อยากทราบเหมือนกันครับ

หูผมรับเสียงได้ไม่เกินประมาณ 15 KHz มากกว่านั้นผมก็ไม่ได้ยินแล้วล่ะ อาจเป็นไปได้ว่าผู้ที่มา review หูเข้าดีกว่าเรา... หรือเปล่า o_O

รายละเอียดดี หรือที่เค้ามักเรียกกันว่า detail มาจากการได้ยินรายละเอียดต่างๆที่บันทึกมาครบถ้วน ชัดเจนครับ ความถี่ต่างๆ ในทุกๆย่านเสียง จะตอบสนองได้ครบถ้วนมากที่สุด โดยเฉพาะรายละเอียดต่างๆ นั้น จะขึ้นกับความถี่สูง หรือเสียงแหลมเป็นหลัก เสียงย่านกลางแหลม ตอบสนองได้ดีเท่าไหร่ รายละเอียดจะสูงและเพิ่มขึ้นเท่านั้น รายละเอียดที่สูงมาก บางทีก็เรียกกันว่า micro detail คือยิบย่อยขึ้นไปอีกครับ 55

เสียงกลางแหลม และตำแหน่งของเครื่องดนตรี เป็นตัวกำหนดทิศทาง การรับรู้ของคนเรา ส่วนเสียงทุ้มหรือเสียงต่ำก็มีรายละเอียดประกอบเช่นกัน เสียงทุ้มที่สะอาด ไม่ครางหรือเบลอบวม ก็เป็นรายละเอียดที่ดีอีกเช่นกัน

ถูกเปล่าหว่าพี่โป้ง 555

อยากรู้เหมือนกันครับ อิอิ

ถ้าจะเอาแบบฟังให้เห็นกันจะๆ
เพลงที่จะเอามา test ฟังรายละเอียด จะต้องเป็นเพลงที่การบันทึกดีครับ เอาง่ายๆ ก็ พวกเพลงที่มักจะอยุ่ในแผ่น test audiophile หรือพวกแผ่นเปิดโชว์ในงานเครื่องเสียงครับ
อย่างเช่นเพลง jazz variant ในแผ่น manger หรือหลายๆ เพลงในแผ่นนี้ก็ใช้ทดสอบเครื่องเสียงได้ดี แผ่นนี้เป็นแผ่นที่โหดและฆ่าชุดเครื่องเสียงมาพอสมควร เครื่องไม่ดีหรือ mismatch นี่เสียงกลายเป็นกระป๋องไปเลย 555

เสียงต่างๆ ที่เราได้ยินมันไม่ได้มีแค่ tonal balance (ความสมดุลระหว่าง ทุ้ม-กลาง-แหลม)
มันมีทั้ง harmonic การทอดตัวของหางเสียง ความแตกต่างระหว่างเสียงหนัก-เบา แรงปะทะ มิติ เวที ความลึก ความกว้าง .... อื่นๆ เยอะแยะไปหมด

ถ้าอุปกรณ์ที่สามารถถ่ายทอดรายละเอียดได้ดี ก็หมายความว่าสามารถถ่ายทอดเสียงทั้งหมดที่มีอยู่ในเพลงออกมาได้ตามที่บันทึกไว้ได้ทั้งหมด ส่งผลให้เราได้ยินเสียงที่เขาตั้งใจบันทึกไว้มาได้ครบถ้วน
แต่ในความเป็นจริงมันยากครับ ยากที่จะถ่ายทอดออกมาได้ทั้งหมด และอุปกรณ์ยิ่งสามารถถ่ายทอดรายละเอียดได้ดีเท่าไร ราคายิ่งสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว

ยกตัวอย่างบางเพลงถ้าอุปกรณ์สามารถที่สามารถถ่ายทอดรายละเอียดได้ดีเราจะได้ยินเสียงบางเสียงที่เราแทบจะไม่ได้ยินเลยจากอุปกรณ์ที่ถ่ายทอดรายละเอียดไม่ดีครับ

หรือถ้าอยากลองง่ายๆ ก็ลองเพลง Perhaps Love ในแผ่น Best Audiophile Voices 1 ก็ได้ครับ ช่วงกลางเพลงมันจะมีเสียงก้องของคำว่า Perhaps Love ลองนับจำนวนเสียง echo ดูครับ
ผมกล้าเอาหัวเป็นประกันเลยว่าแต่ละ system ที่แตกต่างกัน จำนวนเสียง echo ไม่เท่ากันจริงๆ นะ
แต่จำนวน echo ของเสียงในเพลงนั้นจำนวนจริงๆ มันเท่าไรผมจำไม่ได้ แต่เครื่องยิ่งถ่ายทอดรายละเอียดดี ยิ่งได้ยินเสียง echo ใกล้เคียงกับจำนวนเสียง echo ของที่บันทึกจริงๆ ในเพลง หล่ะครับ
555

อ่าว..อยู่ๆเฮียก็โผล่มา ตอนโพสยังไม่เห็นเฮียเลย 555

บางครั้งดีไปก็ไม่ดีนะครับ

บางเพลงอัดมาไม่ดี ได้ยินเสียงอันไม่พึงประสงค์เต็มไปหมด5555
เช่น เสียงไอ จาม ของนักดนตรี

เพลเยอร์ดีแล้ว.. "หูต้องดี" ด้วยครับ ทั้งหูคนและหูฟังนั่นแหละ

Salek 23/01/2013 11:43:51 "หูต้องดี" สั้นๆแต่ได้ใจความจริงๆครับ
....หูต้องดี....--* ฮืม ม ม ม ม ม

คำว่า รายละเอียดดี ไม่รู้จะใช่ที่ผมพบใน AK100 ในส่วนของเสียงกีต้าร์ หรือเปล่า ผมรู้สึกยังกับว่า ได้ฟังสดๆ เลย

@ คุณ Salek

"เพลเยอร์ดีแล้ว.. "หูต้องดี" ด้วยครับ ทั้งหูคนและหูฟังนั่นแหละ"

บ๊ะ แจ่มครับ ฮ่าๆๆๆ

เพื่อความชัดเจน พี่มั่นคงหรือเพื่อนๆๆพอจะแนะเป็นเคสสตัทดี้ให้ซักแทรกหรือสองแทรกได้ไหมครับ เอาแบบว่า ที่ฟังใน ipad2 แล้วไม่ได้ยินหรือได้ยินไม่ชัด แต่พอไปฟังกับ ak100 แล้วได้ยินเลย ผมจะลองฟังดูจะได้รู้ว่าอ้อแบบนี้นี่เองที่เรียกว่าเก็บรายละเอียดได้มากกว่าดีกว่า :-)

สรุปคือ "ต้องดีที่หู" สินะครับ

Bigbass***********ที่เรื่องรายละเอียดของเสียงเพลงล่ะฟังไม่ค่อยออกใช่มั๊ย แต่ทีรายละเอียดเสียงหนัง AV นี่ได้ยินหมดเลยน๊ะครับ เก็บทุกเม็ดเชียว 555++

ขอหัวเราะหน่อยครับ อิคิ อิคิ อิเตะ อิเตะ

555+++....เอา...คุณเคน ขอมีสาระกับเขาหน่อย ลองหาเพลง Wish You Were Here ของ Pink Floyd มาลองฟังดูครับ ให้ตั้งใจฟังช่วงตั้งแต่เริ่มต้นเพลงเป็นต้นไป (Intro) ไปจนถึงช่วงเข้าเนื้อเพลง ว่าคุณได้ยินเสียงอะไรบ้าง ยกตัวอย่างเช่น เสียงกระแอมของศิลปินได้ยินชัดมั๊ย แตกต่างกันอย่างไรในแต่ละเครื่อง เสียงกดคอร์ดและสไลท์สายกีตาร์ ได้ยินชัดแตกต่างกันอย่างไร ประมาณนี้ครับ โดยส่วนตัวผมจะใช้เพลงนี้ กับ เพลง Telegraph Road ของ Dire Straits ครับเป็นเพลงทดสอบเรื่องรายละเอียดของเครื่องเล่นแบบพกพา กับหูฟังครับ ลองดูครับ อิคึ อิคึ

ผมมองว่าเป็นการให้รายละเอียดในส่วนที่เพลงไม่ต้องการนำเสนอ(ไม่ใช้ไลน์หลัก) ซึ่งถ้ามันชัดมากๆพอๆกับไลน์หลัก จะทำให้เพลงนั้นไม่ธรรมชาติจนกลายเป็ยมอนิเตอร์ในที่สุด

คำว่ารายละเอียดดีอาจไม่ได้หมายถึงการได้ยินชัดไม่ชัดอย่างเดียวนะครับ มันหมายถึงหลายๆอย่างพวก Harmonic ของเสียง เช่นเสียงกีต้าร์ที่หลังจากดีดสายแล้ว มันจะได้ยินอีกสักพัก ไม่ใช่ดีดแล้วหยุดเลย หรืออย่างเช่นเสียงเครื่องเป่า เสียงมันจะมีหนักเบา มีเสียงลมออกมาด้วย ถ้าแผ่นที่บันทึกมาดีๆ

ถ้าเทียบกับเครื่อที่รายละเอียดน้อยๆ เสียงเหล่านี้มันจะไม่ชัดเจนเท่า หรือคลุมเครือไปกับเสียงอื่นๆครับผม

มันเป็นการแสดงออกถึงประสิทธิภาพของเครื่องน่ะครับ
แต่
เ่ครื่องที่ดี ไม่เพียงแต่ให้คุณภาพเสียงที่ดี รายละเอียดที่ดี แต่ต้องได้อารมณ์เพลงด้วย
จะจับรายละเอียดก็ได้
ฟังให้เพราะก็ได้
....เรื่องหมดเปลืองทั้งนั้นครับ อยู่ที่ห้ามใจตัวเองได้แค่ไหน ^ ^

พี่มาริโอเอาอีกเเล้วน่ะครับพี่

แบบ คุณหมูหวานบอกครับ องค์ประกอบของเสียง การแยกแยะของเสียงครับ
กีต้าร์โปร่ง ประกอบด้วย เสียง ปิคที่ดีดสาย เอ็น เหล็ก มีหัวเสียง ความกังวาลของห้องกีตาร์
ความสั่นค้างของสาย และเสียงคาแลคเตอร์ ของวัสดุ และยี่ห้อ คนทีมีทักษะสูง
สามารถบอกชิ้นดนตรีนั้นยี่ห้ออะไร อัดด้วย tube เบอร์ไหน มันคือองค์ประกอบ
ของเสียง ทีแสดงรายละเอียด เพือแยกเยะเสียงและอารมณ์ ไม่ใช่ติ๊งแล้วจบครับ

คุณภาพยิ่งสูงยิ่งแสดงรายละเอียด เช่น อาจใด้ยินคนสีไวโอลินหายใจ เสียงเปลี่ยนหน้าโน๊ต
เปลื่ยน
หน้าแผ่นโน

แต่ก็กลับกันอีกด้าน กว่าจะเข้าหูคนเรานิครับ ต้องผ่านลำโพง หูฟัง หรืออะไรก็แล้วแต่

ผมว่า player(เครื่องเล่นเพลง) ต้องคู่กับ ลำโพง หูฟัง

ขอขอบคุณทุกๆๆคำแนะนำเลยครับผม มีประโยชน์กับผมมากๆๆๆจริงๆๆครับ ไอ้ผมก็เป็นพวก musiclover ฟังเอาเพราะมากกว่ามาฟังเรื่องรายละเอียด แต่พอมาได้รู้ว่าแนวรายละเอียดเขาฟังกันอย่างไรน่าเริ่มสนใจ แต่สนใจเฉพาะส่วนที่มันเกี่ยวกับดนตรีนะครับ ส่วนอื่นๆๆที่ถือว่าเป็นผมพลอยได้ ผมคงไม่พยายามไปฟังแน่ๆๆๆ5555++

โอกาสหน้าคงมีเรื่องมารบกวนทุกๆๆท่านอีกแน่นอนครับผม :-)

โอววว Wish You Were Here 555

ตอนนี้ผมฟังแต่ Pink Floyd ทุกอัลบั้ม ทุกคืนเลยครับ ยิ่งก่อนนอนฟังชุด ummagamma หลับดีจริงๆๆ

แวะเอาบทความดีๆมาฝากครับ http://www.taf.in.th/showthread.php?t=35127

^
ูู^
เฮียฟังอัลบั้ม Ummagamma หลับได้นี่สุดยอดเลยครับ ผมว่าอัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ฟังแล้วหลอน และล่องลอยที่สุดแล้วน๊ะครับ ในบรรดาอัลบั้มทั้งหมดของ Pink Floyd มันหลอนและเคลิ้มได้โดยที่ไม่ง้อโคเคนซักปิ๊กเลย 55++