Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับนักเล่นหูฟังมือใหม่ (และเก่าด้วย)

Wee_S_Wong

01/02/2013 10:48:44
0
วิธี เทคนิค เคล็ดลับในการเลือกซื้อหูฟัง
สวัสดีครับ วันนี้เรามีบทความการเลือกซื้อหูฟังมาให้สมาชิก N4G ได้อ่านกัน หลายคนสงสัยว่า หูหังตัวนั้นต่างกับตัวนี้ยังงัย ประเภทนี้เป็นอย่าง อีกประเภทดีอย่างไร วันนี้ทางทีมงานมีไขข้อข้องใจกับทุกท่านแล้ว พร้อมแล้วไปอ่านกันเลยครับ
ประเภทของหูฟังนั้นแบบเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ คือ
1. แบบแยงหู (In-Ear หรือ Ear-Plug)
2. แบบแปะหูหรือแนบหู
3. แบบสวมหัว
เรามาดูแต่ละประเภทกันเลยดีกว่าครับ

1. แบบแยงหู (In-Ear หรือ Ear-Plug)
หูฟังประเภทแยงหูนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการพื้นที่เยอะเก็บง่าย ๆ ไม่เจ็บหูเมื่อฟังนาน ๆ ซึ่งมันสะดวกแก่การพกพาเอามาก ๆ หูฟังประเภทนี้เหมาะกับการนำเอาไปฟังเพลง เพราะเป็นหูฟังที่ให้รายละเอียดเสียงได้ดีมาก เพราะลำโพงของหูฟังประเภทนี้จะอยู่ใกล้กับโซนประสาทที่รับเสียง อีกทั้งยังให้มิติของเสียงดีที่สุดด้วยเมื่อเทียบกับประเภทอื่น ๆ ด้วยความที่เป็นหูฟังแบบแยงหู จึงทำให้ลดเสียงรบกวนภายนอกได้อย่างดี แต่ข้อเสียก็มี การที่แบบหูฟังแบบแยงหูทำให้เกิดการตัดเสียงรบกวนได้ดี จนไม่สามารถจะได้ยินเสียงในสภาพแวดล้อมได้เลย เพราะฉะนั้นควรใส่ให้ถูกสถานการณ์

2. แบบแปะหูหรือแนบหู
เป็นประเภทที่ได้รับความนิยมน้อยลงไปมาก หูฟังประเภทนี้จะมีข้อดีคือฟังง่ายกว่าแบบแยงหู สามารถเก็บง่าย ลำโพงมีขนาดใหญ่จริง แต่ก็ไม่ได้ให้มิติที่ดีไปกว่าแบบแยงหูเลย เนื่องด้วยการส่วมใส่หูฟังประเภทนี้จะเป็นแค่การแนบใบหูเท่านั้น ทำให้รับเสียงเข้าไปไม่สะดวก เหมือนจะเป็นหูฟังที่เหมาะ แต่ยังไม่ใช่ จุดเด่นคงเป็นเรื่องของการดีไซน์มากกว่าคุณภาพเสียง

3. แบบสวมหัว
ประเภทนี้ถือว่าเป็นประเภทที่ทำออกมาด้วยการคำนึงถึงคุณภาพเสียงเป็นอันดับแรก จากที่บอดี้ของหูฟังนั้นเป็นแบบสวมมีฟองน้ำมากมายรองรับการกระแทกเพราะฉะนั้นหูฟังประเภทนี้ถือว่าเป็นหูฟังที่ใช้แล้วสบายที่สุด ส่วนเรื่องคุณภาพที่ออกมานั้นไม่ต้องห่วงเลย อาจจะตัดเสียงรอบข้างไม่หมดเท่า In-Ear แต่ก็ให้เสียงที่มีมิติมากกว่า In-Ear หลายเท่านั้น เบส กลาง แหลม ทุกอย่างออกมาได้อย่างดี แต่ก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อด้วย ถ้ารุ่นไม่ดีก็จะด้อยกว่า In-Ear แต่ถ้ารุ่นที่ดี ๆ หน่อย ก็ถือว่าเป็นหูฟังที่เหมาะที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง หูฟังประเภทนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง

วิธีการเลือกซื้อ
แน่นอนว่าคุณควรมองงบในกระเป๋าคุณรวมกับประโยชน์ที่จะนำไปใช้ ถ้าคุณไม่ใช่ดีเจ ไม่ใช่นักดนตรีที่จะต้องทำเพลง ตัดต่อเพลง ก็คงไม่ทุ่มเงินมากมายซื้อหูฟังดี ๆ ใช่ไหมละครับ ถ้าคุณแค่ต้องการหูฟังมาฟังเพลงธรรมดา ๆ ดูหนังทั่ว ๆ ไป มันก็เลือกได้ งบประมาณ 1,000 บาท – 2,000 บาท ก็ได้หูฟังคุณภาพที่ดีแล้ว ส่วนประเภทหูฟังที่จะใช้นั้น ก็แล้วแต่คนชอบ แต่แนะนำว่า อย่าเพิ่งไปซื้อเลยทันที อย่ามองรูปลักษณ์ภายนอกเป็นสำคัญ ให้ทดลองฟังดีกว่า ฟังเยอะ ๆ ชอบเสียงแบบไหน เอาแบบนั้น “และที่สำคัญคุณห้ามมองสเปคของหูฟังนั้น ๆ เด็ดขาด เพราะมันจะไม่บอกคุณเลยในแง่ของคุณภาพ เพราะสเปคเป็นแค่ประสิทธิภาพเท่านั้น” อีกทั้งหูฟังยังเป็นแค่ส่วนหนึ่งของการให้เสียงเท่านั้น คุณควรมองมาที่เครื่องเล่นด้วย

การทดสอบเสียงให้ดูดังนี้
การแยกซ้าย – ขวาของเสียง
เสียงครบหรือไม่ เครื่องดนตรีในเพลงนั้น ๆ ได้ยินหมดรึป่าว
เสียง ทุ้ม กลาง แหลม ชอบไหม
เอาเพลงที่คุณฟังอยู่ทุกวันมาฟังด้วย

การนำไปใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด (Burn in)
การเบิร์นคือการทำให้หูฟังได้ออกแรงทำงานไปพลาง ๆ ก่อนที่จะทดสอบกันแบบจริง ๆ จัง ๆ หรือพูดง่าย ๆ การเบิร์นคือการวอร์มให้หูฟังส่งประสิทธิภาพสูงสุดออกมาให้เห็นก่อน

การเบิร์นทำได้ดังนี้
เปิดด้วยเพลงที่มีย่านเสียงครบ ซึ่งมักจะเจอในเพลงคลาสสิค
ความจริงเพลงอะไรก็ได้ ขอให้บันทึกดีๆๆ หลีกเลี่ยงเพลงผี 128kbps
เปิดทิ้งไว้ โดยกะระยะซัก 200 ชั่วโมง แต่ปิดพักได้เป็นระยะ
อย่าเปิด EQ ในการเบิร์น
อย่าเปิดดังกว่าที่ฟังปกติ

จบแล้วกันแล้วนะครับ กับบทความเคล็ดลับการเลือกซื้อหูฟังหวังว่าจะถูกใจใคร หลาย ๆ ท่านที่กำลังจะหาซื้อหูฟังอยุ่นะครับ ย้ำเตือนกันอีกรอบ แนะนำว่าการเลือกซื้อนั้นให้คำนึงถึงงบในกระเป๋ากับประโยชน์การใช้สอยเป็นหลักแล้วกันครับ และท่านจะได้หูฟังที่คุ้มและดีที่สุดในงบประมาณที่ท่านมีครับ วันนี้ล่าไปก่อน สวัสดีครับ…

อ้างอิง http://www.com5dow.com/%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%9B-%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%9B/453-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%B4%25
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

ม้าไม้

01/02/2013 21:04:17
ขอบคุณสำหรับข้อมูล
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

Progreso

01/02/2013 21:25:18
0
เสียงครบหรือไม่ เครื่องดนตรีในเพลงนั้น ๆ ได้ยินหมดรึป่าว

-----------------------------------------
ผมติดใจข้อนี้ครับ

เจอเพลง symphony orchestra กับ symphonic(Rock Pop) ผมยอมรับบางเพลง เสียงดนตรีที่เล่น ฟังไม่ครบครับ

เล่นพร้อมกันที ผมฟังได้ 8-10 เสียง (ไม่รวมเสียงร้อง) เกินกว่า10+ ผมแยกไม่ออกแล้ว
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

lifezz

01/02/2013 21:28:59
5
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

ม้าน้ำ

01/02/2013 22:00:05
1
ผมไม่ใช่นักร้อง นักดนตรีนะ แต่ผมใช้หูฟังเกินงบที่แนะนำมา อย่างนี้ผิดกฏไหม - -*
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

GAS MARK BAG...H & SONS

02/02/2013 06:17:30
ข้อมูลมีประโยชน์มาก
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

jamejaa

02/02/2013 07:56:41
2
“และที่สำคัญคุณห้ามมองสเปคของหูฟังนั้น ๆ เด็ดขาด เพราะมันจะไม่บอกคุณเลยในแง่ของคุณภาพ เพราะสเปคเป็นแค่ประสิทธิภาพเท่านั้น”

----------------------------------------------------------------

มีข้อสังเกตข้อจากประโยคนี้ครับ

ถ้าไม่มองที่สเปค แล้วไปจัด Pk1,Tzar350 หรือหูฟังโอมสูงตัวอื่นๆ ไปต่อกับ Playerทั่วไป มันจะทำให้คิดว่าหูฟังนั้นห่วยน่ะสิครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับนักเล่นหูฟังมือใหม่ (และเก่าด้วย)"