แอมป์ เป็น ส่วนขยายให้ หูฟัง เราทำงานได้มีประสิทธิภาพ มากขึ้น ครับ เหมือนกับเราเล่น เครื่อง เสียงบ้านนั่นแหละ ครับ ต้องมีแอมป์ มาขยาย แต่หูฟังบางตัวไม่ต้องมีแอมป์ มาขยายก็

ได้ ครับ เล่น กับ Player เปล่า เปล่า ก็ สามารถ เล่นได้เหมือนกัน ครับ แต่เมื่อไหร่ ที่ต่อ แอมป์ คุณภาพ เสียงมันก็ จะดีขึ้นนั่นเอง 55 ส่วนการต่อ นั้น เริ่มแรก เราต้องมี ต้นทาง
ก่อน ครับ

อาจจะเป็น MP 3 player หรือ CD หรือ แหล่งกำเนิดเสียงอื่น เอามาต่อเข้า กับ แอมป์ โดยผ่านทางสายสัญญาณ ครับ พอเอา สัญญาณ มาที่แอป์ แล้วถึงจะ Out ออกไปหาหู

ฟังอีกทีนึง จ้า ยังไงถ้ามีเวลาก็ สามารถ มาต่อเล่น ที่ร้านได้เลย ครับ 55 แต่ผมว่า ถ้ามือ

ใหม่จริง จริง ก็ยังไม่ควรไปยุ่งกะมันครับ ลองฟังแบบไม่ต่อดูก่อน เมื่อไหร่ ที่ฟังออกว่าต่อ แล้วเสียงดี กว่า ค่อยหาเรื่องไปซื้อก็ยังไม่สายจ้า ...........อิ อิ อิ

ชอบคำตอบทางคุณเบียสจังเลยครับ ชัดเจน ไม่เน้นขายของ ที่สำคัญฟังไม่ออกจะซื้อทำไม 555 เหมือนผมเลยซื้อมาแล้วก็ยังงงว่าต่างกันยังไง (แทงใจดำ) :-)

จริงๆๆ เริ่มสนใจเล่น ผมแนะนำให้เลือกแค่ Player ที่เหมาะๆๆ และหูฟังที่สมน้ำสมเนื้อตัวเดียวก็พอแล้วครับ พยายามคัดเลือกเรื่องไฟล์เพลงจะดีกว่า เอากันตั้งแต่ต้นทาง พอเราจัดการต้นทางเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างลงตัว และเริ่มแยะว่าอะไรดีกว่าอะไร...แล้วค่อยแวะมาลองเรื่องแอมป์จ้า...555

เริ่มใหม่ๆๆ เอาแอมป์ไปเล่น รกรุงรังเปล่าๆๆ จริงๆๆ จ้า 555

ตอนนี้ผมใช้ iPod Touch อยู่นะครับ แต่หูฟังนั้นจะเข้าไปลองที่ร้าน เล็งๆแรปเตอร์ไว้ แต่อยากลองให้หมด 5555

ยังไงรบกวนด้วยนะครับ

ถ้าเป็นพวกหูฟังตัวเล็กๆอย่าง earbud (หูฟังทั่วๆไปตามที่หลายคนรู้จัก) inear(ตัวเล็กกว่าอันแรก ใส่ยากหน่อยนึงสำหรับคนไม่เคย อุดรูหูเต็มๆแทบไม่ได้ยินเสียงภายนอกเลย)

หูฟัง2ประเภทที่ว่านี้ แค่ใช้ไฟกระแสต่ำๆก็สามารถขับให้เสียงมันออกมาได้แล้วล่ะครับ ลำพังPlayerก็สามารถที่จะทำให้มันออกเสียงได้แล้ว และก็ให้เสียงที่ดีได้ตามที่ผู้ผลิตออกแบบมาแล้วล่ะครับ ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลกับเรื่องแอมป์เลยสำหรับผู้ที่จะเล่น2ประเภทที่ว่าไว้ และบางทีการต่อแอมป์เข้าไปก็ไม่เห็นผลเลยครับสำหรับมือใหม่(ผมด้วย)

ส่วนพวกหูตัวใหญ่ๆหน่อยอย่าง Fullsize ซึ่งก็มีหลายระดับด้วยกัน ทั้งพวกที่ใช้กระแสไม่มาก และพวกที่ใช้กระแสสูงๆหน่อย อย่างพวกที่กระแสไม่สูง (impedence ไม่เกิน 40ohm ลองสังเกตจากสเปคหูฟังได้ครับ มีระบุไว้แน่นอน) พวกนี้ลำพังPlayer ก็สามารถให้เสียงที่ดีได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ถือว่าดีพอตัวเลยล่ะ ซึ่งมือใหม่(ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น^ ^)ให้ฟังเทียบกันตอนต่อแอมป์กับไม่ต่อนี่ฟังแทบไม่ออกเลยครับ แต่สำหรับหูฟังที่กระแสสูงๆ(impedence เกินกว่า100ohmขึ้นไป) พวกนี้ ต้อง ต่อแอมป์เท่านั้นครับ ถึงจะได้ยินเสียงออกมาอย่างชัดเจน แม้ต่อตรงแล้วเร่งเสียงจนสุดแล้วก็ยังไม่ค่อยดังหรือถ้าดังก็ไม่ค่อยจะได้รายละเอียดที่สมประกอบเท่าไรนัก(ไฟไม่ถึง) เพราะกระแสจากPlayerมันน้อยกว่ากระแสที่ใช้ขับหูฟัง

การต่อแอมป์หรือAmplifierคือตัวที่ขยายกระแสไฟให้มากขึ้น เพื่อเพียงพอต่อการขับให้ได้นั่นเองครับ แต่จะขยายให้มันขึ้นมาอย่างเดียวก็มันจะดูแห้งๆจางๆเหมือนถูกยืดขึ้นมา - -\" เราจึงต้องปรับปรุงเสียงให้ชดเชยจุดนั้นโดยการใส่รายละเอียดเข้าไปในตัวแอมป์ ดังนั้นแอมป์แต่ละตัวจึงมีเอกลักษณ์ขึ้นมาได้ครับ

ข้อเสนอแนะ...มีหูฟังที่โอห์มสูงๆหน่อย (64 โอห์มขึ้นไป) จึงค่อยเล่นแอมป์ครับแต่ก็ยังไม่ค่อยต่างเท่าไรนักกับต่อตรง จะให้ดี100โอห์ม ขึ้นไปแล้วค่อยไปเล่นดีกว่า จึงจะเห้นผลได้อย่างชัดเจน

ถ้าเล่นหูฟังโอห์มต่ำ+แอมป์ เทียบจากราคาแล้วเอาค่าแอมป์ ไปเป็นค่าหูฟังยังให้ผลชัดเจนกว่าเยอะครับ แล้วก็เล่นไปเรื่อยๆจนคิดว่ารู้ตัวตนที่แท้จริงของหูฟังตัวนั้นแล้ว และยังไม่อยากจะขายมันออกไปก็ค่อยมาตามหาแอมป์ทีหลังไม่สายครับ ค่อยๆเล่น ค่อยๆศึกษาพัฒนาการไปช้าๆดีกว่ากระโดดแล้วลงไม่ดี บางทีอาจทรงตัวได้ บางทีก็ล้มหัวทิ่มไปเจ็บตัวตามๆกัน555+

ละเอียดยิบเลยครับ^#^