ทำไมมันอร่อยสุ้กินเบียร์นอกบ้านขวดละ 100 ตามบาร์เบียร์ไม่ได้ 5555



อื่นๆ อีกมากมาย 5555
(โปรโมทให้วงเฉลียงหน่อย)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 46

สาคร

14/06/2007 19:49:03
เฮียๆ แล้วคนบีบไหล่ บีบขานอกบ้าน เพลินกว่า คนในบ้านบีบด้วยเป่าเฮีย เหอๆๆๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 47

nopphong

14/06/2007 21:29:18
คุณ pp คนหูยาวนี่ใช่คนที่โดนภรรยาดึงหูบ่อยๆหรือเปล่าครับ ฮ่าๆๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 48

นายมั่นคง

15/06/2007 14:36:24



โห เพลินกว่าแยะแบบโคตรๆ เลยครับ 5555


นี่แสดงว่าพี่สาครชอบให้คนบีบไหล่ล่ะซิท่า 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 49

pp

15/06/2007 21:59:30
อ้าวเเล้วเฮียชอบไปสำรวจแบบเชิงลึกนี่ คงชอบให้น้องเขาบีบกษัยให้ซิถ้า...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
"วิถีเช็คไฟกลับเฟส"