ต้องหาไฟล์เพลงดีๆด้วยครับ
พวก Lossless ยิ่งดี
เลือกเพลงที่เคยมีคนฟังแล้วว่าใช้แยกการให้รายละเอียดของเพลเยอร์ได้
แต่บอกตามตรง แยกสายทองแดงด้วยกันฟังยากครับ
ถ้าทองแดงกับเงิน พอฟังออกว่าแตกต่างบ้าง

ผมก็ไม่ค่อยรู้นะ ฟังไม่ออกเหมือนกัน

อาจจะต้องหาที่เงียบ ๆ ฟังล่ะครับ
เคยนั่งเทียนฟังตอนตีหนึ่งตีสอง เออ..มันต่างกันเยอะเหมือนกันนะ 555+

ผมว่าไม่ต้องแพงมากอ่ะ เส้นซักพันสองพันก็โอเคแล้วครับ ชุดเล็กๆผมว่าลงทุนกับสาย m2m แพงมากๆ ไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ ถ้าสายหูฟังนี่อีกเรื่อง เปลี่ยนแล้ว เสียงเปลี่ยนชัดเจน

ผมก็ฟังไม่ออกครับ พยายามฟังมานานมากแล้วด้วยครับ

ก็เลยจบที่ตัวที่ใช้สะดวกกับรูปลักษณ์ ครับ

และที่สำคัญ ไม่แพงครับ

ไม่ออกเหมือนกันครับ ฟังมา 4 ปีกว่าแล้ว

ก็น่าเศร้าใจเหมือนกันนะครับ สำหรับผมนี่ถ้า component ชิ้นเล็กๆจะฟังแทบไม่ออกเลย

ต้องระดับเปลี่ยนแอมป์ งี้อะโอเค :)

ถ้าเปลี่ยนชนิดตัวนำนี่ฟังออกเลยครับ ส่วนแจ็คแต่ละยีห้อนี่ผมฟังไม่ออกจริงๆ

ต้องชินกับเสียงที่ดีขึ้นก่อนครับ เมื่อก่อนตอนเล่นใหม่ๆผมซื้อสาย F&N 600 บาทไปฟังเทียบกับสายเดิมถูกๆก็แยกไม่ออกเหมือนกัน ต้องให้คุณเบียสช่วยฟังดูให้แทน 555+

เงิน กับ ทองแดง ฟังออกครับ ถ้าองค์ประกอบทุกอย่างมันดีหมด พวกคุณภาพแอมป์แจ่มๆ หูฟังดีๆ เพลเยอร์ไฮโซ ไฟล์เพลงแบบละเอียดๆ

แต่ถ้าเป็น material ประเภทเดียวกันผมก็ว่าฟังยากนะ

ทดสอบง่ายๆครับ blind test เลย :)

เห็นด้วยกับคุณborpitครับ
เล่นหูฟังมาได้พักนึง มีโอกาสได้ฟังหูราคาสูงบางตัว ได้รับน้ำใจจากเพื่อนเอาอุปกรณ์หลายตัวมาให้ยืมฟัง ทั้งแอมป์ เพลเยอร์ ได้ข้อสรุป(สำหรับตัวเอง)ว่า...

ถ้าอุปกรณ์ราคาสูง จะให้คุ้มค่า คือฟังออกชัด ต้องเริ่มตั้งแต่ต้นทางครับ
คือไฟล์เพลง และเ้พลเยอร์

ผมใช้O2เป็นตัวหลักในการฟัง (ซึ่งข้อดีของมันคือ ไม่ค่อยมีเสียงของตัวเองเท่าไหร่)
ถ้าเป็นเพลงที่คุณภาพไม่ค่อยดี อย่างเพลงไทยเก่าๆ เพลงสตริง(ก็เก่าอีกแหละ)ความแตกต่างของหูฟังราคาต่างกัน(ยกตัวอย่าง MS1 กับMS2i's)จะไม่มาก รวมถึงการเปลี่ยนสายต่อระหว่างเพลเยอร์กับแอมป์ด้วย

อันนี้เราตัดประเด็นเรื่องการเบิร์นอุปกรณ์ทิ้งไปก่อนนะครับ

ที่จริงเรีื่องช่วงเวลา และอารมณ์ อย่างที่คุณMike ว่า ก็มีผลไม่น้อยเลย โดยเฉพาะถ้ามีเรื่องไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยว(หมายถึง ใช้ฟังกับคอม หรือเครื่องตั้งโต๊ะที่ต้องเสียบไฟ ไม่ใช่พวกportableล้วนๆ)

แล้วถ้าอุปกรณ์ที่เรามี ไฟล์ที่เรามี เราฟังไม่ออกเรื่องเสียง ก็ไม่ต้องไปซื้อของราคาสูงครับ555
มองให้มันเป็นข้อดีไป ที่ฟังแล้วไม่ต่าง

อย่างผม รู้ตัวเองเลยว่า ด้วยเพลงที่ผมชอบฟัง ผมไม่ต้องดิ้นรนซื้อหูฟังราคาสูงกว่าที่มีอยู่แล้ว
เพลเยอร์ก็ไม่ต้องใช้ดีมาก แค่ซื้อแอมป์เพิ่มอีกตัว(ซึ่งก็ไม่ต้องแพงมาก) ก็จะจบไปได้..น่าจะ..นานครับ
ซื้อแพงมากไม่คุ้ม....เพราะต้นน้ำมันคุณภาพมีดีพอ

พิมพ์ผิดบรรทัดสุดท้าย - -*
ซื้อแพงมากไม่คุ้ม....เพราะต้นน้ำ มันคุณภาพ"ไม่"ดีพอ

สิ่งที่เห็นชัดสุด คือ ชนิดตัวนำครับ เงินหรือทองแดงก็ว่าไป

อันนี้ต้องขออนุญาตนะครับเดี๋ยวจะว่าอวยกันแต่ผมเคยฟังไม่กี่ตัว(มีแต่ราคาไม่แพง)
ลองเรือธง พี่point ดูครับผม อาจเห็นความแตกต่างครับแต่ชอบไม่ชอบอีกเรื่องนึง

ฟังไม่ออกอะครับ เหมือนๆกัน แอมป์เอิมสายเสย ขายทิ้งหมด เหลือแต่หูฟังต่อตรง 555+

แต่ละท่าน คงแยกได้ไม่เท่ากันครับ ... หนังไทย Season Change ก็ชี้ถึงจุดนี้

เอาแบบซ้ายสุด ถ้าท่านฟัง ไม่ว่าจะหูฟังรุ่นไหน ลำโพงรุ่นใด เพลงก็เหมือนๆกัน ...ท่าน
เป็นคนที่โชคดีมาก ไม่ต้องคิดเลยครับ อะไรก็ได้ งบไม่บานแน่นอน

ขวาสุด แยกได้หมด จุดเล็กจุดน้อย บอกได้หมด พวกนี้ร้านเครื่องเสียงจะชอบมาก ( ถ้ามีตังค์ )
อยู่ไม่เป็นสุขเลยครับ ป่านนี้ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ ต้องหามาฟังมาลอง

ทั่วๆไป ไม่แน่ใจว่าเพื่อนๆฟังเพลงแบบไหน ถ้าฟัง Metallica ,Megadeth คงแยกยาก
ลองหาเพลงช้าๆ เคื่องดนตรีน้อยๆ แล้วฟังถึงความต่างของแต่ละเสียง ที่เด่นๆของแต่ละเพลง
เช่น Kenny G ; Going Home ผมไว้เทสเสียงที่บวม ของเบสกลอง ครับ

ความแตกต่างกันของราคาในระดับหนึ่ง ... ฟังแล้วจะรู้สึกได้คับ

เช่น

เส้นละ 200 กับเส้นละ 3000 อันนี้รู้สึกต่างกันอย่างชัดเจน

เส้นละ 3000 กับเส้นละ 6000 อันนี้ก็รู้สึกต่างกันไปอีกระดับคับ

ส่วนความแตกต่างที่ใกล้เคียงกัน ... ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ค่อยรู้สึกถึงความแตกต่าง

สิ่งที่แตกต่างกันส่วนใหญ่จะเป็นเรื่อง รายละเอียด และความกว้างของเวทีเสียง

สำหรับสาย diy ส่วนใหญ่จะเสียงดีกว่าสายที่แถมมากับอุปกรณ์ แต่ความลงตัวยังสู้พวกมีแบรนต์ไม่ได้ ... ไม่ได้หมายความว่าสาย diy ไม่ดีนะคับ ... diy บางเส้นก็เยี่ยมไปเลยคับ

เพิ่มเติมอีกนิดคับ ... เหมือนกับที่หลายๆ ท่านบอกไว้ข้างบน

ควรใช้ไฟล์เพลงที่มีความละเอียดดีๆ ฟังทดสอบคับ ... จะรู้สึกถึงความแตกต่างได้ดีกว่า