ผมยังเป็นนักฟังเพลงอยู่ 55

ตื่นเต้นกับการหาเพลงใหม่ๆ มาฟังมากกว่า

แต่เครื่องเสียงก็ส่วนนึง ต้องการหาที่ลงตัวกับแนวที่เราชอบเป็นพอ ปัจจุบันก็เจอแล้ว

ผมคงเป็นคนฟังเพลงอะครับ แม้ไฟล์เพลงจะไม่ดีก็ยังดีที่มีฟัง แต่ก็พยายามหาที่ดีกว่าอะนะ 555 ส่วนเครื่องเสียงส่วนตัวผมมีส่วนมากเพราะทำให้ฟังได้มีความสุขมากขึ้นสิ่งที่ควรจะได้ยินก็ได้ยินอะครับ แต่วันไหนลืมเอาชุดคู่ใจไปด้วยแม้จะหูแถมผมก็ใช้นะ ยังดีกว่าไม่มีอะไรฟังและยังได้ความสุขแม้จะขัดใจไปบ้าง ฮุฮุ

ผมว่าเราไม่จำเป็นต้องเลือกที่จะเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งนะครับ

เชื่อว่าเราสามารถเป็นทั้งคนฟังเพลง และฟังเสียงของเครื่องไปพร้อมๆกันได้อะ

ถูกใจคำพูดคุณมิวจิงๆ ชอบๆ

ล่อเป้าอีกล่ะ !?!!

ไม่รู้เหมือนกันว่าฟังเพลงรึฟังเสียง รู้แต่ว่า ชอบหรือไม่ชอบ อยากฟังหรือไม่อยากฟัง

ผมฟังเพลงเป็นหลักคับ แค่ผมก็มีแนวคิดว่าคนที่ทำให้มีพัฒนาการทางอุปกรณ์ให้ดีขึ้นๆ คือ นักฟังเครื่องเสียง

คิดว่าทุกคนก็คงมี ทั้ง2อย่างในตัวแหละ

ถึงจะใช้คำอธิบายต่างกัน แต่ทั้ง2ข้อ ก็เอาความพอใจเป็นที่ตั้งเหมือนกัน^^

ผมว่าข้อความนี้ ค่อนข้างโลกสวยเกินไปนะครับ อาจจะจริงบางส่วน

แต่ถ้าบางคนที่มีกำลังเงิน ต้องการที่จะ เสพ ทั้งเพลงและเสียง มันก็ต้องลองแหละ

ส่วนตัวความพอใจของคนนั้น เอาของคนใดคนนึงมาเป็น บรรทัดฐานไม่ได้ มันยากที่จะวัด

ฟังเพลงให้มีความสุข ดีกว่าเป็นทุกข์กับการฟังของคนอื่นครับ

ต่อให้ เรามีไฟล์เพลงคุณภาพสุดติ่ง เครื่องอ่านดี อุปกรณ์ดี ราคาแพง ดีทุกอย่าง แต่เปิดเพลงที่เราไม่ได้ชอบฟัง ..ก็ไม่ฟังอยู่ดีครับ
ฟังเพลงที่เราชอบ ทำให้มีความสุขได้ ยิ่งฟังเสียงของเครื่องดนตรีต่างๆ ในเพลงได้ดีขึ้น ก็ทำให้มีความสุขมากขึ้นตามระดับความพอใจของใครของมันเด้อครับ

มันก็ต้องควบคู่กันไปนะครับ

เครื่องเสียงก็เหมือนรถยนต์ครับ
รถธรรมดากับรถดีๆ พาเราถึงจุดหมายเช่นกัน แต่ ไม่เหมือนกัน
แล้วถ้าเรามีรถสมรรถนะสูง ก็คงอดใช้งานให้คุ้มไม่ได้
ความพึงพอใจที่ได้ เป็นสิ่งนอกเหนือจากจุดประสงค์หลัก คือเดินทางถึงที่หมาย
...ผมว่า เล่นเครื่่อง ในกรณีปกติ ยังถูกตังค์กว่ารถนะครับ
และยังเสี่ยงภัยน้อยกว่าด้วย ยกเว้นอย่างเดียวที่อาจมากกว่า คือ ภรรยาภัยครับ - -*

ปล.ผมยังโสดครับ

จริงจริ๊ง ง ง ง ง . . . ^ ^

5555+ like ให้เลยครับพี่เหน่งบา "ภรรยาภัย" .....เชื่อว่าหลายท่านกำลังหลบ ภรรยาภัย อยู่เป็นแน่ 555+

ผมยอมรับเลยครับว่า ชอบทั้ง ฟังเพลง และ ชอบฟังเสียงเครื่อง
บางเพลง ดนตรีโคตรชอบแต่เนื้อฟังไม่รู้เรื่องเอาซะเลย
บางเพลง เนื้อมันโดนแต่ดนตรีมันห่วยก็ยังจะฟัง

อารมณ์ส่วนตัวล้วนๆๆ มันนาๆๆจิตตังอะครับ5555

ฟังเสียงเครื่องเพื่อแก้อาการ"คัน" ฟังเอามันส์ฟังกันแต่"พอดี"

-นักฟังเพลงคือคนที่ยังไม่เล่นเครื่องเสียงกับคนที่เล่นจนอิ่มตัวแล้ว คนสองกลุ่มนี้จะเน้นฟังเพลง
-นักฟังเสียงเครื่องคือกลุ่มคนที่คั่นกลางระหว่างคนสองกลุ่มที่จัดอยู่ในประเภทแรกข้างต้น
ผมว่าส่วนใหญ่ที่วนเวียนอยู่ในบอร์ดแกดเจ็ทหรือเครื่องเสียง จะจัดอยู่ในกลุ่มที่สองครับ

ผมเคยชอบเป็นนักฟังเพลงครับ สมัย Bankok Jazz Music Festival ที่สนามเสือป่า ได้ฟังเพลงจากการแสดงดนตรีสด ไม่ผ่านอุปกรณ์/เครื่องใด ๆ และใช้หูที่ติดไป 2 หู จำได้ว่าเบิร์นหูตัวเองอยู่น่าจะ 5 ปีเฉพาะการแสดงที่สนามเสือป่า มีความสุขมาก จัดหน้าหนาว ก่อนไปเตรียมสัมภาระดี ๆ พวกเก้าอี้/เสื่อ กระบอกน้ำ ขนม ไปหาเบียร์เอาข้างหน้า ตกดึกอากาศหนาว ยุงไม่ค่อยมี ห้องน้ำเคลื่อนที่ลำบากนิดหน่อย กลับถึงบ้านเกือบตีหนึ่ง(รวมเวลาหาข้าวต้ม โจ๊กกินระหว่างทาง)

พอเค้าย้ายวิกไปจัดในป่าในเขาริมทะเล ก็อดอิจฉาพวกหมูหมากาไก่อีเก้งปลาการ์ตูนไม่ได้ กลายมาเป็นนักฟังเพลงแทนเรา ส่วนผมก็จำต้องกลายร่างมาเป็นนักฟังเสียงเครื่อง เสียงหูฟังต่าง ๆ นานาไป ลงทุนไปเยอะเมื่อเทียบกับตอนนั้นที่ค่าบัตรไม่เกิน 500 ค่าน้ำค่าเบียร์ค่าลูกชิ้นปิ้งอีกสักไม่เกิน 500 จ่ายปีละครั้งฟังปีละครั้งแต่ก็รอฟังทุกปี แต่เฉพาะปีที่แล้วผมน่าจะใช้เงินไปเหมือนได้ไปฟังการแสดงสดสัก 200 ปีมั้ง

ก็พยายามเป็นนักฟังเพลงครับ ส่วนฟังเสียงเครื่อง เสียงหูก็ยังคงต้องด้วย เพราะอยากได้ความไพเราะเหมือนตอนสนามเสือป่าครับ แต่สนามหน้าบ้านเราก็เลยต้องจ่ายแพงขึ้น ก็ได้รับฟังเสียงเพลงที่ไพเราะดีครับ เพียงขาดบรรยากาศเก่า ๆ ไปเท่านั้น

ตกลงว่าผมน่าจะใช้นักฟังเพลง เพราะดูความเหมาะสมและไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ใช้ความสุขและความพอใจเป็นที่ตั้ง อย่างที่คุณบินสูงว่าไว้ ขอบคุณสำหรับแง่คิดดี ๆ ครับ